ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา
"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา . . . "มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหาร ขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้า เวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ "เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้" "มีใครทำอะไร?!" หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจัง เทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว "มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เทียนพูดเสียงเรียบ ตาคมจ้องมาที่ขุนอย่างมั่นใจ แต่ก็แฝงความเหนื่อยล้าเล็กน้อย "ก็แค่ใส่ไว้เฉยๆ ทำหน้าตาดูน่ากลัวไปได้" พอเทียนพูดเสร็จก็นั่งกินข้าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ ขุนยังไม่ละสายตา ริมฝีปากขยับเหมือนจะถามอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็เลือกเงียบไว้ ก่อนจะยกช้อนขึ้นตักข้าวต้มเข้าปากอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเคี้ยวกรอบๆของปีกไก่ทอด . . . "อิ่มโว้ยย!!!" เทียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ กอดท้องทำหน้าบึ้งตึง "มึงกินแต่ข้าวต้ม ปล่อยให้กูกินพวกนี้หมด! อิ่มจนท้องจะแตกอยู่แล้วเนี่ย!" ขณะที่อีกคนกำลังบ่น กลับมีใครบางคนลอบยิ้มมุมปากอย่างแผ่วเบา เทียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา "กี่โมงแล้ววะ" เขาถามพลางเลื่อนสายตาไปดูเวลาบนหน้าจอ "6โมงเย็น...ได้เวลากลับ" จู่ๆ ขุนก็ไอแห้งๆขึ้นมา เสียงแหบพร่าดังขึ้นในความเงียบของห้อง เทียนเงยหน้าขึ้นมอง เพ่งสายตาไปที่ขุนที่กำลังยกมือขึ้นปิดปากอย่างลำบาก "มึงโอเคมั้ยวะ?" เทียนถามเสียงติดกังวล ขุนพยักหน้าเบาๆ แต่ใบหน้าดูซีดเซียวกว่าปกติ เทียนลุกขึ้นช้าๆ หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงพร้อมกับเก็บจานอาหาร "มึงนั่งอยู่นี่แหละ กูไปล้างจานให้ก่อน" "ไม่ต้องล้าง" "มึงเงียบไปเลย! กูจะล้างให้เอง มึงนั่งอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวกูมา" เทียนพูดเสียงเข้ม พลางลุกขึ้นเดินไปเก็บจานชามที่เหลืออยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ขุนยกมือขึ้นมาปิดปากไอเบาๆ ก่อนจะนั่งลงช้าๆรออยู่ที่โต๊ะ ดวงตาจับจ้องไปที่เทียนอย่างเงียบๆไม่กล้าขัดคำพูดของอีกฝ่าย บรรยากาศในห้องกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงน้ำไหลจากอ่างล้างจาน . . . เทียนเดินไปยังโต๊ะเตี้ยข้างโซฟา ที่ก่อนหน้านี้ทำแผลให้กับขุน เขาเอื้อมมือไปหยิบกล่องทำแผลใบเดิมขึ้นมาแนบอกแน่น ก่อนจะเดินกลับไปหาขุนที่นั่งอยู่บริเวณโต๊ะกินข้าว ขุนไม่พูดอะไร เพียงแต่นั่งนิ่ง เมื่อเทียนทรุดตัวลงนั่งข้างหน้า ท่าทางดูอ่อนแรงกว่าปกติ "เรียนหมอยังไง ปล่อยให้ตัวเองป่วย!" "หัดไปหาใครสักคนมาดูแลไป หรือหาแฟนก็ได้ มึงแม่ง...พูดไม่รู้เรื่อง" เทียนพ่นคำออกมาเสียงเบา ขุนกระพริบตาช้าๆ มองเขาเหมือนจะยิ้มนิดๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร เทียนถอนหายใจพรืด ยิ่งอีกฝ่ายเงียบ เขายิ่งหงุดหงิดกับความดื้อเงียบ เทียนหยิบปรอทวัดไข้แบบดิจิทัลออกมาอย่างระมัดระวัง "จะเป็นหมอหรือจะเป็นภาระวะ...ยกแขนขึ้น" "...เดี๋ยวทำเอง" ขุนพูดเสียงแผ่วในลำคอ ขณะเลื่อนมือมาจับที่ปรอทวัดไข้ที่เทียนกำลังถืออยู่ ปลายนิ้วเขาแตะทับลงบนมือของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจนัก แต่ก็ไม่ได้ผละออกในทันที เทียนชะงักไปเล็กน้อย ดวงตากะพริบช้าก่อนจะมองสบขุนตรงๆ ใบหน้าที่เคยขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไป "อ๋อ...