หลังกลับมาจากภูเก็ต พระพายก็เริ่มมีความรู้สึกว่าแฟนหนุ่มของตัวเองนั้นเปลี่ยนไป ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ โทรไปก็บอกติดงานตลอด พักนี้เธอไม่ค่อยได้เจอกับชายหนุ่มเลย จนทำให้เธอเริ่มกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
ตูดดดด
“ทำไมพี่รันไม่รับสายนะ” พระพายโทรหาแฟนหนุ่มอยู่พักใหญ่ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับสายเธอเลย
“คุณรันไม่รับโทรศัพท์หน่อยเหรอครับ” ดินแดนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นสายโทรเข้ามาหลายครั้งแต่เจ้านายของเขาก็ไม่รับปล่อยให้สายมันตัดไป
“วันนี้คุณแม่จะถึงสนามบินกี่โมง” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องโดยที่ยื่นมือไปคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทำงาน
“เอ่ออ 4 โมงเย็นครับ”
“อืม”
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เรื่องนายพินิจจัดการไปถึงไหนแล้ว”
“ทุกอย่างของนายพินิจ ตอนนี้เป็นของคุณรันทุกอย่างแล้วครับ”
“อืม นายกลับไปทำงานได้แล้ว”
“ครับ” หลังจากดินแดนเดินออกไปแล้ว โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็มีสายเรียกเข้า เป็นสายที่เขาหลีกเลี่ยงไม่รับมาตั้งแต่กลับจากภูเก็ตแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดสักที
16.00 น สนามบินสุวรรณภูมิ มีชายหนุ่มรูปหล่อมายืนรอรับผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศ ทำให้บรรดาสาวๆ ต่างมองมาอย่างสนใจ
“คุณแม่” ชายหนุ่มเรียกคนที่พึ่งเดินออกมาพร้อมกับอ้าแขนรอรับ
“รัน” ผู้หญิงที่ชายหนุ่มเรียกว่าแม่เดินมาหาชายหนุ่มด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่เห็นลูกชายสุดหล่อมายืนรอรับที่สนามบินพร้อมกับสวมกอดทันทีด้วยความคิดถึง
ฟอดดด
“รันผอมไปหรือป่าวลูก” คุณหญิงนวลปรางทักลูกชายสุดที่รักหลังจากหอมแก้มไปด้วยความคิดถึง
“ผอมอะไรกันครับ ผมว่าเรากลับบ้านกันเถอะครับ คุณแม่เดินทางมาเหนื่อยๆ”
“สวัสดีครับคุณท่าน” ดินแดนยกมือไหว้ผู้มีพระคุณของตัวเองทันทีที่แม่ลูกทักทายกันเสร็จ
“สวัสดีจ๊ะ มาให้ป้ากอดหน่อย” หลังจากที่ทักทายกันเสร็จ ใช้เวลาไม่นานทั้งหมดก็เดินทางมาถึงบ้านที่ชายหนุ่มนั้นเตรียมไว้ให้แม่ของเขาได้อยู่
“เป็นไงครับ บ้านพออยู่ได้ไหม” ชายหนุ่มถามคุณหญิงนวลปรางหลังจากที่ลงรถกันมาแล้ว
“อยู่ได้อะไรกัน หลังใหญ่เกินไปด้วยซ้ำ” คุณหญิงหันมาตอบลูกชายพรางคิดว่ามันใหญ่เกินไปด้วยซ้ำกับการอยู่คนเดียว แต่ถ้ามีลูกของชายหนุ่มมาวิ่งเล่นอยู่ด้วยก็คงดีเธอคงหายเหงา
“เอ่อ ว่าแต่ มาอยู่เมื่อไทยตั้งนานมีว่าที่ลูกสะใภ้ให้แม่หรือยัง แม่อยากเลี้ยงหลานแล้วนะ”
“ยังหรอกครับ ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น” พูดจบก็หวนให้คิดถึงหญิงสาวที่เขาหลบหน้ามาสักพักหลังกลับมาจากภูเก็ต
“รันแม่ก็อายุเยอะแล้วนะ ก่อนตายแม่ก็อยากอุ้มหลาน” คุณหญิงนวลปรางหันมาตัดพ้อลูกชาย
“เอาไว้ผมเจอคนที่ใช่ ผมจะพามาให้แม่รู้จักนะครับ” ชายหนุ่มบอกปัดออกไปแล้วพาแม่ของเขาเดินเข้าบ้านไปแทน
“ก็เจอแล้วไม่ใช่เหรอครับ แต่ไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง” ดินแดนเปรยกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
ภายในห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมทีพี แกรนด์ ตอนนี้ได้มีผู้ถือหุ้นทั้งหมดกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่อย่างไม่ได้นัดหมาย โดยที่ทุกคนได้รับคำสั่งจากเจ้าของโรงแรมคนใหม่ให้มาประชุมด่วนวันนี้ รวมถึงนายพินิจด้วย
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณพินิจ” ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งเอ่ยถามนายพินิจที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“นั่นสิครับ เจ้าของโรงแรมคนใหม่คือยังไงครับ”
“ผม...เอ่อ” ยังไม่ทันที่นายพินิจจะเอ่ยตอบทุกคนในห้องประชุม ประตูบานใหญ่ก็เปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มรูปหล่อ ท่าทางภูมิฐาน ซึ่งทุกคนต่างรู้จักเขาในนานเจ้าของโรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ แกรนด์
“สวัสดีครับ ผมภารัน พิมุกเดชา เจ้าของคนใหม่ของที่นี่ครับ” หลังจากที่ชายหนุ่มแนะนำตัวเสร็จก็เรียกเสียงฮือฮาจากคนในห้องประชุมทันที
“ไม่ต้องสงสัยนะครับ เพราะผมจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฟังเอง” หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินมาที่หน้าห้องประชุมที่นายพินิจนั่งอยู่ พร้อมกับอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟัง ซึ่งคนที่อึ้งที่สุดคงไม่พ้นนายพินิจ ที่ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นลูกชายของเพื่อนรักที่เขาโกงเอาโรงแรมนี้มาเป็นของตน จนต้องฆ่าตัวตายไปเมื่อหลายปีก่อน
“รัน นี่มันเรื่องอะไรกัน อย่าบอกนะว่านี่มันคือแผนการที่รันเตรียมมาเพื่อแก้แค้นลุง” นายพินิจเอ่ยออกมาด้วยอาการช็อก
“ใช่ทั้งหมดมันเป็นแผนของผมเอง และตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างของคุณมันตกเป็นของผมหมดแล้ว ตอนนี้คุณไม่เหลืออะไรสักอย่าง” ชายหนุ่มเอ่อออกมาอย่างเย้ยหยันคนตรงหน้า
“ทำไมรันทำกับลุงแบบนี้”
“หึ ลุงอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่เคยนับแกเป็นลุงตั้งแต่แกโกงพ่อฉัน จนครอบครัวฉันพังพินาศแล้ว และวันนี้ฉันจะทำให้แกไม่เหลืออะไรเลย อย่างที่ฉันกับแม่เคยเจอ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกไปทันที ไม่ทันได้เห็นนายพินิจช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนล้มไปทำให้ห้องประชุมเกิดความโกลาหลขึ้น
“สวัสดีค่ะ ใช่คุณพิตะวัน ไกรสรนาทไหมค่ะ”
“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าโทรมาจากที่ไหนค่ะ”
“ดิฉันโทรมาจากโรงพยาบาล...ตอนนี้คุณพ่อของคุณช็อกหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล อยากให้คุณมาที่โรงพยาบาลด่วนเลยค่ะ”
“คุณพ่อ” หลังจากวางสายหญิงสาวก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันที โดยที่ระหว่างทางนั้นหญิงสาวก็ได้ร้องไห้ไปตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลที่พ่อเธอรักาตัวอยู่
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพ่อของฉันอยู่ที่ไหนค่ะ”
