"หลี่เสี่ยวหรูเจ้ากล่าวอันใดออกมา"
อ้ายเซียงเซียงลุกขึ้นตวาดหลี่เสี่ยวหรู มีคุณหนูบางคนที่นี่ไม่ชอบนางโดยเฉพาะจางลี่อิน ส่งเสียงหัวเราะจนเฉินอี้บีบมือนางแต่นางไม่ใส่ใจ
"ข้ามิได้เอ่ยว่าผู้ใด เหตุใดท่านหญิงร้อนตัวนักเล่า"
"เจ้าๆๆ หวังกุ้ยเฟยทรงให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันด้วยเถอะเพคะ ฮือๆๆ"
อ้ายเซียงเซียงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดใบหน้าร้องไห้ออกมา ไหล่บางสั่นจนหวังกุ้ยเฟยเอ่ยออกมา
"บังอาจ เจ้ากล้าต่อว่าท่านหญิงได้อย่างไร ราชครูหวงนี่คือฮูหยินของท่านหรือ ที่จริงงานเลี้ยงวันนี้มิได้เชิญนางอีกด้วย"
หลี่เสี่ยวหรูที่มองหน้าคนด้านที่นั่งด้านบนก่อนจะทำหน้าสงสัย อ้ายเทียนหลางจึงเอ่ยปากถาม
"เจ้ามองหน้าข้ามีเรื่องอันใดหวงฮูหยิน"
"พระองค์ทรงเป็นฮ่องเต้ แต่ท่านหญิงกับไปขอร้องหวังกุ้ยเฟยให้จัดการหม่อมฉัน ที่นี่เป็นงานเลี้ยงของพระนางก็จริง แต่ฝ่าบาททรงเป็นประธาน หม่อมฉันเป็นภรรยาขุนนางมิใช่สนมวังหลัง เหตุใดมิให้ฝ่าบาทตัดสินกันเพคะ ธรรมเนียมต้าเย่วช่างแปลกนัก"
ทันทีที่หลี่เสี่ยวหรูกล่าวจบฮ่องเต้ก็หันไปหาคนข้างๆทันที หวังกุ้ยเฟยตัวสั่นรวมถึงอ้ายเซียงเซียงด้วย
"หม่อมฉันไม่ได้คิดเช่นนั้นนะเพคะฝ่าบาท หลี่เสี่ยวหรูเจ้า"
"กระหม่อมขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ภรรยากระหม่อมไม่เคยออกจากบ้านอาจไม่รู้ธรรมเนียมวังหลวง"
หวงจื่อหานมองคนที่นั่งตรงข้ามอย่าจะกินเลือดกินเนื้อ อ้ายเทียนหลางโบกมือก่อนจะบอกให้เริ่มงานเลี้ยง ทันทีที่ฮ่องเต้สั่งอาหารก็ถูกลำเลียงมามากมาย จากความทรงจำร่างนี้สงบเสงี่ยมมาตลอดแต่ก็แอบรักเขา เฮ้อมีแต่คนรังแกเจ้าวันนี้ข้าจะเอาคืนเบาแล้วกันนะหนูน้อย
หลี่เสี่ยวหรูคว้าน่องไก่มาแทะอย่างตะกลามก่อนจะหยิบหมูตุ๋นเข้าปาก เคี้ยวจนแก้มตุ่ย จากนั้นก็หยิบเนื้อแพะย่างเข้าปาก ตามด้วยสุราก่อนจะเรอออกมา
"เออ เอิ๊อกก อื้อ นี่ๆพี่ชายอาหารในงานเลี้ยงถ้าไม่หมดข้าขอนะ"
ขันทีที่คอยรับใช้ถึงกับทำสีหน้าพะอืดพะอม จนหวงจื่อหานทนไม่ไหวดุนางต่อหน้าพระพักตร์
"เจ้าทำอะไร น่ารังเกียจยิ่งนักที่จวนไม่มีข้าวกินหรือหลี่เสี่ยวหรู"
"เอ๋ ท่านพี่ข้าทำอะไรเสี่ยวหงนางมารับใช้ข้าๆก็ต้องคิดถึงนางบ้าง จวนเรานอกจากน้ำข้าวที่มีข้าวไม่ถึงสิบเม็ด อาหารบางวันก็บูดเน่า ผักดองที่เกือบจะเสียก็ไม่มีอะไรให้กินแล้วนะเจ้าคะ"
"จวนราชครูขาดแคลนถึงเพียงนั้นเชียวหรือ หวงจื่อหานข้าไม่ยักรู้หากฮูหยินของเจ้าไม่เอ่ยออกมา"
"มิได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท คือกระหม่อมจะพานางไปอบรมเดี๋ยวนี้ ทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ"
หวงจื่อหานลุกมาหานาง แต่หลี่เสี่ยวหรูไม่ใส่ใจก่อนจะเอ่ยกับเขา
"ท่านพี่ ท่านอย่ากล่าวความเท็จต่อหน้าพระพักตร์สิเจ้าคะ หลอกลวงเบื้องสูงมีโทษหนักนะเจ้าคะ ข้าแต่งกับท่านมาหนึ่งปี เงินเดือนฮูหยินเดือนละยี่สิบตำลึงยังไม่เคยรับเลย โจวหมัวมัวบอกว่าจวนราชครูตอนนี้ลำบากต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ เงินเดือนไม่มีจ่ายให้ข้าๆเห็นใจจึงไม่เซ้าซี้ แต่อยู่ๆท่านก็มาบอกว่าท่านไม่ได้กำลังตกอับ ตกลงท่านกับโจวหมัวมัวผู้ใดกล่าวเท็จกันแน่ แล้วเงินเดือนข้ายังต้องจ่ายอยู่ไหม"
หวงจื่อหานอับอายที่สุดแล้ว วันนี้นางเป็นบ้าอะไร ปกติยิ่งกว่าหนูกลัวแมวเมื่อเห็นเขาแต่วันนี้กลับพูดจาปลิ้นปล้อนยิ่งนัก หวงจื่อหานคว้ามือนางได้ก็ถวายพระพรลาฮ่องเต้
"กลับอย่าทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคคลบาท ข้าจำต้องคิดบัญชีกับเจ้าที่บ้าน"
"โอ่ว หม่อมฉันทูลลาฝ่าบาทกับหวังกุ้ยเฟยเพคะ ท่านหญิงรถม้าที่ไปรับข้าท่านจอดรอที่ไหนกัน มิใช่ให้ข้ากลับเองนะใช้งานคนเสร็จถีบหัวส่งไม่ได้นะ อยากให้ข้าเป็นตัวตลกให้พวกท่านขบขันข้าก็ทำแล้ว จ่ายเงินมาด้วยค่าตัวการแสดงของข้าคืนนี้"
อ้ายเซียงเซียงบิดผ้าเช็ดหน้าจนเกือบขาด สายตาทุกคู่มองมาที่นาง หรือว่านางวางแผนจริงๆ ยังไม่ได้เงินหวงจื่อหานก็ลากร่างบางปลิวตามมือ แต่หลี่เสี่ยวหรูไม่ยอมแพ้เอ่ยเสียงดังต่อ
"ท่านหญิงเรื่องที่ท่านสั่งให้ข้าหย่ากับท่านพี่ คือว่าข้าไม่รู้หนังสือ รบกวนท่านเขียนใบหย่าให้ทีข้าจะประทับลายมือให้ พวกท่านจะได้เป็นคู่นกยวนยางที่เหมาะสมที่สุดแห่งต้าเย่ว"
แต่ละคำที่ออกมาจากปากของหลี่เสี่ยวหรูทำเอาบรรดาบุรุษที่กำลังหมายตาท่านหญิงต้องพิจารณาใหม่อีกครั้ง ถึงขั้นไปขอให้เขาหย่าสามี งานเลี้ยงกร่อยทันที ฮ่องเต้เสด็จกลับไปแล้ว หวังกุ้ยเฟยเดินมาถึงก็ตบหน้าหลานสาวทันที
