공유

ตอนที่ 4 จะหย่า

last update 최신 업데이트: 2025-07-01 11:05:13

 ตอนที่  4    จะหย่า

ไม่ว่าจะยุคไหน  สุดท้ายทุกคนก็ต้องยืนหยัดด้วยตนเอง  ต้องเป็นคนมีความสามารถเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้  ก่อนหน้าเพราะมีพระมารดา มีพระเชษฐา ที่คอยคุ้มครองปกป้อง พอเกิดเรื่องเช่นนี้แม้ว่าอย่างไรฐานะนางไม่เปลี่ยนแปลงแต่จะให้เป็นเช่นเคยคงเป็นไปไม่ได้

นางเป็นคนในราชวงศ์  เชื้อสายของผู้นำดินแดนย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั้งรูปโฉมและสายพลัง ตั้งแต่เกิดนางได้รับความรักมากมาย ทำให้กลายเป็นคนขี้โมโห อารมณ์ร้าย เอาแต่ใจเย่อหยิงไร้ความเมตตา   

ทำให้ทรัพย์ในกายล้วนไร้ค่า   

“แม่นมมู่  ตอนนี้พวกเรามีคนอยู่จำนวนเท่าไร”

นางเป็นองค์หญิงอย่างน้อยก็ควรมีองค์รักษ์ส่วนตัวสิ

“องค์รักษ์เงาจำนวนหนึ่งเจ้าค่ะ ส่วนบ่าวไพร่ที่ติดตามมาจากในวังก็ 20 คน”   

แม่นมเอ่ยพลางแปรงผมให้เจินไป๋เจียอย่างเบามือ และมองดูผมยาวสลวยเป็นเงางามนุ่มลื่นดั่งผ้าไหมล้ำค่าอย่างภาคภูมิใจ  องค์หญิงของนางล้วนงดงามไร้ที่ติ   ในขณะที่เจินไป๋เจียคิดถึงแต่เรื่องเงินทอง  นางไม่เคยส่องกระจกเหลืองที่ไม่ชัดเจนอันนั้น

จึงไม่รู้ถึงความงามของตนเอง 

มากมายจริง ๆ  ผู้หญิงคนหนึ่งกลับมีคนต้องดูแลมากมายเพียงนี้  

หากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ แล้วไม่ให้เงินนางมาอีก จะทำอย่างไร

 

นางไตร่ตรองทุกอย่างเงียบ ๆ  ที่ผ่านมานางเองก็ไม่ควรสนใจพลังจิตของตนเองว่าอยู่สายไหน  

นึกว่าท่านยมฑูตพูด  นึกว่าไร้สาระเสียอีก  พลังลมปราณอะไร    

เจ้ามีพลังลมปราณ 2 สาย วนเวียนคือ ธาตุดินและธาตุน้ำ

ข้าได้ทิ้งตำราโอสถไว้ให้

จากนั้นสูตรยาและสมุนไพรมากมายก็วิ่งเข้ามาในหัว  พออยากนึกถึงก็นึกออกได้ทันที  

แสดงว่า ต่อไปนี้ให้นางเป็นเภสัชกรสินะ

ไม่สิ…ที่นี่เรียก  โอสถ อาจารย์โอสถ  ปรมาจารย์โอสถ และเซียนโอสถ  

แต่ละขั้นก็ยังมีขั้นเริ่มต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง  สรุปว่ามี  12  ขั้น

          ดินแดนแห่งนี้ก็ไม่ต่างจากดินแดนที่นางจากมา มีหลากหลายอาชีพ ทว่าในระดับขั้นปรมาจารย์ล้วนต้องมีพื้นฐานพลังลมปราณ  และนอกจากผู้นำสี่ตระกูลใหญ่และผู้สืบเชื้อสายแล้ว คนมีสายลมปราณก็แทบจะนับจำนวนได้ 

นางเก่งกาจขนาดนี้จะทนอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร 

“แม่นมมู่  เตรียมกระดาษและฝนหมึกให้ข้า”

