ท่านเฟิงจวินพยักหน้า"ข้าขอคิดก่อน เหมือนมีอะไรลืมไปแล้ว"ฟู่จาวหนิงเลิกเส้นผมของนางออกตรวจสอบฮูหยินใหญ่โม่พวกนางตอนนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไร"จริงด้วย" ท่านเฟิงจวินยังพูดอีกว่า "ตอนนั้นข้ารู้สึกว่า แม่ของท่านบนตัวมีกลิ่นหอมอยู่ ไม่แน่ใจว่ากลิ่นอะไร กลิ่นไม่ค่อยดีนัก"ฟู่จาวหนิงมือชะงัก"ไม่ใช่กลิ่นธูปหรือ?""ไม่ใช่" ท่านเฟิงจวินส่ายหัว "รุ้สึกว่ากลิ่นไม่น่าดม ข้าตอนนั้นยังคิด บนตัวหญิงสาวตระกูลฟู่คนนี้มันกลิ่นอะไรนะ? เข้าวังมาทำไมถึงไม่พิถีพิถันหน่อย นี่ถ้ามาเจอพวกคนชั้นสูงมาได้กลิ่นเข้า คงได้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแน่ๆ"นางพูดถึงจุดนี้ก็รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงฟู่จาวหนิงมองสีหน้านาง "ขอบคุณท่านเฟิงจวินมากที่บอกเรื่องเหล่านี้กับข้า ตอนนี้ท่านนอนพักผ่อนเสียก่อน ข้าจะฝังเข็มให้ท่าน จากนั้นจะจ่ายยาบางส่วนให้ ส่วนจะใช้ยาอย่างไรข้าอธิบายกับพวกฮูหยินไว้ก็พอ ท่านปล่อยใจให้สบาย แม้ว่าข้าตอนนี้จะยังพูดกับท่านชัดเจนไม่ได้ว่าโรคนี้คืออะไร แต่ว่ารักษาได้""จริงหรือ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน รักษาได้จริงหรือ?""หา?"หญิงสาวตระกูลโม่แต่ละคนที่นี่ล้วนดีใจกันขึ้นมาเป็นล้นพ้นฟู่จาวหนิงเป็นคนแรกที่พู
ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างเกินคาดหน่อยๆ "ไอ๊หยา คุณชายลู่นี่ไม่เลวเลย""ลูกพี่หนิงอย่าขำข้านะ ทำเอาเหมือนข้าเป็นคนโง่" ลู่ทงหัวเราะเหอะๆ "แต่ว่า ขอแค่ข้ายืนหยัดจุดนี้ พวกเขาตอนแรกเองก็เคยสงสัย แต่ว่าเชิญหมอหลายคนมาตรวจอาการ แต่ก็ไม่มีใครพูดว่าเฟิงจวินติดพิษ ดังนั้นคนของตระกูลโม่จึงไม่ได้สงสัยอีกแล้ว"ลู่ทงถอนหายใจอีกครั้ง"ข้าต่อมาก็เคยยกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็บอกว่าข้าเป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องวิชาแพทย์เลย แล้วจะไปเก่งกาจกว่าพวกเขาได้อย่างไร? พวกหมอบอกว่านี่เป็นโรคประหลาด ยังมีคนมาพลิกตำราโบราณสมัยก่อนดูด้วย บอกว่าเคยมีบันทึกไว้ มีโรคที่ผู้ป่วยกลัวแสง ผิวหนังขาวผิดปกติ ไม่เหมือนมนุษย์"มีโรคคนเผือกบางประเภท ที่เป็นได้เช่นนี้จริงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวอย่างที่หมอค้นออกมาน่าจะเป็นโรคคนเผือกแต่ของท่านเฟิงจวินนี้ไม่ใช่"หมอยังบอกว่า ในเมื่อเป็นโรคประหลาดที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีขาว เช่นนั้นเฟิงจวินก็ควรจะน่าจะเป็นโรคคล้ายๆ กัน เพียงแต่ทำไมผิวจึงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเทียน ยังต้องหาสาเหตุจากอีกหลายๆ ด้าน ตระกูลโม่เชิญคนมาไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังเชิญคนมาตรวจในจวน ในเรือน อาหารการกิน เสื้อผ
