Home / แฟนตาซี / อาศิรวิษ / 6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร3/4

Share

6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร3/4

last update Huling Na-update: 2025-04-29 13:00:38

ฉันเดินวนไปเวียนมาอยู่ในเขตแดนอาคมอยู่นาน แต่สายตาดันมองไกลเห็นบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหว ระยะทางที่ห่างไกลสายตาเห็นเพียงเลือนรางไม่ชัดเจน แต่รับรู้รูปร่างได้ว่าคือสิ่งใด หัวใจดวงน้อยของฉันเต้นระทึกด้วยความดีใจ รอยยิ้มของฉันมีความหวังว่าผู้นั้นจะเป็นอาศิรวิษที่คงตามหาฉันอยู่เป็นแน่ แต่...

“ไม่ใช่อาศิรวิษ แล้วคือใครกัน?” ฉันมองเห็นรูปร่างสูงโปรงล่ำสัน แต่ดันไม่ใช่คนในความคิด

“เขามาทางฉันแล้ว ทำยังไงดี...มาดีหรือมาร้ายกันนะ?”

ฉันมองทุกการเคลื่อนไหวของคนที่มาใหม่อย่างพินิจ คิดวิเคราะห์พฤติการณ์ตามสิ่งที่เห็น เริ่มมีความกังวลขึ้นมามากกว่าเดิม เพราะฉันไม่รู้เลยว่าคนมาใหม่เป็นมิตรหรือศัตรู แต่จากที่ฉันมองดูเขาเหมือนไร้พิษภัย แต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้

“เขาเป็นใครกันนะ? ... ดูไปดูมาทำไมรู้สึกคุ้นหน้าจัง” ฉันจ้องคนที่กำลังเข้ามาใกล้ ๆ จนเห็นใบหน้าชัดขึ้น เหมือนกับว่าฉันเคยเห็นใบหน้าแบบนี้มาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ก็นึกไม่ออก

“ภพ!...ใช่พี่ภพจริง ๆ ด้วย พี่ภพคะช่วยณินด้วย ณินอยู่ตรงนี้ค่ะ”

จนเขาคนนั้นเข้ามาใกล้ ฉันเห็นใบหน้าชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว รู้ทันทีว่าเป็นใคร

ตฤณภพ  รุ่นพี่คณะที่ฉันคุ้นเคย เขาคอยช่วยเหลือฉันหรือพูดง่าย ๆ คือตามจีบฉันนั่นแหละ แต่ฉันยังไม่อยากจะรักใคร ระหว่างฉันกับเขาจึงยังคงเป็นรุ่นพี่กับรุ่นน้องเท่านั้น

“พี่ภพได้ยินณินไหม ณินอยู่ตรงนี้ไงคะ พี่ภพ!”

ทั้งที่อยู่ใกล้กันเพียงแค่เอื้อมมือ แต่เหมือนกับว่าเขาอยู่ห่างไกลเหลือเกิน ฉันตะโกนเรียกจนคอแทบแตก เขาก็ไม่ตอบรับสักที

“พี่ภพ” เรียกเสียงละห้อยเหมือนคนหมดหวัง เพราะพยายามเรียกขอความช่วยเหลือยังไงเขาก็ไม่ได้ยิน

ฉันทรุดตัวนั่งลงกับพื้นดินพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ไม่คิดว่าตัวเองจะน้ำตาไหลได้ง่ายขนาดนี้ ทั้งที่พยายามเก็บกลั้นความกลัวเอาไว้แล้วแท้ ๆ ตฤณภพยังคงไม่ไปไหน เขาเดินวนรอบ ๆ เขตแดนอาคมของท่านอาจารย์ อย่างกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง ฉันมองตามฝีเท้าของเขาไม่วางตา เผื่อว่าเขาอาจจะฟลุ๊กช่วยฉันได้ 

สายตาไม่อาจละห่างจากตฤณภพได้ ฉันยังคงมองการเคลื่อนไหวของเขาตลอด เดาไม่ออกเลยว่าตอนนี้เขากำลังคิดจะทำอะไร จู่ ๆ เขตแดนอาคมของท่านอาจารย์ก็หายไป

(“ตรีภพอุรเคนทร์ไว้ใจได้ แม้เขาจะเป็นคนของตำหนักประจิม แต่เขาก็เป็นแม่ทัพผู้ที่จงรักภักดิ์ดีต่อเจ้าหลวงภุชคะวิษธร”) ฉันชะงักเมื่อเสียงแสนคุ้นเคยแว่วเข้ามาในหู รู้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัยว่าเป็นเสียงใคร ท่านอาจารย์นั่นเอง

“เขาหรือคะ?” ฉันย้อนถามท่านอาจารย์ผ่านจิต

(“ใช่แล้วล่ะ”)

“ท่านเองหรอกหรือเจ้านางน้อยผณินทร”

“พี่ภพมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”

“!?”

