共有

บทที่ 5

作者: Gukak
last update 最終更新日: 2024-11-18 20:00:07

“ขออนุญาตครับ” ประตูถูกเปิดด้วยน้ำมือของผู้มาใหม่ อลันเป็นมือขวาของอีธาน ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัว

เมื่อครั้งก่อนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในลิฟต์ อีธานพยายามตั้งสติอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อจะกดลิฟต์ให้เคลื่อนขึ้นไปยังชั้นบนสุด ชั้นนั้นเป็นชั้นทำงานของเขา เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกออลันก้เป็นคนเข้ามาช่วยเหลือทั้งคู่ที่สภาพดูแทบไม่ได้ ทั้งฟีโรโมนของโอเมก้าคนนี้ก็รุนแรงจนแม้แต่อลันที่กินยาต้านแล้วยังเกิดการตื่นตัว

อลันเป็นคนจัดการพาทั้งท่านประธานและพนักงานฝ่ายขายคนนี้มาส่งที่คอนโดอีธาน สัญชาตญาณของอีธานได้บอกเจ้าของมันแล้วว่านี่คือคู่แห่งโชคชะตา แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคู่แห่งโชคชะตาคนนี้ อีธานสั่งให้อลันนำข้อมูลส่วนตัวที่มีในเอกสารสมัคงานของภูริมามอบให้แก่ตน ระหว่างนั้นภูริก็หลับไม่ได้สติอยู่ในห้องหับมิดชิด

เพราะเวลาที่อีธานเห็นภูริ...ได้กลิ่นของภูริ...เขาจะมีความต้องการเกิดขึ้นอีกทั้งที่ใช้ยาต้านชนิดรุนแรง

พอรู้ว่าภูริเป็นเบต้า เขาไม่อยากจะเชื่อในข้อมูลเพราะยังไงซะเบต้าก็ไม่มีทางเกิดการฮีตและปล่อยฟีโรโมนฟุ้งขนาดนี้ได้ มันดูตลกเกินไป...คู่แห่งโชคชะตาเป็นเบต้ากลายร่างมา พูดตรงๆ...อีธานไม่สามารถรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้

เขาต้องการต้องการข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นอีก จึงสั่งให้อลันไปตามหมอควบตำแหน่งนักวิจัยมากความสามารถประจำห้องแล็บของตัวเองมา เพื่อให้เขาตรวจร่างกายของภูริอีกครั้ง ที่สำคัญอีกอย่างคือเขาต้องการรู้ให้ได้แน่ๆ ว่าเขากับภูริเป็นคู่แห่งโชคชะตากันจริงด้วยการตรวจทางการแพทย์ ไม่ใช่แค่สัญชาตญาณ หลังจากนั้นเขาจะหาทางแก้ปัญหานี้ ยังไง...เขาก็ไม่ยอมมีคู่เป็นโอเมก้าแน่ๆ

มีนายแพทย์เข้ามาพร้อมกับอลันทั้งหมดสามคน สองคนตรงไปยังร่างของภูริเพื่อเชิญให้ไปตรวจร่างกาย พนักงานขายคนนั้นหันมามองอีธานเล็กน้อย...ไม่เข้าใจไงว่าทำไมจู่ๆ ถึงโดนลากไปกับหมอ แต่อีธานไม่ได้ให้ความสนใจ เขาเงยหน้ามองแพทย์ประจำที่เข้ามาหา

ทุกอย่างนี้ถูกเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว และการที่อีธานโพล่ไปหาภูริที่แผนกนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...เขาต้องการไปตามภูริ

เมื่อการตรวจทั้งหมดทั้งมวลในช่วงเช้านี้ผ่านไป พวกเขาก็กลับมารวมตัวกันที่ห้องของประธานอีกครั้ง ที่นี่ทุกอย่างจะเป็นความลับ อีธานไม่อยากให้คนนอกรู้ว่าเขามีคู่แท้เป็นโอเมก้าอย่างนายภูริ

ผลการตรวจอยู่ในมือหัวหน้าแพทย์ ด้วยความที่เป็นบริษัทวิจัยและผลิตยาต้านฟีโรโมนหรืออาการฮีต ทำให้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ค่อนข้างจะพร้อม สำหรับอีธานเขาได้รับคำตอบชัดเจนจากแพทย์ประจำแล้วเรียบร้อย เป็นคำตอบที่ตอกย้ำสัญชาตญาณของเขาหนักข้อขึ้นไปอีก ตอนนี้มีแค่ภูริเท่านั้นที่ดูจะงงๆ มึนๆ กับเหตุการณ์ตรงหน้านี้

“ผลตรวจออกมาว่าคุณเป็นโอเมก้านะครับ นี่ครับผลรวจ” เหมือนตาถลนจะออกนอกเบ้าได้เมื่อหมอส่งกระดาษขาวๆ หน้าตาโง่ๆ เหมือนตัวเองมาให้ อาการของภูริน่ะมันส่อ ไม่ต้องตรวจแม่งก็ใช่อะ แต่การที่ได้ใบแพทย์มายืนยันอย่างนี้นั้น...มันก็ยิ่งเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ

“ส่วนที่ในเอกสารระบุเอาไว้ว่าเป็นเพศเบต้านั้นเป็นข้อมูลจริงครับ ผมได้ให้คนตรวจสอบย้อนหลังแล้ว...เขาไม่ได้เป็นโอเมก้ามาตั้งแต่กำเนิด แต่ถ้าถามว่ามันเป็นไปได้ยังไง...อันนี้พวกผมก็ตอบไม่ได้ อาจจะเพราะสารเคมีบางตัวเข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือรบกวนพันธุกรรมจนเขากลายเป็นอย่างนี้” พูดได้เต็มปากเลยสินะว่าเขาน่ะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ กลายจากเบต้าเป็นโอเมก้าตึงโป๊ะ!

ใช่เวลาเล่นมุกไหมไอ้ภู...ภูริถอนหายใจเบาๆ กับตัวเอง หลายครั้งแล้วที่เขาพยายามทำให้ตัวเองไม่เครียด พยายามจะคิดอะไรบ้าๆ บอๆ เพื่อผ่อนคลายตัวเอง ก็ถ้าเครียดไมเกรนรับประทานขึ้นมากินยาก็ไม่หายนะ ทรมานมาก...โคตรของโคตรจะทรมานเลยให้ตาย

“อืม” อีธานพยักหน้ารับง่ายๆ ภูริสังเกตมาพักหนึ่งแล้วว่า...เมื่อลูกน้องเข้ามาในห้อง ไม่ว่าลูกน้องจะพูดจะรายงานอะไร อีธานขานรับแค่คำสองคำ สั่งการแล้วก็เงียบ ไม่เห็นเหมือนตอนบ่นเขาเป็นตาลุงแก่ๆ หน้าปากซอยเลย

หรือเพราะไม่ชอบเขา...ก็เลยบ่น

คงงั้นล่ะมั้ง

“เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็ต้องดำเนินการอย่างที่ท่านต้องการสินะครับ” คนชื่ออลันเปรยขึ้น ภูริยังไล่อ่านตัวหนังสืออยู่ ในนี้มีแต่พวกอัลฟ่า...กดดันจนไม่อยากเงยหน้ามองใครเลยล่ะ

“ผมต้องการให้ไวที่สุด” อีธานมองภูริจากโต๊ะทำงาน

“ครับ คุณภูริ...เดี๋ยวทางเราจะสร้างยาแก้คู่แท้ พวกคุณสองคนจะได้ไม่ฮีตใส่กันอย่างที่เป็นอยู่นะครับ” อลันหันมาบอก

“ไม่มียาแก้โอเมก้าเหรอครับ” ภูกริถามกลับซื่อๆ เขาไม่ได้เป็นโอเมก้ามาก่อนนี่...ก็น่าจะคิดค้นยาที่ทำให้เขากลายเป็นเบต้าเหมือนเดิมได้

“คงไม่ได้ ไม่งั้นคงมีคนทำกันไปแล้ว” เสียงของประธานบอกแบบนั้น ภูริก็ถอดถอนหายใจ…ทีความต้องการของตัวเองนี่สั่งไวเลยนะ ทีความต้องการของเขาบอกไม่ได้ อะไรว้า…โลกแม่งไม่ยุติธรรมเลยเอาจริงๆ

อลันและพวกแพทย์ขอตัวไปทำงานของตัวเองก่อน ภูริจากนั่งอ่านเอกสารก็ยืนขึ้น พวกนั้นออกไปหมดแล้วเขาจะต้องอยู่ต่อทำไม เขาก็มีงานของเขานะเว้ย ขืนไม่ไปทำงานหัวหน้าแม่งมากินหัวเขาแน่เลยอะ ขนาดเมื่อเช้ายังว่าเขายับเยินไม่เกรงใจรอยยับของกางเกงเขาเลย เฮ้อ...แค่คิดว่ากลับลงไปก็ต้องโดนหัวหน้าด่าอีกก็ท้อแล้ว

เกิดมาเพื่อให้คนอื่นเขาด่าโดนแท้ทรูนะกรูเนี่ย...

“ระหว่างนี้ผมจะไปรับไปส่งคุณ หรือถ้าให้ดี...คุณก็ไปอยู่กับผมจนกว่าจะรักษาอาการคู่แท้นี้หาย” แต่ภูริยังไม่ทันได้ลุกเดินไปไหน อีธานกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน

“ไม่เอาได้ไหมครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย...” เขาไม่ใช่คนป่วยนะเว้ย แล้วไอ้อาการคู่แท้นี่ก็ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรเลย ถ้าไม่อยากให้ฮีตใส่กันก็อย่ามาอยู่ใกล้กัน ของง่ายๆ แค่นี้ครูที่โรงเรียนไม่ได้สอนไว้หรืออย่างไร

“ไม่ได้” เผด็จการ...ฮิตเลอร์กลับชาติมาเกิดไงครับ

“ครับ” ก็ตามนั้น ขัดไม่ได้ก็ลอยคอตามน้ำไปเรื่อยๆ นั่นแหละ หมดเรื่องแล้ว...ได้เวลากลับไปทำงาน

