ฮ่องเต้น้อยกับองค์หญิงหลิงหลิงวิ่งไล่จับกันไปรอบๆ โต๊ะอาหาร เพียงเดี๋ยวเดียวฮ่องเต้น้อยก็วิ่งมาเกาะตักของหลี่ชิง "เสด็จป้าอั้มๆ..."
หลี่ชิงจึงคีบเนื้อหมูผัดซีอิ๊วชิ้นเล็กใส่ปากที่อ้ารอของฮ่องเต้น้อย...ฮ่องเต้น้อยเคี้ยวหนุบหนับจนแก้มตุ่ย แล้วต้องส่งเสียงร้องจ๊าก เพราะถูกองค์หญิงหลิงหลิงกระชากพระเกศา (ผม) ด้วยความอิจฉา
"ออกมา...ข้าจะให้เสด็จป้าป้อนบ้าง" องค์หญิงหลิงหลิงส่งเสียงดังๆ
ไท่ชินอ๋องยื่นหน้ามาใกล้เด็กทั้งสอง "มา...ลุงป้อนให้เอง"
"หวา/หวา" ทั้งฮ่องเต้น้อยและองค์หญิงหลิงหลิงร้องออกมาพร้อมกัน แล้วพากันหันหลังวิ่งหนี
หลานกงกงเข้าอุ้มฮ่องเต้น้อย ส่วนนางกำนัลนางหนึ่งก็อุ้มองค์หญิงหลิงหลิง
"พวกเจ้าพาองค์หญิงและฮ่องเต้ไปเสวย" ไท่ชินอ๋องสั่ง
"ขอรับ" หลานกงกงรับคำสั่งนอบน้อม
"เจ้าค่ะ" นางกำนัลประจำตัวองค์หญิงน้อมรับคำสั่ง
"ไม่กินข้าว" ฮ่องเต้น้อยตั้งท่าจะงอแง
"ไม่กินข้าว" องค์หญิงหลิงหลิงงอแงตาม
"งั้นมาให้ลุงป้อน!" ไท่ชินอ๋องเอ่ยเสียงเข้ม
"กินก็ได้เนอะ" ฮ่องเต้น้อยเปลี่ยนคำทันทีทันใด
"อืมๆ..." องค์หญิงหลิงหลิงพยักพเยิด
ไท่ชินอ๋องโบกมือให้หลานกงกงกับนางกำนัลพาเด็กทั้งสองออกไป
อ๋องสี่คีบกับให้อาเฟยอย่างเอาอกเอาใจ แต่อาเฟยคีบกับชิ้นนั้นคืนใส่ชามของอ๋องสี่
"เอาของท่านคืนไป"
"อาเฟย...เราดีกันน้า" อ๋องสี่งอนง้อขอร้อง
"ไม่"
ท่านหญิงหานมองอาเฟยทีมองอ๋องสี่ทีแล้วจึงหันมามองหลี่ชิง "อาชิง ...เกิดอะไรขึ้น?"
"อาเฟยจะหย่าภรรยาขอรับ" หลี่ชิงตอบน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าในใจหัวเราะขันท่านอ๋องสี่
ท่านหญิงหานมีสีหน้าอึ้งๆ...นางออกจะงุนงงกับสถานะของอาเฟยอย่างยิ่ง เพราะไม่กี่วันก่อน นางได้รับข่าวว่า อาเฟยเปลี่ยนสถานะจากพระชายา เป็นพระราชเขย โดยอ๋องสี่เปลี่ยนจากสามีไปเป็นภรรยา...มาวันนี้ อาเฟยจะหย่าภรรยา เช่นนั้นมิหมายความว่า อาเฟยจะหย่าอ๋องสี่หรอกหรือ?
