Home / LGBTQ+ / อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน / บทที่28 กูเตือนมึงแล้ว...ห้ามกลับดึก (2/3)

Share

บทที่28 กูเตือนมึงแล้ว...ห้ามกลับดึก (2/3)

last update Huling Na-update: 2025-07-10 19:42:15

"น้องครับ! น้อง! ตื่นกันได้แล้ว!"

"น้อง! พากันตื่นได้แล้วครับ!!"

เขาเดินเข้ามาใกล้โต๊ะก่อนจะค่อยๆสะกิดปลุกทีละคนด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"น้อง! ร้านจะปิดแล้วครับ!"

แต่ไม่มีใครขยับ ทุกคนยังคงฟุบหลับกันคนละทิศละทาง จนกระทั่งเทียนค่อยๆปรือเปลือกตาขึ้นมา โลกยังหมุนอย่างเชื่องช้า กลิ่นเหล้าค้างจมูกกับรสขมของแอลกอฮอล์ ติดอยู่ที่ลิ้น เขาขยับตัวอย่างงุนงง พยายามตั้งสติ

"...กี่โมงแล้ววะ"

"ตอนนี้จะตี 3 แล้วครับ" เสียงผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้น เขาเป็นพนักงานของร้าน

"ครับ...พวกผมกำลังจะกลับกันแล้ว...ทั้งหมดนี้กี่บาทหรอครับ"

"น้องคนนั้นจ่ายตังค์เรียบร้อยแล้วครับ เห็นบอกว่าขอพักสายตาสัก 5 นาทีค่อยจะกลับ พอพี่กลับมาดูอีกทีก็เห็นพวกเรานอนกันหมด" พี่พนักงานพูด พลางชี้ไปทางพี่เบียร์ที่กำลังนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ เสียงกรนเบาๆดังสม่ำเสมอ

"ขอบคุณครับ" เทียนเอ่ยเสียงแหบพร่า ขณะที่ยกมือขึ้นลูบหน้า ไล่ความมึนงงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นช้าๆ แต่หัวก็ยังหนักอึ้ง

"ยินดีให้บริการครับ คุณลูกค้า" พี่พนักงานพูดพร้อมรอยยิ้มสุภาพ เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปเสิร์ฟโต๊ะอื่นที่ยังมีคนหลงเหลืออยู่บ้าง

เทียนหันกลับมามองทุกคนรอบโต๊ะอีกครั้ง ต้นกล้ายังฟุบอยู่กับโต๊ะ มือข้างหนึ่งกำแก้วเปล่าแน่นราวกับไม่ยอมปล่อย ปอก็หลับตาแน่น ริมฝีปากขยับเหมือนพึมพำอะไรในฝัน ส่วนคนอื่นๆก็ต่างคนต่างนอนหลับ

"ตื่นๆๆ ต้นกล้า! พี่เบียร์! ทุกคนตื่น!!..เฮ้ย! ไอ้ปอตื่นเว้ย!!" เสียงเทียนดังลั่นขณะเขาสะกิดแขนทีละคน

หัวของเทียนหมุนติ้ว ร่างกายโงนเงนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลือ

"เช้าแล้วเหรอวะ ขอต่ออีกแป๊บสัก 5 นาที" เสียงพี่เบียร์แหบพร่าดังขึ้นเบาๆ ทั้งที่ตายังหลับสนิท เขายกมือขึ้นช้าๆ ชูนิ้วสามนิ้วกลางอากาศอย่างเชื่องช้า ก่อนจะปล่อยตกลงข้างตัว

"พี่!!! ร้านเขาจะปิดแล้ว! กลับกันได้แล้วพี่" เสียงเทียนตะโกนขึ้น เขาสะบัดไหล่พี่เบียร์แรงกว่าเดิม

พี่เบียร์ค่อยๆสะดุ้งเฮือก ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ แววตายังพร่าเบลอเหมือนคนยังไม่ตื่นดี เขาขยับตัวอย่างเชื่องช้า แล้วยืนขึ้นโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็เดินไปตีแขนปลุกแต่ละคนให้ตื่น

