อ้อนรัก 6
(หมูหวาน)
กริ๊ง กริ๊ง
อื้อ เสียงอะไรมาดังรบกวนเวลานอนคนอื่นแบบนี้เนี่ย ฉันดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงแต่เสียงนั่นก็ยังไม่เงียบหายไป
กริ๊ง กริ๊ง
“โว้ย ใครโทรมานักหนาวะ”
ฉันลุกขึ้นนั่งพลางขยี้หัวตัวเองจนยุงเหยิง เอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องบางมากดรับ
“โทรมาทำไม”
“พูดให้มันดีๆหน่อย”
เอ๊ะ เสียงเหมือนคนแก่ขี้บ่นแบบนี้มัน ฉันลืมตามองชื่อบนจอมือถือและก็กระจ่างแจ้ง
คนที่โทรมาปลุกฉันตั้งแต่แปดโมงเช้า ห๊ะ แปดโมงเช้า ชิบหาย สายแล้ว ฉันมีควิซ ตอนเก้าโมง 0-0
“เฮ้ หมูหวานยังอยู่มั้ย หมูหวาน!”
สิบนาทีผ่านไป
ฉันวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยความเร็วสูง สายตาหันไปเห็นมือถือบนเตียงที่ยังแสดงหน้าจอว่าปลายสายยังถือสายรออยู่
“ฮัลโหล ทำไมไม่วาง”
“จะให้วางได้ไง ก็ยังไม่ได้คุย”
“อ่ะๆ แล้วนายมีอะไร”
“เช้านี้เธอไม่มา”
อย่าพึ่งงงไปจ๊ะ คือตลอดระยะเวลาหลายอาทิตย์มาเนี่ย ฉันได้รับมอบหน้าที่เข้าไปทำอาหารเช้าให้คุณภาคินเขามาแบบงงๆแต่ฉันก็ไม่ได้ติดอะไรนะ มันไม่ได้หนักหนาอะไร ถ้าเทียบกับการที่ฉันจะได้ร้านคืน
“เห็นอยู่ว่าตื่นสาย แค่นี้ก่อนนะ จะแต่งหน้า”
“ทำไมถึงตื่นสาย”
“ก็เมื่อคืนฉันไป... อุ๊ป”
เกือบหลุดปากไปแล้วไง ก็เมื่อคืนหนะ ฉันไปทำงานพริตตี้มา
ซึ่งเอาจริงๆฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องไม่กล้าบอกภาคินเพราะเขาไม่ได้มีสิทธิอะไรในตัวฉันสักหน่อย
แต่พอคิดถึงน้ำเสียงและสีหน้าดุๆของเขาเมื่อครั้งก่อนแล้วต้องยอมรับว่าน่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ ><
“ไปไหนมาหมูหวาน”
“เหอะน๊า หมูหวานไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย”
“อย่าให้ต้องสืบเองนะ” มาอีกแล้วเสียงแบบนี้มาอีกแล้ว
“แค่ไปเป็นพริตตี้งานคุณธนาเอง”
“ฉันบอกเธอว่าไงวะ!!”
ฉันดึงมือถือออกห่างตัว นี่ขนาดเสียงลอดผ่านตัวกลางอย่างโทรศัพท์นะเนี่ย ไม่อยากจะนึกถึงตอนอยู่ต่อหน้าเลย
“นายจะมาอะไรล่ะ ฉันจะทำอะไร ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย”
“เราคงมีเรื่องต้องคุยกัน”
ปิ๊บ
จบประโยคสุดท้าย ปลายสายก็ตัดสายไปเอาดื้อๆ ฉันได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินไปแต่งตัว ไม่แต่งมันล่ะหน้า ไปหน้าสดแบบนี้แหละ
อารมณ์ไม่ดี -_-!