เขาผละตัวออกห่างอย่างตกใจเมื่อเห็นหน้าฉัน ความดีใจทำให้หลงลืม ฉันรีบย้อนถามคนตรงหน้าทันที แต่เหมือนว่าเขาจะงุนงงกับคำถามของฉัน เพราะมันแสดงออกทางสีหน้าของเขาชัดเจน คิ้วขมวดแทบชนกัน

“อะ เอ่อ ไม่เข้าใจสินะ...ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”

“เจ้านางน้อยจำไม่ได้หรือพ่ะย่ะค่ะ ตรีภพอุรเคนทร์ เราเป็นเพื่อนเล่นกับท่านตั้งแต่ท่านทรงพระเยาว์”

“แหะ ๆ ขอโทษค่ะพอดีว่าป่วยหนัก ฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ค่อยได้” ฉันได้แต่เฉไฉอย่างกับคนบ้า แถข้าง ๆ คู ๆ ทั้งที่จริงก็ไม่รู้อะไรสักอย่าง

“แล้วใยเจ้านางน้อยถึงได้อยู่ในเขตแดนอาคมนี้ได้ นี่เป็นวิชาอาคมของท่านอาจารย์โฆรวิสไม่ใช่หรือ” เขาถามฉัน

“ใช่ค่ะ เรื่องราวเป็นแบบนี้ค่ะ คือว่าฉัน เอ๊ย! ข้าถูกเวนไตยไล่ล่า แล้วหนีมาได้จนท่านอาจารย์มาช่วยไว้ จึงได้สร้างเขตแดนอาคมนี้ให้เพื่อรออาศิรวิษมาถึง แต่ท่านมาเจอเสียก่อนนี่แหละค่ะ”

“เวนไตยทำไมถึงไม่ยอมจบสิ้นเสียที”

“น่ารำคาญที่สุดเลยค่ะ”

“เหตุใดถึงไม่ยอมลามือจากเจ้านางน้อย ทั้งที่พระองค์ไม่ได้มีใจให้”

“นั่นสิคะ”

“เรารีบไปจากที่นี่กันเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“ค่ะ...ว่าแต่ท่านมาทำอะไรแถวนี้คะ แล้วทำไมถึงได้ทำลายเขตแดนอาคมของท่านอาจารย์ได้”

“เราศิษย์สำนักเดียวกันแล้วใช่หรือไม่”

“จริงหรือคะ?”

ระหว่างทางเดิน ฉันกับเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ตรีภพที่ฉันรู้จักกับตฤณภพช่างเหมือนกันเหลือเกิน เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่นมาก ไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยเวลาได้พูดคุย

“เขตแดนอาคมของท่านอาจารย์โฆรวิสแกร่งกล้านัก หากไม่ใช่ศิษย์ของท่าน ไม่มีผู้ใดแก้เขตอาคมนี้ได้”

“ข้านี่ไงล่ะที่เป็นศิษย์แต่แก้มนตร์ไม่ได้”

“ฝึกฝนอีกไม่นานก็ทำได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • อาศิรวิษ   6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร4/4

    ผ่านไปสักระยะหนึ่งฉันและตรีภพเดินทางมาได้ไกลจากจุดเดิมมากโข ในใจของฉันพะวงเหลือเกินทำไมอาศิรวิษถึงยังไม่มา ทั้งที่ท่านอาจารย์บอกเองว่าเขาจะตามหาฉัน“ตรีภพเราควรจะรออาศิรวิษอยู่ตรงนี้ดีไหม เผื่อว่าเขากำลังตามหาฉันข้า หนีห่างไปแบบนี้อาจจะคลาดกันได้”“หากรอตะวันคงจะหมดแสงเสียก่อน ยิ่งจะทำให้กลับลำบาก อาศิรวิษเก่งกาจเยี่ยงนั้น คงไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่านี่ก็นานมากแล้วนะ เขายังไม่โผล่มาเลย”“เยี่ยงนั้นเราลงเดินบนพื้นดินดีหรือไม่ เพื่อชะลอการเดินให้อาศิรวิษตามได้ทัน”“อืม”“ทรงระวังนะพ่ะย่ะค่ะ”“ค่ะ”เมื่อตกลงกับตรีภพได้ก็ทำตามอย่างว่า ฉันเดินตามหลังของผู้ชายตัวสูง พลางหันมองรอบ ๆ เผื่อจะเจอ

    Huling Na-update : 2025-04-29
  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 1/4

    ((“เจ้านางน้อย!”))“มีอะไรทำไมหน้าตาตื่นกันเชียว กาลัด กลีบบัว”“พระองค์ไปไหนมาเพคะ ในวังเกิดเรี่องใหญ่แล้วเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”เพียงเดินเข้ามาในเขตตำหนักได้ไม่กี่ก้าว หลังจากที่ตรีภพมาส่งหน้าเขตตำหนัก เขาก็จากไปทันที กาลัดและกลีบบัวก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาประชิดตัวของฉันทันที ด้วยสีหน้าตระหนกมีความกังวล จนฉันตั้งเอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้“เจ้านางอัปสราน่ะสิเพคะ กล่าวหาว่าเจ้านางน้อยทรงขโมยบ่วงนาคบาศ และลอบหนีไปพบบุรุษคนรักบนเมืองมนุษย์” กลีบบัวพูดขึ้น“จะบ้าเหรอ! ข้าไม่ได้ขโมยไปนะ แล้วคนรักที่เมืองมนุษย์บ้าบออะไรกัน...ยัยนี่หาเรื่องตอนที่ฉันไม่อยู่” สิ่งที่ได้ยินทำฉันตะเบ็งเสียงดัง ก่อนจะสบถกับเบา ๆ กับตัวเองด้วยความคับแค้นใจ“พวกหม่

