"เจ้าเป็นใคร?"เฮ่อเหลียนเฟยถามอีกครั้งรถม้าควบทะยานแล้ว เอียงตะแคงจนเขารู้สึกแย่"เจ้าไม่ต้องรู้หรอก"คนผู้นั้นหลังจากตอบลกับมาก็ไม่ส่งเสียงอะไรอีก ต่อให้เฮ่อเหลียนเฟยจะถามต่ออย่างไร จะกระตุ้นเขาต่ออย่างไร เขาก็ล้วนไม่ส่งเสียงรถม้าแล่นทะยานอยู่นานเฮ่อเหลียนเฟยพิจารณาจากความเลือนราง และรู้สึกว่าตนเองออกจากเมืองแล้วในใจเขาจะมากน้อยก็ยังหวาดกลัวอยู่ นี่ถ้าออกจากเมืองแล้วพาเขาไปภูเขาร้างหน้าผาขาดก็จบกัน พี่หญิงจะมาทันได้อย่างไรกัน?พี่ญิงถ้าหากหาตัวเขาไม่ทัน แล้วจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร?เขาไม่อยากตายจริงๆแต่ว่าเขาก็ไม่อยากให้พี่หญิงมีอันตราย ถ้าพี่หญิงมาหาเขาแล้วจริงๆ จะเป็นอันตรายไปด้วยไหม? เฮ่อเหลียนเฟยรู้สึกขึ้นมาอีกว่าฟู่จาวหนิงอย่ามาหาเขาดีกว่าขณะที่คิดอย่างหวาดกลัวไม่ปลอดภัยนี้ รถม้าก็แล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนขับเร็วขึ้นจริงๆ บนถนนทางการที่ไม่มีคน เป็นไปไม่ได้ที่จะยังอยู่ในเมือง รอบๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงของผู้คนเลย"ข้ามีความลับจะมาบอกฮองเฮา!" เฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมาอีก"ฮองเฮาไม่สนใจอยากรู้ความรู้อะไรของเด็กอย่างเจ้าหรอก" อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา มีความประชดประชันอย่
"น่าเสียดาย พี่สาวข้ามีฝีมือจนทำให้อ๋องเจวี้ยนช่วยนางนี่สิ เจ้าไม่ยอมรับหรือ?" เฮ่อเหลียนเฟยหัวเราะร่าขึ้นมาต่อเขาจะยั่วโมโหจ้าวเฉินสังหารเขาทิ้งที่นี่เสียให้จบๆ ไป ไม่เช่นนั้นถ้าพาเขาออกไปไกล ก็กลัวว่าพี่หญิงจะหาไม่เจอ ไม่ใช่แค่หาไม่เจอ ยังอาจจะถูกจ้าวเฉินล่อออกไปยังสถานที่ห่างไกลอีกด้วย อันตรายมาก"อ๋องเจวี้ยน โอ๊ะ ไม่สิ ควรจะเรียกว่าว่าพี่เขยมากกว่า พี่เขยข้าจะต้องมาช่วยหาตัวข้าแน่ ถึงตอนนั้นพวกเจ้าทั้งครอบครัวก็ไม่ต้องไปทวีปผิงอะไรนั่นแล้ว พี่เขยข้ากับพี่สาวข้าคงจัดการสังหารพวกเจ้าจนเรียบ""ฟู่จาวหนิงเองก็มีความสามารถนี้อยู่!"จ้าวเฉินจ้องเฮ่อเหลียนเฟย "เจ้าอยากตายนักหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าสมอยากเอง! ก่อนหน้านี้ขาของเจ้าข้าก็เล่นงานมา ตอนนี้หายดีแล้วหรือไร?"สายตาเขาจับจ้องมาบนขาของเฮ่อเหลียนเฟย "ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสมันอีกครั้ง ให้เขาของเจ้าหักไปอีกรอบ!"พูดแล้วเขาก็เตรียมจะลงมือเฮ่อเหลียนเฟยม่านตาหดลงตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่หน้าตาอึมครึมก็ยั้งจ้าวเฉินเอาไว้ "เจ้าตอนนี้ถ้าไปหักขาเขา อีกเดี๋ยวต้องแบกขึ้นเขาไปเองนะ?"จ้าวเฉินการเคลื่อนไหวชะงักงัน เลิกทำไปเฮ่อเหลียนเฟยฟังเข
"ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่า ต้องขอบคุณจาวหนิงเลย" ฟู่รั่วเสวี่ยประโยคนี้พูดอย่างกัดฟันผู้เฒ่าฟู่เองก็ฟังออกแล้วใบหน้าของเขาขรึมลงมาทันทีนี่มาหาเรื่องทะเลาะชัดๆ เลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ ฟู่รั่วเสวี่ยพูดได้ว่าเป็นหญิงสาวรุ่นนี้ที่มีกิริยาการแสดงออกที่สุดคนหนึ่ง อ่อนโยนและรู้ความที่สุดคนหนึ่ง พูดจาน้ำเสียงแผ่วเบาละเอียดอ่อน อากัปกิริยาก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างเหมาะสม อยู่ต่อหน้าเขาก็มีมารยาทนอบน้อม ผู้เฒ่าฟู่เองก็เคยมีความหวังในตัวนางอยู่พอคิดถึงเงื่อนไขแบบฟู่รั่วเสวี่ยเช่นนี้ หลังจากนี้น่าจะมีการแต่งงานที่ดี ถ้านางออกเรือนได้เป็นฝั่งฝา ก็ยังสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับจาวหนิงได้แต่ว่าตอนนี้ดูท่า ฟู่รั่วเสวี่ยแค่เสแสร้งได้ดีกว่าฟู่เป่าเจินฟู่เจียวเจียวเท่านั้น อันที่จริงแล้วก็เป็นแบบเดียวกัน!หลังจากไล่ออกจากบ้านตระกูลฟู่ท่าทีของนางก็เปลี่ยนไปทันทีผู้เฒ่าฟู่ไอสำลักหลายครั้ง ไม่สนใจอะไรนาง ตอนนี้เขากำลังเป็นห่วงเฮ่อเหลียนเฟย มีกะจิตกะใจมาคิดเล็กคิดน้อยกับนางเสียที่ไหน?"เสี่ยวเถา ไม่ต้องร้อง" จงเจี้ยนพูดกับเสี่ยวเถาคำหนึ่ง "ไปล้างหน้าล้างตาไป""แต่ว่า พี่ชายจง
นี่คือไม่คิดจะช่วย ขนาดแค่ประคับประคองก็ยังไม่ยอมด้วยซ้ำ!"ที่บ้านเกิดเรื่อง""เมื่อครู่ข้าได้ยินเสี่ยวเถาพูดถึงคุณชายเสี่ยวเฟยอะไรนั่น เป็นเด็กที่ฟู่จาวหนิงเก็บมาจากภายนอกหรือ? แล้วคนนอกคนหนึ่งมาสร้างเรื่องให้ในบ้านตระกูลฟู่ พวกท่านก็ยังจะปกป้องเขาอีก? แต่ข้าที่มีสกุลฟู่ พวกท่านทำไมจึงไม่ช่วยข้าบ้าง?""รั่วเสวี่ย เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เสี่ยวเฟยไม่ได้หาเรื่องมาให้" ผู้เฒ่าฟู่รู้สึกว่าหน้าเริ่มมืดอีกแล้ว เขาเดิมทีก็ร้อนรนจนทำแทบไม่ไหว ตอนนี้ฟู่รั่วเสวี่ยยังจะมาอาละวาดอีก"ทำไมจะไม่ได้หาเรื่องกัน? แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? จาวหนิงถือดีอะไรไปช่วยวิ่งเต้นให้เด็กคนนี้? ถึงไม่สามารถโผล่หน้าไปในงานเลี้ยงชมดอกเหมย?"ฟู่รั่วเสวี่ยดวงตาแดงเถือก "ข้าเป็นคนที่ท่านเลี้ยงดูมาจนโต จะอย่างไรก็ถือเป็นรุ่นหลังของท่าน ท่านคิดว่าหลังจากจาวหนิงก็ไม่มีญาติคนไหนอีกแล้วหรือ? ข้าเองก็มีชีวิตที่ดี ถ้ายืนอย่างมั่นคงในบ้านสามีได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นแรงช่วยเหลือจาวหนิงได้ในภายหลังหรอกหรือ?"ผู้เฒ่าฟู่ถูกนางพูดจี้ตรงใจแต่ก่อนเขาเอาแต่คิดว่า หลังจากเขาตายไป จาวหนิงก็จะอยู่เพียงลำพังคนเดียวในโลกใบ
