Share

บทที่ 3

Author: ผักหวาน
พอเลี้ยวผ่านโค้งมาก็เห็นหลินจื่อยวนโผล่ออกมาจากหลังภูเขาจำลอง แล้วโผเข้ากอดเซี่ยจิ่งหวน

เซี่ยจิ่งหวนรีบสำรวจร่างกายนางอย่างร้อนรน "ไม่ใช่บอกว่าตกน้ำหรอกหรือ?"

หลินจื่อยวนเบียดกายแนบชิดร่างเขา พูดเสียงออดอ้อนว่า "ถ้าหม่อมฉันไม่พูดแบบนี้ ฝ่าบาทจะเสด็จมาได้อย่างไรเพคะ"

เซี่ยจิ่งหวนเอ็ดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด "ช่างเหลวไหลสิ้นดี! เจ้าจะมาหลอกลวงข้าด้วยเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?"

หลินจื่อยวนรวบรวมความกล้าเขย่งปลายเท้าจูบริมฝีปากเขา

"ก็เพราะยวนเอ๋อร์คิดถึงฝ่าบาทเหลือเกินนี่เพคะ"

เซี่ยจิ่งหวนยกมือทำท่าจะผลักออก "ในเมื่อไม่เป็นอะไรก็รีบกลับวังไปเถอะ ข้ายังต้องไปอยู่เป็นเพื่อนฮองเฮาอีก"

หลินจื่อยวนใช้มือทั้งสองเกี่ยวผ้าคาดเอวของเขาเอาไว้แน่น "ฝ่าบาท วันนี้พวกเราอยู่ที่นี่กันดีไหมเพคะ?"

"วันนี้หม่อมฉันสวมเอี๊ยมตัวบางมาด้วยนะเพคะ"

พอเจอการพูดหว่านล้อมยั่วยวนหนักเข้า เซี่ยจิ่งหวนก็เริ่มไม่ต่อต้าน

ไม่นาน เสียงครางหวานก็ดังมาจากด้านหลังภูเขาจำลอง

ข้ายืนตัวแข็งอยู่กับที่ขณะสวมอาภรณ์ที่เปียกโชก เสียงครางของทั้งสองเหมือนคมมีดที่แทงเข้ามาในหัวใจข้า ทำให้ข้าเจ็บปวดรวดร้าวดุจใจจะขาด

น้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาโดยไม่อาจควบคุม

เซี่ยจิ่งหวน นี่คือสิ่งที่ท่านบอกว่าจะให้นางเป็นแค่เครื่องประดับหรือ?

ข้าเดินกลับตำหนักเฟิ่งชีด้วยจิตใจเลื่อนลอย สภาพน่าอนาถอย่างถึงที่สุด

หยิบม้วนภาพที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมาจากกล่องไม้จันทน์

นี่คือภาพวาดของข้ากับเซี่ยจิ่งหวน วาดโดยจิตรกรฝีมือดีที่สุดซึ่งเซี่ยจิ่งหวนเฟ้นหาจนทั่วใต้หล้า

ภาพเหล่านี้ถูกวาดปีละหนึ่งภาพ เซี่ยจิ่งหวนบอกว่าจะบันทึกภาพที่เราค่อยๆ แก่ไปด้วยกัน

ข้าคลี่ม้วนภาพออก หยิบกรรไกรมาตัดส่วนที่เป็นรูปข้าออกทั้งหมด

นางกำนัลตกใจ "ฮองเฮา พระองค์ทำอะไรเพคะ? ทำไมถึงทำลายภาพวาดพวกนี้ล่ะเพคะ?"