มหาวิทยาลัย
“ควิซอาจารย์แม่แมร่งยากเหี้ยๆ”
“เออ ให้เหี้ยอย่างกูทำยังร้องไห้”
บีและดาด้าโอดครวญแทบทันทีเมื่อเราเข้ามานั่งในโรงอาหาร
“มึงเป็นอะไรวะ หมูหวาน กูเห็นดูมือถือตั้งแต่ออกจากห้องสอบละ”
“เปล่า เออ กูทำไม่ได้ตั้งหลายข้อเหมือนไม่เคยเรียนมาเลยอะ”
ฉันรีบเก็บมือถือเข้ากระเป๋า ทำทีเปลี่ยนกลับมาคุยเรื่องสอบแทน
“ขอโทษนะครับ ขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ”
พวกฉันสามคนหันมองหน้ากัน ก่อนจะกวาดสายตามองที่ว่างในโรงอาหารกันอย่างพร้อมเพรียง
“คือตรงนี้มันติดพัดลมอะครับ”
พรึบ
คนที่นั่งลงข้างฉันไม่ใช่ผู้ชายคนเมื่อครู่แต่เป็น...
“คุณภาคิน” บี x ดาด้า
“สวัสดีครับ”
“อร๊าย สวัสดีค่ะ”
เคยบอกรึยัง ว่าหลังจากฉันแนะนำภาคินให้เพื่อนฉันรู้จัก สองคนนี้ก็กลายเป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งของเขาไปเลย -_-
“หิว”
ภาคินหันมาทางฉันพูดขึ้นเสียงนิ่ง ฉันเลยหันซ้าย หันขวาเพื่อหาว่าเขาพูดกับใครแต่รอบข้างฉันไม่มีใครเลย
ฉันเลยชี้มาทางตัวเอง ประมาณว่าคุยกับฉันหรอ
“อือ ไปซื้อไรมากินหน่อย”
“คุณไม่ควรใช้ผู้หญิงนะครับ” ผู้ชายคนเดิมที่มาขอนั่งด้วยพูดขึ้น (ยังยืนอยู่อีก)
“กูไปใช้เมียมึงรึไง”
หยาบคายที่สุดเลย ทำไมเขาหยาบคายได้ขนาดนี้
“ภาคิน พูดดีๆสิ”
ฉันกระตุกแขนเขาเบาๆ ภาคินหันมาจิ๊จ๊ะใส่ฉันเล็กน้อยก่อนจะฉุดฉันให้ลุกขึ้น
“นายจะไปไหน”
“กินข้าวหรือจะให้ฉันฆ่าคนก่อน”
ได้ยินอย่างนั้น ฉันเลยรีบลากภาคินออกมาจากตรงนั้น แอบนึกสงสารผู้ชายคนนั้นอยู่เหมือนกัน หน้าซีดเชียว
เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ ฉันหยุดเดิน สะบัดมือตัวเองออกจากการเกาะกุม
“นายไปควรไปพูดกับเขาแบบนั้นนะ”
“ทำไม เธอจะไปเดือดร้อนอะไรกับมันด้วย”
“แล้วนายจะมาอารมณ์เสียใส่ฉันทำไม!”
“เหอะ ไปขึ้นรถ”
ฉันยืนกอดอกนิ่ง ไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง คนอะไร ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
“หมูหวาน ไปขึ้นรถ”
ภาคินสั่งเสียงต่ำ คราวนี้คนที่เดินผ่านไป ผ่านมาเริ่มหันมามองเราสองคน
ฉันเลยจำใจต้องเดินไปที่รถตู้สีดำซึ่งมีลูกน้องภาคินยืนรอเปิดประตูอยู่
“ออกรถเลย”
“ครับนาย”
ภาคินหันไปสั่งลูกน้องก่อนจะปิดที่คั่นระหว่างด้านหน้ากับส่วนด้านหลัง
“ฉันบอกเธอแล้วใช่มั๊ยว่าห้ามไปทำพริตตี้อีก”
ภาคินเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นหลังจากเรานั่งเงียบกันมาเกือบห้านาที
“เอาจริงๆ การที่ฉันจะทำอะไรมันไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย หรือนายจะเถียงว่าไม่จริง?”
“ก็จริง แต่ฉันไม่พอใจ”
“มันก็เรื่องของนายสิ!”
“หมูหวาน!!”
