Home / โรแมนติก / อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident / บทที่ 1 วันที่โชคร้าย

Share

บทที่ 1 วันที่โชคร้าย

last update Last Updated: 2025-06-29 10:04:47

อีกด้าน..

“ไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้เนี่ยยัยดาว”

แพรไหมที่เห็นสภาพเพื่อน เลอะไปด้วยคราบสีน้ำตาลเต็มเสื้อนักศึกษากล่าวทักขึ้นทันทีที่เจอหน้ากัน

“ฟัดกับหมามายังไม่เสียใจเท่ากับ โดนไอ้ขยะเปียกปล่อยสารพิษใส่เลย”

หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อต้องนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

“ไอ้ขยะเปียก” แพรไหมทวนคำอย่างงุนงง พร้อมส่งสายตาเป็นเชิงถาม

“ก็ซวยน่ะสิแก ตอนออกจากร้านกาแฟ เจอคนบ้าที่ไหนไม่รู้ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือผลักประตูพุ่งเข้ามาชนฉัน จนกาแฟหกใส่เนี่ย” หญิงสาวเล่าก่อนจะบ่นต่อ

“พูดแล้วก็ยังไม่หายโมโหเลยนะ ขอโทษสักคำยังไม่มีเลยแถมยังจะมาโทษว่าเป็นความผิดของฉันอีก ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิดเองแท้ ๆ ที่เปิดประตูเข้ามาทั้งที่ป้ายก็ติดว่าให้ดึง ไม่ขอโทษไม่ว่า ยังจะเอาเงินมาฟาดหัวกันอีก เกลียดจริง ๆเลยคนแบบนี้”

นิศราบ่นอย่างหาที่ระบาย อารมณ์ตอนนี้เธอหงุดหงิดมาก เพราะต้องไปส่งงานอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในสภาพนี้ เพราะไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว

“แล้วทำไมถึงได้โกรธขนาดนี้เนี่ย คงไม่ใช่แค่เพราะชุดเลอะใช่มั้ย”

แพรไหมถามเพื่อนรักที่ ปกติเป็นคนไม่ค่อยถือสาใคร ยิ่งหากเป็นแค่อุบัติเหตุเพื่อนของเธอ น่าจะให้อภัยกับเรื่องแค่นี้ได้ นี่คงมีอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ

“โกรธเพราะเขาไม่ขอโทษ แถมถามฉันด้วยนะ ‘เธอรู้มั้ยว่าเสื้อตัวนี้มันราคาเท่าไหร่’ ฉันฟังแล้วขึ้นเลยพูดแล้วก็หงุดหงิด” 

คนเล่าที่อารมณ์โกรธยังไม่จาง เล่าไปด้วยก็บ่นไปด้วย แถมล้อเลียนเสียงและท่าทางของชายหนุ่มที่เจอวันนี้ให้เพื่อนดู

“ฮ่าๆๆ เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก มันคงเป็นแค่อุบัติเหตุ อย่าอารมณ์เสียไปเลย” คนฟังก็ขำกับท่าทางของเพื่อน ก่อนจะปลอบให้อารมณ์เย็นลง

“ไม่ตั้งใจก็ต้องขอโทษสิ นี่ไม่ปริปากพูดออกมา แถมยังมีหน้าจะให้คนอื่นรับผิดชอบอีก ฉันยอมคนประเภทนี้ซะที่ไหนล่ะถามหาความรับผิดชอบมา ฉันก็เลยจัดให้เลย”

รอยยิ้มน้อย ๆ เริ่มผุดออกมาข้างแก้มของคนเล่าอย่างพอใจ

“แล้วเขารับผิดชอบแกยังไง”

“หุหุ ตอนที่เขาถามฉันว่าจะเอาเท่าไหร่ ฉันก็เลยตอบเสียงดังฟังชัดไปว่า ฉันไม่ได้ต้องการเงินของเขา ก่อนจะสาดกาแฟที่เหลือในแก้วนั่นแหละใส่ไปเลย ไหน ๆก็เลอะแล้วก็ให้มันเลอะไปด้วยกันนั่นแหละแฟร์ดี”

นิศราเล่าไปก็ยิ้มสะใจไปด้วย แต่ทำเอาคนฟังถึงกับตกใจและส่ายหัวเลยทีเดียว

“ไอ้ดาว แกนี่มันร้าย ฉันล่ะสงสารคู่กรณีของแกจริง ๆ”

