เข้าสู่ระบบสองเดือนที่คิรินทร์ตามหาผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาแทบไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ แต่กลับฝังอยู่ในความคิดไม่เคยหายเขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ในเมื่อเธอไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขา ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย แล้วทำไมเขาถึงต้องอยากเจอ
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนบางอย่างขาดหายไป เขาขมวดคิ้วแน่น มือข้างหนึ่งกำปากกาแน่นจนข้อขาว “บ้าเอ๊ย...” เขาสบถเบาๆ กับตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาเห็นศิวกร ผู้ช่วยคนสนิทยืนรอรายงานอยู่หน้าห้อง “ไปตามผู้ช่วยเลขามาหาฉัน” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม “ครับ ท่านประธาน” ศิวกรรับคำก่อนรีบออกไป ในห้องที่กลับมาเงียบอีกครั้ง คิรินทร์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาทอดมองออกนอกกระจกสูงของตึก เขาไม่มีเบาะแสอะไรเลย ไล่จากกล้องวงจรปิดก็เห็นแค่แผ่นหลังของอีกฝ่าย เสียงอาเจียนดังลอดออกมาจากในห้องน้ำหญิงของบริษัทไข่มุกจับขอบอ่างแน่น พยายามประคองตัวไม่ให้ล้ม ก่อนจะล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อเรียกสติ ใบหน้าของเธอซีดจนแทบไม่มีสีเลือด “ไข่มุกเป็นอะไรไหม” เสียงของเพนนี รุ่นพี่ร่วมแผนกดังขึ้นพร้อมร่างของเธอที่ยื่นทิชชูให้ “ไม่ค่ะ มุกแค่เพลียๆ ช่วงนี้นอนน้อย” เธอฝืนยิ้มบาง “ถ้าไม่สบายอย่าฝืนเลยนะ” เพนนีมองรุ่นน้องอย่างไม่วางตา “พี่เพนมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ท่านประธานเรียกพระวังตัวด้วยนะช่วงนี้ยิ่งทำอะไรไม่เข้าตาอยู่” “ค่ะ มุกจะรีบไปค่ะ” เธอรีบเช็ดหน้าให้แห้ง สูดลมหายใจลึกเพื่อปรับสีหน้าให้ดูปกติ “มุก...” เพนนีเรียกอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องน้ำ “อย่าลืมไปตรวจนะ” “ตรวจอะไรคะ?” เธอขมวดคิ้ว “ก็อาการแบบนี้แหละ เหมือนคนท้องชัดๆ เลย อย่าเครียดนะ เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก” รุ่นพี่ยิ้มแหย คำพูดนั้นทำให้หัวใจของไข่มุกเต้นแรงวูบ เธอเผลอกำมือแน่น ริมฝีปากซีดเผือดกว่าเดิม “มุกขอตัวก่อนนะคะ” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องน้ำ มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของท่านประธาน โดยที่หัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงของไข่มุกแผ่วเบาเมื่อเธอเคาะประตูแล้วก้าวเข้ามาในห้องทำงานขนาดใหญ่ “ผมเป็นเจ้านายจะเรียกใช้ไม่ได้หรือไง