“แล้วคุณลงไปทำอะไรที่แล็บ หน้าที่ของคุณไม่เกี่ยวอะไรกับห้องแล็บเลยไม่ใช่เหรอ” ก็ยังไม่ได้ไปอยู่ดี ตอนนั่งรอคนอื่นอยู่ตั้งนานสองนานไม่ถาม ตอนนี้เขาจะกลับไปทำงานเสือกยิงคำถามบ่อยจังวู้

“หัวหน้าให้ลงไปเอาเอกสารน่ะครับ” เพราะหัวหน้าสั่ง…คำสั่งก็คือคำสั่ง ต้องทำตามอย่าแย้ง อย่าขัดใจ เหมือนที่ท่านประธานสั่งจะไปรับไปส่งเขานี่ไง นี่ก็เรียกคำสั่งนะรู้ไว้

“เอกสารอะไร?”

“ไม่ทราบครับ”

“เขาให้ลงไปเอาอะไรก็ไม่รู้นี่นะ”

“ครับ ก็แค่ต้องไปเอา ไม่ไปเอาเขาก็ด่าสิครับ”

“โง่” อ่าว...กูผิดอีกละ

คราวนี้ภูริไม่กล้าจะลุกหรือเดินไปไหน เขาอยู่นิ่งๆ เผื่อว่าจะเกิดอยากรู้อยากถามอะไรขึ้นมาอีก มันจะได้ไม่เป็นการเสียมารยาทให้ทำคุณประธานผู้หล่อเหลาดั่งเทพบุตรสุดโฉดมาด่าเอาได้

แต่จะว่าก็ว่าเถอะ...เขาเสียมารยาทหรือไม่คุณประธานก็ด่าเขาอยู่ดี ขนาดถามว่าลงไปแล็บทำไมแล้วเขาตอบได้ไม่ทั้งหมดยังว่าเขาโง่เลย การเชื่อฟังเจ้านายเป็นเรื่องโง่ได้ หรือว่าการเป็นโอเมก้าทำให้เขาด่าเราจังเลยน้า...ภูริคิดอย่างไม่แน่ใจนัก

การนั่งมองหน้าประธานบริษัทตัวเองนี่มันเกร็งมากจริงๆ เห็นแหละว่าอีธานไม่ได้มองมาที่ตนเลยแม้แต่น้อย เอ้า...ก็ถ้าอีกฝ่ายมองมาภูริจะกล้ามองหน้าอัลฟ่าขนดานี้หรือไง ต้องอาศัยตอนเขาก้มหน้าก้มตาทำอะไรสักอย่างกับคอมพ์อยู่นี่แหละมอง สำรวจใบหน้าหล่อๆ นั่นไปเรื่อยเปื่อย หวังอีกอย่างคือ...เมื่อไหร่จะปล่อบข้าเจ้าไปน้า ข้าเจ้าอยากจะกลับไปทำงานแล้วน้า เดี๋ยวหัวหน้าจะด่าอีกน้า

“มองผมนี่มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณภูริ” ฉิบ! ภูริหันซ้ายหันขวา ท่าทีลุกลี้ทุกลนดูตลกมาก อีธานไม่ได้มองภูริตรงๆ แต่...ในคอมพ์ของเขาเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดในห้องทำงานนี้ ว่าง่ายๆ ให้เข้าใจแม้จะฉลาดน้อยก็คือ...อีธานมองภูริผ่านกล้องวงจรปิดนั่นเอง

ทำให้มันยากเพื่อ?

ก็อยากจะเห็นปฏิกิริยาของโอเมก้าตนนี้ก็เท่านั้นแหละ มันนั่งนิ่ง จ้องมาแต่เขา หลงใหลรูปลักษณ์ของเขามากล่ะสิ อีธานไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น เขาเป็นที่จับตามองของทุกคนมาเสมอ ดังนั้นจะมีโอเมก้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แท้มองอีกคนมันจะไปแปลกใหม่อะไร ใครๆ ก็ต้องการเขา รวมถึงเจ้าภูรินี่ด้วย

“ผมไม่กล้ามีปัญหาหรอกครับ” ว่าจบก็ถอนหายใจ ภูริคิดว่าอีธานไม่เห็นก็เลยไม่เก็บอาการ

“ไม่กล้า แต่ถอนหายใจขนาดนั้น...คุณมีไรก็พูดมาได้นะ ไม่ต้องมาอ้ำๆ อึ้งๆ แบบนั้นหรอก” น้ำเสียงถึงราบเรียบแต่ดูเกรี้ยวราด ภูริไม่ได้สนเลย กลับไปสนว่าอีธานรู้ได้ไง หรืออีธานมาตาที่สามที่สี่กันนะ ก็เล่นนั่งมองแต่คอมพ์แล้วรู้ปฏิกิริยาเขาอะ บ้าไปแล้ว...ห้องนี้แม่งมีพลังงานบางอย่างแน่นอน!