“ไม่ต้องไปสงสารเลยแก ต้องสมน้ำหน้าสิถึงจะถูก ขอโทษก็จบละ ดันมาอวดร่ำอวดรวยก็ต้องเจอแบบนั้นแหละ” 

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องโกรธแล้ว ทีนี้จะเอายังไงต่อชุดเลอะหมดแล้ว ต้องไปส่งวิทยานิพนธ์ไม่ใช่เหรอ”

“เออจริงด้วย ..ลืมไปสนิทเลย ตายแล้ววิทยานิพนธ์ของชั้น”

เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีภารกิจสำคัญ หญิงสาวก็ลุกลี้ลุกลนหยิบกระเป๋าผ้าที่ใส่เล่มวิทยานิพนธ์ขึ้นมาดู หากเลอะกาแฟไปด้วยเธอต้องซวยแน่ ๆ ล่ะทีนี้

“ขอบคุณ คุณพระ คุณเจ้า” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังหยิบเล่มวิทยานิพนธ์ขึ้นมาดูแล้วพบว่ายังปลอดภัยดีเช่นเดิม

“เป็นยังไงบ้างเลอะมั้ย” แพรไหมที่ลุ้นไปด้วยเอ่ยถาม

“ปลอดภัยดีจ๊ะ งั้นฉันไปก่อนนะเดี๋ยวจะไม่ทันไว้เจอกัน” 

ทันทีที่คิดได้ว่าต้องรีบไปก่อนจะหมดเวลารับเอกสารไม่อย่างนั้นเธอต้องเรียนซ้ำชั้นกับรุ่นน้องอีกปีเป็นแน่

“เดี๋ยวสิดาว จะไปทั้งแบบนี้นี่นะ”

“อืม ไม่มีเวลาแล้วเดี๋ยวโทรหานะ”

ไม่รอฟังคำตอบ นิศราก็รีบวิ่งไปโบกแท็กซี่แล้วขึ้นรถออกไปเลย ปล่อยให้เพื่อนรักยืนมองตามหลังอย่างเอาใจช่วย

แพรไหมและนิศราเป็นเพื่อนที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลทางบ้านทำให้นิศราต้องดรอปเรียนในปีสุดท้าย ทำให้จบช้ากว่าเพื่อนๆ คนอื่น

อากาศที่ถูกปกคลุมด้วยเหล่าก้อนเมฆสีดำเมื่อช่วงเช้า มาตอนนี้กลายเป็นกลุ่มเมฆฝนปกคลุม ไปทั่วบริเวณที่เธออยู่ ตลอดทางที่นั่งรถมา ทั้งลมทั้งฝนโหมกระหน่ำตกลงมายังกับมีพายุเข้าทำให้การจราจรติดยาวเป็นรถไฟ

หญิงสาวเริ่มนั่งไม่ติดเพราะเวลาเหลือน้อยลงทุกที ตอนนี้รถแทบจะไม่ขยับเลย เดิมทีเธอเผื่อเวลาไว้คุยกับเพื่อน ๆ รุ่นน้อง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน แต่ตอนนี้แค่ไปส่งงานให้ทันเวลาก็พอ -วันนี้ช่างเป็นวันที่โชคร้ายของเธอจริง ๆ- หญิงสาวคิด

 รถแท็กซี่แล่นมาจอดยังจุดหมาย นั่นคือมหาวิทยาลัยที่เธอศึกษาอยู่ สายฝนที่ตกหนักเมื่อสักครู่ก็เริ่มตกเบาบางลง แต่ในบริเวณมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีเม็ดฝนปรอยลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีคลื่นน้ำบนถนนของมหาวิทยาลัย ทำให้หลายช่วงเกิดเป็นคลื่นสึนามิขนาดย่อม จากน้ำที่ขังรอการระบายเมื่อมีรถวิ่งผ่านสวนกัน จะเกิดคลื่นซัดเข้าหาฟุตบาทเป็นช่วง ๆ

เธอคงเดินริมถนนไม่ได้เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นสภาพคงแย่กว่านี้ เมื่อลงจากแท็กซี่ได้หญิงสาวรีบวิ่งเข้าตึกของคณะที่ใกล้ที่สุดก่อนทันที เพื่อไม่ให้เอกสารที่เตรียมมาส่งเปียก จากนั้นค่อยเดินทะลุผ่านตึกจนในที่สุดเธอก็มาถึงคณะที่เธอเรียน โดยที่ของสำคัญยังคงปลอดภัย