"ข้าหวังจะให้บาทประทับใจ เจ้าเล่าไปเอานางมาบอกจะทำให้เป็นตัวตลก ตอนนี้รู้หรือยังว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวตลก คืนนี้ทรงเลือกไปหาจางอี้ผิน เป็นเพราะเจ้า โง่นัก"
อ้ายเซียงเซียงกำลังโมโหถึงอย่างไรเสด็จพ่อนางก็เป็นน้องชายฮ่องเต้นะ ถึงท่านน้าจะเป็นพระสนมก็ไม่มีสิทธิ์ตบหน้านางเช่นนี้
บนรถม้าหลี่เสี่ยวหรูกำลังรู้สึกว่าตนเองมีไข้จึงไม่ต่อปากต่อคำอีก หวงจื่อหานเอ่ยถามนาง
"เจ้าไม่เคยได้รับเงิน อาหารก็ไม่เคยกินข้าวขาว เพิ่งมาพูดตอนนี้วางแผนอะไรไว้"
"อยากรู้ว่าที่ข้าพูดนั้นจริงไหมท่านก็คอยดูพรุ่งนี้ ข้าจะไปรับเงินเดือนประจำตำแหน่งเมียเอก หากพวกนางจ่ายข้าจะยอมให้ท่านลงโทษ หากพวกนางไม่จ่ายท่านต้องจ่ายย้อนหลังให้ข้ารวมดอกเบี้ยร้อยละสามสิบต่อปี"
เมื่อมาถึงจวนหลี่เสี่ยวหรูก็กลับเรือนข้างของตน เสี่ยวหงที่รออยู่ก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง หลี่เสี่ยวหรูแอบน่องไก่กับขนมงาไว้ให้ก่อนจะส่งให้เสี่ยวหง
"กินเถอะ วันนี้ทั้งวันกินแต่น้ำเปล่าเจ้าคงหิวมากแล้ว"
"ฮือๆๆ ฮูหยินน้อยท่านกินเถอะเจ้าค่ะ"
"เจ้ากินเถอะข้าอิ่มแล้ว สักวันข้าจะพาเจ้าไปโบยบินจากกรงผุๆเส็งเคร็งนี้"
หวงจื่อหานที่ยืนฟังอยู่ข้างนอกถึงกับกัดฟัน จวนเขาในสายตานางไร้ค่าเพียงนี้ เขาได้กลิ่นอาหารที่นางซ่อนไว้แล้วอยากรู้เหตใดนางเอากลับมาจริงๆไม่ใช่เพียงเพื่อหักหน้าเขา
เรื่องนี้ต้องให้คนของเขาสืบสาวราวเรื่อง เงินเดือนยี่สิบตำลึงนางอยู่มาสิบสามเดือนมีลายประทับของนางแต่นางไม่ได้รับเงินเรื่องนี้ต้องหาคนยักยอกให้เจอ
หลังจากงานเลี้ยงผ่านไป หวงจื่อหานและสหายของเขาก็จัดรถม้าเพื่อพาเมียรักและเด็กๆไปที่ทุ่งดอกไม้ บรรดาบุตรสาวบุตรชายก็ดีใจที่บิดาจะพาไปเที่ยว ทุกคนตื่นเต้นกันมากยามซื่อเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว รถม้าหลายคันก็เคลื่อนออกจากหมู่บ้านไปที่ทุ่งดอกไม้ ใกล้ฤดูเหมันต์แล้วดอกไม้งามสะพรั่งไปหมด ขางทางสองฝั่งเด็กๆต่างตื่นเต้น กิ่งไม้มีกะรอกตัวน้อยๆไต่ไปมารถม้าสิบสามคันเคลื่อนจนมาถึงบริเวณทุ่งดอกไม้ ทั้งสิบสองคู่ต่างก็นั่งกอดคนรักของตนเอง เด็กๆมีสาวใช้และพี่เลี้ยงตามมาดูแลหวงเทาจุงมือชุ่ยชุ่ยเดินเล่น ครั้งก่อนนางท้องอยู่เขาจึงไม่ได้พานางชมรอบๆโจวจื่อหมิงกับซุนเฟิงย่าก็พากันไปนั่งอีกมุม