"น่า...อาเฟย เราดีกันน้า" อ๋องสี่ตื๊อไม่เลิก
"ไม่" อาเฟยเสียงแข็ง
ท่านหญิงหานไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมว่า "อาเฟย...มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันกับท่านอ๋องสี่เถิดนะ"
"ไม่ได้หรอกท่านแม่" อาเฟยตอบท่านหญิงหานไป ก็กินอาหารคำโตไป จนแก้มกลมๆ ขยับหนุบหนับเป็นจังหวะ
"ทำไมหรือ? ท่านอ๋องสี่ทำอะไรให้เจ้าโกรธ?" ท่านหญิงหานถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นที่สุด เพราะนางรู้ว่าอาเฟยแพ้ไม้อ่อน
"ไม่ได้โกรธแล้วขอรับ แต่ข้ายังกินไม่อิ่ม รอข้ากินอิ่มก่อนค่อยคืนดีกับเขา ไม่เช่นนั้นเขาชอบมาวุ่นวายกับข้าเวลากิน" อาเฟยอธิบายไปพลางกินอาหารคำโตไปพลาง
"อ้อ..." ทุกคนร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ปังๆๆๆๆ...เสียงปะทัดดังสนั่นหวั่นไหว
เสียงกลองเสียงฉาบดังอึกทึก...คนเชิดสิงโตสี่ตัวหลากสีสันตามจังหวะกลองอย่างน่าดู เป็นการเฉลิมฉลองเปิดหอสุราอาเฟย ซึ่งเจ้าของจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพระชายาสองแผ่นดินอาเฟย
วันมงคลเปิดหอสุราอาเฟยนี้เชิญแขกผู้มีเกียรติมากันมากมาย...อาเฟยใส่ชุดสีเขียวหยก ยืนยิ้มแก้มกลม ต้อนรับแขกที่ล้วนแต่เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ คหบดีมีฐานะ และพ่อค้าผู้ร่ำรวย ที่พากันนำของขวัญล้ำค่ามาอวยพร ซึ่งอาเฟยรับของขวัญแล้วก็เชื้อเชิญให้พวกเขาเข้าไปกินเลี้ยงในหอสุรา
ส่วนชาวบ้านที่มามุงดูสิงโต ก็ได้รับแจกซาลาเปาไส้ต่างๆ และขนมหลากหลายชนิด มีสุราชั้นเยี่ยมและน้ำชาชั้นยอดให้ลองชิมเปล่าๆ ด้วย
เวลานี้เองที่หลี่ชิงเห็นประโยชน์ของเหล่าองครักษ์ที่อ๋องสี่และองค์ชายเทียนเป่าใช้ให้มาดูแลอาเฟย...ต้าโก่วกับต้าหนิวประกบตัวอาเฟยไว้อย่างเนียนๆ นอกนั้นก็กระจายกำลังอยู่รอบๆ โดยปะปนอยู่ในฝูงชนเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
อ๋องสี่มองกิริยาของอาเฟย แล้วอดกระซิบบอกพระชายาของตนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ว่า "วันนี้เจ้ายิ้มมากกว่าวันแต่งงานเสียอีก"
อาเฟยใช้ศอกถองอ๋องสี่ไปทีหนึ่ง เอ่ยเสียงเบาว่า "ท่านเงียบไปเลย อย่ามาก่อกวนเวลาข้ากำลังต้อนรับแขกเหรื่อในงานสำคัญจะได้หรือไม่?"
"ฮึ..." อ๋องสี่ทำเสียงไม่ชอบใจนัก
แต่อาเฟยไม่สนใจ...พอต้อนรับแขกเสร็จก็เดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับหลี่ชิงและไท่ชินอ๋อง โดยมีอ๋องสี่ติดตามมานั่งเคียงข้าง
"เชิญท่านอ๋องกับเกอเกอดื่มกินให้เต็มที่ขอรับ" อาเฟยเอ่ยพลางยกถ้วยน้ำชาของตนขึ้นคารวะแขกสูงศักดิ์ทั้งสอง
ไท่ชินอ๋องยกจอกสุราผลท้อขึ้นชู "ยินดีกับเจ้าด้วย อาเฟย ที่เปิดหอสุรานี้ ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง" แล้วดื่มหมดจอก
