Share

20

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-07-17 11:53:37

หลี่เล่อเยียนไม่เคยรู้สึกอึดอัดอะไรเท่านี้มาก่อน เธอนั่งตรงข้ามกับเว่ยอี้หยาง แต่ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นเลย ได้แต่มองชมนกชมไม้รอเวลาตั้งโต๊ะของบ้านเว่ย

' คุยอะไรดีนะ ถามชื่อดีไหม ไม่สิ เธอบอกไปแล้วนี่ว่าชื่อเล่อเยียน ถามอายุจะน่าเกลียดไปไหมดูก็รู้ว่าน่าจะอายุน้อยกว่า อยู่เฉยๆ แล้วกันแค่นั่งเป็นเพื่อนก็คงพอ'

เว่ยอี้หยางที่ตอนนี้สมองกำลังคิดคำพูดที่จะพูดกับเล่อเยียน เพื่อให้บรรยากาศไม่เงียบเกินไป แต่ตัวเองเป็นคนไม่ค่อยพูดจึงไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเธอดี

' ทำไมขนตาหล่อนถึงได้ยาวเป็นแพถึงเพียงนี้นะ ตาโตเหมือนกระต่ายน้อย ปากเล็ก ๆ นั่น จมูกที่ดูรั้นนั่นอีก คิ้วโก่งรับกับใบหน้าและดวงตา หล่อนเคยโดนแดดบ้างหรือไม่นะ ทำไมถึงได้มีผิวขาวเพียงนี้ '

เว่ยอี้หยางคงลืมตัวว่าเผลอจ้องหลี่เล่อเยียนนานเกินไป ส่วนคนถูกมองก็นั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก

' ทำไมต้องจ้องอะไรขนาดนั้นนะ ฉันไม่ใช่โจรขโมยของสักหน่อย หรือว่าเขาไม่พอใจที่มารบกวนเวลาส่วนตัวของเขา คนหล่อนี่มันเข้าถึงยากซะจริงวุ้ย

ฉันควรจะชวนเขาคุยดีรึเปล่านะ อย่าเลยดีกว่าดูท่าแล้วคงไม่อยากจะอ้าปากสักเท่าไหร่ '

หลี่เล่อเยียนเมื่อคิดว่าพ่อหนุ่มหุ่นขี้ผึ้งโคลนนิ่ง หยางหยาง คนนี้คงจะขี้เกียจพูดจึงอดหัวเราะไม่ได้ นั่งหน้านิ่งน้ำลายบูดแล้ว

"อะแฮ่ม มาอยู่ที่นี่ได้สักพักแล้วปรับตัวได้บ้างหรือยังครับ " เป็นอี้หยางที่ทนความเงียบไม่ไหวต้องหาเรื่องชวนเธอคุย

" คะ อะ อ่อ ก็ได้บ้างแล้วล่ะค่ะ ที่นี่สงบดีไม่มีเรื่องวุ่นวายเหมือนปักกิ่ง " ใช่ที่ไหนกันล่ะตั้งแต่เธอมาก็เกิดเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน

"คุณเป็นคนปักกิ่งหรือครับ ถึงว่าล่ะทำไมถึงสวยและงดงามเพียงนี้ " ประโยคหลังอี้หยางพูดเสียงเบาเหมือนพึมพำอยู่คนเดียว

" เมื่อกี้คุณว่าอย่างไรนะคะ ใช่ค่ะฉันเป็นคนปักกิ่ง แต่ตอนที่ฉันมาสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกค่ะ" หลี่เล่อเยียนไม่ได้ยินประโยคหลังที่เขาพูดจึงตอบคำถามแค่ที่เธอได้ยิน

" ไม่มีอะไรหรอกครับ ปักกิ่งคงเจริญกว่าที่นี่น่าดูนะครับผมไม่เคยไปปักกิ่งเลยสักครั้ง" อี้หยางรีบเปลี่ยนเรื่อง ชวนเธอคุยเรื่องบ้านเกิดสร้างความคุ้นเคยกับเธอก่อนดีกว่า

