อ้อนรัก 5
(หมูหวาน)
เรื่ิองราวเมื่อสองคืนก่อน
“เฮ้ย หมูหวานเบาๆหน่อย เหล้านะเว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า”
ดาด้าดึงแก้วเหล้าสีใสออกจากมือฉัน
“มึงเป็นอะไรวะหมูหวาน”
บีจับตัวฉันให้หมุนหาพวกมันก่อนจะถามขึ้นโดยมีดาด้าคอยจ้องคาดคั้นคำตอบอีกคน
“เฮ้อ มึงว่าการทำให้มาเฟียพอใจมันมีวิธีไหนบ้างวะ”
“ห๊ะ !!!? มึงหมายถึง ทำให้มาเฟียหลงรักนะหรอ”
“ไม่ ไม่ใช่แค่ทำให้เขาพอใจก็พอ”
ฉันรีบโบกมือปฏิเสธรัวเร็ว หลงเริง หลงรักอะไรกันแค่ทำให้เขาพอใจเพื่อต้องการร้านคืนแค่นั้นแหละ
“มึงมีอะไรปิดบังพวกกูรึเปล่า”
เป็นอีกครั้งที่เพื่อนตัวดีของฉันจ้องมาทางฉันอย่างจับผิด
“เอาเหอะน๊า ตกลงจะช่วยคิดรึเปล่าเนี่ย”
“เออๆ ถ้ามึงอยากให้เขาพอใจ อันดับแรก มึงต้องรู้จักดูแลเขา”
และนั่นของคือเหตุผลที่ตอนนี้ฉันกำลังยืนถือของในมือพะรุงพะรังอยู่หน้าบ้านของภาคิน
ในตอนแรกที่มาถึง ฉันคิดจะถอยหลังกลับแทบทันทีเมื่อเห็นลูกน้องหน้าโหดหลายสิบคนเดินไปมาทั่วบ้านแต่โชคดีที่เจอเก้าเสียก่อน
“นี่แหละบ้านเฮียภาคิน ยาหยีเข้าไปได้เลยนะ”
“อ้าว แล้วมึงล่ะ”
ฉันรีบรั้งแขนเพื่อนสนิทไว้ ตอนแรกมันก็ทำท่าไม่เห็นด้วยที่ฉันจะเข้ามาแต่พอฉันอธิบายถึงเหตุผล มันก็จะทิ้งฉันไปดื้อๆแบบนี้นี่อะนะ
“กูต้องไปรับน้องกิ๊ฟครับ”
“แต่มึงเป็นเพื่อนกูนะ”
ฉันพยายามส่งสายตาอ้อนวอนไปให้เก้า
“ไม่ว่าง ไปล่ะ อ๋อ อีกอย่างถ้าจะทำให้เฮียพอใจ ทำอะไรที่มีมะเขือเทศนะ เฮียชอบ >_<“
เก้าว่าพลางขยิบตาอย่างน่ารักก่อนจะรีบวิ่งออกไปทิ้งให้ฉันยืนเคว้งคว้างอยู่หน้าบ้านอย่างโดดเดี่ยว
บริเวณบ้านภาคินกว้างมาก กว้างพอที่จะสร้างโรงเรียนได้เลยล่ะ และในบริเวณบ้านก็จะมีบ้านหลายหลังอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน แบ่งกันเป็นสัดเป็นส่วน
“เอาวะ หมูหวานเพื่อร้านขนมไทยในฝัน”
หลายคนอาจจะคิดว่า ทำไมแค่ร้านขนม ร้านเดียว ฉันถึงยอมทำขนาดนี้
ขอบอกตรงๆว่าฉันรักร้านนั้นมากและฉันอยากเปิดมันต่อตอนเรียนจบ ฉันเลยต้องทำทุกทางเพื่อให้ได้มันกลับมา
“ดีนะ วันนี้เตรียมจะมาทำสปาเก็ตตี้พอดี ถ้าเขาชอบมะเขือเทศ ทำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศดีกว่า”
ฉันคุยกับตัวเองหลังจากเอาทุกอย่างที่ให้แม่บ้านซื้อมา เทลงบนโต๊ะในครัว
“เริ่มจากอะไรก่อนวะ ต้มเส้น ใช่ต้องต้มเส้น”
หมุนซ้าย หมุนขวา นั่นไงหม้อ จากนั้นก็เอามาใส่น้ำ ตั้งไฟ ว้าว ฉันนี่ชาญฉลาดจริงๆ
“หั่นมะเขือเทศต่อดีกว่า”
ฉึก ฉึก แผละ
เรียบร้อย มะเขือเทศลูกโตหลุดจากมือฉันกระเด็นไปกระทบพนัง หล่นแหมะลงกับพื้นอย่างสวยงาม
“ค่อยเก็บล่ะกัน ว๊ายๆ”
โครม ~
ขณะที่ฉันเอี่ยวตัวไปหยิบมะเขือเทศลูกใหม่ เกิดการเสียหลัก ทำให้ฉันล้มลงและไม่พอเพียงเท่านั้น มือฉันดันปัดไข่หล่นตามลงมาด้วย
“ใครวะ!!”
ฉันสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงเข้มตะโกนมาจากด้านบน
“ถ้าไม่ออกมา กูยิงนะ”
“ใจเย็น ฉันเอง”
ฉันรีบกระโดดออกจากเคาน์เตอร์พลางยิ้มแหย่ๆส่งไปให้เขา
“หมูหวาน?”
“ใช่จ้า หมูหวานเอง”
“เธอมาทำอะไร แล้วทำไม”
จะถามว่าทำไมสภาพฉันเละขนาดนี้ล่ะสิ
“ฉันก็มาทำให้นายพอใจตามที่นายบอกไง”
“ด้วยการมาพังครัวบ้านฉันเนี่ยอะนะ”
“แหะๆ นายก็พูดเกินไป”
ภาคินพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกหน่อย สายตาคมกวาดมองไปทั่วห้องครัว
ปุด ปุด ปุด
ระหว่างที่ภาคินกำลังมองหน้าฉันด้วยสายตาเอือมระอา เสียงไม่พึงประสงค์จากเตาด้านในก็ดังขึ้น
“กรี๊ด หมอจะระเบิดแล้ว”
ภาพน้ำเดือดปุดๆจนไหลออกจากหมอลงบนเตา ทำให้ฉันช็อคไม่นอนก่อนจะที่จะรีบวิ่งไปจับหม้อลง
“เฮ้ย อย่าเข้าไปสิวะ”
“ฮรือ ร้อน TT”
ไม่ทันแล้วความโง่เขลาเบาปัญญาของฉัน ทำให้มือฉันแดงเถือกเลย ดีนะแค่นิดเดียว
“ทำไมโง่แบบนี้ห๊ะ !! ไม่เห็นรึไงว่าหม้อมันร้อน ทำไมไม่รู้จักหาผ้ามาจับ”
ภาคินเดินไปปิดแก๊สก่อนจะหันมาตวาดฉันเสียงดัง ฉันเลยทำได้แค่ยืนก้มหน้าสำนึกผิด ไม่รู้จะเถียงเขากลับไปยังไง
“ไหนเอามือมาดูดิ”
ฉันรีบซ่อนมือตัวเองอย่างอัตโนมัติ (กลัวโดนดุอีกอ่า)
“หมูหวาน เอามือมา”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับล่ะ”
พูดจบ ฉันรีบหันหลังเตรียมวิ่งแต่กลับโดนมือหนาคว้าไว้เสียก่อน
“แดงขนาดนี้เลยหรอ”
ภาคินดึงมือฉันพลิกไป พลิกมาพลางพึมพำเบาๆ
“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร”
“ยังจะปากดีอีก ไปนั่งไปเดี๋ยวฉันไปเอายาให้”
“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง”
“หมูหวาน ไปนั่ง”
ไม่อยากยอมรับเลยว่าเสียงต่ำๆบวกกับหน้าตานิ่งๆของเขาทำให้ฉันแอบเสียวสันหลังอยู่เหมือนกัน
สุดท้ายฉันเลยต้องพาตัวเองมานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก ไม่นานภาคินก็เดินเข้ามาพร้อมกล่องยาเล็กๆ
“นึกยังไงถึงมาทำอะไรแบบนี้”
ระหว่างที่เขากำลังทายาให้ฉัน อยู่ๆภาคินก็ถามขึ้น
“ฉันว่ามันคงทำให้นายวุ่นวายมากกว่าพอใจสินะ ครั้งหน้าฉันคงไม่ทำแล้วล่ะ”
“หึ ก็วุ่นวายแต่ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนะ”
เมื่อกี๋เขาพูดอะไรนะ ได้ยินไม่ถนัดเลย
“นายว่าอะไรนะ”
“ลุกขึ้นสิ จะกินมั้ยข้าวหนะ”
เขาไม่ตอบคำถามฉันเพียงแต่เดินยิ้มมุมปากเข้าไปในครัว
“เธอเส้นไปต้ม หวังว่าคงทำเป็นนะ”
“ทำเป็นยะ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น”
ฉันว่าพลางคว้าเส้นสปาเกตตี้เตรียมเอาไปใส่หม้อแต่
“ใส่เท่าไหร่อะ”
ภาคินที่กำลังหั่นมะเขือเทศหันมาเลิกคิ้วใส่ฉัน ลองคิดดูสิคะ ผู้ชายหน้าโหดมีรอยสักเต็มแขนข้างซ้ายกำลังหั่นมะเขือเทศ
ฉันน่าจะแอบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายส่งให้ลูกน้องเขาดูนะเนี่ย
“ไหนบอกไม่ได้โง่ไง”
“ไม่อยากบอกก็ไม่เห็นต้องประชดกันเลย ชิ”
เหอะ ใส่มันลงไปหมดนี่แหละ เอาให้อืดเต็มหม้อเลย หงุดหงิด -_-!!