หลี่ชิงก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบพอเป็นพิธี
"เสียดายที่ท่านแม่มิยอมมา" อาเฟยเอ่ย หลังจากดื่มน้ำชาไปคำหนึ่ง
"ท่านน้าไม่ชอบความวุ่นวาย" หลี่ชิงเอ่ยเสียงเรียบๆ นั่นคือเหตุผลที่บอกต่ออาเฟย แต่มีเหตุผลที่ลึกลงไปกว่านั้นก็คือ...ท่านหญิงหานไม่อยากออกนอกวังหลวงมาปรากฏตัวท่ามกลางฝูงชน เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่อาจจะถูกคนที่เคยรู้จักนางพบเห็นเข้า ซึ่งแม้จะมีโอกาสเป็นไปได้ไม่มากนัก แต่ป้องกันเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่า
"เกอเกอ...ข้าเปิดหอสุราได้ครั้งนี้ เพราะความช่วยเหลือของท่านโดยแท้" อาเฟยเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ "ข้าจะทำกำไรให้ท่านมากๆ ท่านวางใจข้าเถอะ"
"อืมม์..." หลี่ชิงยิ้มน้อยๆ แล้วเตือนว่า "อย่าให้ผู้อื่นรู้ว่า ข้าร่วมลงทุนกับเจ้า"
"ขอรับ" อาเฟยรับคำหนักแน่น
"แต่ผลกำไรต้องแบ่งให้ข้าอย่างยุติธรรม" หลี่ชิงสำทับ "ให้ส่วนให้ ลงทุนส่วนลงทุน"
"ย่อมแน่นอน เกอเกอ" อาเฟยพยักหน้าอย่างจริงใจ
"เอ๋...ท่านพูดราวกับว่าท่านเคยพบท่านน้ามาก่อน" "ใช่แล้ว...เคยพบตอนข้ายังเด็ก" เอ่ยแล้ว...เขาก็อึ้ง! ตอนนั้น...เขายังเด็ก เขากับอาเฟยอาบน้ำอุ่นในอ่างใบใหญ่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน หลังอาบน้ำก็ทาตัวด้วยน้ำมันหอมบำรุงผิว ซ้ำยังวางแผนการกันว่า...จะสร้างห้องอาบน้ำที่สวยงามที่สุด ที่มีสระอาบน้ำขนาดใหญ่ เอาไว้เล่นน้ำด้วยกัน! แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว สระน้ำก็สร้างแล้ว ทว่าไม่มีอาเฟย อีกฝ่ายจะยังเหมือนเดิมอยู่หรือว่าเปลี่ยนไป? "ไม่รู้ว่า...ท่านน้าของเจ้าหน้าตายังเหมือนเดิมหรือไม่?" "คงไม่แล้วละ...ท่านแม่ของข้าบอกว่า ยิ่งนานวัน ท่านน้าก็ยิ่งงดงามขึ้น!" พอดี...คนรับใช้นำอาหารที่สั่งมาส่งให้ มีกับข้าวหลายอย่าง และข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น "โอ้โห...ที่นี่มีข้าวสวยด้วยหรือ?" หญิงสาวส่งเสียงอย่างยินดี "ข้าเดินทางมาหลายวัน พอถึงภาคเหนือของหนานหยาง หาข้าวสวยนุ่มๆ หอมๆ อย่างนี้กินยากมาก ส่วนใหญ่เป็นหมั่นโถวกับแป้งย่าง" "นี่เป็นอาหารที่อาเฟยชอบ" ชายหนุ่มบอก แล้วถามหญิงสาวตรงหน้าว่า "เจ้าชื่ออะไรหรือ?" "ข้าชื่อลั่วซือ เรียกซือซื