“ถอนหายใจผิดเหรอครับ” อะ อยากให้ถาม อยากให้มีปํญหาก็ถามก็ได้ คราวนี้อีธานเงยหน้ามามอง สายตาดุดันคู่นั้นจ้องมายังเขาจนเขานึกว่าอีกฝ่ายจะฆ่าเขาตาย

แอบเวอร์หน่อยไม่มีใครว่าใช่ไหม?

“ไม่ผิด แต่มันไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ผมถาม คุณไม่พอใจก็แค่บอกว่าไม่พอใจ ไม่ใช่บอกว่าไม่เป็นไรแต่ถอนหายใจแบบนั้น” มารยาทก็มาอีกแล้ว มาหลายรอบแล้ว...เราเปลี่ยนเรื่องไหม

“ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ภูริเลิกต่อล้อต่อเถียง ทำอะไรก็ผิด งั้นปล่อยผมไป...ปล่อยผมไปตามทางของผมเถอะ อย่ารั้งผมเอาไว้ให้ทุกข์ทรมานอย่างนี้เลย

“ไม่” อ่าว! เข้าใจคำว่าเอ๋อแดกไหม ไม่เข้าใจก็เข้าใจซะนะ เพราะตอนนี้ภูริอยู่ในอาการเอ๋อรับประทานขั้นสุด!

“แต่ว่า...”

“คุณเอาแต่​ฮีตแบบนั้นจะไปทำงานได้ยังไง จะไปปั่นป่วนคนที่เขาตั้งใจทำงานกันเหรอคุณ ตามกฎของบริษัท ถ้าโอเมก้ามีอาการฮีตที่ไม่สามารถควบคุมได้ต้องหยุดงานจนกว่าจะหายฮีต คุณไม่ได้อ่านเหรอ” ไม่ได้อ่าน ไม่ใช่โอเมก้าก็เลยไม่รู้ว่าจะอ่านไปทำไม อ่านไปแม่งไม่มีประโยชน์อะนะ แต่คิดว่าเดี๋ยวต้องไปอ่านล่ะ

เออ...แปลกดีมนุษย์เรา มีเพศที่สองก็แปลกแล้ว ยังมาโดนเลื่อนขั้นจากเบต้าเป็นโอเมก้าได้อีก โห...ภูริยากจะลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือดังๆ ให้กับโชคขะตาอันน่าขำของตัวเองเหลือเกิน ติดที่ถ้าทำไปแล้วเขาจะเหมือนคนบ้าอะ ก็เลย...ปรบมือแค่ในใจ

“ไม่ได้อ่านครับ”

“ทำไมไม่อ่าน! มันเป็นกฎ ทุกคนต้องอ่านแล้วปฏิบัติตาม” อีธานเผลอขึ้นเสียงดุใส่

“นั่นมันกฎของโอเมก้าหนิ”

“ก็คุณเป็นโอเมก้า!”

“ผมเพิ่งเป็นโอเมก้าได้ไม่ถึงเจ็ดสิบสองชั่วโมงเลยครับ” ภูริตอบกลับแทบจะทันที ไม่ได้ต้องการจะเถียงนะ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองเองล้วนๆ

“...” และอีธานก็นึกขึ้นได้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ภูริเพิ่งจะเป็นโอเมก้า เอาตรงๆ ว่าตอนนี้แค่จะปรับตัวกับอาการฮีตของตัวเองหรือควบคุมฟีโรโมนตัวเองให้ได้ก็ยุ่งยากสำหรับภูริแล้ว เขาเป็นเบต้ามาทั้งชีวิต จู่ๆ มาเปลี่ยนไปจนแทบจำโครงร่างเดิมไม่ได้อย่างนี้คงหนักหนาสำหรับภูริอยู่

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง อีธานมองหน้าภูริ และภูริก็มองมามองกลับไม่โกงเช่นกัน เขาไม่ได้หาเรื่องนะ แค่อยากจะรู้ว่าเออ ท่านประธานจะเอายังไงต่อไหนตอบ อะไรเถือกเนี่ย แต่ดูหมือนอีธานจะคิดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าราบเรียบของเขา

อีธานหงุดหงิดกับความเอ๋อของลูกน้องของตนเอง จะเรียกลูกน้องก็ไม่เต็มปากเท่าไหร่ในตอนนี้ เล่นเป็นมากกว่านั้นสำหรับเขาเสียด้วย เขาอยากจะให้ภูริอยู่ในนี้ด้วยกัน สมองซีกหนึ่งบอกกับเขาว่าไม่จำเป็น เขาไม่ควรหายใจร่วมกับโอเมก้าในห้องทำงานอันหรูหราของเขา แต่อีกส่วนหนึ่งมันเอาแต่ร่ำร้องว่าต้องอยู่ ยังไงต้องเห็นภูรินั่งเล่นอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน

คำถามคือ...เพื่ออะไร?

