LOGINวันนี้ก็เช่นกัน กุลนิดาต้องเข้ามาทำความสะอาด ภายในห้องหรูหราประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงระยับไปทุกตารางนิ้วจนกุลนิดาต้องค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ ดูดฝุ่นอย่างดีเพราะกลัวไปทำของประดับของเขาตกแตกและเธอจะไม่มีเงินชดใช้
วันที่เกิดเหตุเธอเลิกทำความสะอาดดึกกว่าทุกครั้ง เพราะอินทิราเพิ่งจะโทร.ไปตามเมื่อตอนหกโมงเย็นให้รีบเข้ามาทำความสะอาด คืนนี้ใครบางคนจะเดินทางมาจากอเมริกา และเลือกมาพักที่นี่เพื่อจะเดินทางต่อไปหาเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น
“กุล ทำห้องให้เรียบร้อยนะยะ ก่อนคุณไรอันจะมาถึง เสร็จแล้วก็รีบกลับออกไป ไม่ต้องอยู่เสนอหน้ารอเจอเขาล่ะ ถ้าฉันรู้ว่าเธออ่อยเขา เรามีปัญหากันแน่ ส่วนค่าจ้าง เดี๋ยวฉันโอนเข้าบัญชีเดิม”
“เข้าใจแล้วค่ะคุณอิน กุลรับทำความสะอาด ไม่ได้รับงานอ่อยผู้ชาย วางใจได้ค่ะ”
อินทิราอดจะหมั่นไส้ไม่ได้กับคำพูดถือดี ที่จริงแอบขัดใจอยู่บ้างที่ญาติผู้น้องของเธอแนะนำคนสวยราวกับดารามาทำความสะอาดให้ จะไม่จ้างก็ติดตรงที่ว่ากุลนิดาทำความสะอาดได้ถูกใจ แล้วที่สำคัญใครบางคนมีคำสั่งให้เลือกคนเดิมมาทำความสะอาดห้องนี้ห้ามเปลี่ยนแปลง
หลังกุลนิดาทำความสะอาดจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจนเป็นที่พอใจ หญิงสาวเก็บเครื่องดูดฝุ่นเข้าในห้องเก็บของ มือบางยกขึ้นซับเหงื่อที่ซึมตามไรผม การทำงานผ่านไปด้วยดี
“เฮ้อ เสร็จสักที”
เจ้าของร่างบางหันไปทางระเบียงด้านหลังคอนโดฯ ไม่ลืมที่จะดึงผ้าม่านเข้าหากันให้เรียบร้อยก่อนจะกลับออกไป เธอชอบระเบียงด้านหลังของห้องนี้มากเพราะมีกุหลาบขาวพันธุ์ไวท์คริสต์มาสปลูกอยู่เริ่มแรกมันมีเพียงกระถางเดียวกำลังจะตายแล้ว เธอสงสารมันจึงจัดการบำรุงมันด้วยปุ๋ยชีวภาพแล้วย้ายใส่กระถางที่ใหญ่กว่าเดิม มันฟื้นตัวและกลับมาสวยสะพรั่ง แต่ช่วงหลังๆ เธอเริ่มสังเกตว่ามีกุหลาบมาเพิ่มอีกนับสิบกระถาง เวลาเปิดประตูระเบียงออก กลิ่นหอมของมันก็จะฟุ้งกำจายเข้ามา
เธอจึงชอบเปิดผ้าม่านและประตูระเบียงออกเพื่อรับลมเย็นและกลิ่นหอมของกุหลาบ แต่ในขณะเดียวกัน ลมเย็นหอบหนึ่งกลับพากลิ่นฝนมาด้วย ราวกับว่าฝนกำลังจะตกหนัก ทว่าสองเท้าที่จะเดินไปถึงก็ต้องหยุดชะงัก เพราะทุกอย่างตรงหน้ากลายเป็นภาพดำสนิท
พรึ่บ
เสียงไฟดับวูบลงกะทันหัน ภาพทุกอย่างเหลือเพียงสีดำ กุลนิดาตกใจอยู่ชั่วครู่จึงตั้งสติได้
“สงสัยไฟดับ” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง อาศัยว่าดวงตาเริ่มปรับโฟกัสเข้ากับความมืดได้ แสงสีเงินยวงจากดวงจันทร์ตกลงมาพาดไปยังระเบียง คิดว่าไฟตกไม่นานก็คงจะติด เพราะที่นี่เป็นห้องชุดระดับไฮเอนด์มีพื้นที่ใช้สอยถึงหนึ่งร้อยตารางวา สนนราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท
ทว่าภาพที่เห็นตรงระเบียงก็ทำให้หญิงสาวถึงกับยืนตัวแข็ง ดวงตาสองข้างเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมานอกอก
ภาพตรงหน้าคือเงาร่างของผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงระเบียง ผมยาวสยายลงมาปิดหน้า ส่วนใบหน้าไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความขาวโพลน กำลังย่อตัวลงกับพื้น ท่าทางคล้ายผีจูออนที่เคยเห็นในหนังผีเกาหลี เพียงแต่ผีตัวนี้ไม่ได้มีผมสีดำสนิท
“กรี๊ดดด”
“ผีหลอก”
วิ้วววว
เสียงลมพัดเสียดสีกับอากาศจนก่อเกิดเสียงน่ากลัวอย่างประหลาด ชายผ้าม่านสีขาวลอยพลิ้วสะบัด จนตัดภาพผีจูออนไปมาเหมือนมี เหมือนไม่มี แชนเดอเลียร์คริสตัลระยิบระยับหรูหราที่ประดับอยู่บนเพดานสูงลอยเคว้ง
กุลนิดาพยายามตั้งสติที่กำลังจะหลุดกระเจิง หมุนตัวจะวิ่งหนีไปจากห้องผีสิง ทว่าจู่ๆ ไฟก็ติดขึ้นแล้วก็ดับลงอีกครั้ง
ครั้งนี้หญิงสาวตกใจสุดขีด ร้องออกมาด้วยความกลัว “ช่วยด้วยผีหลอก!”
อาการขาดสติทำให้กุลนิดาไม่ได้ยินว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง สองเท้าพยายามวิ่งพาตัวเองไปให้ถึงทางออก จนถลาไปชนกับแผ่นอกกำยำของใครบางคนที่หยุดยืนอยู่กลางห้อง
ดวงตาสองคู่สีนิลเข้มและสีฟ้ากระจ่างสบกันในความมืด กุลนิดาเงยหน้าขึ้นมอง เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร เธอเคยเห็นเขามาที่นี่ เธอจำกลิ่นน้ำหอมของเขาได้ ตอนเขามาที่นี่ เธอก็อยู่ด้วยหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเธอจะรีบกลับออกไปเพราะกลัวอินทิราจะไม่พอใจ
เขาเป็นเจ้าของห้องชุดสุดหรูห้องนี้ อินทิราบอกว่าตระกูลของเขาร่ำรวยติดอันดับโลก
เขาพยายามขมวดคิ้วเพ่งมองเจ้าของร่างบางที่เซ็นสัญญาเป็นผู้หญิงของเขา ในความมืดให้ชัด
ไรอัน คาเตอร์ หรี่ตาแคบๆ ลงมอง แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เฮ้ คนสวย ผมตื่นเต้น นี่คุณจัดเซอร์ไพรส์ต้อนรับการมาเมืองไทยของผมเหรอ ธีมผีผ้าห่มหรือยังไง ถึงดับไฟจนมองอะไรไม่เห็น"
ในเมื่อคู่ขาคิดจะให้ความเพลิดเพลิน เขาก็พร้อมจะตอบสนอง แต่นี่คงเป็นครั้งสุดท้าย
"งั้นเรามาเล่นสนุกกันเลย”
ใครจะไปรู้ ในนาทีเดียวกัน กุลนิดาจะได้เจอทั้งผีและเจอทั้งสามีคนแรกในชีวิต หัวใจดวงน้อยที่กำลังกระเด็นกระดอนเพราะเจอผีหลอก แต่ต้องเจอสิ่งที่น่ากลัวกว่าผี คือเธอกำลังจะได้สามีในนาทีต่อไป...
ร่างอ้อนแอ้นถูกเขาอุ้มขึ้นแล้วพาเข้าไปในห้องที่มืดสนิทเพราะไฟดับ แผ่นหลังบอบบางสัมผัสกับผ้าปูเตียงที่เธอเพิ่งเป็นคนดึงให้ตึงเองกับมือก็พลันได้สติ กุลนิดาดีดตัวลุกขึ้นแต่ถูกเขาผลักเบาๆ จนล้มลงไปบนเตียงขนาดคิงไซส์อีกครั้ง
ท่ามกลางความมืดที่ร้องบอกใครไม่ได้ แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า
ผีอำ ผีผลัก ผีอะไรก็ช่าง แต่เวลานี้…
ผีทะเลสูงใหญ่กำยำกำลังยกมือลูบศีรษะเธอเบาๆ มือร้อนผ่าวกำลังปาดป่ายลูบไล้เส้นผมของหญิงสาวราวกำลังจะปลอบขวัญ ก่อนจะสั่นประสาทด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วคืบคลานมือหนาสอดเข้ามาใต้บราเซียร์ เขาใช้นิ้วชี้สอดเข้าไปจากนั้นตะขอที่เกี่ยวกันก็แยกออก
"ไม่ได้มาพบคุณหลายเดือน คืนนี้งานหนักหน่อยนะ สามยกหกท่า ไม่มากไปใช่ไหมคนสวย"
“ฉะ ฉันไม่ใช่...”
