เสี่ยวชิ่นมองแผ่นหลังซือถูไป๋ ถอนใจออกมาเงียบๆ"เจ้าถอนใจอะไรของเจ้าน่ะ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ทั้งโมโหทั้งขำ"ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกว่าคุณชายซือถูเองก็ดีอยู่นะ หน้าตาเองก็ดีด้วย"เสี่ยวชิ่นรู้สึกจริงๆ ว่าซือถูไป๋หน้าตาดีมาก เห็นหรือเปล่าว่าขนาดป้าที่ขายขนมถั่วมั่วครู่ก็ยังต้องชะเง้อคอมามองเขา? ขนาดว่ามองไม่เห็นตัวคนแล้วก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้คุณชายซือถูเดินอยู่ในฝูงชนแบบนี้ต้องเจิดจ้าแน่นอนคุณหนูของนางเองก็เหมือนกันนะ ดังนั้นสงอคนนี้ถ้าได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ไม่รู้ว่าจะเป็นภาพที่งดงามขนาดไหนฟู่จาวหนิงฟังออกถึงอาการใจคอเหี่ยวแห้งกับหดหู่ของนาง จึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"อย่าคิดเพ้อเจ้อน่า พวกเราไปดีกว่า"นางเดินตรงไปยังจุดที่ได้กลิ่นวัตถุดิบยาเมื่อคืนนี้ถ้าหากซือถูไป๋พูดเรื่องจริง เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่าบ้านหลังนั้นที่นางได้กลิ่นวัตถุดิบยา คือพ่อค้าวัตถุดิบยาที่ซือถูไป๋มาหาถ้าหากเขาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาสำเร็จแล้ว นางเองก็อาจจะเสียเที่ยวก็ได้แต่ว่าฟู่จาวหนิงก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด ถ้าหากครั้งหน้าอีกฝ่ายยังมียามาให้ล่ะ?เพียงไม่นานนางก็เห็นด้านนอกของเรือนหลังหนึ่ง
ถ้าหากอีกฝ่ายขายวัตถุดิบยาจริง ขายให้นางรับรองว่าไม่ขาดทุนแต่คนเขาตอนนี้ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ช่างมันแล้วกัน"เจ้ารอก่อน!"หญิงสาวคนนั้นพอเห็นนางหมุนตัวจะไป ก็รีบเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่สนใจ เดินตรงออกไปคนเขาบอกว่านางท่าทางเหมือนขโมยแล้ว ทำไมแค่ถูกเรียกไว้ยังต้องหยุดให้ด้วยล่ะ?"ข้าบอกให้เจ้าหยุดก่อนไม่ได้ยินหรือ!"หญิงสาวพุ่งมาขวางหน้านาง กางมือขวางนางไว้ฟู่จาวหนิงมองนาง "ยังมีธุระหรือ?""บ้านข้ามีวัตถุดิบยาอยู่ชนิดหนึ่ง ล้ำค่าเอามากๆ เจ้าอยากจะเห็นไหม?"เสี่ยวชิ่นพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว "เมื่อครู่เจ้าไม่ใช่บอกไม่ให้พวกเราเข้าไปหรือ ทำไมตอนนี้มาเปลี่ยนใจแล้ว?""ข้าไม่ดูแล้ว" ฟู่จาวหนิงตอบ"แม่นางอย่าเพิ่งโกรธกัน อันที่จริงวัตถุดิบยาบ้านข้าเมื่อวานนี้ก็ขายออกไปหมดแล้ว เมื่อครู่เด็กน้อยเขาพูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็เพราะไม่มีวัตถุดิบยาแล้วจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่จึงไม่ยอมให้ท่านเข้าไป" ลุงคนนี้รีบเดินเข้ามาขัดตาทัพ"เมื่อคืนขายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ ขายให้กับโรงยาทงฝูไปแล้ว" ลุงตอบมาเสี่ยวชิ่นมองไปทางฟู่จาวหนิง ที่แท้คุณชายซือถูก็ไม่ได้โกหกสินะ? เขาพูดความจริงนี่นา เช่นนั้นวันนี้ตอน