ทุกคนค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ สีหน้ายังดูง่วงงุน ไม่มีใครพูดอะไรกันมากนัก ต่างคนต่างลุกขึ้นอย่างอ่อนแรง ก่อนจะเดินมากอดคอกันพยุงตัวขึ้น ทั้งกลุ่มค่อยๆเดินออกมาที่หน้าร้าน ท่ามกลางบรรยากาศยามดึกที่เงียบสงัด

"หนักโว้ย!!! พวกมึงแดกไรกันเยอะแยะวะ" พี่เบียร์บ่นพลางกอดคอเพื่อน

"พี่โก้ไปไหนวะพี่เบียร์" เทียนเอ่ยถามพลางกอดคอปอกับต้นกล้าทั้งสองข้าง

"ไอ้โก้แม่งกลัวผี! กลับตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้ว มึงไม่ได้ยินรึไงวะ?"

"ใครจะไปรู้วะพี่ ไหนเคยเล่าให้ฟังว่าเคยสักของดีไว้กลางหลัง"

"กูขำxิบหาย5555555555555 กูจะบอกอะไรให้มึงรู้นะ ทีแรกมันไปสักกับอาจารย์ชื่อดัง เห็นบอกว่าใครต่อใครก็ไปสัก ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว" พี่เบียร์ว่าแล้วก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด ท่าทางเมาได้ที่

"ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอวะพี่"

"แต่มึงรู้ไหม...อาจารย์คนนี้เป็นคนต่างชาติ พูดไทยไม่ได้ แม่งฟังไทยไม่รู้เรื่องอีก"

"ต่างชาติผมสีทอง?"

"ทองเชี้ยไรล่ะ เพื่อนบ้านเราเนี่ยแหละ"

"ไม่มีคนแปลให้อาจารย์เลยหรอพี่"

"ไม่รู้ว่ะ...ที่สักก็อยู่ในป่า กูล่ะนับถือไอ้โก้xิบหาย" พี่เบียร์ว่าเสียงยานๆ พลางส่ายหัวเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

"เล่าต่อดิพี่"

"เอ้อๆๆพอถึงคิว มันบอกให้อาจารย์สักยันต์กันผีให้ แต่อาจารย์เข้าใจว่า สักยันต์แรงดี ตอนแรกมันก็ทะแม่งๆเพราะยันต์ที่สักเป็นรูปจิ้งจกนอนทับกันอยู่ ไอ้โก้แม่งเดือดจัด...อาจารย์เลยสักเพิ่มให้...ก็กันได้อยู่มั้ง.."

"พี่โก้กลับยังไง"

"ขี่มอเตอร์ไซค์กลับ"

"มันจะไม่อั..." เทียนพูดยังไม่ทันจบ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นจากทางถนนด้านหน้า รถแท็กซี่คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดหน้าร้าน

"มึงกลับยังไง ไปนอนหอกูไหม?"

"ผมไม่น่าเข้าไปได้แล้วแหละ ดูแต่ละคนดิ รถแม่งเต็มหมดแล้ว" เขาพูดพลางมองลอดกระจกเข้าไปในรถ ทุกคนข้างในต่างพากันฟุบหลับ

"เอ้อๆกลับดีๆนะโว้ยย! มีไรโทรหากูได้ตลอด แต่ไม่น่าได้รับว่ะ หลับอยู่" พี่เบียร์พูดจบก็หัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินโซเซไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ

รถแท็กซี่ก็แล่นออกไป เหลือเพียงเทียนที่ยังยืนอยู่หน้าร้านตามลำพัง

เหมือนกูลืมใครวะ...ช่างแม่งละกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที

จู่ๆ ก็มีรถแท็กซี่คันหนึ่งแล่นเข้ามาช้าๆ แล้วจอดนิ่งอยู่ตรงหน้าเทียน ทั้งที่เขาไม่ได้โทรเรียกรถ เทียนยืนนิ่ง มองผ่านกระจกหน้าไปยังคนขับ

คนขับเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาท่าทางสุภาพ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอ่อน เขานั่งอยู่หลังพวงมาลัย มองตรงมาทางเทียนด้วยแววตาเรียบเฉย

รอบตัวเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมอ่อนๆพัดผ่าน เทียนยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ประตูรถ สักพักเทียนก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ ท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน เขาก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลังอย่างระมัดระวัง เทียนเอนหลังพิงเบาะ หัวเริ่มหนักๆอย่างที่คาดไว้ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังวนเวียนอยู่

"ไปไหนครับน้อง?" คนขับเอ่ยเสียงเรียบขณะยังมองตรงไปข้างหน้า

"หอพักชายรุ่งเรืองครับ"

เขาคิดจะฝืนลืมตาไว้ แต่อีกครู่หนึ่ง เปลือกตาก็หนักเกินกว่าจะต้านไหว ภาพสุดท้ายก่อนที่สติจะเลือนราง คือกระจกมองหลังที่สะท้อนใบหน้าของคนขับแวบหนึ่ง ราวกับอีกฝ่ายเหลือบตามามองเขา...เทียนหลับตาลงในที่สุด

ก่อนหน้านี้

"จุกเบื่อแล้วล่ะลุงง ให้จุกเข้าไปได้มั้ยจ๊ะ"

"ไม่ได้!!"

"แล้วนั่นขวดอะไรจ๊ะลุง"

"เหล้า"

"จุกขอลองชิมได้มั้ยจ๊ะ มันจะแซ่บคึน้ำแดงมั้ย" (จุกขอลองชิมได้มั้ยจ๊ะ มันจะอร่อยเหมือนน้ำแดงมั้ย)

"ไม่หวาน ขม"

"เดี๋ยวมา..พวกผีสัมภเวสีมันอยู่แถวนี้"

ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร ลุงก็เดินหายเข้าไปในเงามืดข้างร้านอย่างรวดเร็ว

จุกยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สายตาเขาเหลือบไปเห็นขวดเหล้าสีอำพันที่วางอยู่ข้างๆ มันดูชวนให้ลอง ทั้งที่อีกใจก็เหมือนได้ยินเสียงเตือนบางอย่างในหัว แต่สุดท้ายจุกก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขวดขึ้นมาแล้วแนบปากดื่มเงียบๆ รสชาติแอลกอฮอล์ค่อยๆไหลลงคอ

ผ่านไปไม่นาน เงาร่างคุ้นตาของลุงที่ค่อยๆ ปรากฏตัวกลับมาอีกครั้ง แหงนหน้ามองจุกที่นั่งเอนหลัง ใบหน้าแดงระเรื่อ แววตาปรือเล็กน้อย มือยังถือขวดเหล้าไว้หลวมๆ

"นี่แหละสาเหตุที่กูไม่ชอบพวกกุมารทอง" ลุงพูดเสียงเรียบ ดวงตาคมใต้คิ้วหนาไม่ได้ดุ

จุกหัวเราะเบาๆแบบคนเมานิดๆ ยักไหล่ทีหนึ่ง "ไม่แซ่บคึน้ำแดงอิหลี จุกไม่ซอบเลย" (ไม่อร่อยเหมือนน้ำแดงจริงๆ จุกไม่ชอบเลย)

"แม่ตะเคียน~ จุกขอไปนอนด้วยย~"

"แม่ตะเคียนจ๋าา~"

"ลุง! จุกปวดหัว! จุกสิตายบ่ลุง" (ลุง! จุกปวดหัว! จุกจะตายมั้ยลุง"

"มึงตายนานแล้ว" ลุงถอนหายใจเบาๆ ขณะสายตายังจับจ้องที่ขวดเหล้าในมือจุก

"มึงทำอะไรลูกกู!" เสียงแหลมสูงแฝงความโกรธแค้นดังขึ้นจากข้างหลัง

ลุงสะดุ้งเฮือก หันขวับไปทางต้นเสียง เผยให้เห็นหญิงสาวผมยาวก้าวออกมาจากเงามืดทีละก้าว เผยให้เห็นรูปลักษณ์ชัดเจนขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัวของหน้าร้าน