" ค่ะ ทันสมัยกว่านี้มาก ระบบขนส่งก็สะดวกกว่านี้มากค่ะ ที่นั่นเริ่มมีบ้านที่สร้างจากอิฐแล้วล่ะค่ะ" บ้านแถบนั้นเปลี่ยนเป็นบ้านอิฐกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยอยู่ เพราะใช่ว่าจะมีคนที่สามารถจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลย ทุกอย่างต้องใช้เงิน

" ดีจริงๆ นะครับ " เว่ยอี้หยางไม่คิดอยากจะไปเมืองหลวงเลยสักครั้ง เขาคิดว่าบ้านเกิดนั้นดีที่สุดอบอุ่นที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับมีความคิดที่อยากจะไปปักกิ่งสักครั้งถ้ามีโอกาส

" ฉันได้ยินป้าเว่ยเล่าให้ฟังว่าคุณทำงานโรงงานในเมืองหรือคะ " หลี่เล่อเยียนชวนคุยบ้างเพราะเอาจริง ๆ เธอก็แทบจะไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับปักกิ่งเท่าไหร่ จะมีภาพขึ้นมาในหัวบ้างเวลาที่ใช้ความคิด แต่ก็ไม่ชัดเจนมากนัก

" เป็นโรงงานขนาดกลางครับ อีกอย่างเรียกผมว่า พี่อี้หยางเถอะไม่ต้องทางการมากก็ได้ " อี้หยางตอบจริง ๆ แล้วโรงงานที่เขาทำงานอยู่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่ทีเดียว เพราะจำนวนพนักงานมีมากถึง 300 คน

" งั้นหรือคะ ฉันอายุ 17 ย่าง 18 ปี แล้วคุณอายุเท่าไหร่คะ ถ้าคุณอายุมากกว่าฉันถึงจะยอมเรียกคุณว่าพี่ " เล่อเยียนลืมตัวเพราะตัวเธอจริง ๆ แล้วนั้นอายุ 25 ปี แล้วจะมาให้เรียกพ่อหนุ่มหน้าละอ่อนนี้ว่าพี่ก็จะขัดๆ อยู่บ้าง

" หึ ถ้าอย่างนั้นเธอยิ่งต้องรีบเรียกพี่ว่า พี่อี้หยาง เพราะพี่อายุมากกว่าเธอตั้ง 3 ปี " เว่ยอี้หยางขำในลำคอกับความมั่นใจว่าเธอจะไม่ต้องเรียกเขาว่าพี่ เธอไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน ดูก็รู้ว่าเธอน่ะรุ่นราวคราวเดียวกับน้องสาวคนเดียวของเขาเว่ยฟางเฟิน

" อย่างนั้นหรือคะ ดูพี่ไม่น่าจะห่างจากฉันเท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาท " ช็อตที่พ่อหนุ่มน้อยอี้หยางอมยิ้มขำท่าทางของเธอนั้น ทำเอาใจของหลี่เล่อเยียนเต้นผิดจังหวะได้เหมือนกันนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   42