    Huling Na-update : 2025-04-30
  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 2/4

    “ข้าก็ไม่แน่ใจนักหรอกท่านผู้อาวุโสวิเชียรนาคราช เพียงแค่...” อัปสราพูดพลางชายตามาที่ฉันชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองหน้าท่านผู้อาวุโสวิเชียร“แค่กระไรอย่างนั้นหรือ”“สงสัยเจ้านางน้อยผณินทร ที่ไม่อยู่ในเขตตำหนักตั้งหลายวัน...ไปที่ใดมาอย่างนั้นหรือเจ้าคะท่านพี่” อัปสราพูดและมองมาที่ฉัน“ท่านพี่...ตอแหลฉิบหายเลยยัยตัวแสบ” ฉันพูดในใจ“ไปธุระมาสิ” ฉันตอบตรง ๆ ตามนิสัยที่เป็น(!?) แต่ดูจากสีหน้าแล้วเหมือนกับผู้คนในนี้จะงวยงงไปกันหมด นึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ฉันเคยอยู่ จึงดึงสติกลับมา“ข้าไป เอ่อ ไป ไป...ไปเที่ยวเล่นกับท่านพี่ตรีภพมา” ฉันตะกุกตะกักด้วยความกดดัน ไม่กล้าบอกความจริง เพราะเป็นสิ่งที่เจ้าหลวงสั่งห้าม สายตามองไปเห็นตรีภพกำลังเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ฉันจึงพลันนึกได้และแอบอ้าง เนื่องจากไม่สามารถบอกความจริงที่หายไปหลายวันได้“นางโป้ปดเพคะ!” อัปสรารีบแย้งเสียงแข็ง“ไม่เชื่อก็ถามท่านพี่ตรีภพดูสิ” ฉันท้าทายอัปสรา ก่อนจะส่งสายตามองไปยังตรีภพด้วยแววตาอ้อนวอน“เงียบก่อนเถิดอัปสรา ไถ่ถามจากตรีภพเสียก่อนว่าเป็นดั่งที่เจ้านางน้อยผณินทรว่าหรือไม่” เจ้าหลวงบอกกล่าว นั่นจึงทำให้อัปสราเงียบสงบลง“ว่า

    Huling Na-update : 2025-04-30
  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 3/4

    “ตอนนี้ไม่มีผู้ใดแล้ว นับว่ามีแต่คนในครอบครัว พ่อจักไม่ยื้อถามให้มากความ...อัปสรา”“เพคะ”“ครั้นก่อนหน้าไยเจ้าจึงได้บอกว่าผณินทรเป็นผู้ขโมยบ่วงนาคบาศไป” เจ้าหลวงเอ่ยอย่างตรงประเด็น ฉันเห็นสีหน้าของอัปสราสลดลงทันตา ทุกคนจ้องมองไปยังเธออย่างเฝ้ารอการโต้ตอบ เธอดูประหม่ากำมือแน่น แขนสั่นเทา ฉันเห็นความกลัวในแววตาของเธอชัดเจน“เช้ามืดของวันนั้นลูกตื่นแต่เช้า เพราะนอนไม่หลับ ลูกเห็นเจ้าพี่ผณินทรออกมาจากวิหารอาคมเพคะ ต่อมาก็ได้ยินข่าวว่าบ่วงนาคบาศหายไป จึงไปกราบทูลให้เสด็จพ่อทรงทราบ หากไม่ใช่ท่านพี่จักเป็นผู้ใดได้เล่าเพคะ ในเมื่อไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปในวิหารอาคมนี้ได้”อัปสราเล่าเรื่องราว ทำเอาฉันถึงกับกำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ รอดูต่อไปว่าเธอจะใส่ร้ายฉันยังไงอีก จากที่เธอเล่ามามันย้อนแย้งกันมาก เพราะเป็นวันที่ฉันไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวัง เรื่องนี้มันชักจะไม่

