LOGINปั๊ก!
เสียงดังขึ้นเมื่อคิรินทร์โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะอย่างแรง จนไข่มุกสะดุ้งเฮือก เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยแววตาตื่นกลัว
“ทำผิดอีกแล้ว คุณตกเลขหรือไงถึงได้ทำพลาดแบบนี้ซ้ำๆ” น้ำเสียงเขาเย็นเฉียบ
“ขะ…ขอโทษค่ะ มุกตรวจสอบไม่ดีเอง” เธอก้มหน้างุด มือกำแฟ้มในมือแน่น ความจริงเธอเป็นแค่คนรวบรวมข้อมูล ไม่ใช่คนตรวจตัวเลขด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าแก้ต่าง
“ขอโทษแล้วมันดีขึ้นไหม?” คิรินทร์พ่นลมหายใจแรง เสียงของเขาเข้มขึ้น
“…” เธอเงียบรู้ดีว่าคำตอบใดๆ ในตอนนี้คงยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ
“กลับไปแก้ให้เรียบร้อย ถ้าทำผิดอีกผมจะเชิญคุณลงไปช่วยงานแผนกแม่บ้านแทน” เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแรงกดดัน
“ค่ะ…” ไข่มุกเม้มปากแน่นพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินออกไปช้าๆ
ขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือเปิดประตู กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอใช้ลอยมาแตะจมูกเขา กลิ่นเดียวกับเมื่อคืนนั้นที่ทำให้เขาหัวเสียมาจนถึงทุกวันนี้ เขาชะงักสายตาแข็งค้างอยู่ที่แผ่นหลังบอบบางของเธอ
“อย่าเพิ่งไป…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ท่านประธานมีอะไรอีกคะ” ไข่มุกหยุดชะงักหันกลับมาช้าๆ ด้วยแววตาสับสน ขณะที่หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา
เขาลุกจากเก้าอีกและเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวอย่างเชื่องช้า สายตาของเขาจับจ้องเธอไม่วางตา เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของไข่มุก
“น้ำหอมกลิ่นอะไร?” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม กำลังเกิดความสับสน
“คะ?” เธอไม่เข้าใจในคำถาม
“คุณใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร” กลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับแป้งเด็กซึ่งทำให้เขาผ่อนคลายไม่น้อย
“ฟลอรัลค่ะ” เธอรีบหลบสายตาหัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาด้านนอก มือบางบีบเข้าหากันแน่นเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
“คืนนั้น...”
“มุกขอตัวก่อนนะคะมีงานต้องทำต่อ” เธอรีบหมุนตัวแล้ววิ่งออกจากห้องทำงานของเขาอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นแรงราวจะทะลุออกจากอก
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอรีบปิดประตูแน่น แผ่นหลังพิงกับบานประตูเย็นเฉียบ ร่างกายอ่อนแรงเหมือนหมดเรี่ยวแรงจะยืนต่อ
ลมหายใจสั่นระรัวปลายนิ้วเย็นเฉียบ เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะหลุดออกมา ก่อนที่ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นจะย้อนกลับมาในหัวอย่างห้ามไม่อยู่
“อื้อ คุณคิรินทร์เบาๆ หน่อยได้ไหม”
“อืม เธอทำให้ฉันคลั่ง”
ไข่มุกสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมความเมื่อยล้าทั้งร่าง แสงอ่อนจากหน้าต่างสาดเข้ามาในห้อง เธอกะพริบตาช้าๆ ก่อนที่ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนจะไหลย้อนกลับเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
หัวใจของเธอเต้นแรง มือสั่นเทาเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างของชายที่ยังหลับอยู่ข้างกายท่านประธานคิรินทร์ ลมหายใจของเธอสะดุดทันที ไข่มุกยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นไว้ ดวงตาร้อนผ่าวด้วยความตกใจและเสียใจปนกัน
เมื่อคืนเธอนอนกับเขา และที่สำคัญเขามีคู่หมั้นอยู่แล้วหัวใจเธอแทบแตกสลาย ไข่มุกรีบลุกจากเตียง คว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาสวมอย่างลนลาน ก่อนจะออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่หันกลับมามองอีกครั้ง
