ทางด้านของจุก
บ้านไม้เก่าแก่หลังหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางแนวต้นตะเคียนสูงชะลูด ภายในบ้านมืดทึบ กลิ่นหอมจางๆของดอกไม้แห้งลอยอวลอยู่ตลอดเวลา ตรงกลางเรือน มีเสาตะเคียนต้นใหญ่ และของไหว้เก่าๆวางอยู่ที่มุมห้อง "เทียน!! อย่าไปป!!" เสียงจุกละเมอร้องดังขึ้น หญิงสาวในชุดไทย ผมยาวทิ้งตัวลงมาอย่างเรียบร้อย นั่งพับเพียบอยู่ข้างฟูกสีขาวสะอาด เธอหันมองเด็กกุมารทองที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนฟูก มือข้างหนึ่งวางอยู่ใกล้ๆแขนของจุก ส่วนอีกข้างค่อยๆ เอื้อมมาทางเขา...ใบหน้าของเธอสงบนิ่ง 'พ่อ...ให้ฉันไปด้วยไหมจ๊ะ' ประโยคนี้ไม่ได้หลุดจากริมฝีปาก เธอไม่ได้พูด แต่กลับเหมือนมีบางสิ่งที่ไม่มีใครเห็น ตอบเธอกลับ เธอนั่งนิ่งฟัง ราวกับกำลังรับฟังคำสั่งจากฃองใครสักคนที่อยู่ลึกออกไป "จ้ะพ่อ ฉันจะส่งพวกบริวารไปช่วยพ่ออีกแรง.." ขณะนั้นเอง เงาดำหนาทึบก็ไหลแทรกออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง ไม่มีเสียง ไม่มีรูปร่างชัดเจน เงานั้นคล้ายควัน มันลอยต่ำแนบพื้นไม้ วนรอบตัวหญิงสาวหนึ่งรอบ ก่อนจะพุ่งทะลุฝาผนังออกไปยังความมืดภายนอกอย่างไร้เสียง จู่ๆ จุกที่นอนอยู่บนฟูกก็ขมวดคิ้วแน่น มือเล็กๆกำผ้าปูแน่นขึ้นก่อนจะเริ่มดิ้นไปมาเล็กน้อย "เทียน!!! จุกอยู่นี่แล้ว! ตาซอยเทียนแน" (เทียน!!! จุกอยู่นี่แล้ว! ตาช่วยเทียนด้วยเถอะ) เสียงสะอื้นหลุดรอดออกมาแผ่วเบา ดวงตาที่ปิดอยู่มีน้ำตาซึมออกมาช้าๆ แก้มเล็กๆเปียกชื้น เขาดิ้นพลิกตัวไปมา แม่ตะเคียนค่อยๆโน้มตัวลง เอื้อมมือเรียวยาวที่ซีดขาว ลูบเบาๆที่หัวของจุก "เทียนบ่เป็นหยัง...นอนสาลูก" (เทียนไม่เป็นอะไรแล้ว...นอนเถอะลูก) เสียงของเธอแผ่วเบา " อื่อ…อื้อ…อื้อ…นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนตื่นแล้วเจ้าจั่งแอ่วกินนม แม่ไปไฮหมกไข่มาหา แม่ไปนาหมกปลามาป้อน แม่เลี้ยงม่อนอยู่ในป่าสวนมอน นอนตะแคงกะอยู่กกไม้เนิ่ง ฟังเสียงเอิ้นกะอ้ายบ่าวสิลา เพิ่นไปนาจับอึ่งมาแล้ว จับอึ่งแล้วเลี้ยงงัวเลี้ยงควาย ควายกูเสียอีแม่กู่ด่า เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ นอนสาหล่าหลับตาแม่ชิกล่อม ขดอ้อมป้อมนอนแล้วอย่าตีง มิดอิ้งติ้งอย่ากวนอย่าแอ่ว นอนตื่นแล้วจังลุกกินนม เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ ฮะ เอ้อ" มือเรียวยังคงลูบเส้นผมของจุกเบาๆอย่างแผ่วเบา ในบ้านที่เงียบงัน มีเพียงเสียงแผ่วเบาของเธอที่เริ่มเปล่งออกมาเป็นบทเพลงกล่อมเด็กโบราณ เสียงนั้นหวานละมุน นุ่มนวลจนเหมือนไหลไปกับลม แต่ในความละมุนนั้น กลับแฝงสะท้อนของความโศกเศร้า . . . พาร์ทของเทียน เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาพร่ามัวด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกาย ศีรษะหนักอึ้งเหมือนมีบางอย่างกดทับอยู่ข้างใน ความเจ็บปวดตุบๆของขมับทั้งสองข้าง เขาขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงพื้นแข็งกระด้างใต้แผ่นหลังพร้อมทั้งกลิ่นอับชื้นคลุ้งไปด้วยกลิ่นธูปเก่าลอยเข้ามาในจมูก เขาพยายามตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วกวาดตามองไปรอบตัว ภาพตรงหน้าค่อยๆชัดขึ้นทีละนิด...สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเทียนในตอนนี้คือ วัดร้าง ซากอาคารที่เคยงดงาม บัดนี้เหลือเพียงเศษเถ้าของความศักดิ์สิทธิ์ ผนังแตกร้าว สีลอกล่อน เศษอิฐเก่ากระจายเต็มพื้น หลังคาบางส่วนพังทะลุ ทั่วบริเวณวัดเต็มไปด้วยรูปปั้นพระพุทธรูปเรียงราย ทั้งในอุโบสถ ลานเจดีย์ และตามแนวระเบียงรอบนอก แต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศยิ่งน่าขนลุกก็คือ... ไม่มีองค์ใดมีเศียรเลย รูปปั้นทุกองค์ล้วนถูกตัดเศียรออก มีเพียงความเงียบและเงามืดจากองค์พระไร้เศียรที่ทอดเงาทับลงมา เทียนยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของวัดร้าง กลิ่นอับชื้นและธูปเก่าที่ลอยเข้าจมูกเมื่อครู่ยังไม่จางหาย เขากะพริบตาถี่ๆ ความมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หายไปเป็นปลิดทิ้ง ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาเงียบๆ เหมือนเงาจากรูปปั้นไร้เศียรที่ทอดตัวล้อมรอบเขาไว้ เทียนยืนนิ่งอยู่นาน ร่างกายแข็งทื่อ หัวใจยังเต้นรัวไม่หยุด เขาค่อยๆหันขวับไปข้างหลังอย่างช้าๆ รู้สึกได้ถึงแรงจ้องมอง แสงจันทร์สาดลงมากระทบลานหินที่แตกเป็นแผ่นๆและในแสงสลัวนั้น ร่างของ "กุมารทองตัวอ้วนกลม" ก็ค่อยๆปรากฏขึ้น จุกเดินเข้ามาหาเทียนอย่างช้าๆ ใบหน้าเงยขึ้นยิ้มอย่างมีความสุข แต่ในแววตานั้นมีเพียงความว่างเปล่า "เทียน! จุกมาแล้ววว!" เขาพูดด้วยน้ำเสียงใสก้องกังวาน เทียนสะดุ้งเฮือก "จะ..จุก...ไปไหนมา" เสียงของเทียนกลับสั่นน้อยๆอย่างไม่รู้ตัว "จุกก็อยู่กับเทียนตลอดนั่นแหละ" "...นายกินอะไรรึยัง?" "จุกกินน้ำแดงแล้วก็ขนมชั้นที่เทียนเอาให้" เทียนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ความเย็นวาบไหลย้อนลงไปถึงท้อง สายตาของเขาไหววูบ หัวใจสั่น จนภาพตรงหน้าคล้ายจะพร่าเลือน เขามองจุก...เด็กชายที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มของจุกดูเหมือนไม่ได้มาจากความสุข อย่างแรก จุกไม่พูดคำว่าขนมชั้นชัด จะชอบพูดซั้นตลอด อย่างที่สอง จุกขี้กลัวยิ่งมาในสถานที่แบบนี้ ไม่มีทางยิ้มอารมณ์ดีแน่นอน...ตาเคยบอกว่า ถ้ามีอะไรแปลกๆ ห้ามท้วงเด็ดขาด! "อื้ม...คงจะอร่อยมากเลย.." "ใช่ๆๆ ไม่ได้กินมานานมาก แต่ถ้ามีเนื้อบ้างก็คงดี" "..." เทียนไม่พูดตอบกลับอะไร ทิ้งไว้เพียงความเงียบ จุกเดินนำหน้าไปโดยไม่เอ่ยคำใด เทียนก้าวตามไปเงียบๆ จนในที่สุด ก็หยุดอยู่ตรงกลางลานวัด บรรยากาศโดยรอบเริ่มเงียบงัน...จนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง "เทียนกลัวเหรอ?" เสียงจุกพูดแทรกท่ามกลางความเงียบ "พวกเรามาสวดมนต์พร้อมกันดีไหมเทียน?" "..." "เรามาเริ่มกันเลยไหม หลายคนช่วยๆกัน" หลายคนx่าไรวะ..แล้วลุงแท็กซี่ไปไหนอี๊กกก..