    Huling Na-update : 2025-05-01
  • อาศิรวิษ   บทนำ

    เรื่องเล่าที่ชาวบ้านกล่าวขานกันมาปากต่อปาก เกล็ดแห่งนาคา ที่ผู้คนต้องการครอบครองเพื่อความเป็นอมตะนิรันดร์กาล เชื่อกันว่าเกล็ดพญานาคหากได้ผสมน้ำดื่มกินคนผู้นั้นจะมีชีวิตอมตะ ฉันได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนปัจจุบันเรื่องเล่านี้ก็ยังถูกพูดถึง มันคือสิ่งที่มนุษย์กิเลสหนาอยากได้ไว้เคียงกาย ด้วยอำนาจและอิทธิฤทธิ์ประหนึ่งเทวาสถิต เสริมให้ผู้ที่ได้ครอบครองอยู่เหนือสุดของมนุษย์ทั้งปวง ทั้งที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือเปล่า แต่อีกอย่างที่ฉันเคยได้ยินมาเช่นกันร่างตัวแทนแห่งนาคาที่แอบซ่อนในกายหยาบของมนุษย์ แต่คนผู้นั้นคือใครกัน? มีจริงเหมือนที่คนเฒ่าโบราณลือกันจริงหรือ?...ฉันก็ได้แต่ฟังเพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหล่านี้แต่ก็ไม่ได้หลบหลู่แต่อย่างใด"นั่นสินะ ในโลกนี้ย่อมมีคนดีและไม่ดีปะปนกันไป เฮ้อ~~ แต่ฉันก็อยากให้โลกใบนี้มีแต่คนดีละนะ""บ่นอะไรของแกยัยณิน อะนี่น้ำที่แกฝากซื้อ""ขอบใจจ้าเพื่อนคนสวย...ไม่ได้บ่นอะไรหรอก อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคิดเฉย ๆ น่ะ""อ่านเรื่องอะไรอะ""อาศิรวิษ""เออชื่อเรื่องแปลกแต่น่าสนใจดี ขอยืมอ่านบ้างดิ""ได้...แต่แกต้องทะนุถนอมหนังสือฉันให้ดี ๆ ห้ามยับเยินเด็ดขาดไม่งั้นฉันจะตีมือ

    Huling Na-update : 2025-04-25
  • อาศิรวิษ   1-เรื่องจริงหรือความฝัน(1/4)

    “ที่นี่ที่ไหนกันไม่คุ้นเลย”“แล้วนั่นอะไร?”“จะไปไหนกันเหรอคะคุณยาย”“.....”ฉันมาอยู่สถานที่นี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ เป็นเหมือนปราสาทขอมสมัยโบราณ ทางเดินก็ค่อนข้างจะชัน ฉันเดินไปตามทางเรื่อย ๆ พร้อมกับผู้คนมากมาย ถามยายคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนไปท่านก็ไม่ตอบ ฉันเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกว่าเดินไม่ไหว ทางมันชันเกินไปเหมือนจะกลิ้ง แต่“จับเชือกไว้สิโยม”มีพระสงฆ์สองรูปยื่นเชือกมาให้ แล้วบอกให้ฉันจับไว้ ก็เลยทำตามเพราะกลัวว่าจะกลิ้งตกลงไป แล้วพระสงฆ์สองรูปก็ดึงพาฉันขึ้นไปจนสำเร็จ มองรอบ ๆ เป็นภูเขาสูงตระหง่าน และมียอดปราสาทอยู่บนนั้น“ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?”“.....”ฉันพนมมือแนบอกแล้วถามพระสงฆ์ทั้งสองรูปที่พาฉันขึ้นมา แต่ว่าท่านไม่ตอบและเดินหนีฉันไปเฉยเลย ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนงงอยู่คนเดียว ผู้คนก็เดินผ่านไปผ่านมา แต่เหมือนกับว่าไม่มีใครสนใจหรือตอบอะไรฉันเลย ฉันเดินไปถามก็เหมือนกับว่าไม่มีใครได้ยิน นี่มันคืออะไรกัน?“คุณป้าคะ ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?”“...” ไม่ตอบฉันอีกแล้ว ฉันจึงวิ่งไปหาอีกคนที่กำลังเดิน“นั่นมัน...คุณยายคนนั้นนี่นา” ฉันตกใจเมื่อเห็นคนยายที่มาคุยกับฉันและเนยหวาน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่

    Huling Na-update : 2025-04-25
  • อาศิรวิษ   1-เรื่องจริงหรือความฝัน 2/4

    “นะ นะ นั่นมันอะไร?”และฉันต้องผงะจนขายืนทรงตัวไม่อยู่ ล้มก้นกระแทกกับพื้นหิน ดวงตาเบิกโต กับภาพตรงหน้าคุณตาคนนั้นกลายเป็นงูที่มีรูปร่างใหญ่มาก ส่วนหัวและลำคอดูแปลกประหลาด จะว่างูก็ไม่ใช่ แต่เลื้อยเหมือนงู นั่นเรียกว่าอะไร? ฉันตกใจกลัวแทบหยุดหายใจ และรู้สึกว่าตอนนี้ฉันกำลังครองสติไม่อยู่ ท้ายที่สุดจนก็ล้มฟุบกับพื้นพร้อมความมืดในดวงตาเสียงเจื้อยแจ้วดังแว่วเข้ามาในหู การรับรู้ถ้อยคำของผู้คนที่พูดคุยกัน ทำให้ฉันรู้สึกตัว และลืมตาตื่นในถัดมา ฉันมองเพดานและรอบด้าน ทุกอย่างที่เห็นมันแปลกตาไปหมด ทั้งการตบแต่ง ข้าวของเครื่องใช้มันดูไม่เหมือนกับสิ่งที่ฉันเคยเจอมา และที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ก่อนหน้าที่ฉันพบเจอ“??” ฉันงงและสงสัย พลันคิดในใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉันอีก ทุกอย่างมันแปลกประหลาดไปเสียหมด รวมทั้งผู้คนที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้“เจ้านางน้อย” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น ฉันพยายามลุกนั่งและมองหาคนที่เธอคนนั้นเรียก“รู้สึกกระไรบ้างเพคะ” เธอยังคงถามและมองหน้าฉัน“ใครเหรอเจ้านางน้อย” ฉันงงเลยเลือกที่จะถามออกไป“พระนางอย่างไรเล่าเพคะ” เธอคนนั้นย้ำว่าเป็นฉัน นี่มันอะไรอีกล่ะเนี่ย“ฉันเหรอ?” ชี้นิ้วเข

