"ท่านปู่!"พอเข้าประตูมา ฟู่จาวหนิงก็ไปหาผู้เฒ่าฟู่ก่อนทันที"คุณหนู ท่านผู้เฒ่าอยู่ในโถง" เฉินซานเห็นนางวิ่งไปที่เรือนท่านผู้เฒ่า จึงรีบร้องเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงรีบหักเลี้ยวกลับมา"พวกเราเตือนท่านผู้เฒ่าให้กลับเรือนไปพักผ่อนแล้ว ให้นอนเพื่อรอท่าน แต่เขาก็กังวลเหลือเกิน เอาแต่อดทนอยู่ในโถงหน้า"ฟู่จาวหนิงรีบวิ่งเข้าไปพอเห็นจงเจี้ยนนั่งอยู่ข้างๆ ท่านผู้เฒ่า นางจึงผ่อนใจโล่งลงมาผู้เฒ่าฟู่พอเห็นนาง ก็ดีดตัวลุกขึ้นพรวดความรู้สึกเหมือนมีกระดูกสันหลังขึ้นมาฉับพลัน ความตื่นเต้นที่ว่าในที่สุดนางก็มาเสียที ทำเอาเส้นสายที่ตึงเปรี๊ยะของเขาขาดลงมาทันที"จาวหนิง เร็ว เสี่ยวเฟยเขา..."เขายังพูดไม่ทันจบ ก็กระอักเลือดออกมาทีหนึ่ง คนทั้งหมดล้วนหน้าเปลี่ยนสีกันหมด"ท่านผู้เฒ่า!""ท่านปู่!"ฟู่จาวหนิงนิ่งขรึมไป พุ่งตัวเข้าไป เข้าประคองตัวเขาร่วมกับจงเจี้ยนผู้เฒ่าฟู่ถูกประคองตัวนั่งลง เข็มเงินเล่มหนึ่งของฟู่จาวหนิงแทงลงไปที่จุดชีพจรเสริมแกร่งหัวใจจุดหนึ่ง"ท่านปู่ ท่านทำใจให้สบาย ต้องทำใจให้สบาย พวกเราจะพาเสี่ยวเฟยกลับมา เขาจะไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องร้อนรนไป"ฟู่จาวหนิงรีบปลอบเขา พลางหยิ
เซียวหลันยวนจะช่วยเสี่ยวเฟยอย่างสุดกำลังไหม?อันที่จริงระหว่างทางที่กลับ ฟู่จาวหนิงเองก็คำถามนี้ในใจตนเองเช่นกันถ้าหากเผ่าเฮ่อเหลียนกบฏจริง ถ้าหากราชาเฮ่อเหลียนจับตัวขุนพลบัญชาการเมืองหูจริง ยึดครองเมืองหู เฮ่อเหลียนเฟยในฐานะที่เป็นลูกชายราชาเฮ่อเหลียน ยิ่งไปกว่านั้นจากที่ตัวเขาพูดมา เฮ่อเหลียนเฟยมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกส่งต่อบัลลังก์ให้เขาดังนั้น เขาในเผ่าเฮ่อเหลียนจึงไม่ใช่คนที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามอย่างแน่นอน ไม่ใช่คนทั่วไปที่ไม่มีตัวตนฐานะถ้าหากต้องประหารเก้าชั่วโคตรจริง เฮ่อเหลียนเฟยหนีไม่พ้นแน่นอน กลายเป็นคนสมควรถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุด กระทั่งเรียกร้องหาความเป็นธรรมก็ยังไม่ได้เซียวหลันยวนจะว่าอย่างไรก็ต้องยืนอยู่ข้างราชวงศ์แคว้นเจากระมัง?เว้นเสียแต่นางจะพิสูจน์ได้ ว่าเสี่ยวเฟยเป็นน้องชายแท้ๆ ของนาง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราชาเฮ่อเหลียนแต่ถ้าหากเป็นน้องชายนาง หรือก็คือระหว่างที่พ่อแม่ของนางถูกไล่จับก็ตั้งครรภ์ขึ้นมา ตอนแรกสุด เซียวหลันยวนคิดจะใช้นางมาคุกคามพวกเขา ตอนนี้มีลูกชายมาอีกคน เขาจะคิดเอามาใช้ประโยชน์ด้วยหรือไม่กัน?ถึงอย่างไรในใจคนสมัยนี้ ลูกชายก็ยัง
