Share

เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่อยากคลั่งรักอีกแล้ว
เกิดใหม่ครั้งนี้ ไม่อยากคลั่งรักอีกแล้ว
Author: หลินเซินเซิน

บทที่ 1

“หนานเยียน สามีเธอนอนอยู่ข้างหมอนคนอื่นนะ เธอยังนอนหลับได้อีกเหรอ? ไม่กลัวตำแหน่งคุณนายลู่สั่นคลอนเหรอ?”

ในห้องนอนของคฤหาสน์

ฉินไห่อวิ๋นพูดอย่างเข้มงวด กู้หนานเยียนจึงถามขึ้นอย่างงัวเงีย “แม่ คืนนี้ผีตนไหนมาเข้าสิงอีกเนี่ย?”

แต่งงานมาสองปี มีผู้หญิงต่อแถวรอให้เธอสละตำแหน่งตลอด แม่สามีเธอก็คอยบอกให้เธอออกไปจับชู้บ่อย ๆ กู้หนานเยียนรู้สึกชินตั้งนานแล้ว

แต่ทุกครั้งก็ต้องคว้าน้ำเหลว ไม่เคยจับลู่เป่ยเฉิงได้คาหนังคาเขาสักที

“ฉันส่งเลขห้องของโรงแรมให้แล้ว เธอไปลากคอมันกลับมา” ฉินไห่อวิ๋นชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อ “ยายเด็กคนนี้นี่ ถ้าเธอยังไม่ใส่ใจเป่ยเฉิงอย่างนี้อีก ฉันก็ไม่รู้จะช่วยเธออย่างไรแล้วนะ”

ไม่ใส่ใจเหรอ?

งั้นก็ต้องให้ลู่เป่ยเฉิงก็ให้โอกาสเธอได้ใส่ใจเขาบ้างสิ!

สองปีมานี้เขากลับบ้านนับครั้งได้เลย ทั้งสองคนเจอหน้ากันทีไรก็ต้องทะเลาะกันจนจบไม่สวยทุกที

เขาหลบหน้าเธอยิ่งกว่าหลบผีเสียอีก เธอจะไปใส่ใจเขาได้อย่างไรล่ะ?

แต่เมื่อก่อนเธอกับลู่เป่ยเฉิงไม่ได้เป็นแบบนี้ เขาดีต่อเธอมาก เขาเป็นฝ่ายยอมเธอแต่โดยดี แต่หลังจากครั้งนั้นพวกเขาก็กลายเป็นอย่างนี้เลย

เธอหลับตาและเงียบไปสักพัก

กู้เหนียนเยียนยืนขึ้นและพูดอย่างเกียจคร้าน “แม่คะ หนูรู้แล้ว แม่ส่งที่อยู่มาให้หนูเลยค่ะ!”

——

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ตอนที่กู้หนานเยียนรับคีย์การ์ดห้องพักจากผู้จัดการโรงแรมแล้ว โจวเป่ยก็มาถึง

ทั้งสองคนมาถึงประตูห้องพัก

ขณะที่กู้หนานเยียนถือคีย์การ์ดกำลังจะเปิดประตูนั้น หัวใจเธอที่ก่อนหน้านี้ยังคงสงบนิ่ง ตอนนี้มันกลับไม่สบายใจเท่าไรนัก

แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็คือของของเธอ เมื่อถูกคนอื่นแย่งไป เธอก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

ประตูห้องเปิดออก เสียงคนที่อยู่ภายในห้องดังออกมา “ซื่อเถียว[footnoteRef:1]” [1: ซื่อเถียว ชื่อเรียกไพ่นกกระจอก 4 เชือก]

ทั้งสองคน “.....”

บอกว่าจะมาจับชู้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ล่ะ?