    ใกล้ถึงกำหนดส่งขนมตามที่นัดกันเอาไว้แล้ว ทั้งสามคนเริ่มตามแผนการคือ เล่อเยียนแกล้งป่วยขอลางาน หมี่เมี่ยนขอลาด้วยให้เหตุผลว่าไม่มีคนดูแลเล่อเยียน ส่วนหม่ายวี่ไท่ลากเหมยเหมยและฮุ่ยหลินออกจากบ้านพักตั้งแต่เช้า ก่อนที่เสียงระฆังจะเตือนให้ลงพื้นที่ด้วยซ้ำจากนั้นเล่อเยียนเริ่มขนอุปกรณ์ รวมถึงวัตถุดิบออกมาจากห้อง พร้อมทั้งบอกหมี่เมี่ยนว่าซื้อมาตั้งแต่ติดเกวียนของลุงในหมู่บ้านเข้าเมือง หมี่เมี่ยนถามเล่อเยียนว่าไม่กลัวเธอจะขโมยสูตรไปทำขายบ้างหรือ" ถ้าเธออยากทำขายฉันก็ไม่ขัดหรอก ขอแค่อย่าแย่งลูกค้ากันก็พอ " แต่ความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ หมี่เมี่ยนจะทำขายได้ เพราะทุกอย่างต้องใช้เงินลงทุน อาศัยเพียงแค่สูตรอย่างเดียวไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งสองช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง กลิ่นของขนมโก๋ช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน กลิ่นมันหอมไปทั่วบริเวณบ้าน เพราะพวกเธอทำในปริมาณที่มาก วันแรกผ่านไปด้วยดีทั้งสองคนช่วยกันทำจัดขนมใส่กล่องเวลาในการทำขนมแต่ละครั้งใช้เวลานึ่งประมาณ 45 นาที นึ่งครั้งหนึ่งได้ประมาณครั้งละ 6 ชิ้น เมื่อนับแล้ววันนี้ทำขนมได้ทั้งหมด 50 กล่อง เป็นแบบนี้ทำไม่ทันแน่นอนเพราะเธอทำได้แค่เฉพาะกลางวันเพ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   40

    เมื่อจัดการทุกอย่างที่บ้านหลี่เรียบร้อยแล้ว หยางหมิงเฉิงก็ต้องเข้ากรมแลกวันหยุดกับเพื่อน เพื่อที่จะเดินทางไปหาหลี่เล่อเยียนอีกครั้ง ครั้งนี้เขามั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าคนที่เจอที่ร้านบะหมี่คือเธอแน่นอน แต่อาจจะต้องสืบอีกทีว่าเธออยู่ที่หมู่บ้านไหนเขาได้เรียนรู้แล้วว่าการที่เขาเงียบไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทุกอย่าง อย่างน้อยที่สุดตอนนี้พ่อของเล่อเยียนก็เข้าใจลูกสาวแล้ว และเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งนี้ หลี่ฮ่าวตูอาสาจะเป็นคนไปแทนเล่อเยียน แล้วให้น้องสาวของเขากลับมามีชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยว่าจะทำได้ส่วนสองแม่ลูกหนูนั้นก็ถูกคาดโทษ เพราะการกระทำของคนเป็นแม่ เธอสารภาพว่าแผนการทุกอย่าง เธอนั้นลงมือทำเองคนเดียว ลูกสาวอย่างหรูฟางเซียนนั้นไม่รู้เห็นเรื่องนี้กับเธอด้วยกล่าวตามที่แม่เลี้ยงหรูรับสารภาพ ว่าเธอทำเรื่องน่าอายในงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ของ หยางหมิงเฉิงและซุยเถาหยวน ทั้งสองมาเลี้ยงฉลองที่บ้านของตระกูลหลี่ เพราะมีข่าวแว่วมาว่าทางการจะเกณฑ์พวกนักศึกษาจบใหม่ หรือที่กำลังเรียนอยู่นั้นไปเข้าค่ายชนบทห่างไกล เพื่อทำงานแลกแต้มค่าแรงว่ากันตามตรงคือคนที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้นหลี่