ข้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ไม่อยากเก็บไว้แล้ว"

เซี่ยจิ่งหวนคนนี้ข้าไม่ต้องการอีกแล้ว สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเขา ข้าก็ไม่ต้องการเช่นกัน

หลังจากตัดภาพวาดเสร็จ ข้าก็ไปที่ตำหนักซึ่งมีไว้เก็บโคมไฟกระต่าย โคมไฟกระต่ายเก้าสิบเก้าดวงรูปทรงต่างๆ แขวนอยู่เต็มตำหนัก

แต่ละดวงเต็มไปด้วยความทรงจำของข้ากับเซี่ยจิ่งหวน

ข้าหยิบไม้ขีดไฟมาจุดโคมไฟกระต่ายดวงหนึ่ง

เปลวไฟที่ลุกโชน เผาผลาญความทรงจำทั้งหมดของเราให้มอดไหม้ในพริบตา

ไม่นาน ทหารที่อยู่เวรยามตอนกลางคืนก็พบเห็นไฟไหม้ และรีบระดมคนมาดับไฟ

ไฟไหม้อยู่หนึ่งชั่วยาม สร้างความตื่นตระหนกให้คนทั้งวัง แต่กลับไม่เห็นเงาของเซี่ยจิ่งหวนเลย

ข้ารู้ว่าตอนนี้เขากำลังหลงระเริงอยู่ในอ้อมกอดของหลินจื่อยวน

จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เซี่ยจิ่งหวนถึงรีบมาหาและกอดข้าเข้าไว้อย่างร้อนรน

"อาเหยา ได้ยินว่าเมื่อคืนเกิดไฟไหม้ เจ้าตกใจบ้างหรือไม่?"

ไม่ทันที่ข้าจะตอบ เขาก็พูดอธิบายต่อ "ข้ามัวแต่ตรวจฎีกาทั้งคืน สั่งห้ามไม่ให้ใครมารบกวน"

"แต่ไม่คิดว่าบ่าวไม่ได้เรื่องพวกนั้นจะไม่ยอมมาแจ้งเรื่องของเจ้า เดี๋ยวข้าจะลงโทษพวกมันให้สาสมเลย!"

ข้าได้กลิ่นดอกพุดซ้อนเหม็นฉุนจากตัวเขา แต่ไม่อยากเปิดโปงคำโกหกของเขา

กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย "หม่อมฉันไม่เป็นไร แค่โคมไฟกระต่ายถูกไฟไหม้หมดแล้ว"

เซี่ยจิ่งหวนรีบพูดว่า "ข้าสั่งให้คนไปเรียกช่างฝีมือดีจากทั่วหล้ามาที่วังแล้ว อีกไม่นานก็จะทำโคมไฟกระต่ายให้เจ้าหนึ่งร้อยดวง"

ข้าส่ายหน้าปฏิเสธ "ตอนนี้หม่อมฉันไม่ชอบโคมไฟกระต่ายแล้ว ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงงานและเงินทองมากมายเช่นนั้น"

เซี่ยจิ่งหวนพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดู "ขอแค่ทำให้อาเหยามีความสุขได้ ต่อให้ยุ่งยากแค่ไหนก็คุ้มค่า"

แต่เซี่ยจิ่งหวน ท่านทำเรื่องที่ทำร้ายจิตใจข้ามากที่สุดลงไปแล้ว การอยู่ข้างกายท่านไม่ทำให้ข้ามีความสุขอีกต่อไป

ในวันเกิด ข้าได้ยับยั้งความตั้งใจของเซี่ยจิ่งหวนที่จะจัดงานเลี้ยงใหญ่โต และจัดการแสดงมากมายให้ข้าชม

ข้าบอกกับเขาว่า วันเกิดปีนี้ ข้าเพียงต้องการทานอาหารค่ำร่วมกับเขาเท่านั้น

วันนั้น ข้าเดินทางไปที่ห้องเครื่องหลวงและลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง

กลิ่นหอมหวานของดอกพุดซ้อน ลอยมาพร้อมกับการปรากฏตัวของหลินจื่อยวนตรงหน้าข้า

นางสวมอาภรณ์สีชมพูอ่อนที่ตัดจากผ้าซาตินเงางาม บนมวยผมปักปิ่นหงส์หกหาง ใบหน้าฉายความหยิ่งผยองเด่นชัด

"ไม่คิดว่าฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ ต้องยอมลดตัวลงมาเรียนรู้งานของพวกบ่าวไพร่เช่นนี้ เพียงเพื่อจะดึงหัวใจของฝ่าบาทกลับไป”

นางจงใจสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อให้ข้ามองเห็นรอยช้ำบนหน้าอก กล่าวว่า

"เมื่อคืนฝ่าบาทเสพสังวาสกับหม่อมฉันถึงเจ็ดครั้ง ไม่ทราบว่าเมื่อฝ่าบาทอยู่กับฮองเฮา จะยังมีความเร่าร้อนเช่นนี้หรือไม่?"

