Share

ตอนที่ 13

last update Last Updated: 2025-07-21 13:17:19

อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”

ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา

“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”

“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ

“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตา

ที่โต๊ะอาหาร

จูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก

“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”

“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินสักคำสิ”

ไป๋ซินซินมองไปที่เขา เห็นเขามองอยู่จึงรู้ว่าคุยกับตน

“เจ้าค่ะ” นางเกือบจะใช้ตะเกียบของตัวเองคีบไปที่อาหาร แต่เห็นตะเกียบอีกคู่วางอยู่ใกล้ ๆ จาน จึงใช้ตะเกียบคู่นั้นคีบแทน

ต้องยกความดีความชอบให้พี่ว่าน ที่อบรมสั่งสอนเรื่องต่าง ๆ ให้นางมากมาย

“ชามนั้นคือหูฉลามตุ๋น กินตอนร้อน ๆ จะอร่อยมาก ลองตักชิมสักถ้วยสิ”

หญิงสาวประหม่ากับความใส่ใจของเขา แต่ก็ยอมทำตามเพราะกลัวจะโดนมารดาทำร้ายอีก

“ตักอีกหน่อยสิ” เห็นนางตักเพียงครึ่งทัพพีก็ให้ตักเพิ่มอีก เขาอยากให้นางกินเยอะ ๆ และได้กินอาหารดี ๆ มื้อนี้จึงตั้งใจเลือกอาหารด้วยตัวเอง “พวกเจ้าอยากกินอะไรก็ตามสบายเลยนะ”

“เจ้าค่ะ” จูอินฝืนยิ้มรับ แม้จะขัดใจที่เห็นเขาใส่ใจไป๋ซินซินเพียงคนเดียว

“อ้ายเหม่ย ลองชิมหลัวฮั่นไจจานนั้นดูสิ น่าจะถูกปากเจ้า”

หญิงสาวที่กำลังจะคีบเนื้อกุ้งชิ้นโตรีบเบี่ยงตะเกียบไปยังจานอาหารที่เขาแนะนำ นางไม่ชอบกินผักทุกชนิด หลัวฮั่นไจจานนี้จึงเป็นอาหารที่นางไม่ชอบมากที่สุดบนโต๊ะนี้ แต่ก็ฝืนคีบวุ้นเส้นขึ้นมาใส่ปาก

“เป็นอย่างไร ถูกปากหรือไม่”

“อ้ายเหม่ยชอบมากเจ้าค่ะ”

ดูก็รู้ว่านางฝืนใจ แต่ก็อยากรู้ว่าจะฝืนได้แค่ไหน “เช่นนั้นก็กินเยอะ ๆ”

“เจ้าค่ะ” อ้ายเหม่ยรีบส่งสายตาอ้อนวอนไปทางมารดาเมื่อสบโอกาส นางเกลียดผักเข้าสายเลือด จะให้กินเข้าไปอีกคงได้อาเจียนออกมาแน่

จูอินเองก็แทบไม่กินผัก เมื่อสบโอกาสจึงส่งสายตาไปให้ไป๋ซินซินที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ใช้เท้าสะกิดแรงเพราะไม่สามารถบิดเนื้อข่มขู่ได้อีก

“ไป๋ซินซิน” นางใช้ตะเกียบแตะไปที่ขอบจานหลัวฮั่นไจพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน “ของโปรดของเจ้า แม่ยกให้”

“เจ้าค่ะ” จำใจคีบอาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มรสใส่ในถ้วย ตักใส่ปากไปเพียงคำเดียวก็ถูกอ้ายเหม่ยคีบใส่มาให้อีก

“ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่ชอบ ข้ายอมเสียสละให้”

“อ้ายเหม่ยนางเป็นเด็กดี ทำอะไรก็จะคิดถึงพี่น้องก่อนเสมอ” จูอินอวดลูกสาวคนเล็ก

เติ้งอี้เทียนขัดใจกับการกระทำของสองแม่ลูกจนอยากคว่ำโต๊ะ แต่ก็ต้องควบคุมอารมณ์เอาไว้เพื่อดูมารยาของพวกนางต่อ

รอให้ซินซินมาเป็นคนของเขาก่อนเถิด เขาจะไม่ให้โอกาสพวกนางได้ร่วมโต๊ะด้วยอีกเลย

เคยทำอย่างไรไว้กับนาง เขาจะเอาคืนแทนนางให้หมด

“ถึงจะชอบแต่ก็ควรกินอย่างอื่นบ้าง ยังมีอีกตั้งหลายจานที่ไม่ได้กิน”