อีธานตอบไม่ได้ แต่การไล่ให้กลับไปทำงานนั้นมีเหตุผลมากมาย ทั้งภูริเป็นโอเมก้า การอยู่ร่วมกับโอเมก้าที่ควบคุมการฮีตและฟีโรโมนตัวเองไม่ได้นั้นอันตรายสำหรับอัลฟ่าอย่างเขา ทั้งโอเมก้ายังต่ำชั้นกว่ามาก เขาไม่ร่วมพื้นที่เดียวกับคนต่ำชั้นกว่าถ้ามันไม่จำเป็น การเอาภูริไว้ในนี้ก็ไม่ได้จำเป็น แถมภูริก็ยังเป็นพนักงาน หนึ่งในหลายพันคนที่เขาจ่ายค่าจ้าง เอามานั่งเล่นสบายๆ อยู่ในนี้มันจะคุ้มกับค่าจ้างและสวัสดิการไหม คำตอบคือ...ไม่!

แล้วไง...เหตุผลอะไรมันจะเอาชนะอารมณ์ได้ล่ะ อืม น่าตลก อีกส่วนที่คิดอยากให้ภูริอยู่ด้วยนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรเลย แค่อยากให้อยู่ แค่อยากเห็นอีกฝ่ายนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ อำนรับความไร้เหตุผลของตัวเองไม่ได้

แต่ก็ปฏิเสธมันไม่ได้!

“งั้นผมจะเอากฎของบริษัทในส่วนของโอเมก้ามาให้ คุณก็อ่านมันซะ”

“ไปอ่านที่โต๊ะตัวเองได้ปะครับ”

“ไม่ คุณต้องนั่งอ่านมันที่นี่ อยู่ที่นี่ห้ามไปไหน ผมไม่อยากได้ยินรายงานว่าคุณโดนอัลฟ่าในแผนกหน้ามืดลากคุณไปข่มขืนแถวบันไดหนีไฟหรอกนะ มันวุ่นวาย อยู่เฉยๆ เช่อฟังผมเหมือนที่คุณเชื่อฟังหัวหน้าคุณนั่นแหละ” อีธานพูดพลางเหลือบสายตามองภูริในหน้าจอคอม แทนที่จะมองหน้าตรงๆ ภูริกะพริบตาปริบๆ โอเค...ทำตาม แค่ทำตามก็จบ

บ้าอำนาจกันไปหมดเลยไม่ว่าจะอัลฟ่าหน้าไหนก็ตาม

“ครับ” ทิ้งร่างลงไป เบาะนุ่มมาก ไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บ...จะว่าไรนะ จะว่าไม่เจ็บตูดเหรอ ตลก เจ็บสิฟร้ะ เพิ่งโดนแรงกระแทกมาเมื่อไม่นานนี้ ยังไงก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว ดังนั้น ค่อยๆ วางตูดลงไป อืม นั่นแหละ...แผ่วเบาอย่างน้าน ดีมากภูริ

เบาะมันนิ่มอะเนอะ นั่งเฉยๆ ไม่ได้หรอกต้องเอนกายพิงไปทั้งตัว โอ้โห...นุ่มกว่าเตียงที่บ้านแบบเทียบเคียงอะไรกันไม่ได้เลยจริงๆ แอร์ก็เย็น แต่เรื่องแอร์เย็นนี่ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เขาทำงานในออฟฟิตเนอะ ออฟฟิตอะ ต้องมีแอร์อยู่แล้ว มีออฟฟิตไหนใช้พัดลมไหมครับ มีบอกนะ...ภูริจะไม่ไปกร้ำกรายเด็ดขาด

นั่งไปได้สักพัก อลันก้เปิดประตูเข้ามาอีกพร้อมเอกสารจำนวนหนึ่ง และของว่างกับน้ำ ภูริแอบทึ่งเล็กน้อยที่อลันสามารถถือของเหล่านั้นได้มั่นคงมาก ไม่ไหวเอนคล้ายจะตกหล่นเลย ภูริเห็นภาพตัวเองเอาถาดใส่ของว่างกับเครื่องดื่มเทินไว้บนหัว ในมือถือแฟ้มเอกสารต่างๆ สองแขนสะพายกระเป๋า ข้างหนึ่งเป็นแล็บทอป อีกข้างหนึ่งเป็นกระเอกสารอีกชุดใหญ่ๆ

“คิก...” แล้วเขาก็ขำตัวเอง มันตลกมากๆ ถ้าเขาเป็นเลขาอีธาน สภาพของเขาต้องแบบนั้นแน่ๆ เลยอะ หรือว่าเขาควรจะไปเรียนเอาถาดน้ำเทินหัวก่อนดี

“หัวเราะอะไรไม่ทราบ” อีธานเห็นทุกกิริยา ภูริมองอลันแล้วขำ อลันก็ใช่ว่าพอใจ แต่นี่เป็นคู่แท้ของประธาน จะให้ตวาดว่าก็คงไม่ได้

“ถาดน้ำเทินหะ...หัว” ก็ว่าจะตอบไปเพลินๆ เหมือนเวลาปกติที่ชอบหลุดปากพูดไรเพ้อเจ้อไปเรื่อย แต่ดันชะงักเพราะแววตาอลัน เลขาคนนี้คิดว่าภูริจินตนาการให้ตนเองเอาถาดของว่างและน้ำดื่มเทินหัว คงน่าขันสำหรับพวกชนชั้นล่างที่อิจฉาเหล่าอัลฟ่าล่ะมั้ง