เมื่อไหร่คุณจะฉลาดขึ้นมาบ้าง” น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแรงกดดัน ทำให้เธอรีบก้มหน้ารับคำ คำพูดนั้นเหมือนมีคมแทงเข้าไปในใจเธอโดยไม่ต้องตะโกนแม้แต่น้อย “มุกขอโทษค่ะ” “คุณเลิกงานกี่โมง?” เขาถามต่อโดยไม่เงยหน้า “5 โมงค่ะ” เธอตอบเสียงเบา พลางบีบมือตัวเองแน่นเพื่อระงับความประหม่าที่ไม่รู้สาเหตุ “ไปช่วยเลือกของขวัญเป็นเพื่อนผมหน่อย” “ทำไม” ไข่มุกเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความงุนงง “ผมจ้างเป็น OT แล้วกันรีบตามมา” เขาลุกขึ้นจากโต๊ะสูดลมหายใจเบาๆ ก่อนหยิบเสื้อสูทจากพนักเก้าอี้ ภายในร้านจิวเวลรี่ชื่อดังกลางห้างหรู แสงไฟส่องกระทบกับเพชรนับร้อยเม็ดระยิบระยับจนเกือบแสบตา ไข่มุกยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ท่านประธานร่างสูงในสูทสีเข้มดูสง่างามจนพนักงานในร้านแทบกลั้นหายใจ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาอย่างเคารพและหลงใหล แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บแปลบ เมื่อเห็นเขาหยุดมองแหวนเพชรในตู้โชว์อยู่นาน “ท่านประธานจะขอคนรักแต่งงานเหรอคะ?” เสียงเธอเบาแผ่ว แทบกลืนไปกับเสียงเพลงคลอในร้าน “คิดว่ายังไงล่ะ ช่วยผมเลือกหน่อยสิ” คิรินทร์เหลือบมองเพียงแวบเดียว ก่อนเอ่ยเรียบๆ “ท่านประธานพาว่าที่เจ้าสาวมาเลือกเองไม่ดีกว่าเหรอคะ” ไข่มุกพยายามยกยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ตีขึ้นในอก “ผมให้คุณช่วยเลือก ก็เลือกเถอะอย่าถามมาก” เขาขมวดคิ้วทันที “วงนั้นค่ะ เรียบหรูดูมีระดับ เหมาะกับท่านประธานดีค่ะ” เสียงเข้มของเขาทำให้เธอต้องเม้มปากแน่น ฝืนยกมือชี้ไปยังแหวนวงหนึ่งในตู้โชว์ คิรินทร์มองตามสายตาเธอไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าให้พนักงานจัดการ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นแววตาเศร้าของเลขาสาวที่รีบหันหนี “ถ้าไม่มีอะไรแล้วมุกขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอกล่าวเบาๆ ก่อนจะโค้งลาและเดินออกจากร้านไปโดยไม่รอคำตอบ คิรินทร์มองตามแผ่นหลังบางที่หายลับไปในฝูงคน ใจเขาแปลบวูบโดยไม่เข้าใจสาเหตุ ระหว่างทางกลับที่พักไข่มุกแวะร้านขายยา เธอยืนลังเลอยู่หน้าชั้นวางยาลังเลว่าจะซื้อสิ่งที่ต้องการดีหรือไม่ ภายในหัวใจก็กังวล “รับอะไรดีคะ” “เอ่อ ขอที่ตรวจครรภ์ค่ะ” “นี่ค่ะ” เภสัชแนะนำวิธีใช้ หญิงสาวรีบจ่ายเงินแล้วออกมา เช้าวันใหม่อากาศขมุกขมัวเหมือนอารมณ์ของเขา คิรินทร์มาถึงออฟฟิศเร็วกว่าทุกวัน ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้หลับ เขาอ้างกับตัวเองว่าอยากจัดการเอกสารค้างไว้ให้เสร็จ แต่ความจริง เขาแค่อยากเห็นหน้าผู้ช่วยเลขาแสนซื่อของเขาอีกครั้ง