เฉินอี้นังอยู่กับจางลี่อิน ทอดมองไปยังเบื้องหน้าหยางหมิงเช่อกับจ้าวหลาน และเหลียงหมิงเทากับหูไห่ถิง ปูเสื่อนั่งเล่นอยู่กับเด็กๆ ไหวอ๋องกับหนิงอ๋องเอารถม้าไปจอดอีกด้าน ก่อนจะมาสมทบพวกเขา ถังฟั่น เย่เซียวฉาง จินหยูเฟิง มาถึงทีหลังเพราะบรรดาบุตรชายบุตรสาวงอแงกว่าจะเอาลงก็เหนื่อยมากนักปลายยามอู่ได้เวลามื้อเที่ยงจึงมารวมกันที่ใต้ตนไหว เพื่อเข้าร่ม หวงจื่อหานที่ตอนนี้นั่งพัดโบกให้เมียตนเอง แม้ว่าอากาศจะเริ่มเย็นแล้ว แต่เพร
จวนหวงกำลังวุ่นวายรวมถึงจวนหยางด้วย จวนหวงเรือนใหญ่ต่างรอรับลูกสะใภ้ ส่วนจวนหวงเรือนราชครูกำลังวุ่นวายเพราะต้องส่งเจ้าสาวไป๋อี้ถงยามที่สวมชุดเจ้าสาวแล้วนับว่างามมากนัก ขนาดหลี่เสี่ยวหรูยังตะลึง“อี้ถงของพี่งามเหลือเกิน มิน่าคุณชายน้อยสกุลหยางถึงไปไหนไม่รอด”“จริงด้วย พี่เสี่ยวหรูพูดถูกอี้ถงของพี่ลี่อินงามที่สุด อีกเดี๋ยวพี่จ้าวหลาน พี่เฟิงย่ากับพี่ไห่ถิงก็มาแล้ว”“พวกพี่เอ่ยชมจนข้าลอยได้แล้วเจ้าค่ะ พี่ๆข้ากลัวจังเลย แต่งงานต้องมีลูกคลอดบุตร ข้านั่งฟังพวกท่านเจ็บท้องคลอดมาแปดปีแล้ว จนไม่อยากท้องเองเอาเสียเลยเจ้าค่ะ”“ฮ่าๆๆ น้องห้าเจ้าว่าเช่นนี้ทำอย่างไรกันดีเล่า สงสารคุณชายน้อยเสียแล้วเมียไม่อยากท้อง”“พี่ใหญ่ ท่านว่าอย่างอี้ถงนี่แฝดสี่เลยดีไหมเจ้าคะ”“ไม่นะ พี่ๆอย่าอวยพรกับแบบนี้สิเจ้าคะ แค่คนเดียวก็เจ็บมากแล้ว ดูตอนที่พี่อี้จูคลอดคนที่สองสิ ขนาดคนเดียวยังเบ่งข้ามวันข้ามคืน”สองสาวหัวเราะให้กัน ไม่นานอีกแปดสาวก็มา เสี่ยวหงเอาขนมโก๋อ่อนมาให้เจ้าสาวได้รองท้องก่อน แม้ว่านางจะมีบุตรให้กับถังฟั่นและเข้าหอก่อนแต่ง แต่เมื่อถึงเมืองหลวงเขาก็จัดงานแต่งใหญ่โตสมกับฐานะของนางเสี่ยวหงในฐานะน้องส
ทางด้านคนที่พวกเขากล่าวถึงตอนนี้กำลังโดนคนตัวโตลงโทษอยู่ที่เรือนพักของนาง เมื่อเช้านางไปเตรียมของเพื่อจะกลับไปงานครบรอบอายุแปดสิบของท่านปู่ไป๋ลิ่ว ซูจิ้งเฟิงคุณชายซูที่บังเอิญมาเจอนางก็อาสาช่วยหิ้วของกลับมาส่งที่เรือน บิดาไม่อยู่วันนี้เขาค้างที่สำนักศึกษา ใครจะรู้ว่าหยางฮ่าวจะตามาถึงเรือนแล้วหาเรื่องทะเลาะกับนาง"ออกมานะไป๋อี้ถง"หยางฮ่าวที่เดินตามทั้งสองคนมาเมื่อเห็นซูจิ้งเฟิงเข้ามาในบ้านด้วยก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้าตะโกนเรียกคนด้านในทันที ไป๋อีีถงเดินออกมาทันทีที่เห็นหน้าเขาก็ถอนหายใจ ไป๋อี้ถงเชิญให้ซูจิ้งเฟิงนั่งรอแต่หยางฮ่าวไม่สนใจไล่เขากลับทันที"คุณชายซู..ท่านไม่ควรมานั่งในบ้านสตรีที่มีคู่หมั้นแล้วเช่นนี้นะ""ห๊ะ ห๊า คะ คู่หมั้นหรือ คุณหนูไป๋ท่านมีคู่หมั้นแล้วหรือขอรับ ไม่ทราบว่าบุรุษโชคดีผู้นั้นเป็นใครกัน""เป็นใครไม่สำคัญ แค่รู้ว่านางมีคู่หมั้นแล้วก็พอกระมังซูจิ้งเฟิง"ซูจิ้งเฟิงไม่ยอมแพ้ ไป๋อี้ถงงามเพียงนี้ต่อให้มีคู่หมายแล้วอย่างไร อีกอย่างหากมีจริงทำไมไม่เปิดเผยออกมาจึงได้ย้อนหยางฮ่าวกลับไป"รองเจ้ากรม ท่านกล่าวอันใดกันขอรับ หากคุณหนูไป๋มีคู่หมั้นจริงๆเหตุใดไม่เผยตัว เรื่องนี้อ
ซุนเฟิงย่าที่นั่งฟังมานานเอ่ยขึ้น นางเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตหยางจ้าวเหิงกับโจวหนิงฮวาบุตรสาวจะเป็นเช่นไร ตอนนี้เด็กๆยังไม่เจออะไรมากกว่านี้ เมื่อถึงเวลาบ่ายรถม้าของจวนก็มารับพวกนางกลับไป จางลี่อินเดินกลับเองเพราะจวนติดกัน แต่เฉินอี้ไม่ยอมเขาเอาม้ามารับเมีย ส่วนลูกๆสาวใช้พาขึ้นรถม้ากลับไปแล้ว ตั้งแต่ประความเข้าใจกันได้บรรดาสามีก็รักหลงและหวงภรรยาตนเองมากนักโดยเฉพาะหวงจื่อหานหลี่เสี่ยวหรูที่ไม่ได้ไปสำนักศึกษาเพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุด ไป๋หยินมาหาที่เรือนกลางเขามีเรื่องจะเอ่ยกับนาง"ฮูหยินน้อย..ข้าเองขอรับไป๋หยิน""ท่านอาไป๋ เข้ามาเถอะ"ไป่หยินเดินเข้ามาก่อนจะนั่งลง หลี่เสี่ยวหรูกำลังสอนบุตรชายสองคนวาดภาพอยู่ ส่วนอีกสองคนเพิ่งจะสามขวบเท่านั้นกำลังเล่นของเล่นที่นางวาดแบบให้ช่างในเมืองหลวงทำขึ้นมา หวงจื่อเหยียนกำลังคัดอักษรเพราะท่านแม่ไปสืบทราบมาแล้วนางชวนเด็กๆเล่นพนันจริงๆ อีกทั้งยังมีเดิมพันอีกด้วย ไปหัดเรื่องเหล่านี้มาจากไหนกัน ไป๋หยินที่นั่งลงเรียบร้อยก็เอ่ยขึ้นมา"ฮูหยินน้อยอีกสองเดือนจะเดินทางกลับหมู่บ้านเถาฮวา ใกล้ครบรอบอายุแปดสิบของท่านลุงไป๋ลิ่วแล้วขอรับ""อ้อ..ข้าจะเอ่ยเรื่องนี่กับท่