ไป๋หู่กับสือซานสืออีอยู่ห่างไปไม่ไกลนักอีกเดี๋ยวการจะย้ายวัตถุดิบยาออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก"คุณหนู คุณชายซือถูเป็นนายน้อยเจ้าของร้านโรงยาทงฝู วัตถุดิบยาที่เขาไม่ซื้อ ยังจะเป็นวัตถุดิบยาได้หรือ?" เสี่ยวชิ่นไม่ค่อยเข้าใจ"ยังไม่เห็น ต้องเห็นก่อนจึงจะรู้""แต่ว่าลุงคนนี้ชื่อว่าหลี่เหล่าสือเลยนะ" เสี่ยวชิ่นระแวงขึ้นมา ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะซื่อสัตย์(เหล่าสือ) จริงๆ ไหมหลี่เหล่าสือแค่ครู่เดียวก็แบกหาบตะกร้าสานใบหนึ่งออกมา พอว่างลงก็พูดว่า "ยังมีอีกกระสอบหนึ่ง ข้าเข้าไปย้ายมาก่อน"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เขาก็วิ่งเข้าไปแล้วครู่หนึ่งก็แบกของกระสอบใหญ่ออกมา ดูเหมือนใส่เอาไว้จนแน่นและหนักเอามากๆเสียงตุบดังขึ้น เขาทิ้งกระสอบลงมา หายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว"ของพวกเนี้คือสิ่งที่ข้าขุดมาเอง รวมถึงเก็บกลับมาในช่วงสองปีนี้"หลี่เหล่าสืออธิบายกับฟู่จาวหนิง"เพราะข้าขายยาจำนวนมาก รู้จักกับคนในโรงยาทงฝูด้วย ดังนั้นละแวกนี้ก็จะมีคนที่ขุดยาเอาวัตถุดิบยาที่ตนเองขุดส่งมาให้ข้า บ้างอย่างข้าก็ซื้อมาเลย บางอย่างก็ฝากขาย ดังนั้นวัตถุดิบยาที่ข้าเก็บจึงมีมากขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเดินไปที่ของในตะกร้าสาน
ของเหล่านี้ยังส่งกลิ่นเหม็นไหม้อีกด้วย ภรรยาเขาก็ด่าอยู่บ่อยๆ บอกว่าถ่านเน่าๆ ยังไม่ยอมทิ้งไปอีก"อย่างนี้นี่เอง"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง และไปดูวัตถุดิบยาในถุงกระสอบ"สิ่งนี้ก็มีพิษเช่นกัน ใช้มือแตะไม่ได้ พอแตะจะคันทันที ข้าเองก็สกัดไม่เป็น ขับพิษออกไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเคยลองจนถูกพิษทำให้เป็นลมไปหลายครั้ง ไม่กล้ายุ่งกับมันอีกแล้ว"หลี่เหล่าสือพูดถึงจุดนี้ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา "แม่นาง อันตรายทั้งนั้นเลย ท่านจะเอาไปไหม? ไม่อย่างนั้นก็ช่างมันเถิด"หลี่จื่อเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ร้องขึ้นมา "ท่านพ่อ! นางบอกกับข้าไว้แล้ว ข้ายังไม่ได้บอกว่าช่างมันเสียหน่อย ท่านพูดอะไรออกมาน่ะ!""ของพวกนี้ข้าเองก็ทิ้งส่งเดชไม่ได้ กลัวว่าคนอื่นหรือว่าเด็กเก็บไปอย่างไม่ทันระวัง ถ้าติดพิษขึ้นมาจะกลายเป็นบาปของข้าไป"หลี่เหล่าสือส่ายหัว "แต่ในบ้านเองก็วางไว้ตลอดไม่ได้อีก ถ้าท่านนำไปได้ ข้าจะไม่เก็บเลยสักแดงเดียวจริงๆ""เดิมทีก็บอกไว้แล้ว นางต้องตอบคำถามข้าข้อหนึ่งก่อนนะ!" หลี่จื่อเอ๋อร์ร้องขึ้นมาอีกครั้งเสี่ยวชิ่นมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ใครก็มองไม่ออกถึงอารมณ์ของฟู่จาวหนิงและไม่รู้ว่านางสนใจวัตถุดิบยาเหล่