“นักศึกษา ทำไมมาสภาพนี้” อาจารย์ในคณะที่เห็นสภาพดูไม่ได้ของลูกศิษย์ตน เอ่ยถามขึ้นทันที

“เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยค่ะอาจารย์ หนูมาส่งเล่มวิทยานิพนธ์ค่ะ”

“จ๊ะ เข้ามาก่อน เอานี่เช็ดผมซะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

อาจารย์สาวยื่นผ้าขนหนูสีขาวให้ลูกศิษย์ ก่อนจะก้มลงตรวจเอกสารให้ เธอรับมาอย่างขอบคุณ

“เรียบร้อยแล้วนะ อาจารย์ยินดีด้วยในที่สุดก็จบสักทีต่อไปก็ขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะ”

“หนูต้องขอบคุณอาจารย์มาก ๆ เลยนะคะ ที่ช่วยเหลือหนูตลอดสองปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้อาจารย์ช่วยหนูก็คงยังไม่จบ”

“เป็นหน้าที่ของอาจารย์ ที่ต้องส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่ง แต่ทั้งหมดนี่เป็นเพราะความขยันอดทนของตัวหนูเอง อาจารย์แค่ช่วยในเรื่องที่ช่วยได้ ต่อไปก็เริ่มต้นชีวิตใหม่นะ ที่ผ่านมาก็ถือซะว่าเป็นบทเรียนให้ชีวิตเราแข็งแกร่งขึ้น อาจารย์เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้นักศึกษาโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่สู้จนทำให้ชีวิตแย่ลงมากกว่านี้อีก เอาข้อดีเหล่านี้มาปรับใช้กับชีวิตนะ อาจารย์เอาใจช่วย”

อาจารย์พูดพร้อมลูบศีรษะลูกศิษย์สาว ด้วยความเอ็นดู เธอรู้ว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของตนต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องใช้ความพยายามและอดทนมากแค่ไหน ถึงมีวันนี้ได้

“ขอบคุณค่ะ หนูกลับก่อนนะคะ”

นิศรากล่าวด้วยความซาบซึ้งใจก่อนปาดน้ำตา เดินจากไปเธอรู้สึกขอบคุณจริง ๆ เธอเป็นคนเดียวในรุ่นที่จบช้ากว่าเพื่อน ๆเพราะปัญหาของครอบครัว ทำให้เธอต้องดรอปเรียน

เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันกับเธอต่างเรียนจบ มีงานทำกันหมดแล้ว การต้องเรียนกับรุ่นน้องและจบหลังเพื่อนทำให้เธอรู้สึกกดดันว้าเหว่มาก แต่ก็อดทนจนผ่านมันมาได้ มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้ใครต่อใครจะพูดถึงเธอในทางที่ไม่ดีบ้างก็ตาม

สองปีแล้ว สองปีเต็ม ๆ กับชีวิตที่พลิกผันของเธอจากลูกคุณหนูที่มีพร้อมทุกอย่าง ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยต้องพบเจอความยากลำบากเลยสักครั้ง เธอถูกเลี้ยงมาดั่งไข่ในหินจนกระทั่งธุรกิจของบิดาถูกเพื่อนรักที่ไว้ใจ หักหลังโกงเงินบริษัทจนทำให้บริษัทโดนฟ้องร้อง และมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้บริษัทเกือบล้มละลาย พี่ชายคนเดียวของเธอจึงต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน ยอมทิ้งความฝันของตัวเอง มาบริหารบริษัทที่กำลังจะไปไม่รอด เป็นบริษัทที่บิดาและมารดาของเธอสร้างมาด้วยกัน

ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดที่บิดาสร้างไว้ ถูกขายมาใช้หนี้บางส่วนนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนในบริษัท ที่มีพนักงานหลายร้อยคนฝากชีวิตเอาไว้

ทั้งเธอและพี่ชายจึงต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมด มาช่วยกันแก้ไขปัญหาและบริหารงานจนบริษัทดีขึ้น การเรียนจบจึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในชีวิตเธอที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้โดยไม่มีอะไรค้างคาใจ