ผิวเธอขาวเนียน ใบหน้าคมหวาน ใส่ชุดไทยสีชมพูอ่อนพลิ้วไหวไปตามลม แม้จะงดงามแต่เสียงของเธอก็ยังสั่นเทาด้วยความไม่พอใจ

"มึงทำอะไรลูกกู..!" เธอเอ่ยซ้ำอีกครั้งแต่คราวนี้เบาลง

"ไอ้เด็กนี่ มันแอบดื่มเหล้าตอนที่ข้าไม่อยู่...พอกลับมาอีกทีก็มีสภาพเป็นแบบนี้"

หญิงสาวปรายตามามองลุงครู่หนึ่ง ก่อนเบนกลับมาจ้องจุก

"เฮ้อ~ ว่าแล้วมันต้องมีวันนี้! เคยเตือนหลายครั้งแล้วว่าอย่ากินอะไรมั่วซั่ว ยิ่งตัวเล็กๆอยู่ด้วย" หญิงสาวถอนหายใจแรง น้ำเสียงเธอเปลี่ยนจากเกรี้ยวกราดเป็นเหนื่อยหน่าย

"ตัวเล็ก...?" ลุงพึมพำกับตัวเอง

"จุกเป็นกุมารทองตัวเล็กๆ ถึงจะกินเยอะไปบ้าง...แต่ก็ยังผอมอยู่ดี ฉันล่ะกลัวจุกขาดสารอาหารกินไม่อิ่ม แต่ที่กลัวที่สุดก็คือ...กลัวว่าจะมีผีตัวอื่นมารังแก" หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดเสียงแผ่วลง สายตาอ่อนโยนปนห่วงใยมองเขาไม่วางตา

ลุงที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับเหลือบตามามองจุกแบบอึ้งๆ สายตามองไล่จากหัวจุกจรดปลายเท้า ตัวเขาอ้วนกลม แก้มแน่น แววตาเจ้าเล่ห์จางๆ แบบเด็กขี้เล่น ดูยังไงก็ไม่ใช่ "ผอมๆ" อย่างที่หญิงสาวว่า

มีแต่มันที่จะไปรังแกผีตนอื่น...ดูยังไงก็ดื้อชัดๆ

"ฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะ ก่อนหน้านี้...แล้ว...เทียนที่ดูแลจุก เขาไปไหนเหรอจ๊ะ?"

"อยู่ในร้าน คงอีกนาน...เพราะเพิ่งเข้าไปไม่กี่ชั่วโมง"

"เดี๋ยวถ้างั้นฉันเอาจุกกลับก่อนนะจ๊ะ ขอบคุณที่ดูแลจุกให้" หญิงสาวพูดพลางยิ้มอ่อน แววตานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและโล่งใจ

"..."

เธอลุกขึ้นช้าๆ มือข้างหนึ่งเอื้อมมาลูบเบาๆที่ศีรษะของจุก แล้วกระซิบแผ่วเบา

"กลับกันเถอะลูก"

จุกยังไม่ทันได้ตอบ ร่างของเขาก็พลันแผ่วเบาลง เหมือนควันธูปที่ค่อยๆลอยหาย แล้วจางหายไปพร้อมกันทั้งคู่ เหลือเพียงลมเย็นบางๆ ที่พัดผ่านหน้าร้านเหล้า

.

.

.

กลับมายังปัจจุบัน

ฟี้ว...ฟี้ว...ฟี้ว...

เสียงผิวปากแหลมต่ำ แผ่วเบาในตอนแรก แต่ค่อยๆชัดเจนขึ้น

ฟี้ว...ฟี้ว...

เสียงนั้นยังไม่หยุด..

