Share

บทที่ 361

Author: มาแล้วก็อยู่ต่อเถอะ
เจียงหวนมองลี่เฟยอย่างไม่สะทกสะท้าน ไร้ซึ่งแววตื่นตระหนก

ถึงอย่างไรในห้องหนังสือของฝ่าบาทก็มีภาพอักษรมากมายขนาดนั้น หาภาพอักษรที่ลายมือหวัดๆ สักรูปมาหลอกนางก็ได้

อย่างไรเสียอักษรแบบหวัด เมื่อเขียนแล้วก็ล้วนมีลายเส้นราวกับมังกรที่กำลังทะยานขึ้นฟ้า และหงส์ไฟที่กำลังร่ายรำ

หากนางกล้าสงสัย ก็เท่ากับยอมรับว่าตนเองไร้รสนิยม

ทุกคนมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

ปรมาจารย์ด้านพู่กันในรัชสมัยก่อน? ดูเหมือนเรียบง่ายทว่ายอดเยี่ยม? พูดเล่นหรือเปล่า?

อักษรของเหอหลิงเหมือนยันต์ไล่ผีไม่มีผิด ต่างจากคำว่าเรียบงายทว่ายอดเยี่ยมไกลโขทีเดียว

ทว่าเจียงหวนกลับพูดอย่างมั่นใจถึงเพียงนี้ ซ้ำยังนำฮ่องเต้องค์ก่อนมากล่าวอ้างอีก ใครจะกล้าคัดค้านว่าไม่มีอยู่จริงอีก?

รอยยิ้มบนใบหน้าของลี่เฟยแข็งทื่อไปทันที นางเห็นท่าทีไม่ยี่หระของเจียงหวน รู้สึกราวกับไฟโทสะลุกไหม้ไปถึงหน้าผาก แต่กลับไม่อาจระบายออกมาได้

นางแพศยาคารมคมหอก เรียบง่ายทว่ายอดเยี่ยมอันใดกัน? เห็นได้ชัดว่านางกำลังพูดจาเหลวไหล!

น่าชังนัก กลับถูกนางตอกกลับจนพูดไม่ออกเสียได้

ลี่เฟยกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เล็บมือแทบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือแล้ว

นางสูดหา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 364

    ดีเหลือเกิน หลี่กูกู่ตัวดี จวงเฟยตัวดี อาศัยว่ามีฝ่าบาทคอยหนุนหลัง กล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้หากไม่ให้บทเรียนแก่จวงเฟยสักหน่อย นางจะไม่เห็นว่าตนเองเป็นคนที่รังแกได้ง่ายๆ หรอกหรือลี่เฟยสูดหายใจลึกๆ จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆนางข่มกลั้นไอสังหารที่แทบจะพวยพุ่งออกมาอย่างสุดความสามารถ จากนั้นก็ประดับรอยยิ้มที่ดูราวกับหน้ากากไว้บนใบหน้า ก่อนจะหันไปทางเจียงหวน“น้องสาวจวงเฟยช่างมีวาสนานัก” เสียงของลี่เฟยแฝงแววประชดประชัน “มีผู้อาวุโสที่จงรักภักดีอย่างหลี่กูกู่คอยปกป้องอยู่ข้างกาย มิน่าเล่าน้องสาวถึงได้ใช้ชีวิตในวังหลวงได้อย่างราบรื่นเช่นนี้”นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนหันไปยกน้ำชาที่วางอยู่ข้างมือขึ้นมาจิบหนึ่งคำ เพื่อระงับไฟโทสะข้างใน“แต่หากจะพูดถึงบุญวาสนา ย่อมหนีไม่พ้นฝีมือทำอาหารอันยอดเยี่ยมของน้องสาว”“วันนี้เหล่าพี่น้องมีโอกาสได้มารวมตัวกันอย่างหาได้ยาก และทุกคนก็ได้คัดลอกพระคัมภีร์จนเหน็ดเหนื่อยแล้ว มิสู้น้องสาวแสดงฝีมือทำกับแกล้มที่ถนัดสักสองสามอย่างให้ทุกคนได้ลองชิมดูหน่อยเป็นอย่างไร? เหล่าพี่น้องจะได้อาศัยบารมีของน้องสาวบ้าง?”ครั้นเอ่ยวาจานี้ออกไป บรรยากาศในตำหนักแปรเ

