Share

บทที่ 0004

“แต่....” ยังไม่ทันรอให้ฉันพูดจบก่อน หลิวหลงถิงก็หรี่ตาลงมองมาที่ฉันในทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต ที่หากว่าถ้ามีข้อโต้แย้งก็เหมือนรนหาที่ตาย แค่ฉันเห็นอารมณ์บนใบหน้าของเขา ฉันก็กลัวจนรู้สึกหายใจไม่ออก แต่พอนึกได้ว่าชีวิตน้อย ๆ ของตัวเองยังอยู่ในมือเขา ต่อให้รู้สึกไม่มีความสุขแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ

ในเช้าวันต่อมา หลังจากที่ย่าทานอาหารเช้าเสร็จ ท่านก็แวะไปคุยกับเพื่อนบ้าน ส่วนฉันก็นอนอยู่บ้าน ร่างบางสวมชุดนอนเอนตัวอย่างเกียจคร้านอยู่บนโซฟา ในใจก็คิดไปว่าหลังจากนี้ฉันจะต้องทำอยู่กับหลิวหลงถิงอย่างไร และในขณะเดียวกันเสียงกระดิ่งประตูก็ดังขึ้นมา ขาเรียวเดินไปเปิดประตู แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้ที่มาหาฉันจะบังเอิญเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายไปได้

เขามาที่นี่ได้อย่างไรกัน!

ฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเห็นหวังหง เมื่อสมัยเรียนมัธยมปลายเขาเป็นเดือนของโรงเรียนเรา ฉันไม่รู้ว่ามีสาว ๆ กี่คนที่หลงใหลในท่าทางที่เขาเล่นบาสเก็ตบอลในสนามกีฬา และนั่นรวมไปถึงฉันด้วย ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้หลิวหลงถิงจะบอกฉันแล้วว่าจะมีคนมาหา แต่ฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะอ้วนกว่าตอนมัธยมนิดหน่อย แต่เขาก็ยังคงดูดีมาก ๆ

ถึงอย่างไรคนหน้าตาดีจะอ้วนจะผอมก็ยังดูดีเสมอ ส่วนคนหน้าตาขี้เหร่ผอมแค่ไหนก็ขี้เหร่

ฉันรีบเรียกหวังหงเข้ามานั่งในบ้าน ในใจก็แอบคิดใคร่ครวญไปว่านี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ก่อนหน้านี้ฉันไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเข้ามาก่อนเลย คราวนี้อาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสอะไรที่ทำให้มาเจออีกครั้งก็ได้ มันทำให้รู้สึกฟินจนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ

เมื่อได้พบกับผู้ชายที่เคยปลื้มก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก ๆ จนทำให้ลืมเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปจนหมด ฉันเอาใจใส่กับหวังหงเป็นพิเศษ พลางรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าแต่งตา พร้อมยกแก้วเทน้ำชาให้หวังหงด้วยใบหน้าที่เขินอาย

หลังจากที่หวังหงพูดตามมารยาทกับฉันอยู่สองสามประโยค เขาก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญ “ป๋ายจิ้ง อันที่จริง ที่ฉันมาหาเธอครั้งนี้เพราะอยากขอความช่วยเหลือจากเธอ”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่หลิวหลงถิงบอกกับฉันเมื่อคืนก่อน ในใจก็พอจะเข้าใจอะไรอยู่บ้าง ฉันจึงยิ้มและพูดว่า “พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกลอะไร เราเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น มีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดมาเลย”

“เป็นเรื่องของภรรยาฉันเอง”

ห๊า! ฉันตกตะลึงจนกรามแทบหลุดออกมา “นายมีภรรยาแล้วหรือ? เร็วอะไรขนาดนี้!”

“อืม แต่งงานกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ผ่านมาสองเดือนภรรยาฉันก็ตั้งท้องแล้ว”

ราวกับเอาขันน้ำเย็นหนึ่งขันราดบนกองไฟที่กำลังร้อน ความกระตือรือร้นของฉันหายไปในทันใด ฉันเปร่งเสียงร้องอ้อออกไป แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของเขา?

“เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ฉันซื้อบ้านมือสองในอำเภอนี้ให้แม่ยาย ห้องห้องนี้ราคาถูกมาก ใช้เงินเพียงสองแสนหยวนก็ได้ห้องมาอยู่ในมือแล้ว แต่ฉันไม่คาดคิดว่าพอแม่ยายย้ายเข้าไปอยู่ได้ไม่นาน สุขภาพร่างกายของท่านก็เริ่มไม่ค่อยแข็งแรง เมื่อไม่กี่วันมานี้ฉันกับภรรยากลับไปเยี่ยมและได้พักค้างที่บ้านของท่านหนึ่งคืน แต่คืนนั้นภรรยาบอกกับฉันว่าเธอเห็นเท้าเล็ก ๆ ของผู้หญิงสวมชุดแบบสมัยราชวงศ์ชิงบนผนังบ้าน หล่อนกำลังพาเด็กคนหนึ่งลอยผ่านกำแพงไปอย่างเร่งรีบ”

“ลอยไปเลยเหรอ?” ฉันรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย แล้วฉันก็ตอบแบบส่งเดชไป “ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย ภรรยาของนายดูผิดหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าฝันไปหรอกนะ?”

เมื่อเห็นว่าฉันดูท่าทางไม่เชื่อ หวังหงก็พูดขึ้นมาอย่างร้อนใจทันที “มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริง ๆ นะ เพราะตั้งแต่ภรรยาของฉันเห็นสิ่งนี้ เธอก็เริ่มพูดจาไร้สาระไม่รู้เรื่องตลอดทั้งวัน ไม่ยอมกินไม่ยอมดื่ม บางทีก็พูดว่าเธอเป็นภรรยาของขุนนางบ้าง และบางครั้งก็พูดว่าเธอเป็นขอทานบ้าง จะเป็นจะตายยังไงก็จะไม่ออกจากบ้านหลังนี้เด็ดขาด นี่ก็ใกล้จะฉลองตรุษจีนแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ปีนี้เธอจะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง!”

“ก็ฉลองที่บ้านแม่ยายของนายไง” ฉันพูดกับหวังหงอย่างไม่สนใจ ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ใช่ภรรยาของเขาอยู่ดี

“ทำแบบนั้นไม่ได้นะ ภรรยาของฉันใกล้จะคลอดแล้ว ฉันไม่สามารถอาศัยอยู่กับแม่ยายไปตลอดได้นะ! ป๋ายจิ้ง เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม เห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นตลอดสามปีของเราเถอะนะ ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถอะ!”

อยู่ห้องเดียวกันมาสามปี แต่ตลอดเวลาสามปีที่เรียนห้องเดียวกันมา เขาก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกับฉันสักประโยคเดียว พอเจอปัญหากลับมาขอร้องฉันเสียอย่างนั้น!

ฉันเห็นแก่ความเป็นเพื่อนเก่าก็เลยตอบตรงไปตรงมา โดยบอกไปว่าไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วย แต่ฉันเองก็ไม่มีวิธีอะไรเลย ฉันช่วยไม่ได้จริง ๆ จากนั้นก็บอกให้เขากลับบ้านไป

ใครจะไปรู้ว่าเมื่อฉันพูดไปแบบนี้ หวังหงก็โกรธขึ้นมาทันที “เป็นไปไม่ได้ ป๋ายจิ้งเธออย่ามาโกหกฉัน เธอต้องมีวิธีสิ เมื่อคืนนี้ฉันฝันเห็นงูสีขาวตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันบอกว่าถ้าฉันอยากให้ภรรยาตังเองกลับมาเป็นปกติ ฉันจะต้องมาหาเธอ และยังไปสอบถามเพื่อนร่วมชั้นหลาย ๆ คนก่อนที่จะมาพบเธอด้วย ป๋ายจิ้ง เราก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาหลายปีแล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเธอก็ไม่จะช่วยฉันเลยสินะ ช่างใจแคบเสียจริง ๆ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status