นางจะเขียนหนังสือหย่าเอง

แม่นมมู่ชำเลืองมองสิ่งที่ เจินไป๋เจียเขียน  มือก็สั่นระริก ทว่าแต่ไหนแต่ไรหากองค์หญิงตัดสินใจล้วนไม่สามารถเอ่ยขัดได้  นางก็เพียงมองด้วยใบหน้าสลดใจ น้ำตาเริ่มคลอ  

“ชิงอี เจ้าเอาไปส่งให้ท่านแม่ทัพ”  

ในจดหมายนางได้ลงลายมือไว้เรียบร้อย  เหลือเพียงท่านแม่ทัพหวงซีซวนลงนามเท่านั้น 

และหน้าซองนางยังเขียนเพื่อประกาศให้คนรู้ว่า  

หนังสือหย่า

แม่ทัพหวงมองดูซองจดหมายที่  เจินไป๋เจียส่งมาให้  ลายมือที่ไม่อยากจดจำแต่เขาก็ยังจำได้  ลายมือเดิมทว่ากลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันกว่าเดิมคือมัน

      มั่นคง หนักแน่น  

ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวที่ใจแปรปรวนเช่นนั้นจะเขียนลายมือเช่นนี้ออกมาได้

จวนแม่ทัพของเขาไม่ใช่โรงเตี้ยม  

นึกอยากจะมาก็มา  อยากจะไปก็ไป  

หวงซีซวนไม่เปิดอ่านข้อความในจดหมายแม้กระทั่งหยิบขึ้นมาดูก็ไม่ทำ   

เขาชำเลืองมองดูซองด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม มีเปลวไฟลุกขึ้นในนัยน์ตาผุดขึ้นมาแวบเดียว  ฉับพลันจดหมายก็โดนไหม้ด้วยเปลวเพลิง  พลิบตาเดียวก็กลายเป็นขี้เถ้าของกระดาษปลิวไปมา  

บ่าวไพร่รีบวิ่งเข้ามาเก็บกวาดอย่างรวดเร็วและรีบปลีกตัวออกมา  เพราะพวกเขาต่างรับรู้ว่าท่านแม่ทัพโมโหแล้ว

 “เหินอี”  เขาเอ่ยเรียกองค์รักษ์เงาออกมาสั่งการ

“ขอรับ”  

“จับตาดูองค์หญิงไป๋เจีย”  

จากนั้นก็ได้เรียกพ่อบ้านเข้ามาสอบถาม  

“ฮูหยินหลังหายจากอาการป่วยก็อยู่เพียงในเรือนไผ่หยกขอรับ ไม่ติดต่อใคร ไม่โวยวาย ทว่าสิ่งแรกที่ฮูหยินทำ…เอ่อ คือส่งหนังสือหย่าให้นายท่านขอรับ”

พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น  เป็นใครย่อมโมโหถูกสตรีขอหย่าเหมือนโดนดูแคลนเสียศักดิ์ศรี   ดีที่เขารีบสกัดไม่ให้ข่าวออกนอกจวน  ไม่อย่างนั้น เขาเองก็คงโดนเผาไม่ต่างจากจดหมายฉบับนั้น

หวงซีซวนไล่พ่อบ้านออกไป รีบสลัดเรื่องของหญิงผู้นั้นออกจากหัว 

คงเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจแบบใหม่  

ยิ่งคิด แม่ทัพหวงซีซวนยิ่งรู้สึกปวดหัวหนึบหนับ 

จะอย่างไรตอนนี้ก็ปล่อยนางออกไปไม่ได้  

ราชสำนักกำลังวุ่นวายอย่างหนักเขาเองก็ต้องควบคุมไม่เคยเกินเรื่องไม่ดี  ทั้งที่ควรอยู่เงียบ ๆ อย่างกุลสตรีพึงกระทำ ในเวลาเช่นนี้นางยังไม่วายสร้างปัญหาอีก ชีวิตเขาไม่รู้ว่าก่อกรรมอันใดถึงได้มาเจอสตรีเช่นนี้

          ข่าวที่แม่ทัพหวงซีซวนเผ่าหนังสือขอหย่าจากฮูหยินดังไปทั่วจวน  เพราะชิงอีตั้งใจเปิดเผยหลายคนต่างเข้าใจไปต่าง ๆ นา ๆ  ทว่าสิ่งที่ทุกคนกังวลใจ

“หรือว่า นายท่านจะแอบมีใจให้นางแล้ว”  

ฮูหยินรองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงกังวล

“ไม่หรอกเจ้าค่ะ  ขนาดวันนั้นนางกำลังจะตายท่านแม่ทัพก็ยังไม่เหลียวแล”   อนุลู่อี้เอ่ยพูดขึ้นพร้อมยกผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ

ใครบ้างไม่รู้ว่าคืนนั้นท่านแม่ทัพอยู่กับใครและทำอะไร    

ฮูหยินรองก้มหน้าเอียงอาย และยิ้มที่มุมปากพอใจ  

“เจ้าอย่าพูดไป ข้าเองก็รู้สึกผิดแต่ว่าก็ไม่กล้าขัดนายท่าน”  

ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยกยอตัวเอง  หลายคนเองก็นึกดูแคลนอีกฝ่ายทว่าใบหน้ายังเต็มไปด้วยไมตรียิ้มแย้ม ยกยอกัน

ส่วนเจินไป๋เจีย  ก็นั่งอย่างหมดพลังเสียอารมณ์

ด้วยรูปโฉมอันงดงาม  ท่าทีเหนื่อยเบื่อหน่าย ยิ่งทำให้นางกลายเป็นดูสูงส่ง ไร้ความสนใจในสรรพสิ่ง  

หวงซีซวนไม่ไว้ใจก่อนออกจากจวน  เขาได้แอบมาดูหญิงสาว

ภายในใจล้วนเต็มไปด้วยอคติ

ป่วยหนักแทบสิ้นชีพ  กลับสามารถมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้เพียงนี้

ไม่หน้ำซ้ำยังดูงดงามขึ้น  

อย่าที่เขาว่า   “คนชั่วย่อมตายยาก”

เป็นอย่างนี้เอง  ฉับพลันก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองหลงกลแผนการของนางแล้ว 

เขาเองถึงกลับมาแอบดูและยังสั่งให้คนจับตาดู 

หวงซีซวนยิ้มดูแคลนความโง่เขลาของตัวเองรีบเร้นกายออกไปทันที 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา   ตอนที่ 7 ประลอง

    ตอนที่ 7 ประลองเรื่องหย่าไม่ใช่เจินไป๋เจียไม่ใส่ใจ ทว่าสิ่งที่จำเป็นตอนนี้คือนางต้องฝึกปรือวิชา การเป็นผู้มีฝีมือวาจาถึงจะมีสิทธิ์ต่อรอง หากใช้ตระกูลอันหรือราชอำนาจจากไทเฮายิ่งทำให้คนอื่นดูแคลน และด้วยสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งไม่อาจจะทำอะไรได้ดั่งใจ“พรุ่งนี้แล้ว มันจะต้องสำเร็จข้าจะต้องทำให้ได้” เจินไป๋เจียบอกให้กำลังใจตนเองนางแล้วรีบพักผ่อน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรบ้างนางต้องเก็บแรงไว้ให้มากตะวันยังไม่ทอแสงนภายังคงมืด ทว่าชิงอีก็เข้ามาปลุกหญิงสาวแล้ว“คุณหนูได้เวลาได้ ท่านต้องรีบไปลงทะเบียนและจับสลากอันดับนะเจ้าคะ"เจินไป๋เจียยังพลิกตัวไปมางัวเงีย เมื่อคืนเพราะตื่นเต้นมากเกินไปทำให้นางนอนไม่หลับ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะสดชื่นกว่านี้ก็กลายเป็นเช่นนี้ไปได้ สุดท้ายจึงได้หยิบอุปกรณ์ออกมาเพื่อกระตุ้นร่างกาย“คุณหนูนี่คือชาชนิดใดกันเจ้าคะ" ชิงอีถามเจินไป๋เจียด้วยความสงสัย“สิ่งนี้เรียกว่ากาแฟ ขั้นตอนเหล่านี้คือวิธีการดริป รอว่าง ๆ ข้าจะสอนพวกเจ้าเอง” เจินไป๋เจียยืดอกตอบด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ด้วยพลังปราณธาตุดินขอแค่นางระลึกถึงก็สามารถปลูกทุกสิ่งอย่างได้โดยไม่จำเป็นต้องม

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา   ตอนที่ 6 หนทาง

    ตอนที่ 6 หนทางเป็นเด็กฝึกไม่สนุกอย่างที่คิด เจินไป๋เจียตั้งแต่เช้าก็ไม่ได้หยุดฟัง แม้จะมีชิงอิงและชิงอี คอยช่วยทว่านางก็ยังยืนและคอยพวกนาง คนที่นอนและกินมาตลอดชีวิต สภาพร่างกายจะรับได้อย่างไรเมื่อพักเที่ยงนางก็แทบจะถอดใจล้มเลิกความตั้งใจหากไม่ใช่ นางชำเลืองเห็นคนรับสมัครเมื่อวานหรี่ตามองเหยียดปากดูแคลนส่งมาให้นางอย่างไม่ปกปิดนางคงกลับจวนไปแล้ว“คุณหนู แม่นมสั่งให้พวกข้าดูท่านให้ดี ท่านนั่งพักเถอะเจ้าค่ะ พวกข้าจะจัดการเก็บสมุนไพรพวกนี้เอง”หน้าที่ในวันนี้คือเด็กฝึกต้องเรียนรู้ตั้งแต่ปลูกและเก็บสมุนไพร เมื่อนึกถึงสมุดไม้ไผ่เมื่อวาน สมุนไพรที่มีกว่าพันชนิด เจินไป๋เจียก็คำนวนระยะเวลาในการฝึกเช่นนี้ทันที ปีที่ 1 เรียนรู้สมุนไพรปีที่ 2 เริ่มศึกษาการปรุงยาปีที่ 3 หัดปรุงยาร่วมกับพี่ชั้นปีที่ 4 และปีที่ 4 ปรุงยาด้วยตนเองจบการศึกษา เป็นผู้ปรุงโอสถเริ่มต้น ทว่าการเรียนรู้ย่อมไม่มีทางลัดนอกจากการฝึกฝนตัวเอง เหล่าคุณหนูและคุณชายล้วนมาฝึกตนเองตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่อย่างช้าอายุ 15 ปีก็จบการศึกษา อย่างเด็กสาวที่เป็นผู้ช่วยคัดเลือกเมื่อวานก็มีคาด

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา   ตอนที่ 5 เด็กฝึก

    ตอนที่ 5 เด็กฝึกเจินไป๋เจีย ไม่ได้สนใจว่าใครจะประมวลหรือคิดอะไร นางนั่งเปลขาพาดยกสูง ไร้มารยาทเฉกสตรีทั่วไป ในเมื่อไม่ให้หย่า แต่นางคงออกไปไหนมาไหนได้กระมัง“แม่นมมู่ ข้าจะไปเป็นเด็กฝึกงานที่ร้านโอสถ ท่านช่วยจัดการให้ด้วย”ไทเฮาเป็นบุตรสาวจากตระกูลอัน หนึ่งในสี่ตระกูลที่มีผู้นำตระกูลเป็นถึงปรมาจารย์โอสถการที่เจินไป๋เจียอยากจะไปเป็นเด็กฝึกย่อมไม่ใช่เรื่องยาก “ฮูหยินท่าน…เอ่อ..เจ้าค่ะ”เป็นเด็กฝึกก็ต้องคอยรับใช้และฟังคำสั่งผู้อื่น เจินไป๋เจียไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น แม่นมมู่แค่คิดว่าองค์หญิงของนางต้องไปเป็นข้ารับใช้ผู้อื่นก็ปวดใจทันที“ชิงอี ชิงอิง เจ้า 2 คนต้องคอยดูแลไม่ให้ใครมารังแกคุณหนูเด็ดขาดรู้ไหม” แม่นมมู่สั่งกำชับองค์รักษ์ข้างกายของเจินไป๋เจียด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่รู้ว่าตอนนี้องค์หญิงทรงครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ “ชิงอี ชิงอิง เจ้าทั้งสองต่อไปเรียกข้าว่าคุณหนูเจียเจีย เข้าใจหรือไม่”เมื่อจะเดินออกมาข้างนอกเจินไป๋เจียก็สั่งบ่าวให้เรียกนางใหม่“เจ้าค่ะคุณหนูเจียเจีย” สามสาวดุรณีแรกแย้มอายุเพียง 16-17 เท่านั้น เมื่อปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าไร้เครื่องประดับหรูหรา เจินไป๋เจีย

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา    ตอนที่ 4 จะหย่า

    ตอนที่ 4 จะหย่าไม่ว่าจะยุคไหน สุดท้ายทุกคนก็ต้องยืนหยัดด้วยตนเอง ต้องเป็นคนมีความสามารถเท่านั้นถึงจะอยู่รอดได้ ก่อนหน้าเพราะมีพระมารดา มีพระเชษฐา ที่คอยคุ้มครองปกป้อง พอเกิดเรื่องเช่นนี้แม้ว่าอย่างไรฐานะนางไม่เปลี่ยนแปลงแต่จะให้เป็นเช่นเคยคงเป็นไปไม่ได้นางเป็นคนในราชวงศ์ เชื้อสายของผู้นำดินแดนย่อมไม่ใช่คนธรรมดาทั้งรูปโฉมและสายพลัง ตั้งแต่เกิดนางได้รับความรักมากมาย ทำให้กลายเป็นคนขี้โมโห อารมณ์ร้าย เอาแต่ใจเย่อหยิงไร้ความเมตตา ทำให้ทรัพย์ในกายล้วนไร้ค่า “แม่นมมู่ ตอนนี้พวกเรามีคนอยู่จำนวนเท่าไร”นางเป็นองค์หญิงอย่างน้อยก็ควรมีองค์รักษ์ส่วนตัวสิ“องค์รักษ์เงาจำนวนหนึ่งเจ้าค่ะ ส่วนบ่าวไพร่ที่ติดตามมาจากในวังก็ 20 คน” แม่นมเอ่ยพลางแปรงผมให้เจินไป๋เจียอย่างเบามือ และมองดูผมยาวสลวยเป็นเงางามนุ่มลื่นดั่งผ้าไหมล้ำค่าอย่างภาคภูมิใจ องค์หญิงของนางล้วนงดงามไร้ที่ติ ในขณะที่เจินไป๋เจียคิดถึงแต่เรื่องเงินทอง นางไม่เคยส่องกระจกเหลืองที่ไม่ชัดเจนอันนั้นจึงไม่รู้ถึงความงามของตนเอง มากมายจริง ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งกลับมีคนต้องดูแลมากมายเพียงนี้ หากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ แ