    Huling Na-update : 2025-04-25
  • อาศิรวิษ   1-เรื่องจริงหรือความฝัน 3/4

    “เจ้านางน้อยพูดสำเนียงกระไรรึเพคะ?” ผู้หญิงที่ชื่อกาลัดถามขึ้น“สำเนียงไทยนี่แหละ อะไรของพวกเธอละเนี่ย” ฉันก็งงกับพวกนางทั้งที่ฉันก็พูดภาษาไทย ทำไมถึงบอกมันแปลก“สำเนียงไทยฟังดูพิลึกชอบกลเพคะ”“เออ ช่างเถอะน่าแค่ฟังออกไม่ใช่ไง?”“ไม่ใช่ไง? แปลว่ากระไรรึเพคะ?”“พอ! เลิกถามเลิกสงสัยเพราะฉันปวดหัวกับพวกเธอมาก”ฉันต้องรีบยกมือห้ามก่อนที่จะปวดหัวไปมากกว่านี้ นี่มันคือที่ไหนกันนะ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ทั้งที่ไม่รู้จักมาก่อน“นี่พวกเธอ”(“เพคะ”) ทั้งสองคนก็ตอบฉันพร้อมกัน“นี่มันที่ไหนกันทำไมดูแปลกประหลาด สถานที่ก็แปลก คนก็ยังจะแปลกอีก” ฉันนึกได้จึงถามตามที่สงสัย“นครมคธอย่างไรเพคะเจ้านางน้อยทรงลืมไปแล้วหรือ” กลีบบัวเป็นคนให้คำตอบแก่ฉัน“นครมคธ?”“เพคะ”ฉันงงไปกันใหญ่ นี่ฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วนครมคธมันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย ไม่เคยได้ยินชื่อแปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน นี่ต้องเป็นความฝันซ้อนฝันแน่ ๆ ฉันว่ามันต้องใช่ เพราะฉันจะมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง มันไม่ใช่ความจริงกับชีวิตของฉันสักอย่างเพี๊ยะ!(“เจ้านางน้อย!!!”)เพื่อพิสูจน์ว่าทุกอย่างนั้นเพียงแค่ฉันแค่ฝันไป จึงตบเข้าใบหน้าตัวเองเ

    Huling Na-update : 2025-04-25

Pinakabagong kabanata

  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 3/4

    “ตอนนี้ไม่มีผู้ใดแล้ว นับว่ามีแต่คนในครอบครัว พ่อจักไม่ยื้อถามให้มากความ...อัปสรา”“เพคะ”“ครั้นก่อนหน้าไยเจ้าจึงได้บอกว่าผณินทรเป็นผู้ขโมยบ่วงนาคบาศไป” เจ้าหลวงเอ่ยอย่างตรงประเด็น ฉันเห็นสีหน้าของอัปสราสลดลงทันตา ทุกคนจ้องมองไปยังเธออย่างเฝ้ารอการโต้ตอบ เธอดูประหม่ากำมือแน่น แขนสั่นเทา ฉันเห็นความกลัวในแววตาของเธอชัดเจน“เช้ามืดของวันนั้นลูกตื่นแต่เช้า เพราะนอนไม่หลับ ลูกเห็นเจ้าพี่ผณินทรออกมาจากวิหารอาคมเพคะ ต่อมาก็ได้ยินข่าวว่าบ่วงนาคบาศหายไป จึงไปกราบทูลให้เสด็จพ่อทรงทราบ หากไม่ใช่ท่านพี่จักเป็นผู้ใดได้เล่าเพคะ ในเมื่อไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปในวิหารอาคมนี้ได้”อัปสราเล่าเรื่องราว ทำเอาฉันถึงกับกำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ รอดูต่อไปว่าเธอจะใส่ร้ายฉันยังไงอีก จากที่เธอเล่ามามันย้อนแย้งกันมาก เพราะเป็นวันที่ฉันไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวัง เรื่องนี้มันชักจะไม่