ข้าเงยหน้ามองนางแล้วพูดว่า "ความโปรดปรานที่ใช้เรือนร่างและความงามแลกมา ไฉนเลยจะยั่งยืน?”

หลินจื่อยวนหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า "คำพูดเหล่านี้ฮองเฮาเก็บไว้เตือนตัวเองดีกว่า บิดาข้าเป็นแม่ทัพปกป้องแผ่นดิน มารดาข้าเป็นบุตรีจวนโหว"

"อีกไม่นานฝ่าบาทก็จะแต่งตั้งข้าเป็นพระสนม หากวันหน้าข้าให้กำเนิดโอรส ตระกูลของข้าจะสนับสนุนเขาให้ขึ้นครองราชย์อย่างเต็มกำลัง เมื่อถึงตอนนั้นข้าก็จะเป็นสตรีที่ได้รับความเคารพที่สุดในใต้หล้า แล้วฮองเฮาล่ะ นอกจากแก่ชราหมดสิ้นรูปโฉมแล้ว ยังเหลืออะไรอีก?"

ข้ายังเหลืออะไรงั้นหรือ?

ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดว่าการได้ครอบครองความรักและหัวใจของเซี่ยจิ่งหวน คือการมีทุกสิ่งทุกอย่าง

แต่ตอนนี้ข้าเพิ่งรู้ว่าเมื่อเซี่ยจิ่งหวนไม่รักข้าอีกต่อไป ข้าก็ไม่เหลืออะไรเลย

ข้าก้มหน้านิ่ง ทำอาหารต่อไปเพื่อปิดบังความหม่นหมองในใจ

หลินจื่อยวนพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจยิ่งขึ้น "ฮองเฮาไม่ต้องทำแล้ว คืนนี้ฝ่าบาทจะประทับที่ตำหนักของหม่อมฉัน"

พูดจบ หลินจื่อยวนก็จากไปอย่างผู้มีชัย

หลังทำอาหารค่ำเสร็จ เซี่ยจิ่งหวนก็มาตามนัด แต่พอมาถึงหน้าประตูตำหนักเฟิ่งชี ก็ถูกขันทีน้อยคนหนึ่งขวางไว้ บอกว่าคุณหนูจื่อยวนปวดท้องทรมานมาก ขอให้ฝ่าบาทไปพบหน่อย

เซี่ยจิ่งหวนเผยสีหน้าละอายใจและพูดกับข้าว่า "อาเหยา เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าจะรีบไปรีบกลับ"

ข้าพยักหน้าอย่างสงบนิ่ง

ร่างของเซี่ยจิ่งหวนค่อยๆ หายไปจากครรลองสายตาข้า

ข้าหันไปปิดประตำหนัก ถอดเครื่องประดับทั้งหมดออกจากศีรษะ ถอดอาภรณ์หรูหรา เปลี่ยนเป็นชุดเนื้อหยาบสีม่วงธรรมดาเหมือนตอนที่เข้าวังครั้งแรก

หยิบโอสถสะกดลมหายใจที่อาจารย์ให้มา โยนเข้าปากกลืนลงท้อง

ผู้ที่กินโอสถเม็ดนี้เข้าไปจะยังมีสติหลงเหลือ แต่ลมหายใจกับหัวใจจะหยุดเต้น ร่างกายเย็นเฉียบไม่ต่างอะไรกับคนตาย

เซี่ยจิ่งหวน นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเราอย่าได้พบเจอกันอีกเลย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Magic Muffin
คือต้องสมัครถึงจะอ่านได้เหรอ?
goodnovel comment avatar
Chaweewan Panpee
อะไร ไม่สมัคร
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 8