ฟู่รั่วเสวี่ยกลับมาถึงบ้านสามี เด็กชายตัวอ้วนกลมอายุราวเจ็ดแปดขวบคนก็พุ่งเข้ามา"คุณชายน้อยหยุดก่อน อย่าวิ่ง!" สาวใช้รีบร้องขึ้นแต่ว่าเด็กคนนั้นไม่ฟังเลย หัวพุ่งมาทางท้องฟู่รั่วเสวี่ยฟู่รั่วเสวี่ยคิดจะเบี่ยงหลบ แต่ปฏิกิริยาไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น จึงถูกเด็กคนนั้นกระแทกเข้าไปที่ท้องความเจ็บปวดแล่นจนทำนางน้ำตารื้น นางกุมท้องตัวงอพูดไม่ออกอยู่นาน"ผู้หญิงเลว!"คุณชายน้อยถลึงตาใส่ฟู่รั่วเสวี่ยอย่างมาดร้าย หมุนตัววิ่งออกไป"ฮูหยิน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?" สาวใช้รีบเข้ามาประคองตัวฟู่รั่วเสวี่ยฟู่รั่วเสวี่ยน้ำตาคลอเบ้าความเจ็บปวดนี้กว่าจะบรรเทาลง"เจ้าเด็กชั่วนั่นจงใจแน่ๆ จะต้องมีคนไปพูดอะไรข้างหูเจ้าเด็กนั่นแน่" ฟู่รั่วเสวี่ยชิงชังจนอยากจะฆ่าคนขึ้นมาเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย ครั้งเดียวยังดูเป็นอุบัติเหตุได้ สองครั้งนางก็ยังพอกล่อมตนเองได้ว่าเด็กคนนี้ซุกซนแต่นี่มันครั้งที่สามแล้วจะต้องมีคนไปเสี้ยมสอนเขา ยิ่งไปกว่านันยังจงใจกระแทกมาที่ท้องนางอีก ในจวนใครกันที่ไม่อยากให้นางตั้งครรภ์? แล้วถ้านางตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง มาถูกเจ้าเด็กชั่วนี่กระแทกแบบนี้เอายังจะรักษาไว้ได้ไหม?เพีย
"ผู้เฒ่าฟู่ไม่เป็นไรแล้วชั่วคราว แต่พระชายาโปรดรีบกลับไปด้วยเถิด""ไป!"ฟู่จาวหนิงหมุนตัวขึ้นรถม้าไปอีกครั้งทันทีเซียวหลันยวนเองก็รีบตามไป "ขับไวหน่อย""ขอรับ"คนขับรถรีบลงแสให้รถม้าหันหัว แล่นตรงไปทางบ้านตระกูลฟู่ประตูใหญ่เปิดออก มีองครักษ์ยื่นหัวออกมามองรถม้าที่แล่นห่างออกไป คิดๆ แล้วก็รีบตรงเข้าไปรายงาน"นายท่าน คุณหนูจาวหนิงเพิ่งมาถึงประตูบ้าน แต่เหมือนที่บ้านเกิดเรื่อง จึงรีบหันกลับไปแล้ว"เสิ่นเสวียนช่วงนี้ร่างกายดีขึ้นบ้างแล้ว เพียงแต่เขาไม่ค่อยอยากอาหาร ดังนั้นกินเท่าไรก็ไม่อ้วน รูปร่างจึงผอมแห้งอยู่เสมอเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ราชครูที่ปูพรมขนจิ้งจอกไว้ กำลังพลิกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่เดิมทีคิดว่าวันนี้ฟู่จาวหนิงจะมา เขาก็รอนางอยู่ตลอดตอนนี้พอได้ยินเสียงขององครักษ์ เสิ่นเสวียนจึงขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืน"เตรียมรถ ไปบ้านตระกูลฟู่"เขายังไม่เคยไปบ้านตระกูลฟู่เลยตอนนี้เขายืนยันกว่าเก้าส่วนแล้วว่าฟู่หลินซื่อคือน้องสาวของเขา แต่กลับยังไม่เคยไปดูที่บ้านนางเลย ควรจะไปเสียหน่อยถ้าบ้านตระกูลฟู่เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เขาเองก็ต้องคอยสนับสนุนนางอยู่ข้างกายฟู่จาวหนิง"นายท่าน ท่