ฉันหลับตาปี๋เพราะตกใจเสียงตวาดของอีกคน ก่อนจะรู้สึกว่าถูกอุ้มตัวลอยไปนั่งลงบนตักของอีกคน
“ต่อไปนี้เธอต้องฟังคำสั่งฉันและทำตามอย่างเคร่งครัด”
“ไม่ ปล่อยนะ ฉันจะไม่ทำตามคำสั่งของนายอีกแล้ว”
ฉันหลับหูหลับตาเถียงออกไป พยายามขืนตัวออกจากตักเขาแต่กลับโดนกอดแน่นกว่าเดิม
“เอาสิ ข้อตกลงระหว่างเราจะได้ถือเป็นโมฆะ ฉันจะได้ขายร้านนั่นให้คนอื่น”
“นายมันเลวที่สุด”
“หึ ขอบใจที่ชม”
มือฉันกำแน่นด้วยความโมโห ฉันไม่ชอบการตกเป็นรองใครแบบนี้เลย
แต่จะทำยังไงได้ สิ่งที่เขามีมันเป็นเครื่องต่อรองชั้นดีสำหรับฉันตอนนี้เลยล่ะ
ยอมเขาไปก่อนแล้วกัน ค่อยๆแอบลอบวางยาเขาทีละนิดก็ได้ว่ะ
โป๊ก
“ถ้าในสมองคิดจะฆ่าฉันอยู่ล่ะก็ ลืมไปได้เลย ไม่ได้เธอฉันไม่ยอมตายง่ายๆหรอก”
ฉันเอามือลูบหัวตัวเองปอยๆ ส่งสายตาทิ่มแทงไปให้เขาและสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เมื่ออยู่ๆรถเบรกกะทันหัน ตัวฉันเซไปด้านหน้าส่งผลให้ปากฉันประกบเข้ากับปากอีกคนเต็มๆ ฉันกำลังจะผละออกแต่โดนมือหนากดไว้ เขากัดริมฝีปากฉันเบาๆก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
“ขอโทษครับนาย มอเตอร์ไซมันตัดหน้า”
“ไม่เป็นไร นิ่มดี”
ภาคินตอบพลางยกยิ้มมุมปาก เห็นอย่างนั้นฉันเลยรีบลุกออกจากตักเขา ถอยหลังหนีไปนั่งให้ชิดประตูอีกฝั่งให้มากที่สุด
“ขยับมาสิ เธอจะสิงประตูรึไง”
“ไม่ ฉันไม่อยากนั่งใกล้มาเฟียอย่างนาย”
ฉันตวัดสายตามองเขาหวังให้เขาเลิกยุ่งซึ่งนอกจากเขาจะไม่เลิกเซ้าซี้ฉันแล้ว ภาคินยังขยับเข้ามาใกล้ฉันอีก
“เธอรู้มั้ย มาเฟียอย่างฉันชอบกินเด็กแบบไหน”
ภาคินพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเลห์บนใบหน้า
เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆจนตัวของเราสองคนชิดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง
“มะ...ไม่รู้”
ฉันตอบเสียงสั่น พยายามทำตัวเองให้ลีบที่สุด
“มาเฟียชอบกินเด็กแก้มแดง”
ไม่พูดเปล่าเขายังโน้มเข้ามากัดแก้มฉันเบาๆก่อนจะเลื่อนลงมาครอบครองริมฝีปากฉัน
ลิ้นร้อนค่อยๆสอดแทรกเข้ามาอย่างชำนาญ ความหวานและความร้อนแรงที่เขามอบให้ทำเอาฉันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนใดๆ นานหลายนาทีกว่าภาคินจะผละออก
เมื่อเขาผละออก ฉันเลยรีบกอบโกยอากาศหายใจเข้าปอดให้มากที่สุด
บ้าที่สุด ฉันหลวมตัวไปกับสัมผัสเธออีกแล้วหรอเนี่ย
“พรุ่งนี้ฉันจะเอาข้อปฏิบัติไปให้เธอแต่เช้า”
“ข้อปฏิบัติอะไร?”