หญิงสาวมีวุฒิการศึกษาที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน้าที่การงาน ที่ตนเองรับผิดชอบในบริษัทได้ เธอจบ Interior Design ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน

ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ ความคิดแปลกใหม่ ทำให้สองพี่น้องต้องช่วยกันพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เพื่อให้พนักงานในบริษัทรวมถึงคู่ค้ามั่นใจและเชื่อมั่น เมื่อธุรกิจเริ่มดีขึ้นก็ต้องหาต้นตอของคนที่ทำผิด เพื่อเรียกชื่อเสียงของบริษัทที่เสียไปกลับมาให้ได้

‘บ้าเอ๊ย วันซวยแท้ ๆ โดนกาแฟเหนียว ๆ แล้วยังมาโดนฝนต่ออีก’  นิศราสบถกับตัวเองในใจ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่ชาย

“พี่ดินเลิกงานหรือยังคะ แวะมารับดาวได้มั้ยดาวอยู่ร้านเครื่องเขียนใกล้ ๆ มหาลัย ฝนตกหนักมากเลยค่ะ”

“โอเคพี่อยู่ใกล้ ๆ พอดี เข้าไปรอในร้านก่อนนะพี่จะรีบไป”

ฝนทยอยตกลงมาไม่ขาดสาย หลังจากตั้งเค้ามาแต่เช้าหญิงสาวที่ตัวเลอะตั้งแต่เช้า เจอฝนที่มาสมทบอีกทำให้รู้สึกตัวเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ยิ่งเห็นสภาพตัวเองยิ่งนึกโมโหคนที่ทำให้เธอต้องเดินตัวเหนียวทั้งวันแบบนี้

นิศราหลับตาสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อให้ตนเองใจเย็นลง ก่อนวิ่งเข้าไปในร้านหนังสือ เดินเลือกซื้อของรอพี่ชายมารับ  ขณะเดียวกันชายหนุ่มอีกคน ยืนมองหญิงสาวที่ตนเจอเมื่อเช้าในชุดเดิม

เขาเห็นตั้งแต่เธอยังยืนอยู่หน้าร้าน สภาพไม่ต่างไปจากเมื่อเช้าเลย นึกแปลกใจทำไมเธอถึงยังไม่เปลี่ยนชุดใหม่ แต่ยังคิดไม่ทันจบก็เห็นชายอีกคนวิ่งเข้ามา ถอดเสื้อสูทที่ใส่มาสวมคลุมให้เธอพร้อมโอบไหล่ประคองพาเธอเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านไป ‘ที่แท้ก็เด็กเสี่ย แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงหน้าคุ้นจังว่ะ’ ธีรวัฒน์คิดในใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 56 ชีวิตคู่

    เย็นวันนี้ธีรวัฒน์ให้ทุกคนในบ้านเลิกงานไว เพื่อเขาจะได้มีเวลาอยู่กับนิศราลำพัง เขาอยากใช้เวลากับเธอให้มากขึ้น“ทุกคนไปไหนกันหมดคะ” ถามเพราะสงสัยเธอไม่เจอใครเลยตั้งแต่กลับมา ปกติบ้านก็เงียบอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีแม่บ้านอยู่ในบ้านยิ่งดูเงียบมากกว่าเดิม“พี่ให้เลิกงานแล้ว”“อ่าวแล้วมื้อเย็นล่ะคะ”“มื้อนี้ พี่จะทำให้ภรรยาพี่ทานเอง” เขาพูดแบบหน้าตาเฉยพร้อมส่งยิ้มหวานให้“พี่ธีร์” เรียกเขาเสียงดังด้วยความตกใจที่เขาเรียกเธอว่าภรรยา ก่อนจะหันไปมองซ้ายขวาว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า กลัวว่าใครจะมาได้ยินเอา“ครับคุณภรรยา” เขาเน้นคำเดิมขานรับเธอด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทีกลัวคนอื่นจะรู้“เดี๋ยวก็มีใครมาได้ยินเข้าหรอกค่ะ”“ได้ยินก็ได้ยินสิ ไม่เห็นเป็นอะไรนิเรื่องจริงทั้งนั้น”“ไปทำอาหารได้แล้วค่ะดาวหิวแล้ว” เธอส่งสายตาดุใส่เขาก่อนจะไล่ให้เขาไปทำอาหารเสียเลย“แต่พี่ต้องมีผู้ช่วย จะได้เสร็จไว ๆไง&r