สาวสวยนั่งอยู่ข้างผู้ชายเหล่านั้น ก็ทำให้เธอไม่พอใจอยู่ดี

โดยเฉพาะลู่เป่ยเฉิง ปากเขาคาบบุหรี่ มือขวาจับไพ่นกกระจอก และข้างเขาก็มีเย่ฉู่นั่งกอดแขนเขาอยู่

พวกผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะไพ่ล้วนเป็นถึงผู้ชายที่โดดเด่น น่าภาคภูมิใจแห่งเมือง A ทั้งนั้น

ลู่เป่ยเฉิงยังคงเป็นคนที่สะดุดตาที่สุด ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา แว่นตากรอบทองรับกับสันจมูกของเขา และผมของเขาถูกเสยขึ้นไปอย่างลวก ๆ เป็นทรงสลิคแบค

ในความอ่อนโยนก็มีความหยาบคายแฝงอยู่ ไม่ว่ามองกี่ครั้งก็ยังคงตราตรึงใจคนมองทุกครั้ง

พูดถึงความหล่อของเขา เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียเงินเพื่อให้ผู้หญิงเข้าหา ก็มีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะขายบ้านขายรถเพื่อเข้าหาเขา

ช่วงสองปีที่หลังที่เขาเข้ามารับช่วงต่อ ลู่กรุ๊ปก็ขึ้นเป็นผู้นำของเมือง A ทันที ใครพบเจอเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเขาทั้งนั้น

ถ้าเขายังเหมือนเมื่อก่อน ถ้าไม่มีครั้งนั้น ลู่เป่ยเฉิงก็คือสามีที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก

ลู่เป่ยเฉิงดีทุกอย่าง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ดีกับเธอ

ซูมู่ไป๋ที่นั่งหันหน้ามาทางประตูเห็นกู้หนานเยียนมา เขาก็ชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มและทักทาย “สาม.....”

เขาไม่ได้พูดคำว่า ‘พี่สะใภ้’ ออกมา เพราะลู่เป่ยเฉิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ซูมู่ไป๋จึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “พี่เยียนมาได้อย่างไรครับเนี่ย?”

กู้หนานเยียนยิ้มกว้างและเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ “ฉันคิดถึงนายน่ะสิ! ก็เลยมาเยี่ยม”

“อย่าสิครับ! พี่สะ......” ซูมู่ไป๋แอบเหลือบมองลู่เป่ยเฉิง และพูดขึ้น “พี่เยียน มุกนี้ของพี่ทำให้ผมไม่กล้าเล่นต่อเลยนะครับ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจับพี่ชายสามของเขาแน่ ๆ

สองปีมานี้พวกเขาชินแล้ว

ปล่อยภรรยาสาวสวยขนาดนี้ไว้ที่บ้านอย่างไม่สนใจไยดี พี่ชายสามเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?

คืนนี้กู้หนานเยียนสวมชุดเดรสคอวีสีดำเลยเขา ผมลอนยาวลงมาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับน้ำตก ผมทุกเส้นสยายลงมาดูเปล่งประกายจนเกินจะต้านทานได้

เมื่อเธอย่างกรายเข้าไปถึงโต๊ะไพ่นกกระจอก สาว ๆ ที่อยู่ในห้องก็ตกตะลึง

อึ้งไปแล้ว

เมื่อเห็นว่ากู้หนานเยียนมา เย่ฉู่ก็ปล่อยแขนลู่เป่ยเฉิง และยืนขึ้นทักทาย “หนานเยียน”

กู้หนานเยียนไม่ได้ตอบอะไรเธอ แต่กลับปรายตามองไปที่แขนของลู่เป่ยเฉิง เย่ฉู่จึงรีบอธิบายทันที “เป่ยเฉิงเพิ่งจะชนะไพ่น่ะ ฉันดีใจแทนเขา ก็เลย.....”