“ไม่ทราบว่าคนไข้ชื่ออะไรค่ะ”
“นายพินิจ ไกรสรนาทค่ะ”
“ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้อง ไอซียู นะค่ะ ทางคุณหมอยังไม่ให้เยี่ยม แต่เดี๋ยวเชิญคุณผู้หญิงมาพบกับอาจารย์หมอเพื่อฟังอาการคนไข้ทางนี้ค่ะ” พระพายเดินตามพยาบาลไปด้วยอาการหม่อลอยน้ำตาคลอตลอดเวลา
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ไม่ทราบว่าคุณพ่อดิฉันเป็นยังไงบ้างค่ะ”
“สวัสดีครับ ก่อนอื่นหมออยากให้ญาติทำใจนะครับ คนไข้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่คนไข้ไม่ยอมรักษาตัวและพอมาเจอเรื่องที่ช็อกทำให้อาการทรุดน่ะครับ”
“พายไม่ทราบเลยค่ะว่าคุณพ่อเป็นโรคหัวใจ” พระพายบอกคุณหมอพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย
“ตอนนี้เอาเป็นว่า อย่าพึ่งให้คนไข้มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจนะครับ ไม่งั้นคนไข้อาจจะช็อกอีกรอบน่ะครับ”
“ได้ค่ะ พายจะระวังเรื่องนี้ ขอบคุณ คุณหมอมากนะค่ะ” หลังจากคุยกับหมอเรียบร้อยหญิงสาวก็เดินมาที่หน้าห้อง ไอซียู เพื่อมาดูอาการของพ่อเธอซึ่งสามารถมองเห็นผ่านกระจกเล็กนั่น เมื่อเห็นสภาพของพ่อเธอแล้ว หญิงสาวถึงกับทรุดลงหน้าห้องพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น พลางลวงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อต่อสายหาแฟนหนุ่มของตัวเองเพราะตอนนี้เธอต้องการกำลังใจจากเขามาที่สุด
“ฮัลโหลค่ะพี่รัน” หญิงสาวยิ้มออกมาเมื่อชายหนุ่มยอมรับสายเธอแล้ว
“สวัสดีค่ะ ตอนนี้คุณรันไม่ว่างรับสาย มีอะไรฝากฉันไว้ได้นะค่ะ”
“คุณ..เป็นใครค่ะ” พระพายถามออกไปด้วยความตกใจที่มีผู้หญิงมารับโทรศัพท์ของชายหนุ่ม
“ฉันก็เป็นผู้หญิงของคุณรันน่ะสิค่ะ” หลังจากที่ได้ยินก็ทำให้พระพายถึงกับช็อกไป
“ทำอะไร” ชายหนุ่มตะคอกถามพร้อมกับกระชากโทรศัพท์ออกมาแล้วกดตัดสายไปทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของพระพายโชว์อยู่
“คุณรันคือว่า...”
“ออกไป แล้วอย่าเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีก ออกไป” หลังจากที่ไล่สาวสวยที่เข้าเจอในผับไป ชายหนุ่มก็เปิดหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดเบอร์ที่โทรเข้ามาเมื่อกี้เพื่อจะโทรออก แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็กดปิดโทรศัพท์ทิ้งไปพร้อมกับกระดกเหล้าในแก้วตนหมดในรวดเดียว
“อือ เอาเหล้ามาอีกแก้ววว”
“พอเถอะครับ คุณรันเมามากแล้ว” ดินแดนเอ่ยออกไปพร้อมกับแบกร่างชายหนุ่มไปขึ้นรถ
“ฉันไม่มาวว”
“ผมไม่เข้าใจคุณรันจริงๆ รักเขาแล้วจะทำร้ายเขาทำไม” ดินแดนเอ่ยกับตัวเองหลังจากเห็นสภาพของเจ้านาย
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา คุณหมออนุญาตให้นายพินิจออกมานอนพักฟื้นที่ห้องธรรมดาได้แล้วหลังจากที่ต้องนอนดูอาการในห้อง ไอซียู มาหลายวัน
“คุณพ่อค่ะ วันนี้พายทำโจ๊กมาให้คุณพ่อด้วยนะค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้องคนไข้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ต่างจากจิตใจตอนนี้ที่มันเจ็บปวดเหลือเกิน หลังจากวันที่โทรหายชายหนุ่มแล้วมีผู้หญิงรับสายเธอก็ไม่ได้โทรหายชายหนุ่มอีกเลย ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่โทรมาหาเธอเหมือนกัน หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มคงต้องการเลิกกับเธออย่างแน่นอนไม่งั้นเขาคงไม่หายหน้าไปหลังกลับจากเที่ยวด้วยกันหรอก
“พายเป็นอะไรหรือป่าวลูกทำไมดูเหม่อๆ”
“ป่าวค่ะ มาทานข้าวกันค่ะ” หญิงสาวหันมายิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจออกไปเนื่องจากไม่อยากให้พ่อของเธอต้องเป็นกังวล
ฝากกดใจ ฝากติดตามนิยาย ฝาก comment เพื่อเป็นกไลังใจให้ไรท์ด้วยนะค่ะ
ขอบคุณมากค่าา
ช่วงบ่ายของวัน ภายในห้องพักฟื้นของคนไข้วีไอพี ได้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมกับใบหน้าเย้ยหยันกับสภาพของคนป่วยที่เห็นตรงหน้า“สวัสดีครับ ผมมาเยี่ยมครับ”“มาเยี่ยมหรือมาดูว่าฉันตายหรือยัง” นายพินิจเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง“ทำไมพูดอย่างนั้นละครับ ที่ผมมาวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกคุณอีกเรื่องนึงครับ”“เรื่องอะไร”“ก็เรื่องลูกสาวสุดที่รักคุณยังไงละครับ”“พระพาย”“ใช่ ลูกสาวสุดที่รักของคุณ”“มีเรื่องอะไร นายทำอะไรพระพาย”“นี่คุณไม่เคยสงสัยเลยเหรอที่ลูกสาวคุณหายไปไหนมาไหนบ่อยๆ น่ะ ว่าหายไปกับใคร”“หมายความว่าไง”“รู้อะไรไหมลูกสาวคุณน่ะมันทั้งจืดชืด ไม่มีเสน่ห์ อยู่ด้วยแล้วน่าเบื่อที่สุด เวลาที่ผมอยู่กับลูกสาวคุณน่ะผมทั้งเกลียดทั้งขยะแขยง แต่ผมก็ต้องทำเป็นรักทั้ง ๆ ที่ในใจผมน่ะแสนจะเกลียดลูกสาวคุณ ลูกสาวคุณน่ะมันทั้งโง่ ทั้งซื่อบื้อ พูดดีด้วยหน่อย ทำดีด้วยหน่อย ก็หลงรักผมหัวปักหัวปร่ำ ถึงขนาดยอมขึ้นเตียงกับผมง่ายๆ แต่ก็นะมีของฟรีมาให้เอามีหรือที่ผู้ชายจะปฏิเสธ แต่สำหรับลูกสาวคุณน่ะเอาแค่ครั้งสองครั้งผมก็เบื่อแล้ว แต่ถ้าจะเอาไปใส่ตะกร้าล้างน้ำก็น่าจะได้อยู่เพราะผมใช้งานไม่หนัก” พูด
หลังกลับมาจากภูเก็ต พระพายก็เริ่มมีความรู้สึกว่าแฟนหนุ่มของตัวเองนั้นเปลี่ยนไป ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ โทรไปก็บอกติดงานตลอด พักนี้เธอไม่ค่อยได้เจอกับชายหนุ่มเลย จนทำให้เธอเริ่มกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากตูดดดด“ทำไมพี่รันไม่รับสายนะ” พระพายโทรหาแฟนหนุ่มอยู่พักใหญ่ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับสายเธอเลย“คุณรันไม่รับโทรศัพท์หน่อยเหรอครับ” ดินแดนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นสายโทรเข้ามาหลายครั้งแต่เจ้านายของเขาก็ไม่รับปล่อยให้สายมันตัดไป“วันนี้คุณแม่จะถึงสนามบินกี่โมง” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องโดยที่ยื่นมือไปคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงกับโต๊ะทำงาน“เอ่ออ 4 โมงเย็นครับ”“อืม”“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”“เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เรื่องนายพินิจจัดการไปถึงไหนแล้ว”“ทุกอย่างของนายพินิจ ตอนนี้เป็นของคุณรันทุกอย่างแล้วครับ”“อืม นายกลับไปทำงานได้แล้ว”“ครับ” หลังจากดินแดนเดินออกไปแล้ว โทรศัพท์ของชายหนุ่มก็มีสายเรียกเข้า เป็นสายที่เขาหลีกเลี่ยงไม่รับมาตั้งแต่กลับจากภูเก็ตแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดสักที16.00 น สนามบินสุวรรณภูมิ มีชายหนุ่มรูปหล่อมายืนรอรับผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศ ทำให้บรรดาสาวๆ ต่างมองมา