กุลนิดายังพูดไม่ทันจบ ปากอิ่มสวยก็ถูกปากร้อนผ่าวนาบลงปิดกั้นแล้วบดคลึงหนักๆ ไรอันแปลกใจ วันนี้ริมฝีกปากของเธอหอมหวาน เย้ายวนเขาเหลือเกิน
ขณะที่ดวงตาคู่สวยของกุลนิดาเบิกกว้าง เสียงที่จะร้องดังอู้อี้อยู่แต่ในลำคอกางเกงผ้าฝ้ายแบบสวมใส่สบายและเสื้อยืดสีขาวเข้ารูปถูกดึงให้ปลิดปลิวออกจากเรือนกายอ้อนแอ้นอย่างไร้ทิศทางดวงตากลมโตขยายกว้าง จมูกของเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นบรั่นดีคละคลุ้งจากร่างกำยำราวกับเขาไปตกถังหมักเหล้ามา
“อื้อ ปล่อย”
“ผีอยากมาแอบดูคนพลอดรักกันก็เอาสิ เกรซีกลัวผีเหรอ ผมเคยสอนวิชาไล่ผีให้แล้วไง ผีจะกลัวคนแก้ผ้า ถ้าเกรซีที่รักไม่อยากถูกผีหลอก เดี๋ยวผมช่วยถอดเสื้อผ้าให้คุณเอง”กุลนิดาอับอายจนวางหน้าไม่ถูก “ถอดอีกแล้วเหรอคะ ฉันเพิ่งใส่กลับเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง”กุลนิดาถูกเขาผลักให้นอนราบลงบนเตียง จากนั้นความขาวโพลนพร้อมกลิ่นหอมอ่อนของน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ลอยลงมาปกคลุมสองร่างเอาไว้ อ้อมกอดของคนที่นอนทับอยู่บนตัวทั้งหอมและมีกลิ่นกายเฉพาะตัวชวนให้พาใบหน้าเข้าไปเคลียคลอกับแผงอกนั้น“กลัวผีใช่ไหม เดี๋ยวผมลงคาถากันผีให้ รับรองว่าเกรซีจะไม่ถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต”“บ้า ฉันไม่เชื่อ คุณหลอกฉัน”“ไม่เชื่อ ก็ต้องให้ผมลงคาถาอยู่ดี”ดวงตาสีฟ้าภายใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่เจิดจรัสเต็มไปด้วยไฟพิศวาสลุกโชน มันพร้อมจะแผดเผาเธอด้วยความรักที่เร่าร้อนเพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบางงดงามไร้ที่ติกลับปลิดปลิวออกจากร่าง แต่ละชิ้นถูกไรอันโยนออกมาอย่างไม่ไยดีเสื้อและกระโปรงร่วงหล่นลงไปตามแรงเหวี่ยง ส่วนแพนตี้ตัวน้อยถูกเขาถอดและหล่นไปกองอยู่ข้างเตียง จนกระทั่งเหลือบราเซียร์สีชมพูหวานเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ถูกเขาลอกคราบออก
กุลนิดาบอกเขาหมดเปลือก บอกจากก้นบึ้งหัวใจ เธอทั้งคิดถึง โหยหา แต่ก็หมั่นไส้พ่อตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์ในเวลาเดียวกันไรอันทนความน่ารักของเมียไม่ไหว มือแกร่งรวบร่างบอบบางของเมียไปนั่งทับบนตัก แล้วกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาวผ่อง“เรามาทำลูกกันอีกสักคนดีไหม ผมอยากให้น้ำอิงมีน้องไว้เป็นเพื่อนเล่น”กุลนิดาหน้าแดง ยกมือทุบอกเขาดังปั้กไรอันจับมือเล็กไว้ แล้วขบเม้มใบหูขาวอย่างรักใคร่ “อยากทุบก็ทุบให้เต็มที่ ผมไม่ทุบคืนด้วยหมัดแน่ๆ เพราะผมกลัวเมียเจ็บ แต่ผมจะชกคุณคืนถึงเช้าด้วยอวัยวะที่นุ่มนวลที่สุด”“ไรอัน คนหื่น ฉันรู้นะคุณหมายถึงอะไร”แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างเล็กถูกเขาผลักลงไปบนเตียงเหมือนในคืนนั้น ร่างสูงกระชากผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พันไว้รอบเอวอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้ เขานอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ แล้วคิดเล่นๆ ว่าถ้ามีลูกอีกคนจะให้ชื่ออะไรดี เขาคิดออกแล้ว และเวลานี้ ควรต่อแขนให้ ‘น้ำอุ่น’ ออกมาเป็นตัวเป็นตนสักทีไรอันอวดหุ่นกำยำต่อหน้าเมีย กุลนิดารีบหลับตาปี๋ เพราะยังอายอยู่ จังหวะนั้นเองที่ไรอันรีบปอกเปลือกเมียให้เหลือแต่ร่างขาวโพลนทันที“ลูกคนนี้ผมจะตั้งใจทำให้หน้าเหมือนคุณนะ จะได้ไม่น้อยใจผมอ
“รู้อะไรไหม แต่ผมไม่เคยหลอกคุณนะ ว่าผมรักคุณกับลูกที่สุด รักจนหยุดหัวใจไว้ที่คุณ”“ฉันรู้ค่ะ ฉันยอมรับที่ผ่านมา ฉันขี้ขลาดเอง กลัวคุณไปเจอผู้หญิงสวยๆ ก็อยากจะเลี้ยงดูไปเรื่อยๆ แบบที่คุณเคยเลี้ยงดูพี่อินทิราเอาไว้ ตอนนี้ยังแอบส่งเสียกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าคุณมีเมียไว้ประเทศละคน ฉันคงทนไม่ได้ เลยเลือกที่จะไม่เปิดโอกาสให้คุณ” กุลนิดาบอกแล้วเบือนหน้าหนี เธอยอมรับผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อใจเขา ไม่เปิดโอกาสให้เขาไรอันเชยคางเมียกลับมา จ้องดวงตาสีนิลคู่วาววับ “ผมกับอินทิราเลิกยุ่งเกี่ยวกันตั้งแต่คืนนั้นที่ผมมีอะไรกับคุณ แล้วผมก็ไม่ได้ไปมีเมียทิ้งไว้ทุกประเทศแบบที่คุณเข้าใจ ข่าวคุณมั่ว ไม่กรองแล้วละ”“หมายความว่ายังไงคะไรอัน” กุลนิดาเบิกตาโตมองเขาอย่างสนใจ“ผมกับอินทิราเจอกันบนสายการบินพาณิชย์ ตอนเครื่องบินลำนั้นที่ระเบิดไปมันงอแง ผมเห็นอินทิราสวยดี เธอส่งสายตาให้ผมก็เลยให้ครูซยื่นข้อเสนอ และไม่ได้ตั้งใจให้มาอยู่ที่นี่หรอก แต่อินทิราบอกผมว่าคอนโดฯ ของเธอยังตกแต่งไม่เสร็จ แต่ที่ผมมาที่นี่หลายครั้งไม่ได้ติดใจอินทิรา แต่ติดใจสาวน้อยที่ดูแลกุหลาบของแม่ผมอย่างดี ผมคิดว่ามาอยู่ที่เมืองไทยมันจะตา
เฮี้ยนกว่าผีก็สามีของเธอนี่เองดวงหน้าขาวซีดแทบจะเป็นสีเดียวกับกระดาษเวลานี้พลันเปลี่ยนเป็นจ้องมองเขาอย่างขุ่นเคือง เลือดลมกลับมาสูบฉีดแรง ตอนนี้สติเธอกลับมาครบถ้วนพอจะแยกออกว่าร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาแล้วคว้าเธอเข้าไปกอดคือสามีไม่ใช่ผี“ไรอัน! คนบ้า คุณเล่นบ้าอะไร หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวว่าเครื่องบินระเบิด คุณตายแล้ว” กุลนิดารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นคนเสียสติแล้วกระมังถึงได้หัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์ไรอันส่ายหน้า รอยยิ้มหล่อร้ายบนใบหน้าของเขาประดับค้างอยู่นานไม่ยอมจางหาย ในขณะที่ดวงตาสองข้างยังจ้องหน้าเมียรักอยู่ตลอดเวลา“คุณยังหลอกผมได้เลย คิดว่าผัวเคี้ยวหญ้าหรือไงจ๊ะที่รัก ถึงได้คิดว่าผมจะเชื่อว่าเมียมีฝาแฝด เป็นไงพอผมหลอกคืนบ้าง คุณถึงกับอึ้งไปเลย”กุลนิดาผลักอกเขาออกแต่มันไม่ขยับออก ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งดีใจ ทั้งโมโห “หลอกแรงเกินไปแล้ว”ไรอันขยับเข้าไปใกล้ร่างเมียรัก ประคองใบหน้างามที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาให้มองตอบเขา “ฟังผมอธิบายก่อนเกรซี อย่าเพิ่งโกรธผมเลย”กุลนิดาส่ายหน้าด้วยความน้อยใจ “คุณหลอกคนทั้งโลกว่าตายแล้ว คุณเป็นคนแบบไหนกัน ทำไมต้องหลอก
กุลนิดาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่อาย ตอนนี้เธออยู่คนเดียวภายในห้อง เธอไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเห็นแล้วตั้งคำถามอีก ดังนั้นเมื่อน้ำตาอยากไหลออกมา เธอก็จะปล่อยให้มันไหลไปจนกว่าจะพอ อย่างน้อย เธอจะได้ใช้มันเป็นหนทางระบายออกได้บ้างใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเลอะกรัง กวาดมองรอบห้องอย่างอาวรณ์ ตอนนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เธออยากจะคิดว่าข่าวที่ลงเป็นเพียงข่าวโคมลอย เชื่อถือไม่ได้ เขายังปลอดภัยดี เพียงแต่ยังเคลียร์งานไม่เสร็จจึงยังกลับมาไม่ได้...แต่กุลนิดาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เพราะภาพข่าวที่ทุกสื่อนำมาลงเป็นเรื่องจริงจู่ๆ ก็มีลมพัดวูบหนึ่งเข้ามาในห้อง กุลนิดาจึงเดินไปที่ระเบียง ประตูถูกเปิดออกไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ชายผ้าม่านสีขาวปลิวคว้าง ภาพนี้เหมือนเมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด จู่ๆ กุลนิดาก็รู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“เหมือนวันนั้นไม่มีผิด” ปกติกุลนิดาเป็นคนกลัวผีมาก และตอนนี้ความหลอนก็ผุดขึ้นมาอีกหนห้องนี้เคยมีประวัติอะไรหรือเปล่านะ เธอยังจำได้ดีถึงผีจูออนชุดขาวที่เห็นวันนั้น เธอยังไม่เคยคุยกับไรอันถึงเรื่องนั้นเลย เคยตั้งใจว่า
แอชลีย์มองสองแม่ลูกแล้ววางหน้าลำบากพลางลอบถอนหายใจ “เอาละ หลานป้าแอชลีย์มีสายเลือดนักสู้ สุดยอดมาก ป้าแอชลีย์ตะลึงไปเลย แบบนี้ควรมีรางวัลให้หนูใช่ไหม”พอได้ยินคำว่ารางวัล ร่างอวบที่นอนหงายดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย “รางวัล! เด็กดีควรมีรางวัลค่ะ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องใช่ไหมคะมามี้”เด็กหญิงยิ้มเผล่รู้สึกหายเหนื่อย “คุณป้าแอชลีย์คนสวย น้ำอิงอยากกินไอศกรีมเป็นรางวัลได้ไหมคะ” แม่คนช่างประจบ และหัวไวกับของฟรีกล่าวแอชลีย์ดึงหลานสาวตัวอวบไปกอด รู้แล้วทำไมน้องชายถึงได้หลงลูกสาวนัก “แน่นอนหลานสาวของป้าได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้”กุลนิดามองหน้าแอชลีย์ เสี้ยวหน้าด้านหนึ่งมีเค้าเหมือนไรอันอยู่มาก ความสนิทอย่างรวดเร็วของสองป้าหลานคงเป็นความผูกพันทางสายเลือด“อย่ารบกวนคุณป้าเลย เดี๋ยวมามี้พาไปเอง”เพียงแต่แอชลีย์หันมายิ้มแล้วพยุงหลานสาวให้ลุกขึ้น “เกรซี ฉันมีเรื่องจะบอก แม่บ้านของลักซูรีคอนโดฯ โทร.มาบอกฉันว่าอยากให้เจ้าของห้องชุดเข้าไปดูแลกุหลาบพวกนั้นที่ริมระเบียงด้วย เพราะพวกมันใกล้จะตายหมดแล้ว ไรอันจ้างให้แม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ย้ายต้นกุหลาบเหล่านั้นออกไปไหน ตอนนี้ห้อง