"ท่านปู่!"พอเข้าประตูมา ฟู่จาวหนิงก็ไปหาผู้เฒ่าฟู่ก่อนทันที"คุณหนู ท่านผู้เฒ่าอยู่ในโถง" เฉินซานเห็นนางวิ่งไปที่เรือนท่านผู้เฒ่า จึงรีบร้องเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงรีบหักเลี้ยวกลับมา"พวกเราเตือนท่านผู้เฒ่าให้กลับเรือนไปพักผ่อนแล้ว ให้นอนเพื่อรอท่าน แต่เขาก็กังวลเหลือเกิน เอาแต่อดทนอยู่ในโถงหน้า"ฟู่จาวหนิงรีบวิ่งเข้าไปพอเห็นจงเจี้ยนนั่งอยู่ข้างๆ ท่านผู้เฒ่า นางจึงผ่อนใจโล่งลงมาผู้เฒ่าฟู่พอเห็นนาง ก็ดีดตัวลุกขึ้นพรวดความรู้สึกเหมือนมีกระดูกสันหลังขึ้นมาฉับพลัน ความตื่นเต้นที่ว่าในที่สุดนางก็มาเสียที ทำเอาเส้นสายที่ตึงเปรี๊ยะของเขาขาดลงมาทันที"จาวหนิง เร็ว เสี่ยวเฟยเขา..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็กระอักเลือดออกมาทีหนึ่ง คนทั้งหมดล้วนหน้าเปลี่ยนสีกันหมด"ท่านผู้เฒ่า!""ท่านปู่!"ฟู่จาวหนิงนิ่งขรึมไป พุ่งตัวเข้าไป เข้าประคองตัวเขาร่วมกับจงเจี้ยนผู้เฒ่าฟู่ถูกประคองตัวนั่งลง เข็มเงินเล่มหนึ่งของฟู่จาวหนิงแทงลงไปที่จุดชีพจรเสริมแกร่งหัวใจจุดหนึ่ง"ท่านปู่ ท่านทำใจให้สบาย ต้องทำใจให้สบาย พวกเราจะพาเสี่ยวเฟยกลับมา เขาจะไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องร้อนรนไป"ฟู่จาวหนิงรีบปลอบเขา พลางหยิ
เซียวหลันยวนจะช่วยเสี่ยวเฟยอย่างสุดกำลังไหม?อันที่จริงระหว่างทางที่กลับ ฟู่จาวหนิงเองก็คำถามนี้ในใจตนเองเช่นกันถ้าหากเผ่าเฮ่อเหลียนกบฏจริง ถ้าหากราชาเฮ่อเหลียนจับตัวขุนพลบัญชาการเมืองหูจริง ยึดครองเมืองหู เฮ่อเหลียนเฟยในฐานะที่เป็นลูกชายราชาเฮ่อเหลียน ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ตัวเขาพูดมา เฮ่อเหลียนเฟยมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกส่งต่อบัลลังก์ให้เขาดังนั้น เขาในเผ่าเฮ่อเหลียนจึงไม่ใช่คนที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามอย่างแน่นอน ไม่ใช่คนทั่วไปที่ไม่มีตัวตนฐานะถ้าหากต้องประหารเก้าชั่วโคตรจริง เฮ่อเหลียนเฟยหนีไม่พ้นแน่นอน กลายเป็นคนสมควรถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุด กระทั่งเรียกร้องหาความเป็นธรรมก็ยังไม่ได้เซียวหลันยวนจะว่าอย่างไรก็ต้องยืนอยู่ข้างราชวงศ์แคว้นเจากระมัง?เว้นเสียแต่นางจะพิสูจน์ได้ ว่าเสี่ยวเฟยเป็นน้องชายแท้ๆ ของนาง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราชาเฮ่อเหลียนแต่ถ้าหากเป็นน้องชายนาง หรือก็คือระหว่างที่พ่อแม่ของนางถูกไล่จับก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา ตอนแรกสุด เซียวหลันยวนคิดจะใช้นางมาคุกคามพวกเขา ตอนนี้มีลูกชายมาอีกคน เขาจะคิดเอามาใช้ประโยชน์ด้วยหรือไม่กัน?ถึงอย่างไรในใจคนสมัยนี้ ลูกชายก็ยัง
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม