Share

ตอนที่ 15

last update Last Updated: 2025-07-21 13:58:51

คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้

“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”

“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”

“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด

“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”

“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”

“.....”

“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นเลยนายท่าน นางบอกว่าในฐานะของแม่ นางก็แค่เป็นห่วงลูกสาวมากเกินไป นางบอกว่าท่านเคยหย่าภรรยามาแล้วหลายคน ใครที่ไม่สามารถมีลูกให้ท่านได้ภายในสามปี ท่านก็จะมอบหนังสือหย่าแล้วขับพวกนางออกจากคฤหาสน์ นางจึงกลัวว่าท่านจะทำกับลูกสาวของนางแบบนั้นด้วย”

“อ้อ ที่แท้ข้าก็บกพร่องตรงจุดนี้นี่เอง.. แต่ตัวเจ้าก็ยังอยากให้นางแต่งเข้าสกุลเติ้งของข้ามากกว่าสกุลเสิ่น”

“เราไม่ควรฟังเสียงลมแล้วคิดว่าจะมีฝน.. ข้าอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ข้าก็ยังมั่นใจว่านางจะมีชีวิตที่ดีเมื่ออยู่กับท่าน อยู่กับท่านนางอาจจะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ได้เรียนหนังสือ ได้เล่นดนตรี ได้เย็บปักถักร้อย ชีวิตนางน่าจะสงบสุขกว่าการไปอยู่กับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะสิ่งที่คนอื่นพูดถึงท่านข้าไม่เคยเห็น แต่กับผู้เฒ่าเสิ่นคนนั้นเขารู้เห็นกันทั้งตัวเมืองเทียนสิน”

“เช่นนั้นก็ยืนยันได้ว่าเจ้าไม่ได้เห็นด้วยกับฮูหยินจู”

“ใช่ แต่ข้าก็มีเรื่องที่ต้องตกลงกับท่านเหมือนกัน”

“ว่ามา”

“ท่านต้องทำหนังสือสัญญากับข้าว่าจะไม่เขียนหนังสือหย่าให้นาง ต่อให้นางไม่สามารถมีลูกให้ท่านได้ ท่านก็ต้องดูแลนางไปตลอดชีวิต ได้หรือไม่”

“แต่ข้าคงมีนางคนเดียวไปตลอดชีวิตไม่ได้” เขาหยั่งเชิง

“เรื่องนั้นขอแค่ท่านเมตตาสงสารนาง อย่าให้ภรรยาอื่นข่มเหงนางก็พอ อาซินเป็นเด็กรู้ความ ถ้าท่านเบื่อนางก็แค่ส่งนางไปอยู่ห้องที่ไกลเรือนใหญ่ที่สุด จะอยู่ติดกำแพงหรืออยู่ใกล้กับคอกม้า นางก็จะอยู่อย่างเจียมตัว ไม่กวนใจท่านอีกแน่”

“แล้วท่านจะทำอย่างไรกับผู้เฒ่าเสิ่น”

“เรื่องนั้นข้าจะคุยกับเมียข้าเอง ท่านก็รีบจัดการหาฤกษ์ยามส่งเกี้ยวไปรับตัวอาซินก็พอ”

“ข้าเกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดไว้สิ เจ้าอยู่กับเมียมาเกือบยี่สิบปี คงรู้นิสัยนางดีกว่าข้า”

“ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะพยายามช่วยอาซินแต่งเข้าสกุลเติ้งของท่านให้ได้”

บ้านสกุลจู

“ข้าตกลงรับคำผู้เฒ่าเสิ่นไปแล้ว อย่างไรนางก็ต้องแต่งเข้าสกุลเสิ่น” จูอินเสียงแข็งใส่สามีต่อหน้าลูกทั้งสาม

“แต่ข้ารับปากท่านเติ้งไปก่อนแล้ว ข้าผิดคำพูดไม่ได้เช่นกัน” จูเกอพยายามพูดอย่างใจเย็น

“แล้วอย่างไรเล่า ข้าไม่อยากให้นางแต่งกับท่านเติ้ง อย่างนางเหมาะกับผู้เฒ่าเสิ่นที่สุดแล้ว”

“นางเพิ่งจะสิบแปดเท่านั้น จะเหมาะกับคนแก่คราวปู่ได้อย่างไร”

“ข้าว่าเหมาะก็คือเหมาะ เจ้าหุบปากไปได้แล้วอาอิน”

“นางต้องแต่งกับท่านเติ้ง ข้ารับปากเขาไปแล้ว และจะไม่คืนคำเด็ดขาด”

“เช่นนั้นก็ให้หนี่เอ๋อร์แต่งแทน”

ปัง!!

“นี่เจ้าเสียสติไปแล้วเหรอ!!”

จูอินสะท้านไปด้วยความกลัว เมื่อสามีกระแทกถ้วยข้าวลงบนโต๊ะจนแตก แต่นางก็ฝืนทำใจกล้าเชิดหน้าสู้

“ใช่ ถ้าอยากรักษาหน้าก็ต้องทำแบบนี้แหละ”

“แต่อาเหม่ยเพิ่งจะสิบหก”

“นางโตพอที่จะออกเรือนได้แล้ว”

“เจ้าคิดถึงความรู้สึกของลูกบ้างไหมอาอิน”

“ข้ายินดีท่านพ่อ” แม้จะกลัวแต่จูอ้ายเหม่ยก็ตอบรับอย่างเอียงอาย

“แต่ข้าไม่ยินดี ท่านเติ้งก็คงไม่ยินดีเหมือนกัน”

“กว่าจะรู้ว่าผิดตัวก็ตอนเข้าหอนั่นแหละ ถึงจะไม่ยินดีก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”

“ความคิดของเจ้านับวันยิ่งเห็นแก่ตัวเข้าไปทุกที ข้าผิดหวังกับเจ้านัก” เขาตัดพ้อภรรยาแล้วหันไปหาลูกสาวคนโต “อาซิน”

“ท่านพ่อ” ไป๋ซินซินตอบรับเสียงสั่น พยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้

“เจ้าเลือกมาว่าอยากแต่งงานกับใคร”

จูอินชี้หน้าหญิงสาว ถลึงตาใส่อย่างเอาเรื่อง “เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือก! เพราะข้าเลือกให้เจ้าแล้ว”

ไป๋ซินซินน้ำตาไหลอาบแก้ม มองมารดาที่มีแต่ความจงเกลียดจงชัง เกิดมาไม่เคยได้รับความรักจากท่านสักครั้ง นางรู้ว่าการที่ท่านบังคับให้แต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นนั้นไม่ใช่เพราะความหวังดีอะไรเลย แต่เป็นความสาแก่ใจต่างหาก

ส่วนบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาผู้นี้ นางก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ใช่พ่อบังเกิดเกล้า ถึงแม้เขาจะดูห่างเหินและเย็นชากับนางมาก แต่ในการแสดงออกแบบนั้นเขาก็ยังห่วงใยนางอยู่เงียบ ๆ เช่นเดียวกับจูก่านต้ง เพราะพวกเขาคงรู้ว่าถ้าทำดีกับนางอย่างออกหน้าออกตา อาจจะทำให้นางเดือดร้อนยิ่งกว่าเดิม

“หยุดร้องแล้วตอบท่านพ่อไปสิ” จูก่านต้งทำเป็นฮึดฮัดใส่หญิงสาว

“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อเจ้าค่ะ”

“เขาไม่ใช่พ่อของเจ้า แต่ข้าเป็นแม่ของเจ้า ดังนั้นจงทำตามที่ข้าบอก เจ้าต้องแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่น”

คำพูดตัดรอนของเมียรักทำเอาจูเกอจุกอกไปเลยทีเดียว

จูอินเห็นสายตาผิดหวังของสามีก็เจ็บปวดยิ่งนัก แต่นางจะไม่ยอมให้อาซินได้ดีกว่าอ้ายเหม่ยเด็ดขาด

ไป๋ซินซินร้องไห้ปานใจจะขาด ไม่นึกโกรธบิดาที่พยายามเพื่อนางแล้ว แต่นึกน้อยใจในวาสนา อยากรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ทำไมมารดาถึงได้ใจร้ายกับนางนัก แค่สามีดี ๆ สักคนยังไม่ยอมเลือกให้นาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 15

    คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”“.....”“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”“ไม่ใช่เรื่อ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 14

    ทันทีที่พ้นออกมาจากประตูคฤหาสน์สกุลเติ้ง ไป๋ซินซินก็รีบจับแขนของมารดา แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรง จึงได้แต่จับมือตัวเองอย่างหวาดหวั่นกระวนกระวาย“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นจริงหรือ”จูอินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “ดีใจจนร้องไห้เลยหรืออาซิน”“ข้าไม่ได้ดีใจนะท่านแม่”“ไม่ต้องห่วง แม่คนนี้จะรีบไปเจรจาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เจ้ากับน้องกลับบ้านไปก่อนนะ รอฟังข่าวดีจากแม่ได้เลย”หญิงสาวรีบคุกเข่ากับพื้นถนน “ท่านแม่ได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับท่านผู้เฒ่าเลยนะ”“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูอินรีบหันซ้ายแลขวาแล้วกระชากร่างเล็กขึ้นมา “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”“เจ้าทำให้แม่โกรธอีกแล้วนะอาซิน!” จูอ้ายเหม่ยตะคอกเสียงเบา แล้วบิดเนื้อตรงต้นแขนของนางด้วยความเกลียดชังเป็นทุน “แต่งงานกับท่านผู้เฒ่าไม่ดีตรงไหน ฐานะท่านก็ดี เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาช่วยท่านพ่อทำงานอีก”“ใช่ พอเจ้าแต่งงานไปแล้วข้าก็ต้องมาเหนื่อยแทนเจ้าอีก ข้าเสียสละเพื่อเจ้าแค่ไหนคิดบ้างสิ”“ข้ายอมเหนื่อย ยอมตื่นเช้านอนดึกกว่าเดิมก็ได้ ท่านแม่อย่าให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นเลยนะ”“ไม่ได้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อ้ายเหม่ยพานางกลับบ้านไปเดี๋ย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 13

    อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาที่โต๊ะอาหารจูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินส

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 12

    นางรีบยกมือห้าม “ฟังเหตุผลของข้าก่อนแล้วค่อยแย้ง”“พูดมา”“ท่านเติ้งแต่งเมียมาสามคนแล้ว แต่ทุกคนล้วนได้รับหนังสือหย่าเพราะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้ายังรู้อีกว่าเขามีอนุอยู่ในบ้านอีกหลายคน พวกนางล้วนชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน”“ข้าไม่เคยได้ยิน”“เจ้าจะไปรู้อะไร วัน ๆ เอาแต่นวดแป้ง ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามชาวบ้านดูก็ได้”“เจ้าก็เชื่อข่าวลือไม่มีมูลพวกนั้น”“ลูกของข้ากำลังจะแต่งงานกับเขานะ จะไม่ให้ข้าพูดได้อย่างไร หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกของเจ้า แต่งไปแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง”“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยอาอิน..เอาเป็นว่ารอให้พ่อบ้านโปกลับมาก่อนก็แล้วกัน ข้าจะคุยกับเขาอีกที”“ท่านต้องถามเขาว่าที่ชาวบ้านพูดกันเป็นความจริงไหม” เรื่องที่นางพูดไปใช่ว่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ถ้านางไม่ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเองใครจะรู้“บุรุษมีอนุมันก็ไม่ผิด แต่งกับท่านเติ้งนางคงไม่ลำบาก”“นั่นลูกข้าทั้งคนนะ โง่ ๆ เซื่อง ๆ อย่างนางไม่กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของพวกอนุหรือ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร”“ต้องให้เขาแต่งอาซินเป็นเมียเอก”“เจ้าอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย แค่ได้แต่เข้าสกุลเติ้งก็โชคดีของลูกเราแล้ว”

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 11

    บ้านสกุลจูไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”“ท่านพ่อ!”“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตาอ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะจูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”“อีกประมาณครึ่งเดื

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 10

    ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”“ข้าไม่มี”“ไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status