  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 2/4

    “ข้าก็ไม่แน่ใจนักหรอกท่านผู้อาวุโสวิเชียรนาคราช เพียงแค่...” อัปสราพูดพลางชายตามาที่ฉันชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองหน้าท่านผู้อาวุโสวิเชียร“แค่กระไรอย่างนั้นหรือ”“สงสัยเจ้านางน้อยผณินทร ที่ไม่อยู่ในเขตตำหนักตั้งหลายวัน...ไปที่ใดมาอย่างนั้นหรือเจ้าคะท่านพี่” อัปสราพูดและมองมาที่ฉัน“ท่านพี่...ตอแหลฉิบหายเลยยัยตัวแสบ” ฉันพูดในใจ“ไปธุระมาสิ” ฉันตอบตรง ๆ ตามนิสัยที่เป็น(!?) แต่ดูจากสีหน้าแล้วเหมือนกับผู้คนในนี้จะงวยงงไปกันหมด นึกขึ้นได้ว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ฉันเคยอยู่ จึงดึงสติกลับมา“ข้าไป เอ่อ ไป ไป...ไปเที่ยวเล่นกับท่านพี่ตรีภพมา” ฉันตะกุกตะกักด้วยความกดดัน ไม่กล้าบอกความจริง เพราะเป็นสิ่งที่เจ้าหลวงสั่งห้าม สายตามองไปเห็นตรีภพกำลังเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ฉันจึงพลันนึกได้และแอบอ้าง เนื่องจากไม่สามารถบอกความจริงที่หายไปหลายวันได้“นางโป้ปดเพคะ!” อัปสรารีบแย้งเสียงแข็ง“ไม่เชื่อก็ถามท่านพี่ตรีภพดูสิ” ฉันท้าทายอัปสรา ก่อนจะส่งสายตามองไปยังตรีภพด้วยแววตาอ้อนวอน“เงียบก่อนเถิดอัปสรา ไถ่ถามจากตรีภพเสียก่อนว่าเป็นดั่งที่เจ้านางน้อยผณินทรว่าหรือไม่” เจ้าหลวงบอกกล่าว นั่นจึงทำให้อัปสราเงียบสงบลง“ว่า

  • อาศิรวิษ   7-ปัญหาที่ต้องรับมือ 1/4

    ((“เจ้านางน้อย!”))“มีอะไรทำไมหน้าตาตื่นกันเชียว กาลัด กลีบบัว”“พระองค์ไปไหนมาเพคะ ในวังเกิดเรี่องใหญ่แล้วเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”เพียงเดินเข้ามาในเขตตำหนักได้ไม่กี่ก้าว หลังจากที่ตรีภพมาส่งหน้าเขตตำหนัก เขาก็จากไปทันที กาลัดและกลีบบัวก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาประชิดตัวของฉันทันที ด้วยสีหน้าตระหนกมีความกังวล จนฉันตั้งเอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้“เจ้านางอัปสราน่ะสิเพคะ กล่าวหาว่าเจ้านางน้อยทรงขโมยบ่วงนาคบาศ และลอบหนีไปพบบุรุษคนรักบนเมืองมนุษย์” กลีบบัวพูดขึ้น“จะบ้าเหรอ! ข้าไม่ได้ขโมยไปนะ แล้วคนรักที่เมืองมนุษย์บ้าบออะไรกัน...ยัยนี่หาเรื่องตอนที่ฉันไม่อยู่” สิ่งที่ได้ยินทำฉันตะเบ็งเสียงดัง ก่อนจะสบถกับเบา ๆ กับตัวเองด้วยความคับแค้นใจ“พวกหม่

  • อาศิรวิษ   6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร4/4

    ผ่านไปสักระยะหนึ่งฉันและตรีภพเดินทางมาได้ไกลจากจุดเดิมมากโข ในใจของฉันพะวงเหลือเกินทำไมอาศิรวิษถึงยังไม่มา ทั้งที่ท่านอาจารย์บอกเองว่าเขาจะตามหาฉัน“ตรีภพเราควรจะรออาศิรวิษอยู่ตรงนี้ดีไหม เผื่อว่าเขากำลังตามหาฉันข้า หนีห่างไปแบบนี้อาจจะคลาดกันได้”“หากรอตะวันคงจะหมดแสงเสียก่อน ยิ่งจะทำให้กลับลำบาก อาศิรวิษเก่งกาจเยี่ยงนั้น คงไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่านี่ก็นานมากแล้วนะ เขายังไม่โผล่มาเลย”“เยี่ยงนั้นเราลงเดินบนพื้นดินดีหรือไม่ เพื่อชะลอการเดินให้อาศิรวิษตามได้ทัน”“อืม”“ทรงระวังนะพ่ะย่ะค่ะ”“ค่ะ”เมื่อตกลงกับตรีภพได้ก็ทำตามอย่างว่า ฉันเดินตามหลังของผู้ชายตัวสูง พลางหันมองรอบ ๆ เผื่อจะเจอ