ลู่ทงฟังอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง ก็รู้ว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของฟู่จาวหนิงในอดีตแน่ก่อนหน้าที่พวกเขาจะตรวจสอบเรื่องในอดีตชัดเจน เขาเองก็จะไม่พูดไปเรื่อยฟู่จาวหนิงปล่อยลู่ทงไว้ก่อน ตรงไปหาผู้อาวุโสจี้ใครจะรู้ว่าพอเพิ่งมาถึงประตูก็เห็นผู้อาวุโสจี้แบกถุงออกมา ทำท่าเหมือนจะออกไปข้างนอกอย่างไรอย่างนั้น"ท่านอาจารย์ ท่านจะไปไหนหรือ?""ศิษย์รัก เจ้ามาได้พอดีเลย" ผู้อาวุโสจี้เห็นนางแล้วดีใจมาก "พันธมิตรโอสถส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าได้รับวัตถุดิบยามากองหนึ่ง ล้ำค่าอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ขายวัตถุดิบยายังบอกว่าพบกับสถานที่ที่วัตถุดิบยาชั้นยอดงอกขึ้นมาอีกด้วย ข้าต้องรีบไปดูเสียหน่อย""ที่ไหนหรือ?""สถานที่ยังไม่รู้ ข้าต้องกลับไปที่พันธมิตรโอสถก่อนรอบหนึ่ง เจ้าจะไปกับอาจารย์ด้วยไหม? เจ้ามาเข้าร่วมพันธมิตรโอสถใต้หล้าตั้งนานแล้ว แต่อาจารย์ก็ยังไม่เคยพาเจ้ากลับไปพบเจ้าพันธมิตรกับเหล่าผู้อาวุโสเลย"ฟู่จาวหนิงชะงักไปนางเองก็หวั่นไหวขึ้นมานิดๆแต่คิดๆ แล้วก็ส่ายหัว "ท่านอาจารย์ ท่านก็รู้ ว่าตอนนี้ข้ามีเรื่องที่ยังออกไปไหนไม่ได้ชั่วคราว เซียวหลันยวนทางนั้นน่ะ"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ
"ได้ เช่นนั้นก็ให้คนของจวนอ๋องเจวี้ยนอยู่ เช่นนั้นข้าไปก่อน เดิมทีเมื่อครู่ก็อยากจะไปหาเจ้าอยู่ แต่ตอนนี้เจ้ากลับให้ข้าต้องวิ่งวนไปรอบหนึ่งเสียแล้ว ไว้ข้าไปพันธมิตรโอสถถามถึงสถานที่นั้นแล้วจะเขียนจดหมายมาบอกเจ้า เจ้าลองดูว่าถ้าตอนนั้นว่าง ค่อยคิดว่าจะไปก็ได้"ผู้อาวุโสจี้อยากจะพาฟู่จาวหนิงไปจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะได้สอนสิ่งที่เจอระหว่างทางให้กับนางไปเลยแต่ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้ไปไหนไม่ได้เขาก็พอจะเข้าใจอยู่"ท่านอาจารย์ เช่นนั้นก็เดินทางปลอดภัยนะ""อืม ไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้จึงอาจากเมืองหลวงไปกลับมาพูดถึงทางเซียวหลันยวน เขาพาคนตรงไปที่วังหลวงก่อนหน้านี้ รถม้าของโหวจวิ้นอันขับเข้าไปในประตูวังแล้ว อันเหนียนติดตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าวังไปแล้วจริงๆ จึงรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องเพราะทั้งบ้านโหวจวิ้นอันอันที่จริงไม่ได้เข้าวังมานานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมีช่วงหนึ่งที่ฮูหยินโหวจวิ้นอันกับฮองเฮาไม่ลงรอยกัน ฮองเฮาแม้จะไม่ได้คิดลงมืออะไรกับโหวจวิ้นอัน แต่เขาก็ได้ยินข้อมูลส่วนในมา ฮองเฮาเคยให้คนมาบอกกับโหวจวิ้นอันว่าไม่อยากจเห็นฮูหยินโหวอีกแล้วโหวจวิ้นอันบอกกับฮูหยิน ถ้าไม่เข้
นอกประตูมีเสียงตะโกนของอันเหนียนลอดเข้ามา"ข้ากำลังหงุดหงิด ให้เขาสงบปากแล้วไสหัวไป""องค์จักรพรรดิ ข้ามีเรื่องประหลาดจะมาแจ้งกับฝ่าบาท!"เรื่องประหลาด?องค์จักรพรรดิถูกประโยคนี้ดึงดุดไว้ทันที ผู้ตรวจการอันเองก็เป็นปฏิปักษ์กับเขาบ่อยครั้ง และเป็นคนที่เอาจริงเอาจังด้วย แล้วจะมีเรื่องประหลาดอะไรที่ต้องมาบอกเขากัน?หรือว่าจะมีเรื่องอะไรจริงๆ?เขากระแอมออกมาเสียงหนึ่ง "เอาล่ะ ข้าจะลองฟังดู ให้เขาเข้ามา"อันเหนียนรีบเดินเข้ามา พอเห็นองค์จักรพรรดิ ก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นกับเขาขึ้นทันที "องค์จักรพรรดิ! ได้ยินว่านายท่านผังได้รับของประหลาดชิ้นหนึ่งส่งไปให้กับท่างไทเฮา! ข้าขอหยิบยืมสายตาของฝ่าบาทไปเปิดโลกหน่อยได้ไหม?""เจ้าพูดเรื่องอะไรออกมากัน?"องค์จักรพรรดิงงงันไปเมื่อครู่บอกว่ามีเรื่องประหลาดอยู่ที่หน้าประตูหรือ? ตอนนี้ทำไมกลายเป็นว่านายท่านผังมีของประหลาดส่งไปให้ไทเฮากัน?"นี่เจ้าเข้ามาในวังเพื่อดูผังอ้ายชิงส่งของขวัญให้กับไทเฮาหรือ?""ถูกต้อง องค์จักรพรรดิ นายท่านผังน่ะ ท่านเองก็เข้าใจตัวเขาอยู่กระมัง? คนที่ขี้งกขี้เหนียวขนาดนั้น ปีที่แล้วงานฉลองวันเกิดของฝ่าบาท นายท่านผังส่งอะไรม
ไทเฮาพอตะคอก ก็ทำให้นายท่านผังที่อยู่ด้านนอกตกใจสะดุ้งโหยงเขามองไปยังชายหนุ่มข้างๆ"พวกเจ้าอยากจะพูดอะไรกับไทเฮากันแน่?""นายท่านผังไม่ต้องตึงเครียด นี่ไม่ใช่เรืองแย่สำหรับไทเฮาและองค์จักรพรรดิ" ชายหนุ่มที่ตามมาข้างๆ เงยหน้าพูดขึ้น และก็เป็นฮู่เจียไท่ที่พวกของเซียวหลันยวนตามหามาหลายวันแล้วนั่นเอง"ไม่ใช่แค่พูดกับไทเฮาเท่านั้น พวกท่านยังคิดจะพูดอะไรกังองค์จักรพรรดิอีก?""นายท่านผัง อีกเดี๋ยวท่านก็จะรู้""ข้าเคยพูดไว้แล้ว ว่าข้าไม่ใช่คนที่เลอะเลือนไม่รู้อะไรเลยแบบในอดีตอีกแล้ว ข้าไม่อยากจะทำเรื่องเหล่านั้นกับพวกท่านอีกแล้ว"นายท่านผังยังพูดไม่ทันจบ ฮู่เจียไท่ก็ยื่นมือมากดบนบ่าของเขา ใช้กำลังภายในกดลงไป จนทำเอาบ่าเขาทั้งเจ็บทั้งชา ขยับไม่ได้ชั่วขณะฮู่เจียไท่กดเสียงลงต่ำ "ท่านคิดว่าเรื่องบางเรื่องนึกจะถอนตัวก็ถอนตัวได้หรือ? นายท่านผัง ท่านไร้เดียงสาเกินไปแล้ว"ในห้อง ไทเฮากำลังโกรธเคืองโหวจวิ้นอัน "ข้าบอกไปแล้วเมื่อตอนนั้น ไม่ว่าสิ่งที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ให้อายวนจะเป็นอะไร นั่นมันก็เป็นสิ่งของของเขา ใครก็ห้ามไปแตะต้องแย่งชิง นี่เป็นสิ่งที่ข้ารับปากไท่ซ่างหวงไว้ จะคอยดูแทนเขา""ใช