"ข้าฟัง ข้าจะฟัง"ฟู่จาวหนิงปลอบผู้เฒ่าฟู่เสร็จ มองเขาดื่มยาจนผล็อยหลับไป จากนั้นจึงถอยออกมา"จงเจี้ยน สืออี พวกเจ้าคอยคุ้มกันอยู่ในบ้านตระกูลฟู่"นางหยิบเข็มเล่มหนึ่งออกมา "สิ่งนี้ข้าฉาบยาพิษไว้ แต่เป็นแค่พวกที่ทำให้เส้นเอ็นอ่อนแรงลงทำนองนั้น ถ้าหากมีเรื่องเช่นวันนี้อีก จะเป็นคนในที่ว่าการ หรือว่าคนในวัง พวกเจ้าก็ใช้สิ่งนี้ไปเลย จัดการล้มคนลงก่อน รอข้ากลับมาแล้วค่อยจัดการ""ล้มคนลงไปก่อนหรือ?""ใช่!"ฟู่จาวหนิงสีหน้าเย็นเยียบ "พวกเจ้าเองก็ควรจะรู้ ท่านปู่ของข้าทนการกระตุ้นมากขนาดนั้นไม่ไหว ข้าต้องเาอชีวิตของเขาเป็นหลัก รักษาชีวิตของเขาไว้ก่อน ส่วนเรื่องขัดราชโองการหรือหลอกลวงองค์จักรพรรดิ สามารถจัดการภายหลังได้!""ขอรับ พวกข้าเข้าใจแล้ว""ตอนนี้ในบ้านก็ส่งให้พวกเจ้าแล้ว ข้าจะไปหาเสี่ยวเฟย"จงเจี้ยนมองฟู่จาวหนิงออกไป ถอนหายใจ"พี่ใหญ่ ท่านถอนหายใจทำไมกัน?""ก็แค่รู้สึกว่า คุณหนูนี่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจริงๆ แล้วยังกล้าหาญมากด้วย คนในที่ว่าการบอกจะล้มก็ล้มทิ้งไปเลย แล้วยังก็ยังรู้สึกว่านางจะมีวิธีแก้ไขในภายหลังจริงๆ เสียด้วย คนเช่นนี้เหมาะกับท่านอ๋องของพวกเราจริงๆ!"ท่านอ๋องพวก
ฟู่จาวหนิงนำกระดาษยัดเข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อ สังเกตร่องรอยล้อรถบนพื้นอย่างละเอียดในนี้มีรอยล้อรถรอยหนึ่งมีหยดเลือดสีแดงคล้ำหลายหยดฟู่จาวหนิงเพ่งสายตาเฮ่อเหลียนเฟยเคยบอกกับนาง พวกเขาก่อนหน้านี้ที่อยู่บนภูเขาถ้าไม่มีวิธีทิ้งร่องรอย ก็จะแทงนิ้วตนเองแล้วทิ้งหยดเลือดเป็นสัญลักษณ์เอาไว้ถ้าหากเขาอยู่บนรถม้า แล้วไปหาโอกาสกับตำแหน่งที่เหมาะสมกรีดนิ้วตนเองแล้วหยดเลือดไว้ได้อย่างไรกัน?รอยเลือดเช่นนี้ ถ้าไม่ได้พาสุนัขที่เผ่าเฮ่อเหลียนเลี้ยงไว้ ก็ยากมากที่จะสังเกตเห็น แต่นางเชื่อว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่เฮ่อเหลียนเฟยทิ้งไว้ เขาเชื่อในนาง!เชื่อว่านางจะหารายละเอียดนี้จนพบเสี่ยวเฟยในเมื่อเชื่อมั่นนางเช่นนี้ นางก็จะไม่ทำให้เขาผิดหวังและตอนนี้เอง เซียวหลันยวนก็กำลังอยู่ในวังเบื้องหน้าเขามีองค์จักรพรรดิและฮองเฮานั่งอยู่องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาเดิมกำลังเตรียมจะกินของว่าง จากนั้นก็จะแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันและกันเสียหน่อย แต่เซียวหลันยวนก็พรวดพราดเข้ามาในใจองค์จักรพรรดิก็แอบเคือง แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ครั้งนั้นก่อนหน้าที่ไท่ซ่างหวงจะเสด็จสวรรคต พูดกับอ๋องเจวี้ยนเอาไว้ว่า วังจักรพรรดินี้ล้วน