หญิงสาวรีบตั้งสติและกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิม เธอไม่กล้าบอกเรื่องนั้นกับเขา หวังว่าเขาจะจำเธอไม่ได้เช่นกัน
“คุณคินอยู่ไหม” เสียงหวานดังขึ้นหน้าห้องทำงาน
“คุณคือ...” เธอกำลังจะถามต่อ แต่หญิงสาวอีกคนพูดแทรกขึ้นทันที
“ฉันคือลิต้าคู่หมั้นของเขา ไม่ต้องบอกว่าฉันมาฉันจะเข้าไปหาเขาเอง” ลิต้ามองผู้หญิงตรงหน้าขนาดไม่แต่งหน้าจัดยังสวยขนาดนี้ ปล่อยไว้ใกล้คิรินทร์ไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่ได้ค่ะฉันต้องแจ้งเขาก่อนคุณ...” ไข่มุกรีบลุกขึ้นพยายามขวางไว้ แต่ลิต้าเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ เธอจึงจำใจรีบวิ่งตามหลัง เพราะรู้ดีว่าทุกคนที่เข้าพบท่านประธานต้องได้รับอนุญาตก่อนเสมอ
“เลขาคุณทำงานดีจังเลยนะขนาดลิต้าบอกว่าเป็นคู่หมั้นก็ยังไม่ยอม”
คิรินทร์เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ มองหญิงสาวทั้งสองสลับกัน สายตาคมนิ่งเรียบก่อนจะโบกมือไล่ผู้ช่วยออกจากห้อง
“คุณมีธุระอะไร” เขาถามด้วยความเฉยชา
“เลขาคุณเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ” ลิต้าถามเพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อน
“ผู้ช่วยเลขาเพิ่งให้ย้ายขึ้นมา คุณมีธุระอะไร” เขาถามย้ำอีกครั้ง
“ผู้ช่วยเลขาของคุณต้องสวยขนาดนั้นเลยเหรอ เหมือนเพิ่งจบมาใหม่ๆ” เธอไม่ยอมเข้าเรื่องรู้สึกอิจฉาในความสวยน่ารักของผู้ช่วยของคิรินทร์
“คุณจะพูดหรือไม่พูด” เขาวางปากกาลงก่อนจะหันไปมองจ้องตากับอีกฝ่าย
“คุณจะถอนหมั้นกับลิต้าจริงๆ เหรอคะ”
“ผมพูดชัดเจนแล้ว” คิรินทร์เงยหน้าขึ้นจากเอกสารน้ำเสียงเรียบแต่เย็นเฉียบ
“ลิต้ารักคุณนะ หรือคุณมีคนอื่นไปแล้ว” ดวงตาเธอเริ่มร้อนผ่าว
“เราหมั้นกันก็เพราะผลประโยชน์ ตอนนี้คุณไม่มีผลประโยชน์อะไรแล้ว อีกอย่างคนที่อยากให้ผมหมั้นก็ไม่อยู่แล้ว”
“คุณใจร้ายที่สุดเลย” เสียงเธอแผ่วเบาแต่สั่นสะท้าน
“ผมจะไม่เอาเรื่องคุณก็ได้ แต่อย่ามาใช้วิธีสกปรกแบบนั้นอีก” น้ำเสียงของคิรินทร์เย็นเฉียบ ราวกับตัดสินแล้วไม่ลังเล
“เรื่องอะไรคะ” เธอไม่กล้าสบตาเขา เสียงขาดๆ หายๆ ไม่กล้าสบตา
“คุณอย่าทำเหมือนนางร้ายในละครได้ไหมวางยาผู้ชายเพื่อจะลากเขาขึ้นเตียงด้วยไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี”
“คุณคิน”
“ถ้าคุณล้ำเส้นผมอีก ผมจะไม่ไว้หน้าพ่อของคุณ” เขาหยิบเสื้อสูทมาสวมอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับ ความเย็นชาของเขาทิ้งให้ลิต้ายืนนิ่งกับคำพูดที่แทงใจ หญิงสาวพยายามวิ่งตามเรียกชื่อเขาเสียงสั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณคิน เรามาคุยกันให้รู้เรื่อง”
คิรินทร์เดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของไข่มุกตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี เขาล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงสายตามองหญิงสาวเหมือนเป็นการบังคับ
“พักเที่ยงแล้วไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย”
“เอ่อ คือ...” ไข่มุกไม่แน่ใจว่าเขาคุยกับเธอหรือเปล่า เพราะด้านหลังมีหญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้น
“ไข่มุกนี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย” เขาสั่งเสียงเข้ม
“แต่คุณผู้หญิง...” เธอถามด้วยความลังเล สายตาอาฆาตที่มองมาทำให้เธอตัวสั่น
“เธอไม่ใช่แขกของผมคราวหน้าถ้าปล่อยให้คนแปลกหน้าเขามาอีก ผมจะหักเงินเดือนคุณรีบตามมา” เขาเดินนำหน้าจนไข่มุกต้องรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามหลังเขา จนมาถึงลิฟต์ผู้บริหารเธอไม่กล้าก้าวเข้าไป
“เข้ามา!”
“แต่นี่มันลิฟต์” เธอไม่ยอมก้าวเข้าไป
“คุณจะเอายังไงกันแน่” เขาหัวเสียเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้าไปขึ้นลิฟต์ฝั่งตรงข้าม จนต้องรีบเดินตามไป
“คุณเข้ามาทำอะไรในนี้”
“ผมเป็นผู้บริหารจะขึ้นลงลิฟต์ไหนก็ได้” เสียงทุ้มต่ำของคิรินทร์ดังขึ้นข้างหูจนไข่มุกเผลอกลั้นหายใจ
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่ตั้งใจ ความสูงของเธออยู่แค่ระดับอกของเขาเท่านั้น ใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่แผ่วผ่านผมข้างขมับ
“คุณนี่ชอบสร้างปัญหาให้ผมจริงๆ” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแรงกดดัน
ติ้ง
เสียงลิฟต์ดังขึ้นประสานกับการเปิดออกของประตู หน้าลิฟต์มีพนักงานยืนต่อแถวรออยู่ พอเห็นว่าท่านประธานอยู่ข้างใน ทุกคนชะงักเหมือนถูกแช่แข็ง ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับ
“เข้ามาสิ!” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยสั้นๆ แต่หนักแน่นจนไม่มีใครกล้าขัด
“คะ ค่ะ! พวกเรารีบเข้าไปเร็ว!” หญิงพนักงานคนหนึ่งกระซิบเสียงสั่น ก่อนทั้งหมดจะรีบก้าวเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ
พื้นที่ในลิฟต์คับแคบกว่าที่คิด คิรินทร์จึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลีกทาง แต่กลับกลายเป็นว่าร่างสูงของเขาโน้มเข้ามาใกล้ไข่มุกจนแทบจะแนบชิด
ความสูงของเธออยู่พอดีกับระดับอกเขา กลิ่นน้ำหอมของเขาอบอวลในอากาศ เสียงลมหายใจทุ้มใกล้เสียจนหัวใจของเธอเต้นถี่ มือของเขาโอบเอวเธอไว้หลวมๆ ทั้งสองอยู่ด้านหลังสุดจึงไม่มีใครสังเกต
ขณะที่คิรินทร์นิ่งเฉย ดวงตาคมกริบมองตรงไปข้างหน้าเหมือนไม่รู้ตัว เขาเผลอยิ้มเล็กน้อยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“คนออกไปหมดแล้วเลิกกอดมุกได้แล้วค่ะ”
“ใครเขาอยากกอดคุณกัน ตัวก็ผอมหน้าตาก็ไม่สวย ทำงานก็ไม่เก่งโง่ก็โง่ ผู้ชายที่ไหนจะอยากได้คุณ!” เสียงเข้มของชายหนุ่มดังขึ้นกะทันหัน แววตาแข็งกร้าว
คำพูดเหมือนมีดที่ฟันฉับลงกลางใจ เขาเองก็รู้ว่ามันแรงเกินไป แต่ความหงุดหงิดที่ควบคุมไม่ได้ทำให้หลุดปากไปก่อนจะทันยั้ง
“ขอโทษด้วยนะคะที่มุกโง่” เธอพูดเสียงเบาแต่เจ็บลึก ก่อนหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่หันกลับ
ปั๊ก!เสียงดังขึ้นเมื่อคิรินทร์โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะอย่างแรง จนไข่มุกสะดุ้งเฮือก เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยแววตาตื่นกลัว“ทำผิดอีกแล้ว คุณตกเลขหรือไงถึงได้ทำพลาดแบบนี้ซ้ำๆ” น้ำเสียงเขาเย็นเฉียบ“ขะ…ขอโทษค่ะ มุกตรวจสอบไม่ดีเอง” เธอก้มหน้างุด มือกำแฟ้มในมือแน่น ความจริงเธอเป็นแค่คนรวบรวมข้อมูล ไม่ใช่คนตรวจตัวเลขด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่กล้าแก้ต่าง “ขอโทษแล้วมันดีขึ้นไหม?” คิรินทร์พ่นลมหายใจแรง เสียงของเขาเข้มขึ้น“…” เธอเงียบรู้ดีว่าคำตอบใดๆ ในตอนนี้คงยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ“กลับไปแก้ให้เรียบร้อย ถ้าทำผิดอีกผมจะเชิญคุณลงไปช่วยงานแผนกแม่บ้านแทน” เขาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแรงกดดัน “ค่ะ…” ไข่มุกเม้มปากแน่นพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินออกไปช้าๆขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือเปิดประตู กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอใช้ลอยมาแตะจมูกเขา กลิ่นเดียวกับเมื่อคืนนั้นที่ทำให้เขาหัวเสียมาจนถึงทุกวันนี้ เขาชะงักสายตาแข็งค้างอยู่ที่แผ่นหลังบอบบางของเธอ“อย่าเพิ่งไป…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านประธานมีอะไรอีกคะ” ไข่มุกหยุดชะงักหันกลับมาช้าๆ ด้วยแววตาสับสน ขณะที่หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เขาลุก
งานเลี้ยงฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัท K-Metha Holding ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือของคิรินทร์ ตัวงานเต็มไปด้วยแสงสีระยิบระยับและดนตรีบรรเลง สถานที่ถูกตกแต่งในธีมแฟนตาซี ทุกคนสวมหน้ากากเพื่อสร้างความลึกลับ พนักงานทุกระดับต่างมาเต็มงาน เหมือนกำลังอยู่ในโลกอีกใบที่หรูหราและคึกคักไข่มุกที่เพิ่งผ่านช่วงงานเลี้ยงอันตึงเครียด รู้สึกมึนหัวจากเสียงเพลงและผู้คนที่พลุกพล่าน เธอจึงเบาเท้าออกมาด้านนอก สูดอากาศเย็นของค่ำคืนพยายามให้หัวใจสงบแต่สายตาของเธอหยุดอยู่ที่ภาพตรงหน้าท่านประธาน กำลังโอบกอดผู้หญิงคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด เหมือนภาพที่ไข่มุกไม่ควรเห็นหัวใจของเธอเต้นแรงความรู้สึกอัดแน่นในอก ทำให้เธอรู้สึกทั้งเจ็บปวดและช็อก ไม่รู้ว่าควรหันกลับไปในงานต่อหรือจะอยู่ตรงนี้ปล่อยให้สายตาตัวเองเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเธอไม่ควรรู้สึกอะไรกับเขา เหมือนคนทั่วไปที่แอบรักผู้ชายคนหนึ่ง แต่เขาเป็นคนที่เธอไม่ควรเอื้อมเพราะเขามีคู่หมั้นแล้ว เธอหันหลังและเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันทีคิรินทร์เห็นแผ่นหลังของไข่มุกซึ่งเขาจำใจ จึงผลักลิต้าออกห่าง จนหญิงสาวเซไปด้านหลังจะล้มลงให้ได้ แต่เขาไม่คิดจะห่วงใย“คุณคิน”“ตั้งแต่วันนี้เป็
คิรินทร์โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเสียงดังจนผู้ช่วยเลขาสะดุ้งไปทั้งตัว เธอก้มหน้ามองแฟ้มที่กระเด็นไปเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากตอนที่เข้าประชุมครั้งแรกกับเขา“คุณไม่ดูหรือไงว่าพิมพ์ผิดมาตัวหนึ่งงานง่ายๆ แค่นี้ยังทำพลาด!” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความไม่พอใจ จนทุกคำพูดเหมือนมีมีดคมเฉือนหัวใจของเธอ “ขอโทษค่ะท่านประธาน แต่…” ไข่มุกรีบเงยหน้าขึ้น พยายามควบคุมลมหายใจ เธอกำลังจะอธิบายว่าเธอรับงานนี้มาจากเลขาคนอื่นอีกที แต่คำพูดก็ถูกตัดลงเมื่อเขายกมือขึ้น“ไม่ต้องเถียง! กี่ครั้งแล้วที่คุณทำงานพลาด ผมไม่เลี้ยงคนโง่ๆ ไว้หรอกนะ!” เขาตวาดเสียงเข้ม กำมือแน่นราวกับควบคุมความอดทนจนเกือบขาดไข่มุกกัดริมฝีปากจนเจ็บ เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมาบนหัว แต่ก็ไม่กล้าสบตาเขากลัวว่าจะเห็นเพียงความผิดหวังในสายตาของผู้ชายตรงหน้า “คุณทำงานกับที่นี่มาสามปีเต็มแล้ว ชื่อมหาลัยที่แบกอยู่ก็ไม่ช่วยให้คุณเก่งขึ้นบ้างเลยหรือไง หรือคุณมีสมองเอาไว้ แค่คั่นหูไว้เฉยๆ” “มุกขอโทษค่ะ” เธอก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง “เอาแต่ขอโทษๆ ทั้งวันฝ่ายบุคคลรับคุณเข้ามาเ