เออ ก็ทำไปดิ" เขาพูดตะกุกตะกัก แถมหลุบตาหนี ขุนรับปรอทวัดไข้มาไว้ในมือ ก่อนค่อยๆสอดมันเข้าไปใต้รักแร้ ท่าทางไม่รีบร้อน หลับตานิ่ง ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาระหว่างเขากับเทียน เทียนนั่งอยู่ใกล้ๆไม่ได้พูดอะไรอีก แค่มองมืออีกฝ่ายที่ยังวางบนหน้าตัก เวลาผ่านไปไม่กี่นาที เสียงติ๊กของเครื่องวัดไข้ก็ดังขึ้น ขุนหยิบมันขึ้นมาดู "…สามสิบเก้าจุดห้า" เทียนชะโงกหน้ามาดู พอเห็นตัวเลขก็ตาโต "มึงมีไข้นี่หว่า!" เขาลุกพรวดขึ้นไปควานหายาในกล่องทำแผลทันที ปากก็พร่ำบ่นอย่างลืมตัว "ก่อนหน้านี้ทำไมไม่มีไข้ พอตอนนี้กลับไข้ขึ้นสูงขนาดนี้ได้?!" ขุนไม่ได้เถียงอะไร นั่งมองแผ่นหลังของเทียนที่ง่วนหายาให้เงียบๆ มุมปากกระตุกขึ้นจางๆ คล้ายจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว "มึงแดกยาแก้ไอกับไข้ยัง" "...ยัง" "โอ้ยย! กูจะบ้าตาย!" เทียนร้องขึ้นเสียงดัง เขาถอนหายใจเบาๆ "ก็แค่ไข้…กินยาก็หาย" "เดี๋ยว! กูเพิ่งนึกออก มึงมาถ่ายรูปกับกูหน่อยสักรูป" "ทำไม?" "เอาเหอะน่าา รูปเดียว!" เทียนว่าเสียงยานคาง น้ำเสียงเหมือนจะอ้อนแต่ก็เต็มไปความกวน "กูกำลังทำงานเสริม ช่วงนี้มีงานอะไรที่ใช้แรงน้อยแต่ได้เงินเยอะ กูเอาหมด!" เขาไม่รอให้ขุนตอบ มือหนึ่งล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาอย่างไว เปิดกล้องหน้าแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ คนข้างๆ แบบไม่เกรงใจช่องว่างระหว่างกัน "ขยับมานิดดิ มึงจะนั่งทื่อทำไม" เขายกโทรศัพท์ขึ้นในระดับพอดี แล้วกดถ่ายอย่างรวดเร็ว ภาพที่ออกมาเป็นเขาที่กำลังยิ้มกว้างจนตาแทบหาย ขณะที่ขุนนั่งนิ่งๆ สีหน้าเรียบเฉย ไม่แม้แต่จะยิ้มตาม แต่สายตากลับมองกล้องอย่างตั้งใจ "เออ ได้อยู่ๆ" เทียนกดดูภาพในเครื่องแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหันไปแซวเบาๆ "รูปนี้ถ้าเขาจ้างงานคู่รักเงียบขรึม กูว่าเราผ่านนะมึง 5555555555" เขาพูดพลางหัวเราะลั่น "อืม" นิ้วของเทียนเลื่อนหน้าจอรวดเร็ว ก่อนพิมพ์ข้อความสั้นๆ ส่งไปให้ใครสักคนที่ไม่ปรากฏชื่อ เสียง "ติ๊ง" เบาๆดังขึ้นแวบเดียว เทียนคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างเร็ว เขาหันหลังกลับแทบจะทันที เดินกึ่งวิ่งไปทางมุมห้อง หยิบขวดน้ำพร้อมกับแก้วใบเล็ก ขุนที่นั่งอยู่เหลือบตามามอง ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาของขุนไล่ไปยังโทรศัพท์ของเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะ แต่หน้าจอกลับสว่างขึ้นเพราะการแจ้งเตือนใหม่พอดี ข้อความจากใครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาอย่างเด่นชัดบนหน้าจอล็อก แตงไทย : 500 บาท พี่โอนไปแล้ว! ต้องเกลี่ยกล่อมน้องขุนให้มาถ่ายรูปให้พี่ด้วย!! ไม่งั้น...พี่ตายแน่เลยยยย😭😭😭 ฉู้ๆๆๆๆๆ✌🏼✌🏼 ขุนชะงักไปเล็กน้อย เขาหันไปมองเทียนที่กำลังเทน้ำเพิ่มใส่แก้วให้เขาอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่รับน้ำมาดื่มพร้อมทั้งกินยา เทียนหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง มองหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มที่มุมปากยังไม่จางไปไหน "ขุน กูมีอะไรจะถามมึงหน่อย" "...?" "ทำไมมึงไม่ยอมไปถ่ายรูปวะ ทั้งที่มีใครตั้งหลายคน อยากจ้างมึงเป็นพรีเซ็นเตอร์" "ไม่ชอบ" "เอ๊า!! ไม่ชอบแต่มึงก็ต้องทำมั้ยวะ มึงก็ลองรับงานบ้างดิ ช่วงนี้ฮอตนะเว้ย" "..." "ต้องทำยังไง มึงถึงจะยอมไปถ่ายงาน" "..." "...นอนเป็นเพื่อนผม" ขุนพูดออกมาเสียงเบา หลังจากเงียบไปนานพักใหญ่ เทียนที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นจิบชะงักเล็กน้อย เขาหันมามองขุนทันที แววตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ "มึงนี่ก็ตลกเนาะ55" เสียงหัวเราะแห้งๆ พร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ "นอนด้วยกันได้ไหม?" ขุนถามอีกครั้ง คราวนี้เสียงนิ่งและตรงกว่าเดิม เผยให้เห็นสีหน้าที่ไม่ได้ล้อเล่น เทียนไม่ตอบทันที ปล่อยให้ความเงียบคลุมทั้งสองคนไว้อีกครั้ง "ได้! แต่มีข้อแม้" ขุนคิ้วขยับขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัย "ค่านอนเป็นเพื่อน คืนละ 2000 บาท ถ้าไม่จ่ายก็บรั้ยยย" เทียนมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งจริงกึ่งเล่น พูดจบก็ยักคิ้วใส่ ขำๆ ทางด้านของเทียน ผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงมันก็ไม่ยอมจ่ายเงินจ้างผมให้นอนเป็นเพื่อนจริงๆหรอก ถ้ามันโอนเงินให้จริง...