แต่พอเดินเข้ามาในห้องทำงานเงียบจนแปลกตา ไม่มีเสียงหญิงสาวทักทายเหมือนทุกวัน ไม่มีรอยยิ้มจืดๆ ที่เขามักแอบมองเวลาหงุดหงิด “ลูกน้องนายไปไหน” “ไข่มุกเหรอครับฝ่ายบุคคลบอกว่าลาป่วย” “ขอบคุณ” ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดเพียงเท่านั้นก่อนหันกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เอกสารกองโตตรงหน้าไม่ช่วยให้เขามีสมาธิได้เลย เขาพยายามไล่สายตาอ่านทีละแผ่น แต่ในหัวกลับมีแต่ภาพของหญิงสาวคนนั้น ภายในห้องตรวจสีขาวสะอาด เสียงเครื่องอัลตราซาวด์ดังเบาๆ คลอไปกับจังหวะหัวใจเล็กๆ ที่เต้นถี่รัวอยู่บนหน้าจอ “คุณแม่เห็นไหมคะ หัวใจน้องเต้นแล้ว” คุณหมอยิ้มพลางขยับหัวตรวจไปมา ไข่มุกนอนนิ่งบนเตียง ความรู้สึกมากมายตีวนอยู่ในอกทั้งตกใจ สับสน เธอไม่คิดเลยว่าความผิดพลาดเพียงคืนเดียวจะพาเธอมาถึงจุดนี้ “...” “โอ๊ะ” “อะไรคะ” ไข่มุกรีบถามเสียงสั่น เธอกลัวจนปลายนิ้วเย็นเฉียบ “หัวใจอีกดวง คุณแม่เห็นไหม” คุณหมอเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างแผ่วเบา “คะ?” เธอเบิกตากว้างมองจอภาพจุดเล็กๆ อีกจุดหนึ่งที่เต้นอยู่ข้างๆ อย่างชัดเจน หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก “คุณแม่กำลังจะมีลูกแฝดค่ะ” เสียงคุณหมอนุ่มนวล แต่กลับดังชัดในหูจนไข่มุกน้ำตาคลอ เธอยกมือแตะหน้าท้องเบาๆ ไข่มุกกลับมานอนพักต่อบนเตียง ร่างกายยังอ่อนแรง แต่สมองกลับยุ่งเหยิงเต็มไปหมด เธอไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี พ่อของลูกเธอมีคนรักอยู่แล้ว และการต้องเลี้ยงเด็กสองคนเพียงลำพังไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับหญิงสาวที่ฐานะไม่มั่นคง เสียงมือถือดังขึ้นทำให้หัวใจเธอเต้นวูบหนึ่ง “ไข่มุกพูดค่ะ” เธอรับสายด้วยความระวังเบอร์แปลกที่ไม่เคยเจอมาก่อน “ผมเอง” “ท่านประธาน! เอาเบอร์มุกมาจากไหนคะ” เสียงทุ้มคุ้นหู แต่เธอก็ยังช็อกอยู่ “อย่าทำเป็นไม่รู้ ผมเป็นใครคุณลืมไปแล้วเหรอ” “มีอะไรคะ วันนี้มุกลาป่วยนะ” เธอกัดฟันแน่นใจเต้นแรง “คุณป่วยเป็นอะไร แล้วจะมาทำงานวันไหนรู้ไหมว่าลางานบ่อยๆ มันไม่ดี” เสียงเขาเรียบ แต่กลับแฝงแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้เธอสะดุ้ง เธอรับรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้ตำหนิ แต่กลับเป็นแบบที่ คนอื่นอาจเข้าใจผิด “พรุ่งนี้ค่ะ อีกอย่างมุกป่วยก็มีสิทธิ์ลาตามกฎหมายนะ ถ้าโทรมาเรื่องแค่นี้มุกขอตัดสายเลยค่ะ” ไข่มุกกดวางสายทันทีใจเต้นแรง รู้สึกทั้งโมโหและสับสนที่เขายังตามเธอไม่เลิก เธอทิ้งมือถือบนเตียงมือสั่นเล็กน้อย