เดิมทีหลี่จื่อเอ๋อร์เมื่อคืนนี้แสดงออกถึงความรักต่อซือถูไป๋ไปแล้ว แต่ซือถูไป๋ปฏิเสธนาง แล้วยังบอกว่าตนเองมีแม่นางในใจคนหนึ่งแล้ววันนี้ตอนเช้านางออกไปเห็นซือถูไป๋กับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันสายตาของซือถูไป๋ที่มองฟู่จาวหนิงแถมจะหยาดย้อยอยู่แล้วหลี่จื่อเอ๋อร์หึงหวงขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงถาม "ข้าไปได้หรือยัง?""เจ้าไปเถอะไปเถอะ ไปไกลๆ หน่อยก็ดี" หลี่จื่อเอ๋อร์โบกไม้โบกมือเหมือนไล่แมลงวันอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงก็ดูหมดความอดทน "แล้วก็ห้ามเจ้ามาเจอคุณชายซือถูอีกล่ะ! ตระกูลพวกเราก็มีคนอยู่ในวังเหมือนกันนะ!"มีคนในวังเสียด้วย?นางกลัวจังเลยฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ไม่สนใจนางอีก พาเสี่ยวชิ่นเดินออกไปตอนนี้นางเองก็ไม่อยากจะเดินเที่ยวแล้ว รีบเดินกลับไปเสิ่นเสวียนกลับมาพอดี พอเห็นพวกไป๋หู่ขนของเหล่านี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา"จาวหนิงออกไปข้างนอกหรือ?""ขอรับ ใกล้ๆ นี้เอง""เดินไปไม่ไกลแล่วทำไมถึงมีของพวกนี้กลับมากัน? วัตถุดิบยาหรือ?"ไป๋หู่เล่าเรื่องออกมาหลิวหั่วที่อยู่ข้างๆ กังวลหน่อยๆ "เช่นนั้นคุณหนูจาวหนิงถึงได้เอาวัตถุดิบยาไม่มีประโยชน์กลับมามากมายขนาดนี้น่ะหรือ? เพราะว่ากลัวตระกูลหลี่นั่น
เสี่ยวชิ่นได้สติกลับมา ตกใจจนทิ้งตัวลงพื้นดังตุบ หน้าขาวซีดนางปากไวไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น เป็นแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น ยากจะป้องกันเรื่องกำแพงมีหูประตูมีช่องสีหน้าเสิ่นเสวียนยังเย็นเยียบอยู่เสี่ยวชิ่นตกใจจนตัวสั่น พวกของไป๋หู่ก็ไม่มีใครขอความเมตตาให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กถ้าหากถูกคนลืออกไป คุณหนูได้มีปัญหาใหญ่แน่มีใครยอมให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของพวกเขาต้องโดนกดย่ำไว้บ้าง? องค์จักรพรรดิยังไม่ยอมเลย ประชาชนของต้าชื่อก็เกรงว่าจะไม่เห็นด้วย พวกเขาคงได้คิดกันแน่ว่าจะจัดการฟู่จาวหนิงทิ้งอย่างไรเพราะประชาชนของต้าชื่อแทบจะรู้สึกกันไปหมดแล้ว ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยอดเยี่ยมไร้เทียมทานในด้านโชควาสนา เป็นเหมือนเซียนหญิงในใจพวกเขา คนอื่นจะทำให้แปดเปื้อนไม่ได้"ข้าจำได้ว่าเจ้าก่อนหน้านี้ดูฉลาดดี นี่เพราะอยู่กับอวี๋อวี่เวยนานไปจนเริ่มโง่ขึ้นมาแล้วหรือ?"เสิ่นเสวียนน้ำเสียงเย็ฯชา "ถ้าเจ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะจะอยู่ข้างกายจาวหนิงแล้ว"เสี่ยวชิ่นตกตะลึง รีบมองไปทางฟู่จาวหนิง"นายท่าน ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว ไม่กล้าอีกแล้วจริงๆ! ให้ข้าน้อยติดตามคุณหนูเถิด