"ไร้สาระ นี่เจ้าพูดเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!"ไทเฮาโมโหแล้วจริงๆ ถ้าองค์จักรพรรดิ คิดจะให้ใครไปเป็นข้าราชการก็ให้คนนั้นเป็นข้าราชการได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น เช่นนั้นแผ่นดินนี้ก็คงเป็นแผ่นดินที่ใกล้จะล่มสลายไปแล้ว!คิดว่าควบคุมแคว้นหนึ่งมันเป็นเรื่องง่ายดายหรือไรกัน?"นี่มันโง่เขลาตรงไหน? ไทเฮา พวกเราเองก็ไม่เคยเข้าวังมาเพื่อขออะไรเลย ตอนนี้แค่ขอเงื่อนไขเล็กๆ นี้ ทำไมจึงทำไม่ได้กัน?" โหวจวิ้นอันกัดฟันพูดถึงอย่างไรตอนที่เข้ามาเขาก็คิดไว้แล้ว ไทเฮากับองค์จักรพรรดิจะต้องโกรธแน่ แต่หลังจากโกรธก็ควรจะรับปากเพื่อความรุ่งโรจน์ในภายหลัง เขาเองก็ต้องงัดกับแรงกดดันนี้"ต่อให้เจ้าอยากจะขอตำแหน่งข้ารชการ อย่าน้อยก็ควรจะขอเพื่อคนของตระกูลตนสิ?" ไทเฮาสูดลมหายใจลึก นางเองก็มองออกแล้ว โหวจวิ้นอันครั้งนี้ถ้าทำไม่สำเร็จจะไม่ยอมลดละแน่"คนผู้นี้สำหรับข้าแล้วสำคัญอย่างมาก พูดได้ว่าเป็นผู้มีบุญคุณเลยทีเดียว"คนที่หลังจากนี้สามารถทำให้เขากลายเป็นคนที่สูงส่งมั่งมี จะไม่สำคัญได้อย่างไรกัน?"โอ๋? ผู้มีบุญคุณ? เช่นนั้นก็พอเข้าใจได้ แล้วเป็นใครกัน?" ไทเฮาถาม"เขาอยู่ด้านนอกนี้ ไทเฮ
ถ้าหากเลือกระหว่างองค์จักรพรรดิและอ๋องเจวี้ยน คนมากมายคงคิดว่าไทเฮายืนอยู่ด้านองค์จักรพรรดิทางนี้ ถึงอย่างไรประชาชนก็ล้วนคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะดวงใจของไท่ซ่างหวงกับไทเฮาในอดีต เป็นลูกชายของผู้หญิงคนอื่นที่รับเข้ามาจากด้านนอกตอนนั้นไท่ซ่างหวงรักแม่ผู้ให้กำเนิดอ๋องเจวี้ยนมาก คนทั้งหมดล้วนคิดว่าในใจไทเฮาจะต้องสะกิดใจอยู่ สำหรับอ๋องเจวี้ยน นางจะต้องรังเกียจอยู่อย่างแน่นอนดังนั้นหลายปีมานี้ นางจึงไม่ถามไม่ไถ่ต่ออ๋องเจวี้ยน และไม่ได้ปกป้องเขาด้วยดังนั้นพวกของฮู่เจียไท่่จึงเลือกเข้ามากล่อมไทเฮา แล้วค่อยให้ไทเฮาไปกล่อมองค์จักรพรรดิทีละนิดทีละนิดฮู่เจียไท่ไม่รอให้ไทเฮาตั้งตัวติด เอ่ยต่อมาว่า"ไทเฮาอยากรู้ไหมว่าไท่ซ่างหวงทิ้งอะไรไว้ให้อ๋องเจวี้ยน? ตระกูลฮู่ของข้าปลายปีนี้ จะมากน้อยก็ล้วนได้ยินท่านผู้เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องไท่ซ่างหวงในอดีต ไท่ซ่างหวงเคยกำชับเขาอะไร และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานจะทำอะไร กระทั่งเพราะอะไรต้องรอให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานก่อนค่อยส่งสิ่งยืนยันให้เขา เรื่องเหล่านี้ข้ารู้ทั้งหมด"ฮู่เจียไท่มั่นใจมาก ไทเฮาจะต้องอยากรู้เรื่องเหล่านี้แน่ถึงอย่างไรไทเฮาตอนนั้นก็รังเกียจตัวตน