และร้องไห้ออกมาเพราะยังหาทางออกกับปัญหานี้ไม่ได้หนึ่งปีผ่านไปครอบครัวของคิรินทร์และไข่มุกยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม ลูกๆ ทั้งสามโตขึ้นเป็นเด็กซนแต่แสนรู้ ส่วนวายุ ลูกคนนั้นดื้อไม่แพ้พี่ชายเลย เล่นเอาคนเป็นพ่อแทบกุมขมับเช้าวันเสาร์สายลมต้องไปเรียนเต้น ไข่มุกไม่ได้บังคับลูก แต่เพราะลูกสาวอยากไป เธอจึงได้แต่สนับสนุนและตามใจ“ทำไมต้องรีบไปด้วยคะ” เธอถามลูกเสียงนุ่ม“สายลมนัดเจเจไว้ค่ะ” สายลมตอบด้วยตาเป็นประกาย“เด็กหนุ่มตัวขาวๆ ใช่ไหม” ไข่มุกนึกขึ้นได้ทันที เธอจำได้ว่าเคยเจอกันครั้งหนึ่ง“ใช่ค่ะ แม่อย่าบอกพ่อนะคะ เดี๋ยวพ่อดุว่าสายลมคบแต่เพื่อนผู้ชาย” สายลมยิ้มเจ้าเล่ห์“ได้ค่ะ แม่จะเก็บเป็นความลับของเราเอง” เธอหัวเราะเบาๆ พลางลูบหัวลูกสาว“ปล่อยลูกไปหาผู้ชายอีกแล้วนะ!” คิรินทร์ได้ยินทุกอย่าง เขาแทบรับไม่ได้ที่ลูกสาวตัวน้อยมีเพื่อนผู้ชาย“คุณคินสายลมเพิ่งจะกี่ขวบเองเขายังไม่เข้าใจความรักหรอกค่ะ” ไข่มุกอมยิ้ม เอ็นดูสามีไม่น้อย“เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมวิ่งตามผู้ชายแบบนี้ล่ะ” เขาหวงลูกสาวเพียงคนเดียว“ทีลูกชายของคุณยังวิ่งตามผู้หญิงเลยนะคะ” เธอว่า พลางคิดถึงความซนและพฤติกรรมแสบๆ ของลูกชายแต่ละคน“นั่นผู้ชายแต่สายลมเป็นผู้หญิง” “เขานิสัยเห
วายุ กฤตเมธานนท์ ลูกชายคนเล็กของคิรินทร์กับไข่มุกลืมตาดูโลกครบหกเดือนแล้ว และตั้งแต่วันนั้นชีวิตของท่านประธานบริษัทหมุนกลับด้านทันที เพราะเขาดันสัญญากับเมียว่าจะเลี้ยงลูกเอง และไข่มุกก็เห็นดีเห็นงามด้วยทุกเช้าแทบไม่ได้พัก เขาต้องตื่นมาแต่งตัวให้สามแฝดไปโรงเรียนไหนจะต้องอุ้ม และเล่นกับวายุที่ติดพ่อเป็นแม่เหล็ก พอหันกลับไปดูตัวเองในกระจกก็แทบจำไม่ได้ภาพท่านประธานผู้สง่างามหายไป เหลือเพียงพ่อบ้านหัวฟูผู้มีแพมเพิสและขวดนมเป็นอาวุธประจำตัวเท่านั้นหมดความเป็นท่านประธานโดยสมบูรณ์จริงๆคิรินทร์ที่เพิ่งอุ้มวายุ เดินผ่านมาอย่างเงียบขรึมวันนี้ไข่มุกจะไปทำผม เขาเลยพาลูกชายมาทำงานด้วย แต่ประโยคที่ลอยเข้าหูทำให้ก้าวชะงัก“อิจฉาน้องไข่มุกจังเลย วาสนาดีมาก”“นั่นสิ ไม่รู้ไปรักกันตอนไหน”“น้องมุกสวยขนาดนั้น ไม่แปลกที่ท่านประธานจะชอบ”เสียงหัวเราะคิกคักดังเบาๆ ทั้งสามสาวเอียงตัวเข้าหากันอย่างเมามัน โดยไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังถูกพูดถึงยืนอยู่ด้านหลัง“ดูท่านประธานรักภรรยามากนะคะ”“พาลูกมาทำงานด้วยเกือบทุกวันใครบ้างจะไม่อิจฉา”ชายหนุ่มเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนกระแอมหนึ่งครั้ง สามสาวหันกลับมาช้าๆ เหมือนหน
ที่ห้องรับรองผู้ปกครอง คิรินทร์แทบสำลักลมหายใจของตัวเองเมื่อได้ยินคุณครูเล่าถึงพฤติกรรมของลูกชายให้ฟัง หากไข่มุกรู้เข้าคงปวดหัวน่าดู“ลูกคุณคิรินทร์แอบไปหอมแก้มน้องข้าวหอมค่ะ”เขาหันขวับไปมองเจ้าตัวการ เด็กชายตัวกลมแก้มแดงนั่งห้อยเท้าแกว่งไปมา ดวงตากลมแป๋วใสซื่อราวกับไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไร“ทะเลทำไมทำแบบนั้นครับ” เสียงพ่อเข้มขึ้นเล็กน้อย “ทำไมเหรอครับ ก็น้องน่ารัก” ทะเลยิ้มกว้าง “ตัวแค่นี้รู้แล้วเหรอว่าอะไรน่ารัก” คิรินทร์ขมวดคิ้ว “พ่อพ่อพูดกับแม่ว่าน่ารัก ต้องจุ้บแก้ม” เด็กชายพยักหน้าเอาชนิดมั่นใจสุดชีวิตห้องประชุมเงียบสนิท ก่อนคุณครูจะกลั้นขำแทบไม่อยู่ ชายหนุ่มถึงกับเอามือกุมหน้า ซวยแล้วโดนลูกจับโป๊ะต่อหน้าคุณครูประจำชั้น“เรื่องนี้เราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน” “งั้นทะเลต้องแต่งงานกับน้องข้าวหอมก่อนเหรอครับ” ทะเลกะพริบตาปริบๆ เคยได้ยินพ่อกับแม่คุยกันว่าแตะตัวเพศตรงข้ามต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน “ยังไม่ต้องแต่ง ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนเข้าใจไหมครับ” หน้าเริ่มแดงจนหูร้อน “ครับพ่อพ่อ แต่ทะเลยังรักน้องอยู่นะ” เด็กชายยิ้มกว้าง
หลังจากงานแต่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี ข่าวดีที่ทำให้ทั้งบ้านแตกตื่นก็มาถึงไข่มุกตั้งท้องอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนเลยสักนิดหญิงสาวแพ้ท้องหนักจนแทบลุกจากเตียงไม่ได้ ทุกเช้าเธออาเจียนจนไม่มีแรง พอกลิ่นอาหารแตะจมูกก็มวนท้องจนต้องหลับตากัดฟันกลั้นน้ำตา คิรินทร์ที่เห็นแบบนั้นหัวใจแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ เขานั่งข้างเตียงตั้งแต่เช้ามืด ลูบผมภรรยาอย่างเบามือ“ไข่มุกคุณไหวไหม” เสียงเข้มของเขาอ่อนลงอย่างน่าสงสาร“มุกไหวค่ะ” เธอพูดได้แค่นั้น ก่อนทิ้งตัวนอนซบหมอนอย่างหมดแรงคิรินทร์กำมือแน่นทุกครั้งที่เธออาเจียน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนทำร้ายเธอ“เราไปหาหมอกันดีกว่า ฝืนแบบนี้ไม่ดีเลยนะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงร้อนใจ“แค่แพ้ท้องเองค่ะ” ไข่มุกตอบเบาๆ แต่ภายในใจเธอก็เริ่มกังวลเหมือนกันท้องนี้ เหนื่อยและหนักกว่าตอนอุ้มท้องเจ้าสามแฝดหลายเท่าทำเอาชายหนุ่มยิ่งรู้สึกผิดจนแทบทนไม่ไหว เขาโน้มตัวลง ลูบหน้าท้องของเธออย่างทะนุถนอม“อย่าดื้อนะครับคนเก่ง แม่เขาเหนื่อยลูกต้องอ่อนโยนกับแม่หน่อยนะครับ” เสียงของเขาอ่อนโยนมาก เขาก้มลงหอมหน้าท้องเบาๆเหมือนกำลังขอโทษทั้งแม่ทั้งลูก“ถ้าคุณยังแพ้หนักแบบนี้ ครั้งนี้ผมจ