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 363

    หลี่กูกู่ดุดันน่าเกรงขาม สีหน้าเคร่งเครียด กดดันจนนางสนมกลุ่มนั้นหน้าซีดเผือดนางตวัดสายตาดุจสายฟ้ามองไปยังเฉินกุ้ยเหริน รวมถึงสนมยศฉางไจ้ และตาอิ้งที่กล่าววาจาว่าร้ายเจียงหวนเมื่อครู่ทุกคนที่ถูกนางตวัดสายตามอง ล้วนหดคอและหลบเลี่ยงสายตาของนางโดยสัญชาตญาณหลี่กูกู่กลับไม่คิดจะปล่อยพวกนางไป นางก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จ้องมองไปที่เฉินกุ้ยเหริน“เฉินกุ้ยเหริน เมื่อครู่ท่านบอกว่ากวาดเรียบทั้งชายและหญิงใช่หรือไม่?”เฉินกุ้ยเหรินถูกขานชื่อ หน้าซีดเผือดเล็กน้อย นางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อยว่า “ขะ… ข้าเพียง… ข้าเพียงแต่เลอะเลือนไปชั่วขณะ…”นางพูดผิดพูดถูก เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผากในพริบตา“ยังมีท่านอีก หลี่ฉางไจ้”หลี่กูกู่หันไปมองด้านข้าง “กลางวันแสกๆ จับเนื้อต้องตัวกัน ไร้มารยาท? วาจานี้ท่านเป็นคนกล่าวกระมัง?”หลี่ฉางไจ้ตกใจตัวสั่น ผ้าเช็ดหน้าในมือถึงกับหลุดร่วง นางรีบโบกมือปฏิเสธ“ปะ… เปล่า… กูกู่หูฝาดแล้ว…”“หูฝาดหรือ?” หลี่กูกู่ยิ้มเย็น ตวัดสายตามองไปที่เหล่านางสนมที่หัวเราะเยาะเจียงหวนเมื่อครู่“พวกท่านเล่า เมื่อครู่ปิดปากหัวเราะอันใดกัน? พูดออกมาให้บ่าวฟังหน่อยเถิด

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 362

    เจียงหวนย่อมได้ยินคำพูดประชดประชันของเวินอี้หลินอยู่แล้ว ได้แต่ทอดถอนใจกับตนเองที่เวินอี้หลินทำไม่ต่างอะไรจากโจมตีไม่เลือกหน้า นางกลัวว่าโลกจะสงบสุขเกินไปหรืออย่างไรแต่ละวัน หากไม่เอ่ยวาจายุแยงตะแคงรั่วสักสองสามประโยคคงจะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจับนางไปขายให้คณะงิ้วแสดงเป็นหญิงปากมากที่ชอบยุแยงตะแคงรั่วเสียเลย ให้นางแสดงความสามารถของตนออกมา รับรองว่าดังระเบิดแน่นอนเจียงหวนขี้คร้านจะสนใจเวินอี้หลิน คนประเภทนี้ ยิ่งพูดก็ยิ่งเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้นางคิดได้ดังนั้น เจียงหวนจึงหันไปมองเหอหลิงที่กำลังมุ่งมั่นกับการเขียนพู่กันอยู่ข้างๆท่าทางจับพู่กันของเหอหลิงยังคงแข็งทื่อจนทนมองไม่ได้ ข้อมือลอยอยู่กลางอากาศ เกร็งนิ้วจนข้อต่อซีดขาว เขียนอักษรเพียงไม่กี่คำก็เหนื่อยจนแทบหอบแล้วเจียงหวนเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า นางจึงวางพู่กันของตนเอง และขยับไปข้างๆ เหอหลิง“ข้อมือของเจ้าแข็งเกินไปแล้ว ยามเขียนอักษรต้องผ่อนคลายหน่อย”ขณะเอ่ย นางยื่นมือไปวางบนหลังมือของเหอหลิงที่กำลังถือพู่กันอย่างเป็นธรรมชาติเหอหลิงตะลึงจนพูดไม่ออก[กรี๊ดๆๆ พระสนมจวงเฟยแตะมือฉันแล้ว][มือของนางนิ่มจังเลย ลื่น

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 361

    เจียงหวนมองลี่เฟยอย่างไม่สะทกสะท้าน ไร้ซึ่งแววตื่นตระหนกถึงอย่างไรในห้องหนังสือของฝ่าบาทก็มีภาพอักษรมากมายขนาดนั้น หาภาพอักษรที่ลายมือหวัดๆ สักรูปมาหลอกนางก็ได้อย่างไรเสียอักษรแบบหวัด เมื่อเขียนแล้วก็ล้วนมีลายเส้นราวกับมังกรที่กำลังทะยานขึ้นฟ้า และหงส์ไฟที่กำลังร่ายรำหากนางกล้าสงสัย ก็เท่ากับยอมรับว่าตนเองไร้รสนิยมทุกคนมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยปรมาจารย์ด้านพู่กันในรัชสมัยก่อน? ดูเหมือนเรียบง่ายทว่ายอดเยี่ยม? พูดเล่นหรือเปล่า?อักษรของเหอหลิงเหมือนยันต์ไล่ผีไม่มีผิด ต่างจากคำว่าเรียบงายทว่ายอดเยี่ยมไกลโขทีเดียวทว่าเจียงหวนกลับพูดอย่างมั่นใจถึงเพียงนี้ ซ้ำยังนำฮ่องเต้องค์ก่อนมากล่าวอ้างอีก ใครจะกล้าคัดค้านว่าไม่มีอยู่จริงอีก?รอยยิ้มบนใบหน้าของลี่เฟยแข็งทื่อไปทันที นางเห็นท่าทีไม่ยี่หระของเจียงหวน รู้สึกราวกับไฟโทสะลุกไหม้ไปถึงหน้าผาก แต่กลับไม่อาจระบายออกมาได้นางแพศยาคารมคมหอก เรียบง่ายทว่ายอดเยี่ยมอันใดกัน? เห็นได้ชัดว่านางกำลังพูดจาเหลวไหล!น่าชังนัก กลับถูกนางตอกกลับจนพูดไม่ออกเสียได้ลี่เฟยกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เล็บมือแทบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือแล้วนางสูดหา