แสงแดดที่ส่องมาในช่วงสายของเช้าวันใหม่ ทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงต้องพลิกตัวหนีเนื่องจากรบกวนการนอนของเธอ ชายหนุ่มที่นอนซ้อนด้านหลังเธออยู่นั้นก็เผลอยิ้มออกมา เมื่อหญิงสาวนั้นพลิกตัวหันหน้ากลับมาทางเขา“อืออ” หญิงสาวส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ หลังจากได้รับการรบกวนจากอะไรสักอย่างที่คลอเครียอยู่ที่หน้าอก หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ทำให้เห็นกลุ่มผมสีดำที่อยู่บนหน้าอกของเธอ“พี่รัน” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มที่กำลังดูดเลียหน้าอกของเธออย่างดูดดื่มด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่องด้วยความเขินอาย“ครับ” ชายหนุ่มเงยหน้าจากหน้าอกของหญิงสาวพร้อมกับขานรับอย่างหน้าตาย พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้หญิงสาวตรงหน้าที่นอนหน้าแดงกร่ำอยู่“พี่รันทำอะไรค่ะ”“กินนมตอนเช้าไงครับ ร่างกายจะได้แข็งแรง” หลังจากชายหนุ่มพูดจบหญิงสาวก็อายเข้าไปใหญ่ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพูดออกมาอย่างนี้“มันต้องกินจากกล่องไม่ใช่เหรอค่ะ”“กินจากกล่องพี่เบื่อแล้ว ตอนนี้พี่อยากกินจากเต้ามากกว่า” หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงไปดูดนมหญิงสาวทันที ทำให้หญิงสาวเผลอเปล่งเสียงครางออกมาอย่างเสียวซ่าน“พี่รันอย่าค่ะ พายเสียวว” ถึงพูดออกไปอย่าง
สนามบินนานาชาติภูเก็ต สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันออกจากสนามบินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข โดยที่ชายหนุ่มได้จูงมือหญิงสาวไปขึ้นรถที่เขาได้ทำการเช่าไว้ก่อนที่จะเดินทางมา“พี่รันเช่ารถไว้ด้วยเหรอค่ะ”“ครับ”“พี่รันรอบคอบจัง” แล้วชายหนุ่มก็พาหญิงสาวมาที่โรงแรมที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของบรรยากาศติดอันดับต้นๆ ของภูเก็ต“โอ้โห วิวสวยมากเลยค่ะ แต่ว่าที่นี่แพงมากเลยนะค่ะ ความจริงพี่รันไม่น่าจะเช่าโรงแรมที่แพงขนาดนี้เลย เปลืองเงินพี่รันเปล่าๆ”“พี่อยากทำให้พายประทับใจมากที่สุดและพี่ก็อยากให้พายจดจำเรื่องของเราไว้ตลอดไป ต่อให้แพงกว่านี้พี่ก็พร้อมจ่ายเพื่อพายของพี่” พูดจบชายหนุ่มก็เดินมาสวมกอดหญิงสาวไว้จากทางข้างหลัง พร้อมกับเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของหญิงสาว หลังจากชื่นชมธรรมชาติและความสวยงามของท้องทะเล ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวลงไปหาอะไรกินในส่วนของร้านอาหารของโรงแรมที่อยู่ติดกับชายหาด“พายอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะ” หญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับหันไปสั่งอาหารกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ โดยอาหารส่วนใหญ่ที่สั่งเป็นอาหารที่ชายหนุ่มชอบทั้งนั้น ซึ่งเมื่อเห็นอาหารที่มาเสิร์ฟชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิ
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่นัดคุยเรื่องสถานที่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่ทางตัวแทนจะติดต่อกลับมา ทำให้แสนหวานรู้สึกกังวลใจเนื่องด้วยกลัวว่าจะไม่ได้เช่าสถานที่ ทำให้แสนหวานตัดสินใจติดต่อสโรชาไป แต่สิ่งที่สโรชาตอบกลับมากลับทำให้แสนหวานถึงกับกุมขมับ“หวานต้องติดต่อนายดิน...เอ่อคุณดินแดนโดยตรงเหรอค่ะ”“ใช่ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” สโรชาตอบปลายสายไปตามที่ผู้ช่วยหนุ่มหล่อบอกเธอ โดยตอนแรกเธอก็ยัง งง ว่าชายหนุ่มรู้ได้ไงว่าแสนหวานจะต้องติดต่อมา และก็ติดต่อมาจริงๆ หรือว่าสองคนนี้จะมีอะไรนอกเหนือจากเรื่องเช่าสถานที่โรงแรม แต่เธอก็ไม่กล้าถามเพราะดินแดนเป็นถึงคนสนิทเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่“ไม่เป็นไรค่ะ เดียวหวานติดต่อคุณดินแดนเองค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” หลังจากวางสายหญิงสาวก็ได้แต่ถอนหายใจว่าทำไมมันซวยอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าจะไม่ต้องติดต่อไอ้บ้านั่นหลังจากทำเรื่องซ่อมรถเสร็จแล้วแท้ๆเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ดินแดนต้องเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า แต่พอเห็นชื่อที่ปรากฏก็อมยิ้มทันที แต่แทนที่ชายหนุ่มจะรีบรับกลับปล่อยให้สายมันตัดไป โดยที่เขามั่นใจว่ายังไงปลายสายต้องโทรมาอีกรอบแน่และมันก็เป็นแบบนั้นจริง
หลังจากที่ไปปรึกษาแสนหวานวันนั้นแล้ว หญิงสาวก็ตัดสินใจว่าจะลองเปิดใจให้ชายหนุ่มดู ก็ในเมื่อเธอกับเขาคิดเหมือนกันแล้วทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสเขาล่ะ“สวัสดีค่ะพี่รัน พายโทรมารับกวนหรือป่าวค่ะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวานๆ ไปตามสาย“สำหรับพายไม่มีคำว่ารบกวนสำหรับพี่หรอกครับ”“คือว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นพี่รันว่างไหมค่ะ”“ว่างครับ พายมีอะไรหรือป่าว” ชายหนุ่มถามออกไปทั้งที่รู้จุดประสงค์ของหญิงสาวอยู่แล้ว“คือพายอยากเจอพี่รันค่ะ”“ได้สิครับ งั้นพรุ่งนี้พี่ไปรับที่บ้านนะครับ”“ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ” หลังจากวางสายชายหนุ่มก็เดินออกไปนอกระเบียงห้องเพื่อสูดอากาศ พลางคิดในใจว่าอีกไม่นานหรอก ครอบครัวคนที่ทรยศจะต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างที่เขาเคยได้รับ18.00 น. ริมรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มจอดรถรอหญิงสาวที่เดิมที่เคยมารับครั้งก่อน เมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากประตูรั้วชายหนุ่มก็ลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวได้ขึ้นมานั่ง พร้อมกับที่ตัวเขาอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับ ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวมา เมื่อทั้งคู่สั่งอาหารเสร็จ ชายหนุ่มก็เริ่มบสนทนาทันที“พายมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” ชายหนุ่