“ผู้หญิงนี่ขี้งอนกันแบบนี้รึไงวะ”
“แล้วนายจะมา...”
ฉันไม่ทันได้พูดจบก็ต้องชะงักเมื่อภาคินมายืนซ้อนหลังฉันก่อนจะเอื้อมมือไปคีบเส้นในหม้อออก ตอนนี้เลยเหมือนเขากำลังยืนกอดฉันเลยอะ ><\\
“หยิบเกลือใส่ลงไปสิ”
ภาคินกระซิบลงข้างหู ฉันเลยต้องเบี่ยงหน้าหลบแล้วเอื้อมไปหยิบเกลือ
“ใส่ลงไปนิดเดียว”
แง ทำไมต้องมากระซิบใกล้ๆแบบนี้ด้วย ไม่อยากจะบอกเลยว่ามือฉันตอนนี้ที่กำลังจับกระปุกเกลือสั่นเป็นพาร์กินสันเลย
“หึ สั่นแบบนี้เดี๋ยวก็ลงไปทั้งกระปุกหรอก”
มือหนาจับมือฉันข้างที่กำลังถือกระปุกเกลือไว้เพื่อช่วยฉันเทเกลือลงไป
“เอ่อ ได้แล้วใช่มะ”
ฉันรีบวางกระปุกเกลือ ทำท่าจะเดินออกไป ถ้าฉันอยู่ตรงนี้อีกห้านาที ฉันขาดใจตายแน่ กร๊าซ
“เดี๋ยวสิ คอยดูเส้นก่อน”
แต่คนตัวโตด้านหลังกลับรั้งเอวฉันไว้และความรู้สึกเหมือนมีอะไรนูน ทิ่มก้นฉันอยู่ด้านหลังก็ทำให้ฉันสะดุ้งโหยง
“ปล่อยเลยนะ นายมันโรคจิต”
“อะไร ฉันยังไม่ทำอะไรเลย”
ฉันหันหน้าไปมองหน้าตาสุดแสนจะใสซื่อนั่นแต่ก่อนที่ฉันจะด่า คำพูดเขากลับทำให้ฉันถึงกับอ้าปากค้าง
“ไม่มีใครบอกหรอ อย่าใส่ขาสั้นมาบ้านมาเฟีย”
หมับ
มือหนาค่อยๆลูบขึ้นมาบริเวณขาอ่อนฉัน กว่าฉันจะได้สติจากสัมผัสแสนเคลิบเคลิ้มนั่น มือเขาก็เกือบจะถึงบั้นท้ายฉันอยู่เเล้ว
“กรี๊ด ปล่อยเลยนะ”
“ฮ่าๆ แค่แกล้งเล่นเอง”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย!!”