  • อาศิรวิษ   6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร3/4

    ฉันเดินวนไปเวียนมาอยู่ในเขตแดนอาคมอยู่นาน แต่สายตาดันมองไกลเห็นบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหว ระยะทางที่ห่างไกลสายตาเห็นเพียงเลือนรางไม่ชัดเจน แต่รับรู้รูปร่างได้ว่าคือสิ่งใด หัวใจดวงน้อยของฉันเต้นระทึกด้วยความดีใจ รอยยิ้มของฉันมีความหวังว่าผู้นั้นจะเป็นอาศิรวิษที่คงตามหาฉันอยู่เป็นแน่ แต่...“ไม่ใช่อาศิรวิษ แล้วคือใครกัน?” ฉันมองเห็นรูปร่างสูงโปรงล่ำสัน แต่ดันไม่ใช่คนในความคิด“เขามาทางฉันแล้ว ทำยังไงดี...มาดีหรือมาร้ายกันนะ?”ฉันมองทุกการเคลื่อนไหวของคนที่มาใหม่อย่างพินิจ คิดวิเคราะห์พฤติการณ์ตามสิ่งที่เห็น เริ่มมีความกังวลขึ้นมามากกว่าเดิม เพราะฉันไม่รู้เลยว่าคนมาใหม่เป็นมิตรหรือศัตรู แต่จากที่ฉันมองดูเขาเหมือนไร้พิษภัย แต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้“เขาเป็นใครกันนะ? ... ดูไปดูมาทำไมรู้สึกคุ้นหน้าจัง” ฉันจ้องคนที่กำลังเข้ามาใกล้ ๆ จนเห็นใบหน้าชัดขึ้นเหมือนกับว่าฉันเคยเห็นใบหน้าแบบ

  • อาศิรวิษ   6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร2/4

    ฉันหนีเวนไตยมาเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายเพราะความกลัวว่าเขาจะตามมาทัน ผ่านไปนานจนฉันต้องหันหลังกลับไปมอง อาณาบริเวณโดยรอบที่ไม่คุ้นตา สถานที่อันไม่คุ้นชิน ทำให้ฉันเริ่มกังวลใจ“ที่ไหนอีกละเนี่ย ซวยจริง ๆ เลย...แล้วจะต้องกลับทางไหนล่ะ ฉันอยากจะร้องไห้ โอ๊ย!!!” ฉันมองโดยรอบแล้วบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสีย“ซวยหนักแล้วยัยณินเอ๊ย” ฉันไม่รู้จะหาทางกลับบ้านยังไง มองไปทางไหนก็ไม่คุ้นเคยเอาซะเลย“มโนมยิทธิ...ใช่แล้ว ต้องสื่อหาท่านอาจารย์”นึกได้ดังนั้นฉันจึงดิ่งลงสู่พื้นดิน แล้วอยู่ในฌานสมาธิด้วยความสงบ แล้วรวบรวมพลังจิตเพื่อสื่อถึงท่านอาจารย์ วิชาขั้นพื้นฐานที่ได้ฝึกฝนปฏิบัติมา จึงไม่ยากต่อการใช้วิชานี้ เพียงแต่บางครั้งสถานการฉุกเฉินทำให้ฉันคิดไม่ค่อยทัน ว่าต้องลำดับความสำคัญยังไง อันนี้ฉันยังต้องฝึกตัวเองให้มีสติมากกว่านี้ รับรู้ตัวเองดีว่ามันคือจุดบกพร่อง(“ท่านอาจารย์ช่วยศิษย์ด้วยเจ้าค่ะ...ช่วยศิษย์ด้วย ท่านอาจารย์”)ฉันเพ่งกระแสจิตด้วยคำพูดเพื่อสื่อขอความช่วยเหลือ ท่านอาจารย์เป็นคนที่ผุดเข้ามาในหัวของฉันตอนนี้ ท่านมีวิชาแก่กล้าน่าจะช่วยเหลือฉันได้มากที่สุด((“ข้ารับรู้แล้ว”))(“ศิษย์ไม่รู้อยู่

  • อาศิรวิษ   6-ผู้เป็นดั่งเจ้ากรรมนายเวร1/4

    “เจ้ากรรมนายเวรจริง ๆ” ฉันเอ่ยด้วยความเอือมระอา กับการที่พบเวนไตยด้วยความบังเอิญแบบนี้“เวรกรรมอะไรของเจ้านางน้อยที่ต้องมาเจอท่านอยู่ร่ำไป” อาศิรวิษพูดได้ตรงใจฉันมาก“ใช่เลยค่ะ น้องก็คิดแบบนั้นแหละ” ฉันกระซิบเขา พร้อมกับเงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้ด้วยความพอใจ ส่วนเขาไม่ตอบอะไรก้มมองด้วยสีหน้านิ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองทางเวนไตย ที่อยู่ในระยะห่างออกไปพอสมควร“สงสัยเราสองคนจักเป็นเนื้อคู่กันกระมังเจ้านางน้อยผณินทร” เวนไตยพูดออกมาด้วยสีหน้ายียวน ทำให้ฉันกรอกสายตามองบนทันทีด้วยความหมั่นไส้“ใครอยากเป็นเนื้อคู่ของคุณไม่ทราบ” ฉันที่ยืนหลบด้านหลัง โผล่หน้าออกมาแล้วตะเบ็งเสียงต่อต้าน“บางอย่างก็มิอาจหลีกเลี่ยงได้ อย่าเพิ่งตรัสเยี่ยงนั้นสิเจ้านางน้อยของกระหม่อม” เวนไตยพูดออกมาอย่างไม่อายปาก“แหวะ”“หลีกไปเสียเถิด กระหม่อมไม่อยากจะประมือกับท่าน” อาศิรวิษพูดหลบเลี่ยง เขายังคงใช้ร่างกายบดบังปกป้องฉัน“กลัวหรืออย่างไร”“หาใช่เกรงกลัวไม่ เพียงแต่ไม่อยากออกแรงสู้รบอย่างอันธพาล”“สามหาวไปเถิด เพราะถ้าเกิดว่าข้าได้ตบแต่งกับเจ้านางน้อย องครักษ์ต่ำต้อยอย่างเจ้าจะไม่มีวันได้เข้าใกล้นางอีกต่อไป”“ใครจะแต่งกับนายไม่