ทิ้งกูไว้วัดเหมือนหมาอีกต่างหาก ดึกก็ดึก กูกลัวโว้ยยยย! "เทียนเงียบแบบนี้ ถ้างั้นก็พูดตามจุกเลยนะ" กุมารทองยกมือขึ้นพนมช้าๆ บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป ลมเริ่มพัดวูบ ใบไม้แห้งปลิวกระจาย ทั้งที่ต้นไม้รอบวัดแห้งตาย ฝุ่นทรายคลุ้งขึ้นจากพื้นหินแตกร้าว กลิ่นธูปเก่ารุนแรงขึ้นอย่างฉับพลัน "สัมมาสัมพุทธัสสะ อะระหะโต ภะคะวะโต ตัสสะ นะโม" บทสวดกลับ...? เสียงสวดที่กึกก้องเริ่มบิดเบี้ยว "สัมมาสัมพุทธัสสะ อะระหะโต ภะคะวะโต ตัสสะ นะโม" เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงสวดของคนจำนวนมากซ้อนทับกัน ทุกเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณวัดเก่าราวกับมาจากทุกทิศทาง เสียงเหล่านั้นแทรกเข้ามาในหูของเทียน ดังก้องอยู่ในหัว เหมือนใครบางคนกำลังกระซิบบทสวดใส่เขาจากด้านหลัง ด้านข้าง เหนือหัว ทุกมุมของวัด "สัมมาสัมพุทธัสสะ อะระหะโต ภะคะวะโต ตัสสะ นะโม" เทียนยกมือปิดหู แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เสียงยังคงดัง ดังขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แสงจันทร์ที่เคยให้แสงสว่าง บัดนี้ถูกกลืนโดยก้อนเมฆบดบัง ไม่มีแสง มีเพียงความมืดที่เหมือนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา เสียงบทสวดกลับหลังยังคงดังไปทั่วทั้งลานวัด มีบางสิ่งที่กำลังจะปรากฏ จากมุมมืดใต้ชายคาวัด เงาดำเงียบงัน ค่อยๆก้าวออกมาทีละก้าว พวกมันผอม เคลื่อนไหวช้าๆ สิ่งที่ปรากฏ...คือพระ บางรูปหัวหายไปจนเหลือแต่ร่างกายยืนตระหง่าน แต่ฝ่ามือยังพนมแน่นอยู่หน้าหน้าอกราวกับยังสวดไม่จบ สบงขาดพันรัดลำตัวจนเห็นรอยเนื้อเน่าเปื่อย บางรูปยังมีใบหน้า แต่ใบหน้านั้นซีดขาว ดวงตาลึกโบ๋ และเลือดแห้งเกาะติดมุมปาก บางรูปมีหัวที่หันกลับหลัง เหมือนถูกหมุนผิดทาง บางรูป เปื้อนเลือดทั่วสบง เลือดดำคล้ำเหม็นคลุ้งไปทั่วลานวัด เสียงสวดหยุดลงทันทีที่พวกเขาก้าวพ้นเงามืด และในความเงียบที่ถาโถมเข้ามานั้น เทียนก็ได้ยินเสียงหนึ่งชัดเจน...เสียงของจุก "...เทียน มาอยู่ด้วยกันไหม? ไม่ต้องกลัวนะ...เทียนจะตายแบบไม่ทรมานเลย พ่อบอกว่า อยากได้เทียนเป็นบริวารเหมือนกัน เทียนเองก็...เลวไม่ต่างจากพวกเรานิเนอะ" เสียงจุกยังคงเป็นเสียงเดิม แต่ในถ้อยคำนั้นแฝงบางอย่างเย็นเยียบ เทียนรู้สึกขนลุกวาบ ริมฝีปากจุกคลี่ยิ้มกว้างผิดรูป ดวงตาที่เคยซื่อใสหม่นมัวลงอย่างน่ากลัว เสียง "กรอบแกรบ" ดังมาจากกระดูกใต้ผิวหนัง แขนขาของจุกค่อยๆ ยืดยาวผิดสัดส่วน ข้อต่อบิดหมุนกลับทิศ ผิวหนังแห้งเกรียมดำคล้ำราวกับโดนไฟเผา ปากของเขาค่อยๆหดลงเรื่อยๆจนกลายเป็นรู เทียบเท่ารูเข็ม กลิ่นเหม็นเน่าราวซากศพเปื่อยลอยตลบไปทั่ว ดวงตาสองข้างหลุดจากเบ้า ห้อยต่องแต่งจนกระทั่ง ร่วงลงพื้นอย่างน่าสยดสยอง ร่างนั้นยืนตระหง่าน สูงชะลูดเกินมนุษย์ แขนห้อยเกือบถึงพื้น เท้าไม่มีนิ้ว มีเพียงตอเนื้อขาดๆวิ่นๆ ฟิ้ว...ววว เสียงผิวปากดังแผ่วจากร่างสูงโย่งดำ เทียนผงะถอยหลัง ใจเต้นโครมคราม ไอ้เxี้ย!!!!! เปรตคนขับแท็กซี่...กูไม่ไหวแล้ว! กลิ่นเหม็นเน่าหนักหน่วงลอยตลบอบอวลรอบตัว เทียนยกมือขึ้นปิดจมูกแน่น น้ำตาเอ่อขอบตา อ๊วก! เสียงอาเจียนดังสะท้อนไปกับความเงียบ ร่างกายอ่อนแรงหลังจากอาเจียนราดอยู่กับพื้น มือยังปิดจมูกแน่น แต่กลิ่นนั้นก็ยังเล็ดลอดเข้ามา แต่แล้ว...เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ บรรยากาศรอบตัวเย็นวาบลงอย่างฉับพลัน เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆจากที่ไกล ก่อนจะดังขึ้นเรื่อยๆ เทียนเงยหน้าขึ้นช้าๆ คนจำนวนมากวิ่งตรงมาหาเขา เป็นพระภิกษุหลายรูป วิ่งมาด้วยท่าทางแปลกประหลาด แขนขาบิดผิดรูป มือข้างหนึ่งยกจีวร อีกข้างแกว่งแรงเหมือนสุนัขที่วิ่งสี่ขา พระภิกษุหลายรูปมาหยุดตรงหน้าเทียน...ก่อนจะพากัน โน้มตัวลงก้มหน้าแนบพื้น แล้ว... กินอ้วกของเขาอย่างตะกละตะกลาม บางรูปเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาขาวโพลน ปากเปื้อนเศษอ้วก "ยังไม่หมดใช่ไหม?...โยมมีอีกใช่ไหม?" เทียนแทบจะอาเจียนออกมาอีกครั้ง ความขยะแขยงตีขึ้นจากลำคอ แต่เขารีบยกมือขึ้นปิดปากแน่น สั่นสะท้านจนเหงื่อไหลอาบแผ่นหลัง รอบตัวเขามืดลงเรื่อยๆ เสียงของคนที่กำลังก้มกินเศษอ้วกเริ่มห่างออกไป โลกทั้งใบเหมือนหมุนช้าลง...ภาพตรงหน้าเบลอ เขากำลังจะเป็นลม.. แต่ในจังหวะที่เปลือกตาใกล้จะปิดสนิท เทียนรู้สึกถึงมือใครบางคน...มือที่ใหญ่และอุ่น ประคองตัวเขาไว้ ก่อนจะวางเขานอนลงกับพื้นอย่างนุ่มนวล ภาพเลือนรางตรงหน้า มีแค่เงา...เงาของผู้ชายเหมือนกับ... คนที่เทียนเคยเห็นในฝัน ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบ เทียนได้ยินเพียงเสียงกระซิบเบาๆใกล้หู "นอนเถอะ...ปลอดภัยแล้ว" แล้วทุกอย่างก็ดับไป"สวัสดีค่าา ยินดีตอนรับเข้าสู่ช่วงQ&A ถามปุ๊บตอบปั๊บ ถามปั๊บปั๊บตอบปุ๊บปุ๊บEP.4แล้วนะคะ~""แขกรับเชิญของเราก็คือออออ..เดือนมหาลัยปีนี้ น้องขุนค่าาาาาาาาา!!"ทั้งพิธีกรกับน้องขุนยกมือไหว้พร้อมกัน"ทุกคนคะ! ตัวจริงน้องขุนหล่อม้ากกกกกกก ทำเอาพิธีกรเกร็งเลยค่ะ5555555""ขอบคุณครับ" น้ำเสียงของขุนเรียบนิ่ง ไม่มีวี่แววตื่นเต้น หรือเคอะเขินรุ่นพี่พิธีกรกลับหัวเราะกลบความเงียบได้อย่างมืออาชีพ เธอกำลังนั่งไขว่ห้างอย่างเป็นกันเองบนเก้าอี้ทรงสูง ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา สวมชุดนักศึกษาแบบเรียบร้อย"เอาล่ะค่าาา วันนี้เราจะมาถามคำถามสั้นๆ สนุกๆ ให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของขุนมากขึ้น! ทั้งหมดมี 10 คำถามค่ะ พร้อมยังคะ?""ครับ""คำถามแรก ทำไมถึงได้ชื่อเล่นว่า ขุน คะ?""...""ตาเป็นคนตั้งให้...ผมเองก็ไม่ทราบครับ"พิธีกรถึงกับชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบส่งยิ้มกลบอึดอัด"เราไปกันต่อที่คำถามต่อไปดีกว่าค่าาาา~""คำถามที่สอง ชอบสีอะไรคะ?""ดำครับ""คำถามที่สาม งานอดิเรกที่ชอบทำค่ะ""แกะเพลงเล่นเปียโนครับ"รุ่นพี่พิธีกรพลิกกระดาษคำถามในมืออีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย"แล้ววว~ น้องขุนมีแพลนจ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได
"เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด
ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ
เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ
"เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