“คร๊าบ ใครจะกล้าเอาว่าที่เมียมาเป็นเพื่อนเล่น”
‘ไม่มีใครบอกหรอ อย่าใส่ขาสั้นมาบ้านมาเฟีย’
ภาคิน
—————-
อร๊าย รุกน้องหนักไปนะภาคิน
ใครไม่เขิน ไรท์เขิน >_<
อยากอ่านต่อ คอมเมนท์หน่อยนะคนดี
อ้อนรัก 19เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเย็น วันนี้ภาคินจะแวะมารับฉันที่มหาลัยเพราะเมื่อเช้า ฉันทิ้งรถไว้ให้พี่หมอเป้เผื่อเขาอยากไปไหน“ช้าชิบ”ไม่แปลกใจเลย เมื่อเปิดประตูเข้ามา เสียงเเรกที่ได้ยินจะเป็นเสียงบ่นของเจ้าของรถ“บ่นจริง บอกว่ากลับเองได้ก็ไม่เชื่อ”“อย่าพูดมาก แล้วนั่นกระโปรงหรือเศษผ้าวะ”มือหนาเอื้อมมาดึงชายกระโปรงฉันด้วยสีหน้าหงุดหงิด อะไรของเขา เมื่อเช้าก็เห็นแล้ว ตัวเองเป็นคนถอดเองแท้ๆด้วย อุ๊ป >x“เย็นนี้กินไรดีอ่ะ”เพื่อการลดแรงปะทะ ฉันเลยจับมือภาคินเล่นก่อนจะเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง“ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง”ภาคินใช้มืออีกข้างผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยส่งสายตาปิ๊ง ปิ๊งไปให้เขา“ร้ายนักนะ ลูกหมู”เขาบีบจมูกฉันส่ายไปมาก่อนจะหันไปออกรถ“เราไปรับพี่หมอด้วยดีมะ อยากกินชาบูอ่า”“ไม่ต้องหรอก ไอไฟว์อยู่บ้าน ถ้าอยากกินแวะซื้อไปทำกินที่บ้านละกัน”สรุป เราเลยพากันมาที่ตลาดสดใกล้บ้านภาคิน ดูจากหน้าคุณชายมาเฟียแล้ว เขาต้องไม่เคยย่างกลายมาที่นี่แน่เลย“ฉันว่านายควรถอดสูทนะ”“ถามจริง ทำไมไม่แวะห้างวะ ช่วงเย็นแบบนี้คนมันเยอะ”“ถ้าบ่นมากก็ไม่ต้องลง รอนี่แหละ”“เหอะ ตัวเท่าลูกหมูอย่างเธอ จะถืออะไรไห
อ้อนรัก 18หนึ่งเดือนผ่านไป(หมูหวาน)ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างฉัน นางสาวหมูหวาน จะทนเป็นเบ๊ ไอมาเฟียภาคินนั่นมาได้ถึงเดือนเหลืออีกแค่เดือนเดียว ฉันก็จะได้ร้านที่ชลบุรีคืนแล้ว ยะฮู้และวันนี้ก็เป็นเหมือนเฉกเช่นทุกเช้า ซึ่งฉันต้องเข้ามาทำอาหารเช้าให้ มาเฟียบ้าอำนาจอย่างเขากริ๊ง กริ๊งตายยากจริง กำลังนินทาเลย“ฮัลโหล”“อยู่ไหนแล้วลูกหมู”“จะเลี้ยวเข้าซอยล่ะเนี่ย นายจะโทรจิกทำไมทุกเช้าห๊ะ!?”“หิวแล้วโว้ย ทำไมไม่ย้ายมาสักทีวะ”“เหอะ ฉันไม่หลงกลนายหรอก แค่นี้นะ จะขับรถ”ภาคินแมร่งเป็นอะไรไม่รู้ ทั้งงอแง ทั้งบังคับ ทั้งขู่เข็ญ ให้ฉันย้ายมาอยู่บ้านเขาแต่ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ฉันยังรำคาญจะแย่ เจอแมร่งมันเกือบทุกเวลา เดี๋ยวให้ไปนู้น ไปนี่ -_-ไม่นานฉันก็มาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ ฉันแวะเอากล้วยทอดให้การ์ดหน้าประตูก่อนจะขับเข้าไปกริ๊ง กริ๊ง“อะไรอีก”ฉันกดรับก่อนจะพูดด้วยความเหนื่อยใจ“ถึงยังลูกหมู”“เออ ถึงแล้วเนี่ย ถ้าหิวมากก็ขุ้ยถังขยะไปก่อนไป๊”“ปากดี เดี๋ยวจะโดน”ปิ๊บ ฉันวางสายพลางถอนหายใจ นี่วันๆชีวิตฉันต้องวนอยู่กับอะไรแบบนี้หรอ“พวกนายทำอะไรกันอะ”ฉันรีบวิ่งจากรถออกไปดูหน้าประต