  • อาศิรวิษ   5-ภุชคะวิษธรนาคราช 4/4

    การฝึกฝนแสนหนักหน่วงสะสมมานานนับหลายเดือนทำให้ฉันเหนื่อยล้าและเปลืองแรงมหาศาลแทบทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันฉันฝึกวิชามาจนลึกล้ำถึงขั้นเปลี่ยนร่าง เหาะเหินเดินอากาศ และการใช้เวทย์ต่าง ๆ ตามที่ท่านอาจารย์สอนให้ ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างไม่คิดเชื่อเลยว่า คนธรรมดาแบบฉันสามารถฝึกวิชาโบราณได้มากถึงเพียงนี้ เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงเลย แม้กระทั่งความรู้สึกที่เริ่มเปลี่ยนไปกับใครบางคน“ทำได้ดีมากทีเดียวเจ้านางน้อย” ท่านอาจารย์เอ่ยเมื่อสิ้นสุดการฝึกในวันนี้“ไม่คิดว่าจะทำได้เหมือนกันเจ้าค่ะ”“สิ่งที่ติดตัวมา ต่อให้ลืมเลือนก็ย่อมรื้อฟื้นได้ไม่ยาก”“แต่หนูไม่เคยรู้วิชาพวกนี้ก่อนนะเจ้าคะ”“.....”“ท่านอาจารย์มองหน้าแบบนั้น รู้สึกแปลก ๆ เจ้าค่ะ มีอะไรเหรือเปล่าเจ้าคะ?”ระหว่างการพูดคุยกับท่านอาจารย์อยู่ในถ้ำ คำพูดบางประโยคทำให้ฉันแปลกใจ แถมสายตาที่ท่านอาจารย์มองมาที่ฉันยิ่งทำให้มีความรู้สึกแปลกประหลาด เหมือนกับว่าท่านอาจารย์รับรู้อะไรบางอย่างในตัวของฉัน หรือว่าฉันจะคิดมากไปเอง“ไม่มีกระไรหรอก วันนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เสด็จกลับตำหนักเถิดเจ้านางน้อย พรุ่งนี้ค่อยมาฝึกวิชาขั้นสูงสุด”“เจ้าค่ะ ศิษย์ของลา”แม้ท

  • อาศิรวิษ   5-ภุชคะวิษธรนาคราช 2-3/4

    “เจอกันจริง ๆ เสียทีนะ”“คะ?”คำพูดของท่านอาจารย์ทำให้ฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง อะไรคือคำว่าเจอกันจริง ๆ เสียที“ศิษย์ขอฝากบุตรสาวคนนี้เป็นศิษย์ของท่านด้วยเถิด นางเป็นหน่อเนื้อเชื้อไขที่ศิษย์ไว้ใจให้ปกครองมคธนครในภายภาคหน้า และเชื่อว่านางจะทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี”เสด็จพ่อพูดขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในหัวของฉันไม่หยุดหย่อน นี่ฉันต้องรับภาระหน้าที่อันหนักอึ้งจริงหรือ ปกครองชีวิตนับแสนนับล้านฉันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาจะทำมันได้อย่างไร“อย่าได้กังวลใจไป แม้จะไม่ใช่ตัวตนแต่จิตวิญญาณแท้จริงนั้นแสนลึกล้ำยิ่งนัก”“แต่ว่า...”“ปล่อยให้ทุกอย่างเดินตามเส้นทางที่ลิขิตเถิด การฝืนยิ่งจะทำให้เจ็บไม่รู้จบ”“เจ้าค่ะ”ท่านอาจารย์กล่าวออกมาอย่างกับอ่านความคิดของฉันได้ คำพูดของท่านทำให้ฉันปรายสายตามอง ในหัวตอนนี้มีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด แต่ก็ไม่อาจจะเปล่งออกมาเป็นวาจาถามไถ่ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในก้นบึ้งหัวใจ และก้มหัวยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้ฉันตั้งใจร่ำเรียนวิชาตามที่ท่านอาจารย์สอน มันช่างยากเย็นแสนเข็ญสำหรับฉันที่เป็นเพียงจิตวิญญาณธรรมดา วิชาเวทย์ที่ยากจะเข้าใจ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status