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 360

    [พระสนมจวงเฟยช่วยฉันมาหลายหน ฉันก็จะช่วยพระสนมเหมือนกัน]ลี่เฟยถูกหลี่กูกูและเหอหลิงช่วยกันพูด คนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับเช่นนี้ ก็ทำเอาลมหายใจติดขัด สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้แต่ระงับเพลิงโทสะแล้วฝืนยิ้มออกมา“เมื่อเป็นเช่นนั้น น้องสาวก็รีบนั่งลงเถิด หลี่กูกูกล่าวได้ถูกต้อง การปรนนิบัติฝ่าบาทย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”เจียงหวนคร้านจะสนใจลี่เฟย ภายใต้การประคองของเสี่ยวเจา นางรีบเดินไปนั่งลงในตำแหน่งที่เหลือไว้ให้นางทันที ตำแหน่งนั้นอยู่ข้างเหอหลิงพอดี“ขอบใจเจ้า” เจียงหวนส่งสายตาให้เหอหลิง พร้อมพูดเบาๆ ขณะนั่งลงเหอหลิงที่ได้รับคำขอบคุณยินดีจนลนลาน รีบโบกมืออย่างรวดเร็ว เสียงเบาราวกับยุง“อ่า...อ่า พระสนมทรงเกรงใจเกินไปแล้วเพคะ”แม้ปากของเธอจะพูดแบบนั้น แต่ในใจกลับเบิกบานจนแทบจะมีดอกไม้บานแล้ว[ฉันได้รับรอยยิ้มจากเทพธิดาด้วย พลังรุนแรงเหลือเกิน!]การคัดลอกพระสูตรเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ภายในตำหนักเหลือเพียงเสียงพู่กันดังขวับๆเจียงหวนฝืนทำตัวเองให้แจ่มใส หยิบพู่กันขึ้นมา พยายามรวบรวมสมาธิแล้วเริ่มคัดลอกจนใจที่ปวดเอวปวดหลัง นั่งนานแล้วยิ่งรู้สึกไม่สบาย จนนา

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 359

    ฮั่วหลินประคองเจียงหวนไว้อย่างมั่นคง เมื่อเห็นนางสูดปากด้วยความเจ็บปวด คิ้วก็ขมวดแน่นเขาส่งเสียงออกไปด้านนอกอย่างเคร่งขรึม “หวังเต๋อกุ้ย!”หวังเต๋อกุ้ยรับคำ แล้วเดินเข้ามาน้อมกายรอรับคำสั่ง“ให้หลี่กูกูเข้ามารับใช้” ฮั่วหลินสั่ง แล้วกล่าวเสริมว่า “ให้นางไปร่วมการคัดลอกพระสูตรกับจวงเฟยด้วย ให้คอยดูแลให้ดี หากมีผู้ใดกล้าละเลย ให้รายงานเราทันที”เมื่อเจียงหวนได้ยิน ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นมาสามส่วนนางจำหลี่กูกูคนนั้นได้เป็นอย่างดีเลยล่ะตอนที่ยังไม่ได้ย้ายมาตำหนักเว่ยยาง อวี๋ผินคิดฉวยโอกาสสร้างความลำบากให้นาง เป็นหลี่กูกูคนนี้แหละ ที่ตีหน้าเคร่ง ใช้กฎของวังมางัดจนอวี๋ผินพูดไม่ออก และช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้นางบรรยากาศรอบตัวนั่น ท่าทางเหมือนปกป้องลูกอ่อนนั่น เปรียบดั่งแสงสว่างในตอนนั้นของนางเลย“พ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” หวังเต๋อกุ้ยรับบัญชาแล้วถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลี่กูกูก็เดินเข้ามาสายตาของนางมุ่งตรงไม่ล่อกแล่ก คารวะฮั่วหลินและเจียงหวนอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียม“บ่าวถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรพระสนมจวงเฟยเพคะ”“ไม่ต้องมากพิธี” ฮั่วหลินพยักหน้า “หวังเต๋อกุ้ยแจ้งทุกอย่างกับเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status