ทีแรกไรท์จะเขียนถึง (2/2)ให้จบ ดูเหมือนว่าตอนมันจะยาว ไรท์ขอเพิ่มเป็น (3/3)เลยแล้วนะคะ ยังไงก็ฝากกันด้วยนะคะ ตอนหน้าเรามาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง🌚

น้องจุกก็ตัวแค่🤏🏼 แม่ตะเคียนรับประกันค่ะอิอิ ปล.พึ่งแก้ปกรอบที่n เราจะหยุดกันที่ปกนี้แล้วกันค่ะ5555555รู้สึกว่าโอเคเรียบร้อยยย

;กำลังคิดอยู่เลยค่ะว่า จะทำอีบุ๊กดีมั้ยย? กลัวว่าถ้าทำแล้วจะไม่มีใครสั่งซื้อค่ะ55555 (ขอความคิดเห็นของนักอ่านทุกท่านหน่อยนะคะ หรือมีความคิดเห็นยังไงสามารถบอกได้เลยค่ะ พึ่งเคยแต่งนิยายครั้งแรก ไม่ค่อยรู้การตลาดมาก...คนที่จะรู้ดีก็คือนักอ่านทุกท่านค่ะ😘🥰)

คำเตือน🚨

เนื้อหาในตอนนี้มีการกล่าวถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับผู้อ่านบางกลุ่ม

ผู้เขียนไม่ส่งเสริมการดื่มสุรา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เยาว์ และขอแนะนำให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการรับชม

การดื่มแอลกอฮอล์ควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำกิจกรรมเสี่ยงหลังจากดื่ม❌🚘🏍️🛵🚙🚗🛻🚐🚚🚛🚜🏎️🚒🚕🛺🚌🚈🚝🚢🛳️🛥️🚀🛸✈️🙏🏻

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่36 รายการQ&A

    "สวัสดีค่าา ยินดีตอนรับเข้าสู่ช่วงQ&A ถามปุ๊บตอบปั๊บ ถามปั๊บปั๊บตอบปุ๊บปุ๊บEP.4แล้วนะคะ~""แขกรับเชิญของเราก็คือออออ..เดือนมหาลัยปีนี้ น้องขุนค่าาาาาาาาา!!"ทั้งพิธีกรกับน้องขุนยกมือไหว้พร้อมกัน"ทุกคนคะ! ตัวจริงน้องขุนหล่อม้ากกกกกกก ทำเอาพิธีกรเกร็งเลยค่ะ5555555""ขอบคุณครับ" น้ำเสียงของขุนเรียบนิ่ง ไม่มีวี่แววตื่นเต้น หรือเคอะเขินรุ่นพี่พิธีกรกลับหัวเราะกลบความเงียบได้อย่างมืออาชีพ เธอกำลังนั่งไขว่ห้างอย่างเป็นกันเองบนเก้าอี้ทรงสูง ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา สวมชุดนักศึกษาแบบเรียบร้อย"เอาล่ะค่าาา วันนี้เราจะมาถามคำถามสั้นๆ สนุกๆ ให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของขุนมากขึ้น! ทั้งหมดมี 10 คำถามค่ะ พร้อมยังคะ?""ครับ""คำถามแรก ทำไมถึงได้ชื่อเล่นว่า ขุน คะ?""...""ตาเป็นคนตั้งให้...ผมเองก็ไม่ทราบครับ"พิธีกรถึงกับชะงักเล็กน้อย ก่อนจะรีบส่งยิ้มกลบอึดอัด"เราไปกันต่อที่คำถามต่อไปดีกว่าค่าาาา~""คำถามที่สอง ชอบสีอะไรคะ?""ดำครับ""คำถามที่สาม งานอดิเรกที่ชอบทำค่ะ""แกะเพลงเล่นเปียโนครับ"รุ่นพี่พิธีกรพลิกกระดาษคำถามในมืออีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย"แล้ววว~ น้องขุนมีแพลนจ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่35 ใจสั่นเพราะแก

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่34 วันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ

    "เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่33 เฝ้าไข้ 1 คืน 2000 บาท

    ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่32 แสร้ง

    เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่31 ตัวข้านั้นมีชื่อว่า "โก้"

    "เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status