เย่ฉู่ยังพูดไม่จบ กู้หนานเยียนก็ยกมือขึ้นมาบีบไปที่ข้อมือของเธอทันที “เย่ฉู่ ต่อไปถ้าเธอยังแตะต้องเขาอีก ฉันจะตัดมือเธอทิ้งซะ”

“หนานเยียนเธอฟังฉัน.....” เย่ฉู่ขมวดคิ้วแน่น “หนานเยียน เจ็บ เธอทำฉันเจ็บนะ”

เย่ฉู่ร้องโอดครวญ ลู่เป่ยเฉิงมองไปที่กู้หนานเยียนนิ่ง ๆ “ถ้าเธอไม่ปล่อยฉันจะตัดมือเธอก่อน”

ในเวลานี้ เย่ฉู่จึงถือโอกาสแยกตัวออกจากกู้หนานเยียนโดยถอยหลังไปสองก้าว เธอลูบข้อมือของตัวเองที่แดงเป็นปื้น และพูดขึ้น “เป่ยเฉิง”

ลู่เป่ยเฉิงหันไปมองเธอ และพูดด้วยแววตานิ่ง “จะไปกลัวเธอทำไม? นั่งลง”

ผู้หญิงที่นั่งข้างซูมู่ไป๋เห็นว่าสถานการณ์แปลก ๆ เธอจึงถามลู่เป่ยเฉิงอย่างสงสัย “คุณชายเฉิงคะ คนนี้คือใครเหรอคะ?”

ควันบุหรี่ลอยอยู่รอบ ๆ แว่นตากรอบทองที่อยู่บนสันจมูกของเขา ลู่เป่ยเฉิงเคาะขี้บุหรี่ทิ้งอย่างสุภาพ และตอบว่า “ไม่รู้จัก”

หลังสิ้นเสียงนี้ ซูมู่ไป่พวกเขาถึงกับต้องตกตะลึงกับคำตอบ

ไม่รู้จักอย่างนั้นเหรอ?

เห็นๆ อยู่ว่ารู้จัก และก็รู้จักมา 23 ปีแล้วด้วย

ปีนี้กู้หนานเยียนอายุครบ 23 ปีพอดี

กู้หนานเยียนที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะไพ่นกกระจอกรู้สึกทั้งโกรธทั้งขำ

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เธอจึงเดินไปด้านหน้าลู่เป่ยเฉิง และพูดเตือนเบา ๆ “ตีสองครึ่งแล้ว ควรแยกย้ายกันได้แล้ว”

ลู่เป่ยเฉิงมือขวาคีบบุหรี่ และยังคงพูดอย่างสุภาพ “จื้อมัวสือซานเยา[footnoteRef:2]” [2: จื้อมัวสือซานเยา ประเภทการชนะไพ่รูปแบบหนึ่ง]

ราวกับว่ากู้หนานเยียนเป็นอากาศธาตุ

เย่ฉู่เห็นสถานการณ์ไม่ดี เธอจึงยืนขึ้น “หนานเยียน ผู้ชายก็รักสนุกเป็นเรื่องปกติ พวกมู่ไป๋ก็อยู่ด้วย จริง ๆ แล้วเธอไม่ต้องกังวลหรอก”

กู้หนานเยียนพูดอย่างขบขัน “งั้นเธอก็ลองแต่งงาน และเอาสามีของเธอมาให้ฉันยืมสิ”

“……” เย่ฉู่พูดไม่ออก

กู้หนานเยียนพูดจบก็เดินไปที่ด้านหน้าซูมู่ไป๋ นิ้วเคาะไปที่โต๊ะไพ่นกกระจอก และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มู่ไป๋ นายลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้”

ซูมู่ไป๋เงยหน้า “พี่เยียน พี่ก็จะเล่นเหรอครับ?”

ทางด้านโจวเป่ย คนที่ตามกู้หนานเยียนมาจับชู้ ซึ่งนิ่งเงียบมาตลอด จู่ ๆ ก็หัวเราะ และพูดขึ้นมา “ทำไม? มีแค่ผู้ชายที่เล่นได้เหรอ ผู้หญิงเล่นไม่ได้เหรอไง?”

ด้วยรูปลักษณ์ผมสั้นที่หล่อเหลา และเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้ญี่ปุ่น หากไม่รู้จักก็คงคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย และคิดว่าเป็นชู้ของกู้หนานเยียน

หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่กู้หนานเยียน “หนานเยียน ได้ยินว่าผู้ชายที่โรงแรมนี้ก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวเรียกมาให้เธอสักสองคน”

กู้หนานเยียนดึงเก้าอี้ที่ซูมู่ไป๋ยอมลุกให้ออก และนั่งลงไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก “ก็ดีนะ!”