“การเป็นผู้หญิงของมาเฟีย”
“บ้าแล้ว ฉันไม่เอาหรอก”
“ร้านขนมไทย”
ภาคินพูดขึ้นอย่างเหนือกว่า ฉันเลยได้แค่กัดปากตัวเองแน่น
“เออ คอยดูนะ ฉันจะทำให้มาเฟียอย่างนายต้องมาทำตามคำสั่งฉันบ้าง”
“หึ จริงๆตอนนี้เธอก็สั่งฉันได้นะ”
“ดี ถ้าอย่างนั้นฉันสั่งให้นายไปตายเลย”
จุ๊บ
ทันทีที่ฉันพูดจบภาคินก็ดึงฉันเข้าไปจูบ ครั้งนี้แรงกว่าทุกครั้งจนฉันรู้สึกได้ถึงรสเลือดฝาดๆภายในปาก
“จำไว้นะ ถ้าเธอปากดี ฉันจะกัดให้ไม่มีปากไว้พูดเลย แล้วอีกอย่างสิ่งที่เธอจะสั่งฉันได้คือแตกนอกหรือแตกในเท่านั้นแหละ”
—————
ฉันละเพลียกับความเกีี้ยวกราดแต่หื่นของเฮียเขา เอาวะ อย่างน้อยก็ให้น้องเลือกได้ว่าจะแตกแบบไหน แค่กๆๆ
อยากอ่านต่อ คอมเมนท์เลยจ๊ะแม่จ้า ><
(หมูหวาน)ดวงดาวเต็มท้องฟ้าเป็นได้ดีว่าตอนนี้หัวใจฉันพองโตขนาดไหนหลังจากที่ฉันและภาคินพากันเดินออกมาจากรอบกองไฟเพื่อมาสูทอากาศเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่มันทำให้อากาศตรงนั้นร้อนอย่างกับอยู่ในเตาอบแหนะ“แบบนี้มันไม่เห็นยุติธรรมเลย”อยู่ๆภาคินก็หยุดเดิน ปล่อยมือออกจากมือฉันเปลี่ยรไปกอดอกตัวเองไว้“หือ เป็นอะไรของคิน”“ไม่เห็นลูกหมูจะบอกรักคินบ้างเลย”ท่าทางเหมือนเด็กขาดความรักของภาคินทำเอาฉันถึงกับอมยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เขาแล้วเขย่งจุ๊บเขาเบาๆ“ไม่เอาแบบนี้ดิ จะเอาคำว่ารัก คำว่ารักอ่า”อาการขอบภาคินทำฉันชะงักไปชั่วขณะ คุณลองคิดดูสิคะ มาเฟียหน้าโหดอย่างภาคินกำลังงอแงเพื่อฟังคำว่ารักจากผู้หญิงอะ“หมูหวานรักคินนะ”“รักมากป่าว”มือหนาดึงเอวฉันให้เข้าไปประชิดตัวเขา ถามด้วยเสียงนุ่ม“มากกว่าดาวบนฟ้านี้อีก”ฟอด ฟอดภาคินก้มลงหอมแก้มฉันสองฟอดใหญ่“หึหึ ลูกหมู”“หือว่าไง?”“อยากมีลูกแล้วอะ”“บ้า คินนี้มันบนดอยนะ”“โรแมนติกดีออก ทำลูกไปดูดาวไป”และนั่นแหละภาคินก็คือภาคิน โรแมนติกไม่เท่าไหร่เริ่มจะเข้าโหมดอีโรติกอีกแล้วมือหนาสอดเข้าไปในเสื้อฉันพลางลูบวนตรงหน้าท้องเบาๆ“สัก12คนเลยดีมะ เอาไว้ต
อ้อนรัก ตอนจบ(หมูหวาน)วันนี้เป็นวันสุดท้ายของค่ายแล้ว พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกันในช่วงสายการมาออกค่ายครั้งนี้ถือเป็นความทรงจำที่วิเศษมากๆครั้งหนึ่งเลยเพราะฉันได้ทั้งช่วยเหลือเด็กผู้หญิง ได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ได้มิตรภาพมากมาย