หลี่เสี่ยวหรูที่ตอนนี้มาอยู่ที่ต้าเย่วกว่าแปดปีแล้ว นางเปิดสำนักศึกษาจนตอนนี้ฮ่องเต้ได้เอาการเรียนการสอนของนางไปเป็นต้นแบบในหลายๆเมือง สตรีทั่วแคว้นต่างก็ได้รับการเรียนรู้ สตรีรู้หนังสือนั่นนับว่าดี ขุนนางหัวเก่าไม่กล้าต่อกรกับนางสามีเป็นราชครู บิดาเป็นเทพสงคราม เสด็จอาเป็นผู้ตรวจการและผู้แทยพระองค์ มีเสด็จลุงเป็นฮ่องเต้ใครจะกล้ากับนางกัน ทุกๆวันหยุดทุกคนมารวมตัวกันที่จวนหวง เด็กๆวิ่งเล่นกันเต็มไปหมดหวงจื่อหานกับหลี่เสี่ยวหรู มีบุตรชายสี่คนบุตรสาวหนึ่งคนและนางกำลังตั้งครรภ์ที่สามหยางหมิงเช่อกับจ้าวหลานมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคนโจวจื่อหมิงกับซุนเฟิงย่ามีบุตรชายสี่คนบุตรสาวสามคนเหลียงหมิงเทาที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งอ๋องต่อจากบิดาตอนนี้เขากับหูไห่ถิงมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสามคนเฉินอี้กับจางลี่อินมีบุตรชายสามบุตรสาวหนึ่งทางด้านปี้เฉากับยเย่วเซียวฉางมีบุตรสามคน เสียวหงกับถังฟั่นสามคน อี้จูกับจินหยูเฟิงสามคน ชุ่ยชุ่ยกับหวงเทามีบุตรห้าคนอ้ายเฟยหรงทำลูกแข่งกับพี่ชายไม่พัก เขากับเสี่ยวเล่อมีบุตรด้วยกันแล้วสี่คน พี่ชายสี่สิบเก้าแล้วมีบุตรแฝดสองคู่ตอนนี้ไป๋หย่งเหนียนกำลังตั้งครรภ์ท้องที่สามแล
ทั้งห้าคนสอนอยู่ที่สำนักศึกษาจนบ่าย บรรดาสามีกลับก่อนกำหนดหนึ่งวันพอรู้ว่าเมียมาสอนลูกศิษย์ก็โมโหพวกนาง มาถึงก็อุ้มเมียตัวเองกลับบ้าน เดินตั้งแต่สำนักศึกษาจนถึงจวน พวกนางอายแทบแทรกแผ่นดิน คนเห็นทั่วเมืองหลวงเพียงนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน คนบ้าพวกนี้"พี่จื่อหมิง..ให้ข้าเดินเองเถอะเจ้าค่ะ""เฟิงย่า..เจ้าดื้อนักหายแพ้ท้องเมื่อไหร่จะถูกพี่ลงโทษ"ซุนเฟิงย่าหน้าแดง หูไห่ถิงเองที่เหลียงหมิงเทาอุ้มนางอยู่ก็หน้าแดงเช่นกัน ร้านค้าข้างทางมองพวกเขาแล้วอมยิ้ม"ดื้อนัก บอกว่าให้พักผ่อน หายแพ้ท้องค่อยมาก็ยังได้ บอกแล้วมิใช่หรือว่าหากพี่ไม่อยู่ห้ามออกจากจวน""ซื่อจื่อ ข้าอายคนนะ""อายทำไม ผัวเมียรักกันมีอะไรต้องอาย หื้มม"เหลียงหมิงเทาไม่สนใจ ยังคงอุ้มเมียเดินตัวปลิว หยางหมิงเช่ออุ้มจ้าวหลานเดินเงียบๆไม่เอ่ยสิ่งใด แต่คนในอ้อมกอดรู้แล้วว่าคืนนี้จะโดนอะไรนางจึงเอ่ยเบาๆ"พี่หมิงเช่อ...คืนนี้อย่าหักโหมนะเจ้าคะ เบาๆหน่อยข้าท้องอยู่""รู้ตัวว่าท้องอยู่เหตุใดยังออกไปทำเรื่องให้ตนเองไม่สบายตัวอีกหื้ม พี่จะลงโทษอย่ามาอ้อนวอนเลย"จ้าวหลานกอดคอเขาแนบใบหน้ากับอกเขาก่อนจะเอ่ยอุบอิบ"อยู่เฉยๆก็โดนลงโทษทุกวันอยู่ด