อ้อนรัก 17(หมูหวาน)เที่ยงคืน“อื้อ”ท้องฉันร้องประท้วงให้ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา ในตอนแรกกะว่าจะไม่ตื่นเพราะขี้เกียจแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเเขนแกร่งของใครบางคนพาดเอวฉันอยู่ ฉันเลยต้องค่อยๆขยับออกจากอ้อมแขนเขา“อื้อ จะไปไหนคะ”ภาคินถามเสียงแหบพร่าพลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิมทั้งที่ยังปิดตาอยู่“ฉันหิว ปล่อยหน่อย”“กินไอติมฉันไปยังไม่อิ่มอีกหรอ”ถอยคำทะเล้นของเขา ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบเข้าที่เอวสอบแรง“โอ๊ย เจ็บนะ”จนเจ้าตัวลุกขึ้นั่ง มองฉันด้วยสายตาเคียดแค้น“นายหาเรื่องก่อนนะ”ฉันว่าพลางลุกลงจากเตียง แต่เพียงแค่ขาฉันแตะพื้นห้อง ฉันก็ทรุดลงทันทีเสมือนเรียวแรงทั้งหมดหายไป ไม่เหลือเลย“หึหึ ให้เฮียช่วยมั้ยคะ”ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าตั้งแต่ภาคินพูด คะ ขาแล้วมันทำให้เขาดูน่ารักขึ้นเป็นสิบเท่า“โอเค ไม่ช่วยก็ได้ คลานไปเองแล้วกัน”ฉันขอถอนคำพูด เขายังเป็นภาคินคนเลว คนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง!!เช้าอีกวัน“ภาคิน นายมาดูฝีมือนายสิเนี่ย”ฉันมองตัวเองในกระจกพลางถอนหายใจเมื่อเห็นรอยแดงจางบ้าง เข้มบ้างสลับกันบนผิวตัวเอง“บอกให้เรียกคินไง”เจ้าของรอยเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลังด้วยใบหน้าเบิกบานหาได้สำ
อ้อนรัก 16ภาคินลากหมูหวานขึ้นจากทะเล ตั้งใจจะพากลับเขาไปในบ้าน“เดี๋ยวๆ ขอไปเอาเสื้อคลุมก่อน”หมูหวานว่าพลางเดินแยกออกไปหยิบเสื้อคลุมที่เธอถอดทิ้งไว้ตรงเก้าอี้ริมชายหาดแต่เมื่อมาถึงเธอกลับหามันไม่เจอ“หาอันนี้อยู่รึเปล่าครับ”หมูหวานมองผ้าคลุมในมือหนาตรงหน้าก่อนจะเงยหน้สมองเจ้าของมือซึ่งกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”เธอรับมันพลางยิ้มตอบกลับแต่เขากลับยื้อผ้าไว้“ผมนิคนะครับ คุณเชื่อ”“หมูหวานเสร็จรึยัง”ไม่ทันที่หมูหวานจะได้ตอบ ภาคินก็เข้ามาเสียก่อน แขนแกร่งพาดลงบนบ่าเล็กก่อนจะดึงเธอเข้าประชิดตัว“มึงเป็นใคร?”สายตาดุดันจ้องนิคเขม็ง“เอ่อ ผมแค่เก็บผ้าคุณผู้หญิงได้ ขอตัวก่อนนะครับ”“เหอะ หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะ”“ฉันไม่รู้เรื่องนะ”หมูหวานส่ายหน้าและโบกมือปฏิเสธเต็มที่แต่อีกคนกลับมองเธอด้วยสายตาดุๆก่อนจะอุ้มเธอขึ้น“นายจะอุ้มฉันไปไหน”ลูกหมูตัวเล็กดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่ง ในขณะที่คนอุ้มเธอไม่ได้สะทกสะท้านใดๆเดินดุ่มๆเข้าบ้านพักตากอากาศของตัวเองไปตุบ!“โอ๊ย เจ็บนะ โยนมาได้”“เธอคิดอะไรอยู่ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ออกไปคนเดียว หัดห่วงตัวเองบ้างสิวะ!!”หมูหวานสะดุ้งโหยง ถอยหลังกรูจนหลังต