“ข้าน้อยชอบกินผัก” ไม่ใช่ว่านางอยากกินผักหรอกนะ นางอยากกินเนื้อมากกว่า อยากกินเนื้อทุกจานที่อยู่บนโต๊ะตัวนี้

สิบแปดปีที่เกิดมา เท่าที่จำความได้ แต่ละมื้อของนางล้วนต้องประทังด้วยน้ำแกงกับเศษผักเป็นหลัก นาน ๆ ก็จะได้เจอเศษเนื้อบ้าง

วันไหนโชคดีหน่อย ก็จะได้กินเนื้อที่จูก่านต้งโยนมาให้เพราะคำว่าไม่ถูกปาก

“ชอบก็กินเยอะ ๆ สิ” อ้ายเหม่ยทำตัวมีน้ำใจ คีบหลัวฮั่นไจใส่ถ้วยข้าวของพี่สาวจนพูน

อี้เทียนหยิบถ้วยข้าวที่เต็มไปด้วยผักมาไว้กับตัว แล้วเปลี่ยนเอาถ้วยข้าวของตัวเองให้นางแทน แล้วคีบเป๋าฮื้อชิ้นโตให้นาง

“อยู่บ้านเจ้าอาจจะชอบกินผัก แต่ตอนนี้เจ้ามาเป็นแขกที่บ้านข้า ต้องกินให้ครบทุกจาน”

“..ขอบคุณท่านเติ้งเจ้าค่ะ” นางประหม่ากับการกระทำของเขา แต่ก็กลัวสายตาของมารดามากกว่า

“อ้ายเหม่ย ฮูหยินจู ลองชิมสิ”

“เจ้าค่ะ” จูอินตอบรับ เห็นสีหน้าของลูกสาวสุดที่รัก ก็อยากบอกให้เขาคีบให้นางบ้าง

จูอ้ายเหม่ยอยากจะกรีดร้องด้วยความริษยา แต่ก็ข่มกลั้นเอาไว้ แล้วยื่นถ้วยข้าวไปทางเติ้งอี้เทียน

“อ้ายเหม่ยก็อยากกินบ้าง ช่วยคีบให้อ้ายเหม่ยสักชิ้น”

อี้เทียนหมุนโต๊ะจนจานเป๋าฮื้อตุ๋นเห็ดหอมไปอยู่ตรงหน้านาง

“เชิญกินตามสบาย ไม่พอจะสั่งแม่ครัวทำให้อีก”

การกระทำของเขาสร้างความไม่พอใจให้จูอิน และสร้างความขัดเคืองใจให้จูอ้ายเหม่ยอย่างมาก

แต่คนที่ถูกเกลียดกลับกลายเป็นไป๋ซินซิน

“ท่านเติ้งรู้จักนายท่านตระกูลเสิ่นหรือไม่” จูอินทนไม่ได้อีกต่อไป นางต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้หน้าให้จูอ้ายเหม่ย

“ก็พอรู้จักอยู่บ้าง พูดถึงเขาทำไมหรือ”

“ท่านคงรู้ว่าฮูหยินใหญ่ของเขาเพิ่งจากไปไม่นาน”

“อือ”

“ท่านรู้หรือไม่ว่าเขากำลังจะแต่งภรรยาใหม่”

“ข้าไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น เพิ่งได้ยินจากฮูหยินจูนี่แหละ”

จูอินหน้าเสียเล็กน้อย รู้สึกเหมือนถูกหลอกด่า แต่ก็รีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้นท่านคงไม่รู้ว่าเขามาทาบทามลูกสาวคนโตของข้าแล้ว”

ไป๋ซินซินตกใจกับข่าวที่เพิ่งได้ยินจนเผลอตัวลุกขึ้นยืน แต่พอเห็นสายตาถมึงทึงของมารดาก็รีบนั่งลง อยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องกัดฟันข่มน้ำตาเอาไว้

“พี่ใหญ่กำลังจะออกเรือนแล้วหรือท่านแม่.. พี่ใหญ่ ข้าดีใจด้วยนะ” อ้ายเหม่ยยิ้มร่า ลืมสำรวมอาการ

เติ้งอี้เทียนโกรธจนต้องแอบกำมือแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ไม่คิดเลยว่านางจูจะเลวร้ายถึงเพียงนี้

เขามองหญิงสาวที่ก้มหน้าต่ำ เห็นน้ำตาที่หยดลงบนชุดและไหล่ที่สั่นอยู่เงียบ ๆ

ปากที่นางขบเม้มไว้คงแตกจนได้รสเลือดไปแล้ว

“ไม่ว่าบุรุษหรือสตรี เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็ต้องออกเรือนกันทุกคน หวังว่าการเจรจาจะเป็นไปด้วยดี”