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   38

    " อืม ฉันจะไปคุยกับคุณลุงเอง " หยางหมิงเฉิงคิดตำหนิตัวเองที่ไม่ยอมทำอะไรให้ชัดเจน ปล่อยให้เรื่องราวเลวร้ายจนทำลายชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งรอจนเวลาพลบค่ำ หลี่ฉินผู้เป็นพ่อของหลี่เล่อเยียนก็กลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เขาเจอกับหยางหมิงเฉิงก็ตกใจไม่น้อยเพราะระหว่างเขาและหมิงเฉิงนั้นมีสัญญาใจกันอยู่ แต่จะให้เขาทำเช่นไรได้ล่ะ เพราะลูกสาวของตนเป็นคนไม่ดีเอง เขาผู้เป็นคนกลางจึงต้องให้ความยุติธรรมที่สุด" สวัสดีครับคุณลุง ไม่เจอกันนานสบายดีนะครับ " หยางหมิงเฉิงเป็นฝ่ายกล่าวทักทายผู้ใหญ่ก่อน พ่อของเล่อเยียนดูผอมลงเล็กน้อยเหมือนคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ" นั่งสิ กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ " หลี่ฉินตั้งสติได้ก็เริ่มบทสนทนา ท่าทางสุขุมของเขาที่ต้องทำงานพบปะผู้คนมากมาย พอจะช่วยลดอาการประหม่า เวลาที่เจอกับผู้ชายตรงหน้าเขาได้ รังสีของชายชาติทหารมันแผ่ออกมาโดยที่หยางหมิงเฉิงนั้นไม่ต้องทำอะไรเพียงแค่นั่งเฉยๆ ก็ดูน่าเกรงขาม" ครับ พึ่งมาถึงเมื่อคืนผมเห็นว่าดึกแล้วน่ะครับเลยไม่ได้มาหาคุณลุงก่อน " หลี่ฉินพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเข้าเรื่อง" เธอไปแล้วล่ะ ฉันขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ " หลี่ฉินเอามือประสานกั

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   37

    กล่าวถึงนายทหารหนุ่มที่ร้อนใจขออนุญาตผู้บังคับบัญชา มุ่งหน้ากลับสู่เมืองหลวงก่อนกำหนดเดิม โดยรายงานว่ามีเหตุจำเป็นสำคัญ นายทหารยศใหญ่เดิมทีชอบในฝีมือและผลงานของเขา อีกทั้งยังหมายตาให้เป็นว่าที่ลูกเขย จึงพยายามที่จะสนับสนุนเต็มที่ ครั้งนี้จึงไม่มีปัญหาในการขอลากิจด่วน อีกอย่างภารกิจก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่มีอะไรน่ากังวลหยางหมิงเฉิงเดินทางโดยรถไฟ ถึงแม้ว่าการเดินทางจะยากลำบากไปบ้าง แต่เพื่อให้หายขับข้องใจถึงอย่างไรเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในเมืองชนบทเขาพยายามตามหาเธอจนทั่วทุกที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไป แม้กระทั่งในค่ายชนบทของเหล่าปัญญาชน เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะอยู่ในค่ายนั้นหรือไม่ เพราะคิดว่าครอบครัวของเธออย่างไรก็คงไม่ปล่อยให้มาเป็นแน่เธอมีพี่ชายที่ทั้งรักและหวงแหนเธอดั่งแก้วตาดวงใจขนาดนั้น เขาจะทนให้เธอมาลำบากได้อย่างไรกัน แต่เขาคิดไม่ตกสำหรับผู้หญิงที่เจอที่ร้านบะหมี่ ทำไมเขาถึงไม่เดินไปหาเธอให้รู้เรื่องกันนะ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงไม่ต้องมานั่งร้อนใจ เพราะเป็นห่วงเช่นนี้ระยะเวลา 3 วัน 3 คืน ที่เขานั้นเดินทางมา ในที่สุดก็ถึงปักกิ่ง แต่ขอบอกว่าเวลานี้นั้น ปักกิ่งไม่น่าอยู่เลยสักนิด ม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   36