พระชายาอาเฟยให้เสี่ยวโก่วไปรับครอบครัวตระกูลเหอกลับมายังเมืองหลวง ที่เขาซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ไว้รอต้อนรับ เหอผิงนั้นสูงวัยมากแล้ว อาเฟยจึงไม่อยากให้เขาไปตรากตรำทำงานอีก แต่ให้เหอทงดูแลร้านขายข้าวสาร และเหอกวงดูแลร้านขายสมุนไพร ลั่วซวงก็พาสามีและลูกๆ มาต้องรับท่านทวด ท่านปู่ ท่านย่า และญาติผู้ใหญ่ผู้น้อยแล้วอาเฟยก็สั่งอาหารจากหอสุราหวงหลงมาเตรียมกินฉลองกันทั้งครอบครัว...แต่เพิ่งยกตะเกียบคีบไก่ผัดห้ารสขึ้นมา เสียงท่านอ๋องสี่ก็ดังขึ้นว่า "อาเฟยน้อยของข้า!" อาเฟยเด้งตัวลุกพรวดจากเก้าอี้ราวแมวน้อยถูกเหยียบหาง!!!เงารักวัยเยาว์ ที่เมืองหลวงแคว้นต้าเหลียว... บนหลังคาของเหลาน้ำชาอาเฟย...บุรุษหนุ่มหน้าตาคมคายเข้มแข็ง รูปร่างสูงใหญ่กำยำ นั่งดื่มสุราอย่างสบายอกสบายใจอยู่บนนั้น... ขณะกำลังปล่อยใจให้คิดถึงความหลังครั้งเก่า ก็ปรากฏเสียงเอะอะและเสียงกรีดร้องดังมาจากถนนเบื้องล่าง ชายหนุ่มมองลงไป...เห็นสาวน้อยนางหนึ่งอายุประมาณ 15-16 ปี ขี่อยู่บนหลังม้า และม้ากำลังพยศเพื่อสลัดนางให้ตกลงจากหลังของมันชายหนุ่มพุ่งทะยานลงจากหลังคารวดเร็
ทำเอาไท่ชินอ๋องเกือบสำลักน้ำชา "ขอบพระคุณเสด็จลุงที่แนะนำ" "เด็กเจ้าเล่ห์" ไท่ชินอ๋องว่า "หมดเรื่องแล้วใช่หรือไม่?" "ยังขอรับ" "อะไรอีก?" "ที่เสด็จลุงเคยพูดไว้" "หือ?" "ว่าถ้าหลานโตเป็นหนุ่มจะดมแก้มเสด็จป้าได้!" "แค็กๆๆๆ..." ไท่ชินอ๋องสำลักน้ำชา ก่อนจะตวาดลั่น "ไม่ได้" "เสด็จลุงไม่รักษาคำพูด" "อืมม์...ข้าเป็นทรราชไม่ใช่ธรรมราช" ไท่ชินอ๋องกล่าว "เจ้าอยากดมแก้ม ก็แต่งตั้งฮองเฮาสักคนสิ แล้วไปดมให้พอใจ" "หลานอยากแต่งตั้งฉีเอ๋อร์เป็นฮองเฮา แต่เกรงเสด็จป้าจะไม่ยินยอม" "ข้ามีข้อแม้ ถ้าฮ่องเต้รับได้ ข้าก็จะยกฉีเอ๋อร์ให้" หลี่ชิงที่ฟังอยู่ในห้อง เดินออกมากล่าวแล้วเดินมานั่งร่วมโต๊ะ "เสด็จป้ามีข้อแม้อะไรขอรับ?" ฮ่องเต้ถาม สีหน้ายินดี "หากฮ่องเต้แต่งฉีเอ๋อร์เป็นฮองเฮา ฮ่องเต้จะมีสัมพันธ์สวาทกันคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด ฮ่องเต้ให้สัญญาได้หรือไม่?" "ได้ขอรับ" ฮ่องเต้หนุ่มรับคำหนักแน่น และต่อท้ายว่า "หลานจะไม่รับนางสนมเลย" "ต้องรับตามความเหมาะสม แต่อย่าให้นางใดปรนนิบัติ" ไท่ชินอ๋องกล่าว "เพราะถ
เหล่าองครักษ์ของอาเฟยรีบเข้ามายืนบังอาเฟยเอาไว้ทันทีเตรียมปกป้อง "ท่านฆ่าพยานปิดปากหรือ?" พระชายาอาเฟยเอ่ยพลางสะบัดแขนเสื้อ "คนผู้นี้เป็นคนทรยศของซีเซี่ย ข้าแค่ฆ่าคนทรยศเท่านั้น มิใช่เรื่องใหญ่โตอันใด" ท่านทูตซีเซี่ยเอ่ยด้วยอาการฮึดฮัด "ท่านเถียงข้างๆ คูๆ" พระชายาอาเฟยเอ่ย "เอาละ..." ไท่ชินอ๋องเอ่ยขึ้น ขณะเดียวกันทหารก็เข้ามาเก็บศพคนตายออกไป "องค์หญิงหลิงหลิงปลอดภัยก็ดีแล้ว แต่ว่านางถูกขังร่วมห้องค้างอ้างแรมอยู่ด้วยกันกับบุรุษอื่น จึงไม่สมควรอภิเษกขึ้นเป็นพระสนมเอกกุ้ยเฟย แต่เพื่อสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างหนานหยางกับซีเซี่ย ฮ่องเต้จะโปรดรับองค์หญิงหลิงหลิงเป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) บุญธรรม เป็นองค์หญิงของหนานหยางแทน และเพื่อมิให้องค์หญิงเสื่อมเสียเกียรติยศ ฮ่องเต้จะประทานสมรสพระราชทานให้หวงหมิงกับองค์หญิงหลิงหลิงสมรสกัน...