    เซี่ยจิ่งหวนเพิ่งมีโอรสน้อยที่อายุยังไม่ครบขวบดี แต่เขากลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่าจะขับไล่มารดาของเด็กออกจากวังบางทีศาสตร์แห่งการเป็นฮ่องเต้ที่เขาเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก อาจทำให้เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากที่สุดในใต้หล้านี่คือสิ่งที่ข้าเพิ่งค้นพบหลังจากที่แยกตัวออกมาจากเขา"เซี่ยจิ่งหวน ถ้าข้ารักใครสักคนจริงๆ ข้าจะไม่มีวันนอกใจไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นหลังจากแต่งงานแล้ว""แล้วข้าก็จะไม่ไปนอนกับชายอื่นเพียงเพราะต้องการทายาท"เซี่ยจิ่งหวนพูดด้วยสีหน้าร้อนรน "อาเหยา ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธที่ข้าไม่รักษาความซื่อสัตย์ที่มีต่อเจ้า แต่ตอนนั้นข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าข้ารู้..."ข้าขัดจังหวะเขา "สำหรับข้า ตราบใดที่ยังรักเขาอยู่ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปก็เหมือนกัน""เมื่อยอมรับคนอื่นเข้ามาในชีวิต นั่นหมายความว่าความรักที่ท่านมีต่อข้าไม่สะอาดบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว""ท่านเป็นฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ ส่วนข้าเป็นเพียงหมอหญิงต่ำต้อย ระหว่างพวกเราไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ตอนนี้ขอให้ทุกอย่างกลับสู่ทางที่ควรเป็น ฝ่าบาทโปรดเสด็จกลับไปเถิด"พูดจบ ข้าก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้านแต่เซี่ยจิ่งหวนโบ

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 7

    ผู้คนต่างชื่นชมความรักที่เขามีต่อข้า และกล่าวว่าโชคชะตาช่างเล่นตลกกับคนไม่มีดวง ทำให้คนรักต้องพลัดพรากจากกันข้าได้แต่ยิ้มให้กับเรื่องนี้ ผู้คนมักชอบทำให้ความรักดูสวยงาม เพื่อหลอกล่อชายหญิงที่ไร้เดียงสาให้ตกหลุมรักมีข่าวลือว่าเพราะการตายของข้า เซี่ยจิ่งหวนเสียใจหนักจนล้มป่วย นอนซมในตำหนักมาเป็นเดือนแล้ว อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแต่ข้ารู้ว่าเซี่ยจิ่งหวนจะผ่านมันไปได้ ในอดีตการแย่งชิงบัลลังก์ เขายังข้ามผ่านศพกองเป็นภูเขาและเลือดที่เจิ่งนองเป็นทะเลมาได้ แล้วจะติดหล่มกับเรื่องเล็กน้อยอย่างความรักได้อย่างไรสามเดือนต่อมา เกิดกบฏในวังหลังจากข้าตายไป หลินจื่อยวนก็ถูกเซี่ยจิ่งยวนจับขังในตำหนักเย็น ถูกหลบหลู่ดูหมิ่นทุกวันแม่ทัพผู้พิทักษ์แผ่นดินทราบข่าวจึงนำทหารบุกเข้าวัง แต่กลับติดกับดักที่เซี่ยจิ่งหวนวางไว้ ถูกริบอำนาจทางทหารไปทั้งหมดหลังจากนั้นเซี่ยจิ่งหวนก็นำทหารไปปราบกบฏที่ชายแดนด้วยตัวเอง และขับไล่ศัตรูที่รุกรานจากภายนอกดังนั้นไม่ใช่ว่าเขาไร้หนทางแก้ไขปัญหา เพียงแต่เขาคิดว่าข้าไม่คุ้มค่าพอที่เขาจะเสี่ยงมากขนาดนั้นในตอนนั้น เขาสามารถทนแรงกดดันจากทั้งราชสำนักเพื่อแต่งตั้งข้า

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 6

    เลือดลมพลุ่งพล่านขึ้นมากลางอกของเซี่ยจิ่งหวน ก่อนจะกระอักเลือดสดๆ ออกมาหมอหลวงต่างรีบเข้ามาตรวจวินิจฉัย วิงวอนขอให้ฝ่าบาทถนอมพระวรกายของตัวเองเซี่ยจิ่งหวนไล่ทุกคนออกไปแล้วเดินมาที่ข้างกายข้า อุ้มข้าเข้าสู่อ้อมอกของเขาอย่างแนบแน่น พยายามใช้ไออุ่นจากร่างกายของเขาทำให้ร่างที่เย็นเฉียบของข้าอุ่น"อาเหยา ขอโทษ ข้าขอโทษ..."น้ำเย็นๆ ไหลหยดจากคางของเขาลงมาบนแก้มของข้าเซี่ยจิ่งหวนร้องไห้ตั้งแต่รู้จักเซี่ยจิ่งหวนมา นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขาร้องไห้เขามักจะทำท่าราวกับกุมชัยชนะอยู่ในมือ มั่นใจในความสำเร็จของตัวเองเสมอแต่บัดนี้กลับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะการจากไปของข้า ราวกับเด็กน้อยที่ไร้ที่พึ่ง"อาเหยา ข้าต้องทำอย่างไร เจ้าถึงจะยอมกลับมาหาข้า""อาเหยา ข้ารู้ตัวแล้วว่าผิด ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไป..."วันแรกหลังจากข้า "ตาย" เซี่ยจิ่งหวนก็กินอาหารที่ข้าทำไว้จนหมด ทั้งที่มันเย็นชืดไปแล้วเขาบอกว่าถ้าเขายอมทำตัวดีๆ และกินอาหารจนหมด ข้าก็จะให้อภัยเขา ไม่โกรธเขาอีกต่อไปวันที่สองหลังข้า "ตาย" เซี่ยจิ่งหวนเรียกช่างฝีมือมาทำโคมไฟกระต่ายหนึ่งร้อยดวง แขวนไว้ในตำหนักเฟิ่งชี"อาเหยา โคมไฟกระ

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 5

    "ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไร ข้าต้องทำตามใจเจ้าอยู่แล้ว ทำไมเจ้าถึงเลือกจากไปด้วยวิธีการที่เด็ดขาดเช่นนี้?"เซี่ยจิ่งหวน หากในใจท่านมีเพียงข้าคนเดียวจริงๆ ท่านคงไม่เลือกที่จะนำหลินจื่อยวนเข้าวัง แล้วร่วมรักกับนางหรอกเมื่อท่านเลือกที่จะนำนางเข้าวัง ข้าก็ไม่จำเป็นต้องไปสอบถามหรือเรียกร้องสิ่งใดจากท่านอีกความรักที่มีให้กัน ล้วนมาจากใจ มาจากความสมัครใจบัดนี้ขอเพียงความตายครั้งนี้ ตัดขาดสายใยรักระหว่างเราได้อย่างสิ้นเชิง ปลดปล่อยให้ข้าเป็นอิสระในตอนนั้นเอง ไฉ่เยว่ก็คุกเข่าลงแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท พระองค์ได้โปรดมอบความยุติธรรมให้ฮองเฮาด้วยเพคะ เมื่อวานนี้แม่นางจื่อยวนจากตำหนักเจิ้งเฉียน มาเข้าเฝ้าฮองเฮาที่กำลังลงมือทำพระกายาหารค่ำที่ห้องเครื่องหลวง”เซี่ยจิ่งหวนเงยหน้าขึ้นมองไฉ่เยว่ทันที "เจ้าว่าอะไรนะ? หลินจื่อยวนมาหาอาเหยา?"เซี่ยจิ่งหวนออกคำสั่งทันที "ทหาร นำตัวหลินจื่อยวนมาที่นี่”ไม่นาน หลินจื่อยวนก็ถูกทหารองครักษ์สองคนลากตัวเข้ามา กดให้คุกเข่ากลางตำหนักใหญ่หลินจื่อยวนถูกกดตัวจนลุกขึ้นไม่ได้ รีบเงยหน้ามองเซี่ยจิ่งหวน พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า"เมื่อครู่ฝ่าบาทยังกระซิบถ้อยคำหวาน

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 4

    หลังจากกลืนยาลงไป ความทรงจำในอดีตก็ผุดขึ้นมาในภวังค์ความคิดเป็นฉากๆข้าเป็นเด็กกำพร้า ถูกอาจารย์ที่เดินทางออกรักษาผู้คนเก็บมาชุบเลี้ยงต่อมาอาจารย์ออกไปทำธุระ ข้าที่รั้งอยู่ในหุบเขาไม้ไผ่จึงได้ช่วยชีวิตเซี่ยจิ่งหวนที่บาดเจ็บหนักจากการถูกตามล่าเซี่ยจิ่งหวนตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกพบและสารภาพรักกับข้าอาจารย์พร่ำสอนข้าตั้งแต่ยังเป็นเด็กว่า บุรุษในใต้หล้าล้วนจิตใจโลเลไม่มั่นคง โลกใบนี้มีสตรีที่หลงงมงายในรักถูกผู้ชายหักหลังอยู่มากมาย ดังนั้นอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับความรักโดยเด็ดขาดข้าปฏิเสธเขาทุกวิถีทาง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับการตามเกี้ยวพาราสีของเขาก่อนแต่งงานกับเซี่ยจิ่งหวน ข้าเคยแวะมาหาอาจารย์ ขอให้ท่านไปอยู่ในวังด้วยกัน จะได้ดูแลท่านอย่างดีอาจารย์ลูบผมข้าแล้วส่งยาแกล้งตายมาให้ พลางกล่าวว่า "อาเหยา ข้าจะอยู่ที่นี่ เป็นที่พึ่งสุดท้ายของเจ้า"ตอนนั้นข้าคิดแค่ว่าอาจารย์กังวลมากเกินไปเซี่ยจิ่งหวนรักข้ายิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง แล้วเขาจะทำให้ข้าอับจนหนทางได้อย่างไรตอนนี้ข้าเพิ่งจะบรรลุว่าการฝากชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นการทำลายทางหนีของตัวเองแต่โชคดีที่ข้ายังมี

  • ฮองเฮาปลิดชีพตาย หลังฮ่องเต้รับสนมใหม่เข้าวัง   บทที่ 3

    พอเลี้ยวผ่านโค้งมาก็เห็นหลินจื่อยวนโผล่ออกมาจากหลังภูเขาจำลอง แล้วโผเข้ากอดเซี่ยจิ่งหวนเซี่ยจิ่งหวนรีบสำรวจร่างกายนางอย่างร้อนรน "ไม่ใช่บอกว่าตกน้ำหรอกหรือ?"หลินจื่อยวนเบียดกายแนบชิดร่างเขา พูดเสียงออดอ้อนว่า "ถ้าหม่อมฉันไม่พูดแบบนี้ ฝ่าบาทจะเสด็จมาได้อย่างไรเพคะ"เซี่ยจิ่งหวนเอ็ดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด "ช่างเหลวไหลสิ้นดี! เจ้าจะมาหลอกลวงข้าด้วยเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?"หลินจื่อยวนรวบรวมความกล้าเขย่งปลายเท้าจูบริมฝีปากเขา"ก็เพราะยวนเอ๋อร์คิดถึงฝ่าบาทเหลือเกินนี่เพคะ"เซี่ยจิ่งหวนยกมือทำท่าจะผลักออก "ในเมื่อไม่เป็นอะไรก็รีบกลับวังไปเถอะ ข้ายังต้องไปอยู่เป็นเพื่อนฮองเฮาอีก"หลินจื่อยวนใช้มือทั้งสองเกี่ยวผ้าคาดเอวของเขาเอาไว้แน่น "ฝ่าบาท วันนี้พวกเราอยู่ที่นี่กันดีไหมเพคะ?""วันนี้หม่อมฉันสวมเอี๊ยมตัวบางมาด้วยนะเพคะ"พอเจอการพูดหว่านล้อมยั่วยวนหนักเข้า เซี่ยจิ่งหวนก็เริ่มไม่ต่อต้านไม่นาน เสียงครางหวานก็ดังมาจากด้านหลังภูเขาจำลองข้ายืนตัวแข็งอยู่กับที่ขณะสวมอาภรณ์ที่เปียกโชก เสียงครางของทั้งสองเหมือนคมมีดที่แทงเข้ามาในหัวใจข้า ทำให้ข้าเจ็บปวดรวดร้าวดุจใจจะขาดน้ำตาไหลออกมาจากเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status