    อี้หยางที่นั่งนิ่งๆ ตักข้าวกินไปด้วยพร้อมกับสังเกตเล่อเยียนไปด้วย เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ นี่มันแร้งลงโต๊ะกินข้าวหรืออย่างไรกัน ทำไมถึงเป็นกันได้เพียงนี้ ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวของเขา นี่พวกเขาอดอยากกันมากถึงเพียงนี้เชียวหรือแม่เฒ่าเว่ยเก็บอาการโมโหไว้ในใจ ลำพังพวกบรรดาลูกสะใภ้หล่อนจัดการสั่งสอนทีหลังได้ แต่แม่หนูฟ่านเหมยเหมยนี่อะไรกัน หล่อนเป็นหมูมาเกิดหรืออย่างไร ทำไมถึงได้กินมูมมามเสียงดังเพียงนี้ ทั้งยังกินแต่จานเนื้อ ไม่สนใจใครเลยด้วยซ้ำ หนูเล่อเยียนรึหล่อนหยิบแต่จานผัก อาหารที่หล่อนนำมาเธอยังไม่เห็นว่าที่ลูกสะใภ้แตะมันเลยแม้แต่น้อย"นี่พวกเธอไปอดอยากจากที่ไหนมากัน ไม่อายแขกของฉันกับอี้หยางบ้างเลยหรืออย่างไร " สุดท้ายแม่เฒ่าเว่ยก็ทนไม่ไหว จำต้องแสดงด้านโหดออกมาให้เล่อเยียนเห็น" เหลือไว้ให้คนอื่นเขากินบ้าง อาหารในปากก็เคี้ยวให้หมดเสีย ก่อนที่มันจะติดคอเพราะยัดไม่เลือก" แม่เฒ่าเว่ยโมโหจนตัวสั่น อีกทั้งเธอยังว่ากระทบฟ่านเหมยเหมยอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่กล้าว่าต่อหน้าก็ตาม" ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนกินกันเลยค่ะ ฉันไม่ค่อยชอบเนื้อเท่าไหร่ " หลี่เล่อเยียนตอบออกมายิ้มแบบฝืนๆ ใจจริงเธออยากจะบอ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   35

    เมื่อไปถึงบ้านเว่ย แม่เฒ่าเว่ยก็ออกมารอต้อนรับอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว วันนี้เธอจะต้องได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ให้ได้เธอให้ลูกสะใภ้ทั้งสองเตรียมอาหารเนื้อชุดใหญ่ เพราะลูกชายเธอเป็นคนซื้อเนื้อมาเอง ถึงแม้ว่าเว่ยอี้หยางจะยังไม่แยกบ้าน แต่เขาก็พอมีเงินเก็บส่วนตัวบ้าง ไม่ได้ส่งให้แม่ไปจนหมดเผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากเมื่อทั้งสามคนไปถึง อาหารก็ขึ้นโต๊ะพร้อมกินได้แล้วสมาชิกบ้านเว่ยมีทั้งหมด 10 คน ผู้ใหญ่ 7 คน เมื่อหลี่เล่อเยียนและฟ่านเหมยเหมยมาร่วมกินด้วย เด็ก ๆ จึงแยกโต๊ะ รวมถึงลูกสาวคนเล็กคนเดียวของบ้านเว่ยด้วย แม้ว่าเธอจะมีอายุเท่ากับเล่อเยียนก็ตาม" กับข้าววันนี้พี่เขาซื้อมาจากในเมือง หนูเล่อเยียนกินให้อร่อยนะจ๊ะ""จริงสิแล้วนี่ใครกันหรือ ป้าเหมือนจะเคยเห็นหน้า แต่ไม่รู้จักชื่อเพื่อนของหนูเล่อเยียนเองหรอกหรือจ๊ะ" แม่เฒ่าเว่ยว่าจะถามตั้งแต่เข้ามาในบ้าน แต่ก็มัวลืมรีบพาเล่อเยียนไปนั่งที่โต๊ะอาหาร กลัวว่าหล่อนจะลุกวิ่งหนีไปอีกเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา"หนูชื่อฟ่านเหมยเหมย เป็นเพื่อนของเล่อเยียนค่ะคุณป้า เอ่อ..พอดีหนูมาเป็นเพื่อนเธอน่ะค่ะ ให้เล่อเยียนมาคนเดียวเห็นจะดูไม่เหมาะสัก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status