อย่าร้องไห้เลยนะซินเอ๋อร์ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องตกเป็นเมียของเฒ่ามักมากผู้นั้นแน่

เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นของเติ้งอี้เทียนคนนี้คนเดียวเท่านั้น อดทนหน่อยนะ เสียใจให้พอ จากนี้อีกไม่นานข้าจะมอบแต่ความสุขให้เจ้า...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 15

    คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”“.....”“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”“ไม่ใช่เรื่อ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 14

    ทันทีที่พ้นออกมาจากประตูคฤหาสน์สกุลเติ้ง ไป๋ซินซินก็รีบจับแขนของมารดา แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรง จึงได้แต่จับมือตัวเองอย่างหวาดหวั่นกระวนกระวาย“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นจริงหรือ”จูอินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “ดีใจจนร้องไห้เลยหรืออาซิน”“ข้าไม่ได้ดีใจนะท่านแม่”“ไม่ต้องห่วง แม่คนนี้จะรีบไปเจรจาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เจ้ากับน้องกลับบ้านไปก่อนนะ รอฟังข่าวดีจากแม่ได้เลย”หญิงสาวรีบคุกเข่ากับพื้นถนน “ท่านแม่ได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับท่านผู้เฒ่าเลยนะ”“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูอินรีบหันซ้ายแลขวาแล้วกระชากร่างเล็กขึ้นมา “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”“เจ้าทำให้แม่โกรธอีกแล้วนะอาซิน!” จูอ้ายเหม่ยตะคอกเสียงเบา แล้วบิดเนื้อตรงต้นแขนของนางด้วยความเกลียดชังเป็นทุน “แต่งงานกับท่านผู้เฒ่าไม่ดีตรงไหน ฐานะท่านก็ดี เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาช่วยท่านพ่อทำงานอีก”“ใช่ พอเจ้าแต่งงานไปแล้วข้าก็ต้องมาเหนื่อยแทนเจ้าอีก ข้าเสียสละเพื่อเจ้าแค่ไหนคิดบ้างสิ”“ข้ายอมเหนื่อย ยอมตื่นเช้านอนดึกกว่าเดิมก็ได้ ท่านแม่อย่าให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นเลยนะ”“ไม่ได้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อ้ายเหม่ยพานางกลับบ้านไปเดี๋ย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 13

    อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาที่โต๊ะอาหารจูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินส

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 12

    นางรีบยกมือห้าม “ฟังเหตุผลของข้าก่อนแล้วค่อยแย้ง”“พูดมา”“ท่านเติ้งแต่งเมียมาสามคนแล้ว แต่ทุกคนล้วนได้รับหนังสือหย่าเพราะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้ายังรู้อีกว่าเขามีอนุอยู่ในบ้านอีกหลายคน พวกนางล้วนชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน”“ข้าไม่เคยได้ยิน”“เจ้าจะไปรู้อะไร วัน ๆ เอาแต่นวดแป้ง ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามชาวบ้านดูก็ได้”“เจ้าก็เชื่อข่าวลือไม่มีมูลพวกนั้น”“ลูกของข้ากำลังจะแต่งงานกับเขานะ จะไม่ให้ข้าพูดได้อย่างไร หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกของเจ้า แต่งไปแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง”“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยอาอิน..เอาเป็นว่ารอให้พ่อบ้านโปกลับมาก่อนก็แล้วกัน ข้าจะคุยกับเขาอีกที”“ท่านต้องถามเขาว่าที่ชาวบ้านพูดกันเป็นความจริงไหม” เรื่องที่นางพูดไปใช่ว่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ถ้านางไม่ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเองใครจะรู้“บุรุษมีอนุมันก็ไม่ผิด แต่งกับท่านเติ้งนางคงไม่ลำบาก”“นั่นลูกข้าทั้งคนนะ โง่ ๆ เซื่อง ๆ อย่างนางไม่กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของพวกอนุหรือ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร”“ต้องให้เขาแต่งอาซินเป็นเมียเอก”“เจ้าอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย แค่ได้แต่เข้าสกุลเติ้งก็โชคดีของลูกเราแล้ว”

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 11

    บ้านสกุลจูไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”“ท่านพ่อ!”“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตาอ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะจูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”“อีกประมาณครึ่งเดื

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 10

    ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”“ข้าไม่มี”“ไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status