สายตาทิ่มแทงพุ่งตรงมายังร่างโปร่งของภูริแบบไร้ซึ่งความปรานีอย่างสิ้นเชิง เอิ่ม...แรงกดดันของอัลฟ่าสองคนมันเลวร้ายนะ จากตอนแรกขำๆ ตัวเองอยู่ ตอนนี้หัวเราะไม่ออก ยิ้มยังไม่ออกเลย

“ผมคิดว่าถ้าผมเอานั้นเทินหัวคงตลกดีน่ะครับ” ภูริต่อคำอีกเล็กน้อย ขยายความออกมาหน่อย

“ไม่ใช่ว่าคุณหัวเราะเยาะลูกน้องผม?”

“ผมไม่กล้าหรอก คุณอลันหล่อขนาดนี้ ต่อให้เอาถาดน้ำนั่นเทินหัวแบบที่ผมคิด คุณอลันก็ยังดูดีอยู่ดีนั่นแหละครับ” ภูริตอบไปตามความจริง แววตาก็สื่ออย่างนั้น

ภูริไม่เห้นว่าอีธานมีสายตาดุดันขนาดไหน เพราะเจ้าตัวเองแต่มองหน้าของอลันที่ยังคงราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ สงสัย ที่ทำงานร่วมกันได้ดีก็เพราะเป็ฯคนเงียบๆ เหมือนกันแบบนี้ล่ะสินะ

“เอาของวางแล้วออกไป” อีธานสั่งอลัน

“ครับ” อลันทำตาม วางของทุกอย่างลงตรงหน้าของภูริแล้วเดินออกไป ภูริยังมองตามอยู่ คิดด้วยว่าแผ่นหลังนั่นก็ดูดีนะ ถ้าไม่มีเสื้อผ้า หมัดกล้ามของอลันกับท่านประธาน คนไหนจะสวยงามกว่ากัน? อันนี้อยากรู้จัง จับอลันถอดเสื้อเลยดีไหม

“อยากได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ เสียใจด้วยนะ คุณเป็นของผมอยู่ตอนนี้ เพราะงั้นผมไม่ยอมให้คุณไปเอากับอลันหรอก” เสียงนั้นใกล้มาก แล้วพอหันไปตามเสียงก็เจอร่างสูงใหญ่ของอีธาน

“ทำไมผมต้อเอากับอลัน” คำถามนี้ซื่อหรือโง่ อีธานคิดว่าโง่

“ก็เพราะโอมเก้าอย่างนายมันไม่เคยพอไงล่ะ พอฮีตก็อยาก...อยากได้ไปหมด ไม่ว่าจะมีคู่ของตนเองอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม” ดวงตาของอีธานที่มองมายังภูริดูน่ากลัวกว่าทุกครั้ง แล้วคิดว่าภูริกลัวไหม...เอ้า ต้องกลัวดิ ก็บอกอยูน่ากลัว แต่ภูริหนีไปไหนไม่ได้ แค่นั่งนิ่งที่เดิม

“โอเมก้าเป็นสัตว์ที่สะกดคำว่าพอไม่เป็น!” ขนแขนภูริลุกซู่ อีธานแค่พูดเสียงเนิบนาบปกติแท้ๆ แต่ภูริกลัว...กลัวทั้งที่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร

.

.

.

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทส่งท้าย

    บริษัทยายักษ์ใหญ่ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์เรื่องการบริหารจัดการกับเหล่าผู้คนที่แตกต่างด้านเพศสภาพ อีธานถูกยกย่องให้เป็นผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงที่มีทัศนะคติดี มองการไกลและให้ความเท่าเทียมกับอัลฟ่า เบต้า หรือแม้กระทั่งชนชั้นที่ต่ำสุดอย่างโอเมก้า ชื่อของบริษัทถุกยกย่องให้เป็นบริษัทต้นแบบในการบริหารผู้คนที่แตกต่าง และจัดการกับการเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในสังคมในหน้าสัมภาษณ์ อีธานกล่าวว่า...ทุกชนชั้นล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ละคนมีความสามารถที่อาจจะด้อยกว่ากันบ้างในบางเรื่อง แต่มีเรื่องด้อยก็ต้องมีเรื่องเด่น เพราะงั้นจะแค่มุมด้อยของเขามาตัดสินมันทั้งชนชั้นไม่ได้ คุณต้องมองมันให้เป็นรายบุคคลและเข้าใจถึงธรรชาติของชนชั้นนั้นๆด้วยความเป็นอัลฟ่าระดับสูง รูปร่าง หน้าตาและฐานะ อีธานกลายเป็นที่จับตามองของสาวน้อยสาวใหญ่ ความสุขุมและเบดกายของเขากลบคำที่ว่าผู้บริหารบริษัทยามันต้องเนิร์ด สวมแว่นและดูแก่หงำเหงือกไปอย่างสิ้นเชิงหญิงสาวหรือแม้แต่ชายหนุ่มที่อ่านข่าวนล้วนจับตามองถึงเรื่องคู่ครอง อีธานกล่าวว่าตัวเขานั้นยังไม่มีใคร ยังไม่เจอคู่แท้ และยังไม่เจอคนที่ถูกใจจริงๆ ตอนนี้