ก็แค่คืนเดียวชิวๆ แถมทุกอย่างก็ครบ จะบอกว่าผมหน้าเงินก็ได้ ที่มาของคำว่า น้ำขึ้นให้รีบตัก ขุนกลับเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบเรียบๆ ด้วยเสียงต่ำ "เลขบัญชีมา" คำพูดนั้นทำเอารอยยิ้มที่มุมปากผมชะงักไปครู่หนึ่ง "เอาจริงดิ?!!" "...อืม" ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ยิ้ม ไม่พูดอะไร แค่กดหน้าจอเงียบๆอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครู่ ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นในแชตของเทียน ติ๊ง! มีเงินเข้า : 200,000 บาท จากบัญชี XXX-XXX-XXXX "เดี๋ยวๆ มึงกดเลข 0 เกินมา 2 ตัว" " 100 วัน" "ห๊ะ!!!!!!!! มึงใจเย็นก่อน เอาเลขบัญชีมึงมาเลย โอนแค่ 2000 ก็พอแล้ว!" "ใช้ห้องน้ำผมกับเสื้อผ้าได้เลย" ขุนพูดเสียงเรียบ พอพูดจบก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยไม่รอฟังคำตอบ มือหนึ่งหยิบกล่องยาไปเก็บไว้ในมุมเดิมของห้องอย่างเงียบเชียบ เสร็จแล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ ประตูปิดลงเบาๆ ไม่ได้มีเสียงกระแทกใดๆ มีเพียงเสียงฝักบัวที่ดังขึ้นแผ่วๆ เทียนนั่งอยู่คนเดียวในห้อง สายตาไล่มองไปยังห้องน้ำที่ปิดสนิท แล้วเลื่อนกลับมามองโต๊ะตรงหน้า โทรศัพท์ยังอยู่ที่เดิม หน้าจอยังคงโชว์ยอดเงินโอนล่าสุดจากขุน เขาสูดหายใจเข้าลึก แล้วลุกขึ้นช้าๆ "…ต้องจริงจังขนาดนี้เลยหรอวะ มันต้องเหงาขนาดไหน? หรือ...มันอกหักจนถึงขั้นจ้างคนอื่นมานอนเป็นเพื่อน?!" เทียนพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ที่อยู่ภายในห้องนอน . . . "มึงว่า...ผีมีจริงมั้ย?" พากันเลิกซึนกี่โมงลูก? พูดแค่ "ชอบ" จบเลยแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได
"เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด
ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ
เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ
"เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ
เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นกลางดึก ความเงียบงันอบอวลทั่วห้อง เขาค่อยๆหันไปยังปลายเตียงภายในห้องนอน มุมกลางห้อง ปรากฏเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก ร่างเล็กในเสื้อยืดสีดำ ยืนนิ่งจ้องมาทางเขา ด้วยแววตาว่างเปล่าแต่กลับทำให้รู้สึกสบายใจแปลกๆเทียนขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเทียนจ้องเด็กคนนั้นกลับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบผ่านหัวใจ 'ธร'ชื่อผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่เคยสัญญาจะมาส่งเขาในวันนั้น แต่ก็หายไปตลอดกาล แม้แต่ในงานศพตาของเทียนก็ไม่เห็นแม้เงาเด็กคนนั้นยังคงนิ่งเฉย ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ชี้ไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่เปล่งเสียงใดๆไม่พูดสักคำเขามองตามปลายนิ้วนั้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนภาพทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป"ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายเดะ...จุกสิอยู่นำไผ..ฮือออ..อออ" (ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายนะ..จุกจะอยู่กับใคร..ฮือออ..อออ) เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งห้องเทียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจุกนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มกลมๆอย่างไม่อาจกลั้น มือเล็กๆเอื้อมไปแตะปลายแขนของเทียนแ