สำคัญที่สุดคือฉันได้รู้จักอีกด้านของภาคินที่ฉันไม่เคยได้รู้จักถึงแม้เขาจะเป็นมาเฟียที่ค่อนข้างนิสัยเลวแต่เขาถือเป็นคนจิตใจดีมากทีเดียวกับคนอื่น ใครจะไปคิดล่ะว่ามาเฟียอย่างภาคินจะยอมเหนื่อย ยอมลำบากเพื่อคนอื่นด้วยตัวเอง (ปกติเห็นเขาใช้แต่ลูกน้อง)โป๊ก“นั่งคิดอะไรลูกหมู เขาไปกันหมดแล้ว”แต่ถึงยังไม่เขาก็ยังเป็นคนรักที่เลวนะคะ ทำไมชอบเขกหัวฉันอยู่เรื่อยเลยนะ เดี๋ยวก็ความจำเสื่อมกันพอดี 😑“เขกบ่อยๆ เดี๋ยวความจำเสื่อมหรอก”“ถ้าเธอความจำเสื่อม ฉันจะผ่าสมองเธอ” >> จะด่าว่าเลวยังน้อยไปเนื่องจากไม่อยากต่อปากต่อคำกับไอมาเฟียนิสัยเลวไปมากกว่านี้ ฉันเลยรีบลุกหนีออกมา“นี่หมูหวานกูถามอะไรหน่อยสิ”“หือ อะไรหรอ”บีเดินเข้ามาถามฉัน ขณะที่ฉันกำลังเก็บของใส่ลัง“คุณภาคินขอมึงเป็นแฟนรึยัง”จึก คำถามจากเพื่อนรักเสมือนหอกปลายแหลมพุ่งแทงเข้าที่กลางอก“ยังอะ”“มึงจะปล่อยไว้แบบนี้ห
อ้อนรัก 42(หมูหวาน)หลังจากเด็กผู้หญิงสองคนนั้นผละออกจากกัน เธอก็พากันเดินเข้ามาหาพวกฉัน“นี่มันเรื่องอะไรกัน เด็กพวกนี้เป็นใคร?”ผู้ชายหน้าดุข้างๆหมอรันถามขึ้น อุ๊ย พอได้มองชัดๆ เขาหล่อมากอะ หล่อจริงๆนะ ถึงแม้หน้าจะดูดุๆ เถื่อนๆแต่รวมๆแล้วหล่อละลายไปเลย >“หมูหวานไปล้างเนื้อ ล้างตัวก่อนมั๊ย เดี๋ยวหมอจะทำแผลให้”“ไม่เป็นไรค่ะ หมอดูแลเด็กๆเถอะ”ฉันว่าพลางส่งยิ้มให้หมอก่อนจะพาตัวเองไปยังเต็นท์หมับแต่เดินออกมาได้ไม่ถึงสองก้าว อยู่ๆตัวฉันก็ลอยขึ้นจากพื้นเข้าสู้อ้อมกอดแกร่งที่คุ้นเคย“ทำอะไรหนะ คิน”“ลดน้ำหนักบ้า
อ้อนรัก ตอนที่ 41หมูหวานระหว่างที่ฉัน หมอรันและบีกำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเจอก่อนหน้า เด็กผู้หญิงคนที่เราพึ่งช่วยมาก็ฟื้นขึ้น“ค่อยๆลุกนะคะ เป็นไงบ้าง”หมอรันตรงเข้าไปช่วยพยุงเด็กคนนั้นขึ้น เธอปรือตาเล็กน้อยพลางพูดด้วยเสียงแหบพร่า“หนูหิวน้ำค่ะ”“นี่จ๊ะน้ำ”บียื่นน้ำให้เด็กคนนั้นดื่ม หลักจากเธอดื่มเสร็จ เธอก็รีบหันมาพูดกับพวกเราเหมือนพึ่งนึกอะไรออก“พวกพี่ต้องช่วยนะคะ ต้องช่วย”“น้องใจเย็นก่อนนะคะ จะให้พี่ช่วยอะไร”“พวกมัน พวกมันจับเพื่อนหนูไป”ท่าทางน้องเขาตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าพวกที่เราเห็นต้องคิดทำอะไรที่ชั่วมากแน่ๆ“โอเคจ๊ะ พี่จะช่วยนะแต่เราต้องอธิบายให้พี่เข้าใจกว่านี้นะคะ”“พวกมันจับเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านไปแต่หนูแอบหนีออกมาได้”เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉัน บีและหมอรันต่างมองหน้ากัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง“ค้ามนุษย์อย่างนั้นหรอ”“แล้วหนูรู้มั๊ยว่าพวกมันจับคนอื่นไว้ที่ไหน”เด็กผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“พวกมันจับขังไว้ในโกดังร้างที่พี่เจอหนูค่ะ หนูได้ยินว่าพวกมันจะส่งตัวพวกเราวันศุกร์ค่ะ”“วันศุกร์ อย่างนั้นก็
อ้อนรัก 40เชียงใหม่ฉันเดินลงจากรถไฟมาด้วยสภาพสดชื่น ชื่นบาน การนอนบนรถไฟไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะถึงแม้จะมีไอมาเฟียเจ้าเล่ห์เกาะอยู่ตลอดทั้งคืนก็ตาม“เดินสบายเลยนะ”ภาคินเดินลงตามมาพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบ ใบเล็กหนึ่งใบ ใบใหญ่หนึ่งใบนั่นคือของฉันเอง >__““เหอะ”“หมูหวาน เขาบอกมีสวนสตอเบอรี่ฝั่งนู้นไปดูกันมะ”บีวิ่งเข้ามาหาฉัน ชวนด้วยหน้าตาตื่นเต้น ฉันเลยเหลือบไปมองภาคินเล็กน้อย“อืม แล้วอย่าไปเล่นอะไรแปลกๆล่ะ”ฟอด ฟอดฉันกระโดดหอมแก้มภาคินด้วยความลืมตัวก่อนจะวิ่งออกมาพร้อมบีสวนสตอเบอรี่ฉันและบีพากันชื่นชม เก็บผลสตอเบอรี่สีสวย ไม่อยากจะบอกเลยว่าฟินมาก อากาศเย็นๆกับการเก็บสตอเบอ
อ้อนรัก 39(หมูหวาน)“เอาล่ะค่ะ มาหยิบข้าวไปคนละกล่องนะคะ มังสวิรัติบอกพี่สตาฟได้เลยนะจ๊ะ”บีตะโกนบอกก่อนที่น้องๆจะพากันลุกขึ้นไปต่อแถวรับข้าว“ลูกหมูเอาให้ด้วย”“ไม่ ไปเอาเองสิ”ฉันว่าก่อนจะลุกขึ้นแต่โดนเขาคว้าแขนไว้“เธอรู้ดีว่าฉันเป็นคนยังไง”ภาคินว่าพลางค่อยๆยื่นหน้าเขามาหาฉัน ฉันต้องใช้มือดันหน้าเขาออกและยอมเขาอย่างไม่มีทางเลือก“เออ ก็ได้”“หึหึ ก็แค่นี้”เจ็บใจ เจ็บใจที่สุดเลย คอยดูนะฉันจะแก้แค้น หมูหวานคนนี้จะแก้แค้นนนนน“มีอะไรกินบ้างอะ”ฉันถามบีซึ่งกำลังทำหน้าที่แจกข้าวอยู่“มีกระเพราหมูสับ กระเพราหมูสับแล้วก็กระเพราะหมูสับ”“กวนตีนล่ะๆ”“ฮ่าๆ อะ มีไข่ดาวด้วย พริกน้ำปลาอยู่ด้านนู้นนะจ๊ะน้องหมูหวาน”หึหึ พริกน้ำปลาอย่างนั้นหรอ ฉันมองกล่องข้าวในมือก่อนจะเหลียวหลังไปมองไอมาเฟียที่ใช้ฉันเยี่ยงทาสน้อยในเรือนเบี้ย“หมูหวานจะบริการให้ทุกระดับประทับใจเลย หึหึ”ฉันยืนหัวเราะ หึหึ อยู่คนเดียวหน้าถ้วยพริกน้ำปลาจนกระทั่งน้องเดือนทันตะสะกิดแขนเรียกสติ“พี่หมูหวานเป็นอะไรรึเปล่าครับ”น้องเดือนทันตะสะกิดฉันก่อนจะถามเสียงนุ่ม ฉันเลยหันไปยิ้มหวานให้พลางตักพริกน้ำปลาราดข้าวในกล่องข้าวภาคิน“เ