ทันทีที่ประตูห้องผู้ป่วยเปิดออก เสียงเจี๊ยวจ้าวของสามแฝดก็ดังลั่นราวกับพายุลูกเล็กๆ ถาโถมเข้ามาในห้อง เห็นแม่นอนแบบนั้นสงสัย“แม่เป็นอะไรฮะ!”“แม่เจ็บตรงไหน!”“เจ็บมากไหมแม่!”ทั้งธารา ทะเล และสายลมถามซ้ำไปมาไม่หยุดจนไข่มุกแทบตอบไม่ทัน ได้แต่ยิ้มอ่อนปลอบลูกให้สบายใจ“แม่ไม่เป็นไรค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย อ๊ะ เดี๋ยวก่อนลูก”ยังไม่ทันจบประโยค เด็กทั้งสามก็พยายามปีนขึ้นเตียงเหมือนคิดว่าได้กอดแม่แล้วอาการจะหาย แต่คิรินทร์รีบเข้ามาห้ามเด็กๆ นั้นไว้ก่อน“ช้าๆ ครับ แม่ยังเจ็บอยู่ ห้ามปีนขึ้นเตียงนะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่จริงจัง มือใหญ่แตะหัวลูกทีละคนอย่างปลอบโยนสามแฝดหยุดทันที ดวงตากลมใสจ้องแม่อย่างเป็นห่วง ก่อนจะค่อยๆ ยืนเรียงกันข้างเตียงมือเล็กๆ เอื้อมไปแตะหลังมือแม่เบาๆ ราวกับกลัวทำเธอเจ็บมากกว่าเดิม“พวกหนูจะไม่ทำแม่เจ็บ” สายลมกระซิบเสียงแผ่ว“ธาราจะเฝ้าแม่ทั้งวันเลย”“ทะเลจะเป็นลูกผู้ชายเข้มแข็ง”ไข่มุกหัวเราะใจอบอุ่นจนล้นอก ส่วนคิรินทร์ยืนมองภาพตรงหน้า และรู้ทันทีว่าต่อให้เจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหน ครอบครัวนี้ก็จะผ่านมันไปด้วยกันเสมอ“แม่จ๋า” สายลมยังจำภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมา “คุณคินอ
คิรินทร์จับมือไข่มุกไว้แน่นราวกลัวว่าเธอจะหายไป หมอแจ้งว่าไม่มีอันตราย กระสุนถูกตำแหน่งที่ไม่สำคัญ แต่สำหรับเขาแค่เธอเจ็บนิดเดียวก็รับไม่ได้แล้ว“ไข่มุกผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว” เขาพูดแผ่วเบา เสียงสั่นด้วยความรู้สึกผิดหญิงสาวยังไม่รู้สึกตัวเพราะฤทธิ์ยาสลบ นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง ส่วนลูกๆ เขาให้พี่เลี้ยงมาช่วยดูแลไว้ในคืนนี้ เพื่อให้มีเวลาเฝ้าเธออยู่ตรงนี้ไม่คิดจะไปไหนทั้งนั้นแอรีสจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก่อนรีบตามมาที่โรงพยาบาลทันที“ไอ้คิน…” เขาเรียกเพื่อนเบาๆ“ไข่มุกปลอดภัยดี” คิรินทร์ตอบน้ำเสียงยังสั่นคลอน“ฉันขอโทษที่พ่อกับน้องสาวของฉัน” แอรีสเม้มปาก“ไม่ต้องรู้สึกผิดแอรีส แกไม่ใช่พวกเขา แกคือเพื่อนของฉัน” คิรินทร์หันไปสบตาเพื่อนแน่นหนัก“ลิต้าฉันให้แกจัดการ” เขาไม่ได้รู้สึกผูกพันกับสองพ่อลูกนั่นอยู่แล้ว เรียกว่าไม่ถูกกันเลยก็ได้แอรีสออกมาสร้างบริษัทของตัวเองโดยมีคิรินทร์คอยช่วยเหลือ“ส่งให้ตำรวจซะ หากฉันจัดการเองคงเป็นศาลเตี้ยเท่านั้น” เขาเห็นแก่ที่อเล็กซ์เคยสร้างบริษัทมาพร้อมกัน เลยส่งให้ตำรวจจัดการ“นายพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้จะได้มีแรง”“นายอย่าคิดมากนะ”พอแอรีสออกไปชา







![ความลับประธานหม้าย [20+ Soft BDSM]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)