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับเข้าเมืองหลวงในวันนี้ ทั้งเมืองหลวงล้วนคึกคักอย่างมากคนทั้งหมดแทบจะออกมาจากบ้าน คนที่พอเบียดตัวไปบนถนนได้ก็ไปกันหมด ร้านรวงสองฟากถนน ชั้นบนชั้นล่างของสถานที่ที่มีประตูหน้าต่างมองมาทางถนนได้ ล้วนเบียดเสียดแออัดกันหมดกระทั่งมีคนปีนขึ้นต้นไม้ ปีนขึ้นกำแพง ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านด้วยซ้ำได้ยินว่าองค์จักรพรรดิเลือกทหารเอาไว้สามกอง คอยรับผิดชอบระเบียบความปลอดภัย กระทั่งคนในที่ว่าการก็ยังออกกันมา สองฟากถนนล้วนมีทหารทางการคอยกันประชาชนไว้ประชาชนที่เบียดไปด้านหน้าสุดได้ล้วนถือของไว้ในมือ และยังมีคนหิ้วตะกร้า ส่วนของที่ถือก็มีมากมายหลายแบบ แต่หลักๆ ล้วนเป็นของที่เล็กน้ำหนักเบาทั้งสิ้น"อย่าเบียดกัน!""อย่าส่งเสียงดังเอะอะ!""อีกด้วยตอนองค์หญิงใหญ่ผ่าน ถ้าใครโยนของต้องห้ามออกมามั่วซั่ว จะถูกจับขังที่คุกใหญ่ทั้งหมด!""ห้ามทำให้องค์หญิงใหญ่ตกใจเด็ดขาด!"พวกชิ่งอวิ๋นเซียวยืนอยู่ข้างระเบียงชั้นสามของโรงสุราแห่งหนึ่ง มองคนแน่นขนัดที่ด้านล่าง ฟังเสียงจอแจต่างๆ ล้วรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเอาจริงๆถ้าหากไม่ได้มาเห็นกับตา ข้าคงคิดไม่ถึงแน่!" ชิงอีจุ๊ปาก"ใช่แล้ว คิดไม่ถึงเลย
ซือถูไป๋ค่อยๆ กำมือแน่นเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าผู้ชายอย่างอ๋องเจวี้ยน จะมีหญิงสาวเข้ามาลุ่มหลงมากขนาดไหนกระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ก็ยังต้องชายตามองเขา เขาคิดอยากจะลูบใบหน้าขาวสะอาดของตนเอง อยากจะรู้ว่าใบหน้านี้ของตน จะสู้อ๋องเจวี้ยนได้หรือไม่ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากันห่างๆและที่ชั้นล่างของเซียวหลันยวน เสิ่นเสวียนตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับฟู่จาวหนิงในห้องชั้นสูง"เดิมทีหออันดับหนึ่งบอกว่าจะเหลือห้องหรูที่มองเห็นถนนไว้ให้ แต่ตอนนี้พวกเราไม่ไปหออันดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้แย่กว่าหออันดับหนึ่งสักเท่าไร"หลิวหั่วเองก็อธิบายกับฟู่จาวหนิงว่า "เถ้าแก่ของที่นี่มีความสัมพันธ์กับนายท่านอยู่ การจะเหลือห้องไว้สักห้องไม่ใช่ปัญหาเลย""ท่านลุงสองวันนี้คงไม่ใช่เอาแต่หาคนเพื่อจองที่หรอกใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงปลดผ้าคลุมหมวกออก ผ่อนลมหายใจเมื่อครู่พวกเขาเดินเบียดกันอยู่บนถนนอยู่นานกว่าจะเข้ามาถึงวันนี้บนถนนไม่มีรถม้าเลย ทั้งหมดเบียดแน่นจนไม่มีช่องว่าง กว่าจะเบียดเสียดเข้ามาถึงนี่ไม่ง่ายเลย"จะคอยเอาแต่มาจองที่อยู่ได้อย่างไรกัน?" เสิ่นเสวียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "มีเรื่องต้องไปจัดการน่ะ เรื่อง
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม