Beranda / รักโบราณ / ฮูหยินกลับมาแล้ว / ๑๔ ผู้ใดกันแน่ที่สมควรถูกทิ้ง

Share

๑๔ ผู้ใดกันแน่ที่สมควรถูกทิ้ง

Penulis: วอลจู
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-29 21:50:40

ณ วังหลวง

พระอาทิตย์ยังไม่ทันแตะขอบฟ้า เสียงกลองในวังหลวงดังกึกก้องสะท้อนทั่วทั้งราชสำนัก ทั้งขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊พากันหลั่งไหลเข้าท้องพระโรงอย่างรีบร้อน

เทียนฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สายเยือกเย็นทอดมองไปยังแม่ทัพใหญ่ในชุดเกราะสีดำสนิทยืนอยู่เบื้องหน้า

“โม่เหยียนซวี่ รับราชโองการ!” เสียงขันทีชราดังกังวาน

“ศัตรูชายแดนทิศตะวันตกเคลื่อนไหวผิดปกติและรุกล้ำล่วงเกินเข้ามายังแคว้น ฝ่าบาทมีพระทรงโปรดให้แม่ทัพโม่นำทัพใหญ่ออกเดินทางภายในวันนี้ เพื่อป้องกันแผ่นดินและกวาดล้างให้หมดสิ้น!...”

เสียงในท้องพระโรงเงียบสนิท…ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ

โม่เหยียนซวี่ก้าวไปข้างหน้าประสานมือรับราชโองการจากขันทีชราด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ภายในใจนั้นกลับปั่นป่วนและว้าวุ่นยากเกินจะสงบนิ่งได้

แม้จะไม่อยากจากไปในยามนี้ แต่หน้าที่ก็มิอาจปล่อยวาง…ไม่รู้เพราะเหตุใดโม่เหยียนซวี่จึงเกิดลางสังหรณ์ใจแปลกๆ

ยามซวี (เวลา 19.00 – 20.00 น.)

โม่เหยียนซวี่เตรียมกองทัพทหาร พร้อมทั้งเสบียงและอาวุธอย่างรัดกุม กำลังจะออกจากเมืองหลวงในไม่ช้า

สถานการณ์ในยามนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเขายังไม่ทันได้กล่าวคำร่ำลาแก่ไป๋หรูอี๋ด้วย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๗ ทวงคืนทุกอย่าง

    “ฮูหยินเจ้าค่ะ!...”“ฮูหยินใหญ่ออกไปเถอะเจ้าค่ะ...เกรงว่าหากท่านทำเช่นนี้ ผู้เป็นนายของข้าคงโมโหไม่น้อย!”“ฮูหยิน! แย่แล้วเจ้าค่ะ!”เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายดังลั่นอยู่หน้าประตูจวนราวกับมีคนสิบคนยืนตะโกนแข่งกัน เสียงของสาวใช้สลับกันไปมาจนฟังไม่รู้เรื่องจับใจความไม่ได้บนเตียงนุ่มมีร่างของไป๋หรูอี๋ที่นอนหลับสบายอย่างสงบก็ต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยความรำคาญ เมื่อได้ยินเสียงเอะอะเหล่านั้นปลุกนางจากนิทราอย่างไม่อาจอดกลั้นเปลือกตาคู่งามกระตุกเปิดขึ้นอย่างขุ่นเคือง“มารดามันเถอะ! ข้านอนอยู่ไม่เห็นหรืออย่างไร!” ไป๋หรูอี๋ตะโกนลั่น นางลุกขึ้นนั่งทันที นัยน์ตาเมล็ดซิ่งฉายแววแข็งกร้าวจ้องเขม็งไปยังบานประตู น้ำเสียงนางเมื่อครู่ดังก้องกังวานชัดเจนไปทั่วเรือนอย่างแน่นอน“เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ!”“ฮูหยินเจ้าคะ... เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”ยิ่งได้ยินแล้ว…ไป๋หรูอี๋ยิ่งขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าย่ำแย่กว่าเดิมคล้ายกับว่ามีเสียงหนึ่งร้องเรียกนางและอีกเสียงกลับเถียงออกไปราวกับทะเลาะกันเองฮูหยินใหญ่…หึ!เพียงนึกถึงชื่อเรียกนั้น มุมปากของไป๋หรูอี๋ก็พลันกระตุกยิ้มเยาะขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ทั่วทั้งจวนหลังนี้ยังจะมีผู้ใดกล้าไร้

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๖ อยากได้มาครอบครอง

    วันถัดมา…เซินลี่ฮวานอนกระสับกระส่ายตลอดทั้งคืนนางไม่อาจข่มตาหลับได้จริงๆ ภายในใจของนางปั่นป่วนและพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่คับแน่นจนยากจะจัดการให้สงบได้อีกทั้งถ้อยคำของขุนนางเว่ยเมื่อวันก่อนยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทไม่จางหายสามวันอย่างงั้นหรือ...?เพียงแค่นึกถึงถ้อยคำนี้ หัวใจของนางที่เงียบสงบมานานกลับเต้นกระหน่ำรัวไม่เป็นจังหวะ ราวกับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวในที่สุดนางกำลังจะหลุดพ้นแล้วงั้นรึ!?พันธะเจ็บปวดที่เหนี่ยวรั้งมาหลายปีใกล้จะสิ้นสุดลงเสียที“ฮูหยิน...ฝันร้ายหรือเจ้าคะ” น้ำเสียงของผิงอันเอ่ยดังขึ้นแผ่วเบาอย่างงัวเงีย นางนอนเฝ้าอยู่หน้าประตูเรือนเฉกเช่นทุกคืน เพราะเกรงว่าสตรีอีกคนของท่านแม่ทัพโม่จะคิดลอบทำอันตรายต่อผู้เป็นนายหญิงของนางเอาได้และหากมีสิ่งใดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะอีกฝ่ายจะส่งเสียงร้องหรือลอบออกจากห้อง นางก็จะรู้ตัวทันทีทว่าเช้าตรู่วันนี่กลับต่างออกไป…ท้องฟ้ายังคงมืดสลัว แสงแรกของวันยังมาไม่ถึงกระนั้นผิงอันกลับได้ยินเสียงสวบสาบของอาภรณ์ดังลอดออกมาจากภายในเรือน ราวกับมีคนกำลังเตรียมตัวจะออกไปไหน จากนั้นไม่นาน…ประตูไม้ก็พลันเปิดออกด้ว

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๕ ชีวิตสงบสุข

    ในเมื่อไร้เงาของบุรุษผู้นั้น เซินลี่ฮารู้สึกโล่งใจอยู่มากเพราะอย่างน้อยก็ไม่มีสายตาคู่คอยจับจ้องมองสังเกตทุกการกระทำของนางอีกต่อไปเช้าวันนี้ จู่ๆ ผิงอันเร่งรีบเข้ามาปลุกนางด้วยสีหน้าร้อนรนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีเลยด้วยซ้ำ‘ฮูหยินเจ้าคะ! ยามนี้ขุนนางเว่ยรอหน้าจวน เอาแต่ตะโกนเรียกชื่ออยู่หน้าประตูและไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ยอมกลับหากไม่ได้เจอหน้าฮูหยินเจ้าค่ะ!’นางหรือจะหลับลงได้อีก…แม้เซินลี่ฮวาจะรู้สึกรำคาญใจอยู่ไม่น้อย แต่บุรุษผู้นั้นก็เป็นถึงขุนนางในราชสำนัก แม้นางจะไม่รู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายมีตำแหน่งใด แต่ที่แน่ๆ เขารับปากว่าจะช่วยเขียนฎีกายื่นต่อเทียนฮ่องเต้ให้เรื่อง ขอหย่าขาดจากโม่เหยียนซวี่!นี่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ในวันข้างหน้าแม้นางจะรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงใด หรือจะรำคาญใจอยู่บ้าง แต่การปั้นหน้ายิ้มแย้มจอมปลอมนั้น…สำหรับเซินลี่ฮวาแล้ว หาใช่เรื่องที่ทำไม่ได้เซินลี่ฮวายกจอกน้ำชาขึ้นจิบช้าๆ รสขมจางๆ ของใบชาในยามเช้าทำให้ได้สติขึ้นมาบ้าง นางนั่งเหยียดหลังตรงท่วงท่าสง่างาม นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเหลือบมองบุรุษตรงหน้าผ่านไอน้ำชาเบาบางเป็นระยะโดยไม่ให้ผิดสังเกต“ขุนนางเว่ยถึงกับมาหาถึงจวนตั้

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๔ ผู้ใดกันแน่ที่สมควรถูกทิ้ง

    ณ วังหลวงพระอาทิตย์ยังไม่ทันแตะขอบฟ้า เสียงกลองในวังหลวงดังกึกก้องสะท้อนทั่วทั้งราชสำนัก ทั้งขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊พากันหลั่งไหลเข้าท้องพระโรงอย่างรีบร้อนเทียนฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร สายเยือกเย็นทอดมองไปยังแม่ทัพใหญ่ในชุดเกราะสีดำสนิทยืนอยู่เบื้องหน้า“โม่เหยียนซวี่ รับราชโองการ!” เสียงขันทีชราดังกังวาน“ศัตรูชายแดนทิศตะวันตกเคลื่อนไหวผิดปกติและรุกล้ำล่วงเกินเข้ามายังแคว้น ฝ่าบาทมีพระทรงโปรดให้แม่ทัพโม่นำทัพใหญ่ออกเดินทางภายในวันนี้ เพื่อป้องกันแผ่นดินและกวาดล้างให้หมดสิ้น!...”เสียงในท้องพระโรงเงียบสนิท…ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจโม่เหยียนซวี่ก้าวไปข้างหน้าประสานมือรับราชโองการจากขันทีชราด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ภายในใจนั้นกลับปั่นป่วนและว้าวุ่นยากเกินจะสงบนิ่งได้แม้จะไม่อยากจากไปในยามนี้ แต่หน้าที่ก็มิอาจปล่อยวาง…ไม่รู้เพราะเหตุใดโม่เหยียนซวี่จึงเกิดลางสังหรณ์ใจแปลกๆยามซวี (เวลา 19.00 – 20.00 น.)โม่เหยียนซวี่เตรียมกองทัพทหาร พร้อมทั้งเสบียงและอาวุธอย่างรัดกุม กำลังจะออกจากเมืองหลวงในไม่ช้าสถานการณ์ในยามนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเขายังไม่ทันได้กล่าวคำร่ำลาแก่ไป๋หรูอี๋ด้วย

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๓ หวงก้าง

    ปัง!โม่เหยียนซวี่ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง ตบโต๊ะไม้ดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งจวน เสียงกึกก้องนั้นทำเอาเหล่าสาวใช้ที่อยู่บริเวณนั้นต่างสะดุ้งตกใจโหยง หน้าถอดสีราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ และไม่เว้นแม้แต่ไป๋หรูอี๋ที่อยู่ข้างกายยังเผลอขมวดคิ้วคล้ายไม่พอใจ“สตรีร่าน!” น้ำเสียงทุ้มสบถออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวโม่เหยียนซวี่ก้าวฉับๆ เข้ามาหยุดตรงหน้าของเซินลี่ฮวา ดวงตาคมกริบแข็งกร้าวถลึงมองนาง มุมปากกระตุกยกยิ้มเยาะในแววตาดูแคลนอย่างชัดเจน“สตรีร่าน!”ทว่าเซินลี่ฮวามิได้เกรงกลัวหรือหวั่นไหวแม้แต่น้อย ใบหน้าคนงามยังคงเรียบเฉย แต่นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกลับเย็นยะเยือกและไม่คิดหลบเลยแม้แต่น้อย“หากคิดจะกล่าวหาข้า…”นางเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความเย้ยหยัน “ท่านควรดูเงาของตัวเองเสียก่อนโม่เหยียนซวี่” นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเพ่งตามองเขาเพียงครู่ ก่อนจะมองเลยไปยังสตรีผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก“ช่างหน้าด้านนัก…ข้ายังไม่ทันหย่า ท่านกลับยกย่องเชิดชูสตรีจนไม่เห็นหัวภรรยาเอกเลยสักนิดหรือว่าระริกระรี้จนทนรอไม่ไหวแล้วกันแน่” เซินลี่ฮวาเลิกคิ้ว ถามอย่างเย้ยหยัน“เซินลี่ฮวา!”โม่เหยียนซวี่กัดฟันกรอดเรียกชื่ออีกฝ่าย ดวงตาคมกริบแดงก่ำ

  • ฮูหยินกลับมาแล้ว   ๑๒ ติดกับ

    ข้าเองก็เป็นสามีของผู้อื่นครั้งแรก…ได้โปรดฮูหยินชี้แนะด้วยเถิดเหอะ! ช่างเถอะ…นางไม่อาจเชื่อคำพูดของบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าแต่ก็หาได้ดูแคลนเขาเช่นกันเซินลี่ฮวาละสายตาจากเขาก่อนจะระบายยิ้มจางๆ แล้วเดินต่อไปทันทีโดยไม่หันกลับ และในขณะเดินผ่านหน้าจวน นางจึงกล่าวเพียงว่า “ขอบคุณคุณชายที่มาส่งข้า”เว่ยอี้มองเห็นแล้วพลางขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ก่อนจะเอ่ยตามหลัง “ไม่คิดว่าจะชวนข้าเข้าไปดื่มชาด้วยกันหรือ”“จวนคุณชายไม่มีน้ำชาให้ดื่มรึ...”เว่ยอี้มิได้เอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดออกมา เพียงยืนมองนิ่งๆ ตามแผ่นหลังของนางที่ก้าวห่างออกไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะปรายสายตาหันกลับมาแม้แต่น้อยดวงตาคมกริบฉายแววลึกซึ้ง ยากจะคาดเดาความคิด ก่อนที่รอยยิ้มบางเฉียบจะคลี่ปรากฏบนใบหน้าอย่างเงียบงันเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ...และเจ้าเล่ห์ยามซื่อ (เวลา 09.00 – 11.00 น.)วันนี้ไป๋หรูอี๋อารมณ์ดีเป็นพิเศษ นางนั่งรับประทานมื้อสายอยู่เคียงข้างโม่เหยียนซวี่ โดยมีอีกฝ่ายคอยประคบประหงมไม่ห่าง ราวกับทะนุถนอมของล้ำค่าโม่เหยียนซวี่คีบเนื้อปลาชิ้นหนึ่งวางลงบนจานของนางอย่างเอาใจ “กินให้มากหน่อย…”น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างหยอกเย้า “หากข้ากินหมด

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status