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 55 ก็คนมันมีความสุข

    ธีรวัฒน์เริ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ พร้อมกับร่างกายของเธอที่เด้งแอ่นรับสัมผัสเขาอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ปลายนิ้วของเขาดันเข้าไปจนสุด ความคับแน่นของเธอแทบทำเขาคลั่ง ร่างกายเธอบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น รู้สึกทรมานแต่สุขสมอย่างบอกไม่ถูก“อ๊ะ อืม” นิศราร้องคางเสียงหลง เมื่อเขาเร่งจังหวะนิ้วให้เร็วขึ้น ใบหน้าของเธอตอนนี้ช่างเซ็กซี่ ยั่วยวนเขาเสียเหลือเกิน“พี่ธีร์..ดาว...มะไม่เคย” เสียงหวานคางกระเส่าเมื่อรู้สึกกลัว“อือมม พี่รู้จ้ะคนดี สัญญาว่าจะนุ่มนวล”คำพูดของเขาทำเธอรู้สึกร้อนวูบวาบ บวกกับปลายนิ้วซุกซนของเขา ที่ตอนนี้กรีดขึ้นลงกลางรอยแยก และเริ่มมีน้ำหวานเปียกชุ่มไหลออกมาเพิ่ม มันทำให้สติของเธอเตลิดจนควบคุมไม่ได้ ร่างกายแอ่นรับสัมผัสเขาทุกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอต้องการเขามากเพียงใดชายหนุ่มจึงไม่รอช้าเขาใช้ลิ้นร้อนรากเลียปลายถันสลับกับดูดดึงหยอกล้อ ทำให้เธอรู้สึกเสียวสะท้านมากกว่าเดิม ตอนนี้เธอเหมือนกำลังจะขาดใจ เขาเองก็ไม่ต่างกันตอนนี้อารมณ์ปรารถนาของเขาได้พุ่งทะยานไปไกลเกินกว่าจะหยุดได้เสียแล้ว

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 54 หายกันแล้วนะคะ

    ส่วนเขานึกโทษตัวเองที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และทำแบบนั้นกับเธอไป เธอคงโกรธเขามาก แล้วเขาควรทำอย่างไร ครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก่อนกลับไปนั่งทำงานต่อด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว กลัวว่าเธอจะโกรธเขาจนหนีไปแต่ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะของตนเอง โดยไม่พูดไม่จาหรือแม้จะหันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำธีรวัฒน์เงยหน้ามองเธอเป็นระยะ ทั้งสองต่างนั่งทำงานไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาต่างคนต่างเงียบล่วงเลยไปถึงเวลาเลิกงาน นิศราเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่นั่งเครียดอยู่กับกองเอกสารตรงหน้า อดเป็นห่วงเขาไม่ได้เพราะเขายังไม่หายดีในเมื่อเป็นแฟนกันเรื่องแบบนี้ก็คงต้องเกิดขึ้นบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ จึงไม่ใช่ความผิดของใคร เธอจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน เพราะไม่อยากให้เขาหักโหมมากเกินไป“ห้าโมงแล้วค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ”“พี่ขอเคลียร์เอกสารกองนี้ก่อนนะ”“งานด่วนเหรอคะ”“ไม่ด่วนครับ แต่พี่อยากทำให้เสร็จก่อน”“ถ้าไม่ด่วนงั้นก็กลับกันเถอะค่ะ ดาวหิวข้าวแล้ว” พูดพร้อมเอาม

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 53 พี่ขอ

    เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วนิศราจึงเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมเอกสารที่เธอรวบรวมไว้มาให้ เขาเปิดอ่านเอกสารที่เธอส่งมาให้ระหว่างรอทุกคน เปิดดูไปก็มองหน้าหญิงสาวไปด้วยความประหลาดใจ ไม่นานพนักงานแผนกต่าง ๆก็พากันทยอยเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นทุกคนนั่งประจำที่พร้อมแล้ว เขาก็เริ่มประชุมต่อ“สินค้าที่เสียหายไป ใครมีปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าล็อตใหม่ไหมครับ” เปิดประชุมโดยการยิงคำถามทันที พนักงานคนหนึ่งยกมือขึ้นหลังจบคำถาม“งานตกแต่งภายในตอนนี้มีปัญหาเรื่องคิิวเข้าติดตั้งครับ อยู่ในช่วงเจรจากับซัพพลายเออร์”“เรื่องนี้ต้องรอช่างอาคารทำงานให้เรียบร้อยก่อน อาจต้องขอความร่วมมือกับเขาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นหากคุยไม่ได้ ให้รีบแจ้งผมทันที” ธีรวัฒน์เสริมก่อนถามต่อ“เรื่องประตูไม้ของโครงการT403 สองพันบาน สี่ร้อยหลังติดปัญหาอะไรครับ”“คือแบบที่ลูกค้าเลือก สินค้าไม่พอส่งครับ ทางบริษัทต้องผลิตใหม่ถึง 80% ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวระยะเวลาในการผลิตรวมกับระยะเวลาในการจัดส่งมายังประเทศไทยอาจไม่ทันวันติดตั้ง และอาจมีผลกับการส่งมอบงานใ