อ้อนรักมาเฟีย 15(หมูหวาน)บรรยากาศบนโต๊ะอาหารระหว่างฉันกับภาคินค่อนข้างอึมครึมแต่โชคดีที่มีเพื่อนเขาและเก้าอยู่ด้วย บรรยากาศโดยรวมเลยครึกครื้นสนุกสนาน“จริงๆ พี่ได้ยินชื่อน้องหมูหวานมานานแล้วนะครับ พอมาเจอตัวจริง ฉายานางฟ้านี่เหมาะกับน้องมากเลย”พี่ไทพูดพลางฉีกยิ้มกว้างมาให้ฉัน“เหอะ นางมารสิไม่ว่า”ภาคินพูดขึ้น เขาทำลอยหน้าลอยตาแต่พูดแบบนี้เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าเขาต้องการเหน็บฉัน“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ โฮะๆ”ฉันทำเป็นไม่สนใจภาคิน หันไปตอบพี่ไทแทน“ขนาดนั้นแหละครับ น้องหมูหวานสวยหยดย้อยขนาดนี้”พี่แทนว่าพลางตักปลากระพงทอดน้ำปลาใส่จานฉัน“ขอบคุณมากค่ะ พี่แทนลองทานอันนี้นะคะ อร่อยมาก”ฉันกล่าวขอบคุณก่อนจะทักกุ้งผัดซอสมะขามให้เขาเป็นการตอบแทน“ขอบคุณมะ... เฮ้ย อะไรวะไอคิน น้องเขาตักให้กู”“กูอยากกินชิ้นนี้ มึงเอาชิ้นนี้ไปสิ”ภาคินเอาซ้อมจิ้มกุ้งตัวนั้นเข้าปากแล้วหยิบตัวใหม่ใส่จานเพื่อน“น้องหมูหวาน พี่ก็อยากกินกุ้งนะครับ *0*”“ยาหยี เก้าก็อยากกิน *0*”เหมือนพี่ไฟว์และเก้าพยายามจะกวนตีนใครบ้างคนแถวนี้ ซึ่งดูเหมือนมันก็ได้ผลเพราะพอฉันตักกุ้งให้พวกเขาภาคินก็จิ้มยัดใส่ปากตัวเอง“ไม่ยักรู้นะ
อ้อนรัก 14สี่วันแล้ว สี่วันที่ฉันไม่ได้เจอภาคินเลยเมื่อสี่วันที่แล้ว ฉันไปบ้านเขาเพื่อทำอาหารเช้าให้เขาตามข้อตกลงในสัญญาแต่ลูกน้องเขากลับบอกว่าเขาไปต่างประเทศ ยังไม่มีกำหนดกลับ“จ๊ะเอ๋ ยาหยี”ส่วนคนที่ฉันเจอตลอดทั้งสี่วันคือเก้า โดยทุกวันมันจะซื้อนู้น ซื้อนี่มาให้บอกว่าภาคินฝากมาแต่ภาคินไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันนะ ตลกมั้ยล่ะ“มึงมาทำอะไรทุกวัน”“เอาเค้กใบเตยจากที่บ้านมาให้มึงไง”“เฮ้อ ขอบใจ พี่นายยังไม่กลับอีกหรอ?”เก้าวางแก้วน้ำในมือ หันมาจ้องฉันอย่างจับผิด“ว่าแล้ว ยาหยี มึงกับเฮียมีเรื่องอะไรกัน”“ป๊าว กูก็แค่ถามดู”“เฮียกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แปลกมาก ที่เฮียไม่บอกมึง ทั้งที่เป็นคนสั่งให้กูเอานู้น เอานี่มาให้มึงทุกวัน”ฉันฟังเก้าพูดแล้วได้แต่ถอนหายใจ คำพูดของฉันวันนั้นมันก็แรงเกินไปจริงๆนั้นแหละ“มึงอยากไปหาเฮียมั้ยละ”“เฮ้อ เขาคงไม่อยากเจอกูมั้ง”“เอาหัวเป็นประกันเลย กูว่าเฮียอยากเจอมึง”เก้าพูดพลางตักเค้กเข้าปาก ฉันเลยถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย นี่คือสรุปฉันต้องไปง้อภาคินถูกมั้ย -_-‘“เออ กูไปก็ได้”“หึหึ เอาชุดไปสักสองสามชุดนะยาหยี”“หืม?”“เราจะไปทะเลกัน ^_^”ห้าโมงเย็นฉันและเก้าเด