ราชองครักษ์หลายคนล้วนเห็นอ๋องเจวี้ยนเดินตรงออกมา โดยมีองค์จักรพรรดิเดินตามออกมาอีกไม่กี่ก้าวกับตา ดูแล้วเหมือนโมโหฉุนเฉียวมาอ๋องเจวี้ยนไม่สนใจองค์จักรพรรดิเลยองค์จักรพรรดิตามมาไม่กี่ก้าวก็ยังตะโกนตามอยู่ปาวๆ จนเสียงแหบแห้ง"เซียวหลันยวน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!"ฝีเท้าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้ผ่อนเบาลงแม้แต่น้อย ท่าทางการเดินก็ดูสง่าราศี ชายเสื้อปลิวสะบัด เดินตรงไป ตรงไป"องค์จักรพรรดิ ให้คนปิดประตูวังไว้ ดูว่าเขาจะออกไปอย่างไร!"ฮองเฮาเองก็ตามออกมา ใบหน้าท่าทางมารดาแห่งใต้หล้าผู้ใจกว้างแต่เดิม ตอนนี้สีหน้าก็บิดเบี้ยวขึ้นมาแล้ว"ไม่เช่นนั้นก็ให้ราชองครักษ์ขวางเขาไว้ ต้องดับความโกรธเขาลงให้ได้ จะให้เขามาขี่คอองค์จักรพรรดิวางอำนาจบาตรใหญ่มิได้!"องค์จักรพรรดิพอได้ยินคำพูดนี้ของฮองเฮา สิ่งแรกที่รู้สึกคือขายขี้หน้าถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ถูกเซียวหลันยวนมาขี่อยู่บนคอจริงๆ เขาเป็นถึงจักรพรรดิแคว้นหนึ่งเลยนะ แต่เซียวหลันยวนบทจะมองข้ามก็มองข้าม!ราชสำนัก ข้าราชการในแคว้นเจานี้ ไม่ใช่ว่าเป็นทหารใต้บัญชาของเขาหรอกหรือ? เขาคิดจะใช้คนไหน อยากจะลดขั้นผู้ใด คิดจะใช้ใครไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับเขาทั้งนั้นหรอก
"อ๋องเจวี้ยนคุมองครักษ์เงามังกรอยู่ในมือ คงไม่ได้มีใจคิดไม่ซื่อหรอกกระมัง?"แน่นอนว่ามีคนรู้สึกว่าพวกเขาคิดมากเกินไป "องค์รักษ์ต่อให้จะร้ายกาจอีกแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่ามีอยู่แค่ไม่กี่คนหรือไรกัน? องค์จักรพรรดิมีทหารนับล้านนะ องครักษ์เงามังกรจะต้านทานทหารนับล้านไหวหรือ?"สองพี่น้องอันเหนียนอันชิงที่กำลังออกมาซื้อของว่างก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เข้าพอดีพวกเขาสบตามองกัน ไม่พูดอะไร หยิบของว่างแล้วออกประตูไปรอจนขึ้นรถม้า อันชิงจึงมองไปทางอันเหนียน"ท่านพี่ ที่พวกเขาพูดท่านเห็นว่าอย่างไร?""เห็นว่าอย่างไร?" อันเหนียนยิ้ม "เจ้าหมายถึงด้านไหนล่ะ?""องครักษ์เงามังกรถ้าอยู่ต่อหน้าทหารนับล้านก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น" อันชิงกดเสียงลงต่ำ"ยังไม่พูดถึงว่าอ๋องเจวี้ยนมีใจจะนั่งตำแหน่งนั้นไหม เอาแค่ทหารนับล้าน เจ้าคิดว่าทหารนับล้านน่ะอยู่ในที่เดียวกันหรือ? การจะเรียกรวมทหารนับล้านไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย แต่ละค่ายทหารก็มีแม่ทัพที่แตกต่างกัน แต่องครักษ์เงามังกรอยู่ในเมืองหลวง"อันชิงฟังเข้าใจความหมายของเขาทันทีคนอื่นพูดกันว่าองครักษ์เงามังกรไม่สามารถต้านทานทหารนับล้านไหว แต่อันที่จริง ทหารนับล้าน