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 37 [TheEnd]

    เรื่องราวระหว่างคนสองคนที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ได้ตั้งใจเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย...แรกเริ่มเดิมทีอีธานก็ไม่ได้ต้องการมีคู่แห่งโชคชะตาอยู่แล้ว การตัดสินใจมันเริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาสั่งให้ทีมวิจัยค้นคว้าตัวยาเพื่อแก้คู่แท้ วันที่รู้ว่าตัวเองจะมีคู่ครอง...เขาไม่โอเคกับมันจริงๆ ที่ผ่านมาภูริแสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองไม่ได้แย่ถึงขนาดเป็นคู่ครองของใครไม่ได้ แต่อีธานก็ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองอยู่ดีอุดมการณ์เขามั่นคงพอๆ กับการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง อีธานไม่ได้รักภูริ เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนร่วมเตียง มีเซ็กซ์กัน ไปทำงานด้วยกัน กินข้าวเช้า กลางวันเย็นด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน การดูแลเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเรามันเป็นเพียงไมตรีจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งเมื่อหนังผีเรื่องนั้นจบลง อีธานและภูริก้เดินออกมาด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันไป ภูริน่ะตื่นเต้นกับหนัง ดูก็รู้ว่าเขาแฮปปี้กับช่วงเวลาชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมามากแค่ไหน เขาไม่ค่อยได้มาดูหนังนี่นะ พอเจอหนังดีโดนใจก็เลยปลื้มปริ่ม แต่คนที่คิดว่าจะพามาตกใจเล่นกลับเอาแต่นั่งกอดเขานิ่ง ไม่สะดุ้งกับหนังเลยแม้แต่นิดเดียว...อีธานมองหน้าภูร

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 36

    “วันนี้เงินเดือนออกหนิ” อีธานเอ่ยขึ้นขณะต่างคนต่างลงจากรถหลังการปรับเปลี่ยนกฎและโยกย้ายตำแหน่งพนักงานได้ไม่กี่วัน ภูริก็กลับมาทำงานทั้งที่ยังไม่หายดี เขามีรอยช้ำอยู่ตามตัวแต่มันก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร การนอนอยู่ห้องอีธานเฉยๆ คอยทำความสะอาด จัดนู้นจัดนี่แล้วก็ดูทีวีไปวันๆ มันก็ดี แต่เขาก็กลัวว่าเงินเดือนจะไม่พอใช้เลยรีบกลับมาทำงานอีธานไม่พอใจใหญ่เลย ไม่พอใจที่เขาดื้อไม่ฟัง อีธานบอกให้เขารักษาตัวเองให้หายดีก่อน เขาไม่หายดีตรงไหน? ขึ้นโยกได้นี่ก็ถือว่าร่างกายแข็งแรงสุดๆ แล้ว เพราะงั้นคำบ่นอีธานจึงตกไปเมื่อภูริมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอกลับมาทำงาน ด้วยไม่มีใครมาขัดขวางเหมือนเมื่อก่อน ภูริจึงออกงานนอกเยอะขึ้น เขาสามารถทำยอดได้เกินเป้าในทุกๆ การขาย ด้วยรอยยิ้ม ด้วยไมตรี เมื่อก่อนภูริขายของเก่งอยู่แล้ว ตอนนี้ได้โชว์ศักยภาพของตัวเองเต็มที่ขึ้นไปอีก ไม่แปลกเลยที่ผลการทำงานในเดือนนี้ของเขาจะดีเกิดคาดไปไกลอีธานยังแปลกใจเลยคิดดูเถอะ ไอ้กระจอกคนนี้ไม่กระจอกนะเว้ย เพื่อปากท้องทั้งสาม ของตัวเอง แม่และน้อง ทำให้ภูริเป็นคนขยัน อืม...เขาขยันเป็นเรื่องปกตินะ เมื่อก่อนก็ขยัน ตอนน

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 35

    ภูริอุ่นอาหาร เทมันใส่จานแล้วก็เอามาเสิร์ฟ ตามด้วยน้ำเปล่าเย็นๆ เป็นการปิดท้ายก่อนเดินมานั่งข้างๆ แล้วเริ่มทานมื้อเที่ยง ภูริไม่ได้ถาม ไม่ได้ชวนคุยอะไร ต่างคนต่างกินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหมดบอกความจริงให้หนึ่งอย่าง...ภูริไม่ได้มารยาทดีแต่โคตรหิว!คือเมื่อเช้ามันตื่นไมไหวก็เลยนอนลากยาวมานี่แหละเที่ยงวัน น้ำท่าก็ไม่อาบ แค่ล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย กินยาก่อนอาหาร ยาระงับฟีโรโมนแล้วถึงมาอุ่นข้าว ท้องเขาแม่งถือป้ายร้องประท้วงกันเย้วๆ ตอนที่กลิ่นอาหารแม่งลอยออกมาจากตู้อบ อารมณ์แบบ...กินเลยไม่รอร้อนได้ไหมวะ แต่จะให้กินอาหารเย็นๆ มันก็ไม่อร่อย ดังนั้นเพื่อรสชาติที่ดีเขาต้องรออีกนิสสสสแล้วพอกำลังจะอิ่มหนำสำราญใจกับอาหารเที่ยงควบมื้อเช้าอีธานก็ดันโพล่มา ด้วยการเป็นคนดีโลกจดจำ ภูริก็เลยต้องบริการอุ่นและเสิร์ฟอาหารให้เจ้าของห้อง เคยได้ยินไหม อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัว ปั้นควายให้ลูกท่านเล่นน่ะ แค่อีธานไม่มีลูก ภูริเลยไม่ได้โชว์สกิวปั้นดินที่แสนจะห่วยแตกสมัยเรียนอาจารย์วิชาศิลปะนี่กุมขมับเลยนะ เพราะให้ทำอะไรก็เละเทะไม่มีชิ้นดี

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 34

    เช้าวันนี้อีธานตื่นเร็วกว่าปกติ เขามีการประชุมใหญ่รออยู่ในช่วงเช้าเพราะหัวหน้าของหลายแผนกถูกจับ โดยเฉพาะหัวหน้าแผนกที่มีความสำคัญมากอย่างเซลล์ ซีอีโอบางคนก็หลุดออกจากตำแหน่งไปเตรียมตัวขึ้นศาลข้อหาฉ้อโกงเรียบร้อย เรียกว่าวันนี้งานอีธานค่อนข้างจะเยอะเลยทีเดียว เพราะงั้นจึงสายไม่ได้ร่างสูงค่อยๆ ลุกจากที่นอนเพื่อไม่ให้ภูริตื่น ที่จริงแล้วภูรินอนพื้นนั่นแหละ แต่อีธานอุ้มขึ้นมานอนด้วยกันตอนอีกฝ่ายหลับสนิทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภูริบาดเจ็บอยู่ เขาอยากให้ภูรินอนอย่างสบายบ้างก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆไม่ได้ชอบการนอนกอดภูริเลยแม้แต่นิดเดียว!ก็นะ...นั่นเป็นข้ออ้างที่เขาพยายามยัดมันใส่หัวตัวเอง เพื่อปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริง ภูริทำให้อีธานได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมันก็ใช่ แต่ความตั้งใจเดิมของอีธานไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังไม่อยากมีคู่เป็นโอเมก้าอยู่ดีนี่มันอยู่คนละส่วนกับการดูถูกชนชั้นอื่น เป็นแค่ความต้องการส่วนตัวที่ฝังรากลึกมานานเป็นสิบปี ระยะเวลาเหล่านั้นมันพังครืนลงไม่ได้ง่ายนัก ต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ให้โอเมก้าแต่กำเนิดก็ตามที“เหวย...วันนี้ตื่นก

  • อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]   บทที่ 33

    ปลายกระบอกมือสีเงินแวววาวจรดลงที่ขมับของอัลฟ่าผู้คร่อมทับร่างภูริ อีธานโพล่มาถึงตรงนี้ได้โดยที่คนอื่นไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้พวกนี้รู้ว่าเขาเข้ามาใกล้ก็ตอนที่เอาปืนจ่อหัวพวกเรียบร้อยพลังควบคุมคนตามธรรมที่อีธานมีนั้นเขาสามารถควบคุมมันได้ จะใช้มากใช้น้อยหรือไม่ใช้เลยเขาก็ทำได้ อย่างตอนเดินเข้ามาก็ไม่ใช้...ค่อยๆ ย่องประชิดเพื่อไม่ให้ใครไหวตัวทัน และตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะใช้ความสามารพิเศษทางสายเลือดของตัวเองกดดันพวกปลายแถวเหล่านี้ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบคอเอาไว้ อัลฟ่าชั้นล่างทั้งสี่ต่างไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้ว่าจะยังไม่เห็นปืนกระบอกงามในมือของอีธานด้วยซ้ำ ความหวาดกลัวที่เอ่อท้นขึ้นมานี่คงไม่ต่างอะไรกับการยืนเผชิญหน้าจ่าฝูงผู้แข่งแกร่งเท่าไหร่นัก“ลุกออกมา” อีธานเอาปลายกระบอกปืนดันหัวคนที่คร่อมภูริอยู่ มันค่อยๆ ขยับแล้วออกมาคุกเข่าอยู่ข้างๆ ร่างโปร่งพอเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นอีธาน ภูริก้รีบลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ เข้งขาไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ทั้งยังขวัญหนีดีฟ่อจากการที่โดนจู่โจม นัยน์สีดำคู่นั้นเคลือบไปด้วยหยาดน้ำ...ภูริดึงผ้าที่อุดปากตัวเองออกแล้ว

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status