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา    ตอนที่ 3 เข้าวังไม่ได้

    ตอนที่ 3 เข้าวังไม่ได้สิ่งดีที่กลายเป็นโชคดีสำหรับนางตอนนี้คือ ไม่มีใครมาเยี่ยมนางสักคน นอกจากคนจากในวังก็ไม่มีใครถามข่าวคราวนางอีกเลยเมื่ออาการดีขึ้น พอมีเรี่ยวแรงสิ่งแรกที่เจินไป๋เจีย ตัดสินใจและต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ นางต้องหย่า ต้องหย่าเท่านั้น!! เป็นนางที่ขอสมรสพระราชทาน และจะเป็นนางที่ขอหย่านางต้องเข้าวังทว่าหลังจากนอนพักมาหลายวัน สิ่งที่เกิดคำถามในใจ คนในจวนแม่ทัพทำกับนางถึงเพียงนี้แต่ทำไม ฮ่องเต้หรือไทเฮาไม่มีกระแสตำหนิลงมาสักคำ มันเป็นความไม่ปกติเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือเป็นเพราะพวกเขาเคยชิน“แม่นมข้าจะเข้าวัง” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ แม้กระทั่งตัวเองก็แปลกใจ“ฮูหยินท่านเพิ่งจะหายป่วย บ่าวว่าท่านพักผ่อนอีกระยะดีไหมเจ้าคะ” คำพูดของแม่นมทำให้เจินไป๋เจียขมวดคิ้วชำเลืองมองตาขวางแม่นมมู่หรานรีบคุกเข่าแล้วเอ่ยเสียงสั่น แม้จะหวาดหวั่นแต่ก็ยังเอ่ยห้ามเช่นเดิม“ฮูหยินท่านเชื่อบ่าวเถิดเจ้าค่ะ บ่าวขอร้องท่านอย่าเพิ่งเข้าวังเลย”นั่นปะไร เป็นอย่างที่นางคิดไม่ผิดทุกอย่างล้วนไม่ปกติในเมื่อออกไปไหนไม่ได้ เมื่ออาการดีขึ้นมากเจินไป๋เจียก็ออกมานั่งรับลมอยู่

  • ฮูหยินแม่ทัพมากวาสนา   ตอนที่ 2 ไม่ตายก็ดี

    ตอนที่ 2 ไม่ตายก็ดี เรือนเหม่ยฮว่าเสียงหายใจกระชั้นยังดังแว่วมาจากห้องข้างใน ทำให้บ่าวที่อยู่ข้างนอกไม่กล้ารบกวน“พวกเจ้าไม่กลัวตายหรืออย่างไร ตอนนี้ใช่เวลาจะขอเข้าพบนายท่านหรืออย่างไร”“แต่ว่าฮูหยิน ฮูหยินอาการหนักมาก” เสียงตอบกระซิบแผ่วเบาพวกนางคุกเข่าอยู่เป็นเวลาหลายเค่อ ทว่าเสียงรัณจวนก็ยังไม่แผ่วลงทำให้คนข้างนอกล้วนมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป ทั้งร้อนใจและอับอาย หากฮูหยินสิ้นตอนนี้ไม่รู้ว่าชื่อเสียงจะย่อยยับเพียงใดสงครามข้างในสงบลงแล้ว ฮูหยินรองอันชิงอีเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงออเซาะ“ท่านพี่ ข้าจะปรนนิบัติท่านอาบน้ำเองนะเจ้าคะ” “เจ้าไม่แสร้งเป็นคนดี ขอร้องให้ข้าไปดูนางหน่อยหรือ” แม่ทัพหวงซีซวนเอ่ยถามน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความเย้ยหยัน“ไยข้าต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยเจ้าคะ หากท่านต้องการจะไปท่านพี่ย่อมตัดสินใจเอง” ฮูหยินรองพูดพร้อมชายตาแลยั่วยวน แม่ทัพหวงซีซวนเก่งกาจสามารถ มารยาเล็กน้อยเขาย่อมมองออก นางไม่สนใจชิงดีชิงเด่นหรือเอาอกเอาใจใคร สิ่งเดียวที่ต้องทำคือปรนนิบัติท่านแม่ทัพให้ดีเท่านั้น และนี่ทำให้นางได้ตำแหน่งฮูหยินรองมาครอบครอง“เจ้าเข้าใจเช่นนี้ดียิ่ง บุตรของข้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status