หลังจากกู้หนานเยียนพูดจบ ในที่สุดสายตาของลู่เป่ยเฉิงก็มองไปที่ใบหน้าของเธอ

กู้หนานเยียนไม่สนใจและเล่นไพ่ต่อจากซูมู่ไป๋ “ซานท่ง[footnoteRef:3]” [3: ซานท่ง ชื่อเรียกไพ่นกกระจอก 3 ท้ง]

ผ่านไปไม่นาน หนุ่มหล่อหลายคนก็มายืนอยู่ในห้องรับแขกของห้องพักแล้ว โจวเป่ยสั่งให้ผู้ชายที่หล่อที่สุด สูงที่สุดมานั่งกับกู้หนานเยียน

เมื่อผู้ชายคนนั้นได้รับคำสั่ง ก็ยิ้มออกมาอย่างยินดีและนั่งลงข้างกู้หนานเยียน “พี่ครับ ผมดวงดีมากนะ ผมนั่งข้างพี่ แล้วพี่ต้องชนะแน่นอนครับ”

กู้หนานเยียนพอใจมาก “ถ้าพี่ชนะจะให้อั่งเปาเธอซองใหญ่เลยล่ะ”

และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เล่นผ่านไปหลายตา กู้หนานเยียนก็เป็นผู้ชนะทุกตา เธอไม่เล่นไพ่กับผู้อื่นเลย เธอสนแค่ลู่เป่ยเฉิงออกไพ่ เธอก็เตรียมเก็บไพ่ของลู่เป่ยเฉิง

ดังนั้นตอนนี้ก็พอจะจินตนาการถึงสีหน้าของลู่เป่ยเฉิงได้

ตอนนี้กู้หนานเยียนได้ไพ่ซานสือเยาอีกครั้ง ลู่เป่ยเฉิงก็ทุบไพ่ในมือเขาทันที

ใบหน้าที่เย็นชาทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เย็นยะเยือกไปด้วย

กู้หนานเยียนไม่ใส่ใจ เธอดันไพ่นกกระจอกเข้าไปในเครื่องแจกไพ่ต่อ ยิ้มและพูดแซว “คุณชายลู่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้เหรอเนี่ย! ถ้ารับไม่ได้ก็กลับบ้านไปนอนเถอะค่ะ!”

กู้หนานเยียนบอกให้เขากลับบ้านไปนอน ลู่เป่ยเฉิงจึงยิ้มออกมา “อยากนอนกับฉันเหรอ? กู้หนานเยียนเธอเพ้อฝันเกินไปแล้ว”

ลู่เป่ยเฉิงพูดจบ เย่ฉู่ก็มองไปที่กู้หนานเยียนอย่างระมัดระวัง ในใจก็คิดว่าครั้งนี้พวกเขาจะหย่ากันไหม?

ลู่เป่ยเฉิงพูดเหน็บแนม กู้หนานเยียนก็นำเงินที่ชนะมาได้ยื่นให้กับหนุ่มที่นั่งข้างเธอ “อันนี้พี่ให้อั่งเปาเธอนะ”

ชายหนุ่มรับเงินสดที่กู้หนานเยียนยื่นมาให้อย่างตื่นเต้น “ขอบคุณครับพี่”

หญิงสาวหลายคนที่อยู่ในห้องต่างก็ตาลุกวาวด้วยความอิจฉา

เมื่อรับเงินจากกู้หนานเยียนไปแล้ว ชายหนุ่มก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พี่ครับ ผมทำให้พี่มีความสุขได้มากกว่านี้อีกนะครับ คืนนี้ให้ผมไปกับพี่สิครับ!”

เมื่อชายหนุ่มพูดจบ บุหรี่ที่คาบอยู่ที่ริมฝีปากของซูมู่ไป๋ก็ตกลงที่พื้นทันที ส่วนคนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองทันที

ทันใดนั้นภายในห้องก็เงียบมาก เงียบจนถ้ามีเข็มตกลงที่พื้นก็ได้ยิน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status