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 52 แก้ปัญหา

    ธีรวัฒน์เดินตามหญิงสาวลงมารับประทานอาหารด้านล่าง เขาพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะอารมณ์ดีจนเผลอยิ้มออกมาตลอดเวลา“อะไรทำให้อารมณ์ดีจนยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ได้ขนาดนี้คะ” นมบัวแสร้งถาม ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วเพราะก่อนที่เขาจะลงมา มีคนที่มีอาการเขินจัดเดินหน้าแดงรีบเดินลงมาก่อนแล้ว“ได้กลับมานอนพักที่บ้านแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นครับ” เขาตอบท่าทางสบายอารมณ์“หรือคะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะจะได้หายป่วยเร็ว ๆ” นมบัวยิ้มหวานให้อย่างรู้ทันให้“อ่าว ธีร์ลงมาแล้วหรือมาทานข้าวกัน” ประภาสที่นั่งรออยู่ก่อน เอ่ยเรียกคนมาที่พึ่งมา“ครับคุณอา แล้วนี่ดินละครับไม่มาทานด้วยกันหรือ”“วันนี้ดินกลับบ้าน ไปดูความเรียบร้อย อาคิดว่าถึงเวลาที่อาจะต้องกลับบ้านแล้วล่ะ”“ที่จริงอยู่ต่อที่นี่เลยก็ได้นะครับคุณอา ผมยินดี”“เฮ้อ! อาก็อยากอยู่ด้วยนะ แต่บ้านหลังใหญ่เกินไปมันเหงา อีกอย่างอาก็คิดถึงบ้านด้วย อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านตัวเอง ยังไงอาก็ต้องขอบใจธ

  • อุบัติเหตุลิขิตรัก Accident   บทที่ 51 คนเจ้าเล่ห์

    หลายวันต่อมาธีรวัฒน์ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน อาการของเขาดีขึ้นมากจนเรียกได้ว่าเกือบหายสนิทถ้าไม่ยืดแขนมากอาการก็จะเป็นปกติ และเขาเองยังอยากอ้อนพยาบาลส่วนตัวเลยต้องแกล้งเจ็บอยู่“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณท่าน” นมบัวผู้ดูแลบ้านระหว่างที่เขาไม่อยู่เป็นผู้กล่าวต้อนรับเช่นเคย“ขอบคุณครับนม”“เข้าบ้านกันก่อนเถอะค่ะ ไปคุยกันด้านในดีกว่า”“ทานอะไรมารึยังคะ”“ทานมาจากโรงพยาบาลแล้วครับ ขอขึ้นไปพักข้างบนก่อนแล้วจะลงมาทานมื้อค่ำทีเดียว” เจ้านายพูดเช่นนั้นลูกน้องคนสนิทจึงรีบตรงเข้ามา หมายจะช่วยพยุงขึ้นไปส่งยังห้องนอนแต่กลับถูกสายตาคมไล่ให้พวกเขาออกไปวรวิทย์เห็นดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นมีธุระเพื่อที่จะปล่อยให้เจ้านายหนุ่มได้อยู่กับหญิงสาวตามลำพัง“คุณดาวครับผมมีงานด่วนต้องไปจัดการแทนเจ้านาย ผมฝากเจ้านายไว้กับคุณดาวก่อนได้มั้ยครับ” วรวิทย์ทำหน้าขอร้องเธอ ทำราวกับว่ามีธุระสำคัญ“ได้ค่ะพี่วิทย์ไปเถอะ ทางนี้ดาวดูแลให้เอง”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status