มีผู้ใดจะคัดค้านหรือไม่?" ไท่ชินอ๋องจงใจเพ่งมองท่านทูตซีเซี่ย ซึ่งรู้สึกผิดแผนจนมึนไปหมด...ตอนแรกที่รู้ข่าวว่า องค์หญิงหลิงหลิงหนีพิธีอภิเษก เขาก็ส่งคนไปจับตัวเพื่อเรียกค่าไถ่จากหนานหยาง แต่ก็ผิดพลาด แล้วอย่างนี้เขาจะกล้าเสนอหน้าค
หลิงหลิงหนีอภิเษกหลังจากเกิดเรื่องไท่ชินอ๋องโบยฮ่องเต้...หลี่ชิงก็เกลี้ยกล่อมไท่ชินอ๋องให้เปลี่ยนวิธีฝึกสอนฮ่องเต้เสียใหม่ โดยให้เหตุผลว่า "คนเรามีความสามารถไม่เท่าเทียมกัน...ในเมื่อฮ่องเต้ไม่ชอบฝึกวรยุทธ์ ท่านอ๋องก็สอนหลักการปกครองและพิชัยสงครามให้แก่ฮ่องเต้ ส่วนการฝึกวรยุทธ์ก็เอาแค่ให้ร่างกายแข็งแรงก็พอ แล้วหาองครักษ์ยอดฝีมือที่จงรักภักดีจำนวนหนึ่งตั้งเป็นหน่วยพิเศษคอยอารักขาฮ่องเต้โดยเฉพาะ...ดีหรือไม่ขอรับ?" "อืมม์" ไท่ชินอ๋องพยักหน้า "เอาตามที่เจ้าว่า"นับจากนั้น...ฮ่องเต้หนุ่มน้อยก็ต้องออกนั่งบัลลังก์ว่าราชการพร้อมไท่ชินอ๋องทุกเช้า ท่องตำราการปกครองและพิชัยสงครามทุกบ่าย ตกเย็นก็ฝึกปรือร่างกายพร้อมไท่ชินอ๋องและท่านอ๋องสี่... ทำให้พออายุสิบหก ฮ่องเต้ก็มีร่างกายสูงสง่าแข็งแรง... ..... ที่ท้องพระโรงของแคว้นหนานหยาง... คณะทูตจากซีเซี่ยมาเข้าเฝ้า เพื่อเร่งให้ทางหนานหยางอภิเษก (แต่งตั้ง) องค์หญิงหลิงหลิงเป็นฮองเฮา "อืมม์...องค์หญิงหลิงหลิงอายุสิบหกแล้วหรือ? นับเป็นอายุที่เหมาะสมจะแต่งงานจริงๆ" ไท่ชินอ๋องตอบคณะทูตจากซีเซี่ย แล้วหันไปกล่าวกับเจ้า
ฮ่องเต้ถูกโบย ท่านหญิงหานเลี้ยงดูเอาใจใส่หลี่ฉีเป็นอย่างดี จนเติบโตเป็นเด็กหญิงที่สวยงามมาก เพียบพร้อมด้วยกิริยามารยาทที่นุ่มนวลอ่อนโยน วาจาอ่อนหวาน ช่างฉอเลาะ จนฮ่องเต้โปรดปรานอย่างยิ่ง ฮ่องเต้นั้นถูกไท่ชินอ๋องสั่งให้ฝึกฝนวรยุทธ์อย่างหนัก แต่ฮ่องเต้ไม่โปรดวรยุทธ์ จึงแอบอู้อยู่บ่อยๆ จนผู้ฝึกสอนอ่อนใจ และเรื่องรู้ไปถึงไท่ชินอ๋อง ทำให้ไท่ชินอ๋องโมโหเป็นที่สุด จึงทำโทษฮ่องเต้ที่มีวัยเพียงสิบสามปี ให้วิ่งลากท่อนซุงไปรอบสนามฝึกซ้อมห้าสิบรอบ แต่ฮ่องเต้วิ่งไปได้เก้ารอบก็ประท้วงไม่ยอมวิ่งต่อ ไท่ชินอ๋องที่คุมการฝึกซ้อมด้วยตนเอง ก็สั่งให้นำหวายมาจะโบยฮ่องเต้ด้วยตนเอง หลานกงกงเห็นท่าไม่ดี จึงรีบไปบอกหลี่ชิง หลี่ชิงรีบวิ่งไปยังสนามฝึกในวังหลวง เห็นไท่ชินอ๋องกำลังโบยฮ่องเต้อยู่ ฮ่องเต้ก็ทรงดื้อรั้น ร้องตะโกนว่า "โบยเราให้ตายไปเลยๆๆๆ..." "หยุดมือ!" หลี่ชิงตะโกนลั่น แต่ไท่ชินอ๋องกำลังโกรธจัด ก็ไม่ยอมหยุด หลี่ชิงตัดสินใจกระโดดเข้าไปกอดร่างฮ่องเต้ไว้ จึงถูกปลายหวายเข้าที่กลางหลังไปหนึ่งที "หลิวยี่ ฉีจื่อ เอาตัวไท่หวางเฟยออกไป" ไท่ชินอ๋องตว