เจิ้งหยางรู้สึกว่าลู่ทงพูดถูก"ใช่ พวกเราต้องช่วยลูกพี่หนิงดู ว่าอ๋องเจวี้ยนจะไปช่วยนางทำอะไร? ถ้าหากไม่ใช่ เช่นนั้นพวกเราก็ต้องรีบหาตัวลูกพี่หนิงแล้วไปช่วยเหลือนาง!""ถูกต้องถูกต้อง ข้าเองก็คิดเช่นนี้""พวกเจ้าตอนนี้จะถอยก็ยังทันนะ หันม้ากลับไปที่เมืองหลวงเสีย!" ลู่ทงหันหน้าไปบอกเหล่าพี่น้องที่อยู่ด้านหลังเจิ้งหยางติดตามมา "เจิ้งทงพูดถูกต้อง พวกเจ้าเองก็มองออกแล้ว อ๋องเจวี้ยนตอนนี้นำองครักษ์เงามังกรอย่างองอาจเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าน่าจะไปยั่วโมโหองค์จักรพรรดิเข้าแล้ว พวกเราจะติดตามอ๋องเจวี้ยนไป หลังจากนี้อาจจะถูกองค์จักรพรรดิทิ้งได้ คงคิดให้ถี่ถ้วน!"เหล่าคุณชายพวกนั้นมองหน้ากันไปมา จากนั้นก็ร้องเรียกขึ้นเสียงดัง "ลู่ทง เจิ้งหยาง พวกเจ้าดูถูกกันเกินไปไหม? พวกเราตอนนั้นเองก็ถูกลูกพี่หนิงช่วยชีวิตไว้ที่เขาเมฆอรุณนะ พวกเราต้องอยากช่วยลูกพี่หนิงอยู่แล้ว!""ใช่ๆๆ ไม่ใช่ว่ามีแค่พวกเจ้าสองคนที่ไม่กลัวตายนะ พวกข้าก็ไม่กลัวตายเหมือนกัน!""กลัวตาย แต่ก็ต้องคอยสนับสนุนลูกพี่หนิงนะ!"พวกเขาทยอยกันตะโกนขึ้นมาก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนเป็นพวกโง่เขลาเบาปัญญา ทุกวันเอาแต่นัดกันออกไปล่าสัตว์ดื่มสุร
"ที่นี่ จะเป็นสถานที่ที่ฟู่จาวหนิงไม่มีทางลืมเลือนไปตลอดชีวิต"จ้าวเฉินชี้ไปที่เขาลูกนี้เฮ่อเหลียนเฟยเงยหน้ามองไปผาดหนึ่ง ทั้งภูเขาเป็นหิมะขาวโพลน ด้านหน้ามีถนนสายหนึ่ง มีรอยเท้าของคนบางส่วนเหยียบไปแล้ว ดูสับสนวุ่นวาย แต่ก็สะดุดตาเป็นอย่างมากเขาเข้าใจขึ้นมาทันทีพวกของจ้าวเฉินต้องเคยมาที่นี่ก่อนแล้วแน่นอน หรือบางทีอาจจะเป็นคนของพวกเขาดูจากรอยเท้า จำนวนคนไม่น้อยเลยพวกเขาไม่กลัวว่ารอยเท้าเหล่านี้จะเปิดโปงพวกเขา นี่คือคิดจะล่อฟู่จาวหนิงขึ้นเขากระมัง"เจ้าไม่ใช่จะเอาชีวิตข้าหรือ? ข้าไปไปก็พอแล้ว!" เฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมา หลังจากนี้ก็คิดจะกัดลิ้นแรงๆแต่ว่าพี่มู่คนนั้นก็มาบีบหน้าของเขาเอาไว้ทันที บิดคางของเขาเสียงดังกร๊อบ กรามของเขาหลุดออกมาตอนนี้เขากัดลิ้นไม่ได้อีกแล้ว"เอาล่ะ อย่าไปกระตุ้นเขาเลย ขึ้นเขากันก่อน" พี่มู่เอ่ยกับจ้าวเฉิน"ลุกขึ้นมา" จ้าวเฉินเตะเฮ่อเหลียนเฟย "เจ้าคิดว่าเจ้าตายแล้วก็จบหรือ? ถ้าเจ้าตายไป ฟู่จาวหนิงก็จะน่าเวทนายิ่งกว่า ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดู ถ้าเจ้ายังไม่ลุกขึ้นอีก ต่อให้เป็นผู้เฒ่าตระกูลฟู่คนนั้นพวกเราก็จะไม่ปล่อยไป"เฮ่อเหลียนเฟยถลึงตามองเขาอย่างโก
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม