공유

บทที่ 18

작가: กวนอวิ๋นเจี้ยน
อวี้หลานชิงกลัวว่าเพราะอยู่ใกล้เกินไป อาจารย์ไม่เชื่อว่าจะมีโอกาสโชคอยู่ จึงตั้งใจกล่าวอีกว่า “ยิ่งเข้าใกล้แอ่งน้ำนั้น ยิ่งรู้สึกได้ถึงความลึกลับ สรุปคือมันอยู่ไม่ไกลจากสำนักมากนัก ท่านก็ถือเสียว่าไปเดินเล่น…ศิษย์จะไปเป็นเพื่อนท่านเองเจ้าค่ะ”

“ได้ เช่นนั้นพวกเราแวะไปหน่อยก็แล้วกัน”

เสิ่นหวยจั๋วหายใจเข้าลึก ๆ ใช้พลังวิญญาณห่อหุ้มสายคาดเอวหยกเอาไว้ แล้วแอบร่ายคาถาปัดฝุ่นสองจบ จึงจะนำมาคาดไว้ที่เอว พร้อมกับรำพึงในใจ

สหายเก่าเอ๋ย ต้องขอโทษจริง ๆ ใครใช้ให้เจ้ามีวาสนากับลูกศิษย์ของข้าเล่า!

……

วันต่อมา หลังจากหลอมลูกกลอนบำรุ่งจิตชั้นสูงเสร็จสิ้น ลูกศิษย์อาจารย์ทั้งสองก็เดินทางออกจากยอดเขาชิงจู๋

ทางเหนือของสำนักกระบี่เสวียนเทียน

หลังบินออกจากค่ายกลคุ้มกันสำนักได้ไม่ไกล เสิ่นหวยจั๋วก็พาอวี้หลานชิงร่อนลงระหว่างหุบเขา

อวี้หลานชิงยังไม่ทันยื่นมือชี้ตำแหน่ง ก็เห็นแอ่งน้ำปรากฏอยู่ตรงหน้าตนเองแล้ว

อาจารย์สมกับที่เป็นอาจารย์

อาศัยแค่กลิ่นอายอันน้อยนิดบนหยก ก็สามารถหาตำแหน่งที่แม่นยำเจอแล้ว หุบเขาทางเหนือของสำนักคล้ายกันหมด แม้แต่นางที่เคยมา ก็ต้องหาอยู่พักใหญ่!

น้ำในแอ่งใสสะอาดและนิ่งสงบ

ไม่ค่อยมีคนหรือสัตว์อสูรผ่านมาแถวนี้ ภายใต้ยามค่ำคืน ผิวน้ำสะท้อนภาพพระจันทร์เต็มดวงอย่างชัดเจนราวกับกระจก

“เจ้าพบหยกพวกนี้ตรงก้นแอ่งที่นี้หรือ?” เสิ่นหวยจั๋วกล่าวถามอย่างจริงจัง

“เจ้าค่ะ” อวี้หลานชิงมองก้นแอ่งอย่างคาดหวัง

ชาติก่อนนางได้ยินมาว่าคนที่ค้นพบถ้ำอสูรนั้น ก็ได้รู้แจ้งเศษเสี้ยวของ ‘แก่นแท้แห่งวิถีสวรรค์’ ในถ้ำ

การรู้แจ้งส่วนนี้ เป็นประโยชน์ต่อเขาจนกระทั่งบรรลุเซียน

แม้ไม่รู้ว่าตอนนี้อาจารย์อยู่ในระดับไหนแล้ว แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์

“ศิษย์เอ๋ย เจ้ายืนห่างหน่อย” เสิ่นหวยจั๋วโบกกระแสลมสายหนึ่ง ส่งอวี้หลานชิงถอยห่างจากข้างแอ่งน้ำสิบกว่าก้าว

จากนั้นก็ประสานอิน ยิงลงไปที่ก้นแอ่ง

คลื่นพลังวิญญาณสายหนึ่งพลันพุ่งขึ้นมาจากแอ่งน้ำ

ผิวน้ำที่เคยนิ่งสงบในตอนแรก เริ่มเกิดความปั่นป่วน พระจันทร์ที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำหายไป และถูกแทนที่ด้วยวังวนที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน

“นี่ก็คือทางเข้าของถ้ำอสูร ศิษย์เอ๋ย ตามอาจารย์เข้าไปเถิด!”

ทันทีที่สิ้นเสียง เสิ่นหวยจั๋วก็กระโดดเข้าไปในวังวนก่อน

เมื่ออวี้หลานชิงเห็นดังนี้ รีบกลั้นหายใจแล้วตามลงไปทันที

ภาพที่นางคิดไว้หลังจากกระโดดลงไปในน้ำ จะเปียกปอนไปทั้งตัว และหายใจลำบากกลับไม่เกิดขึ้น

พริบตาที่สัมผัสโดนวังวน ทิวทัศน์รอบกายก็เหมือนเปลี่ยนไป

เท้าย้ำลงบนผืนหญ้าที่แห้งสนิท มองดูทางเข้าถ้ำที่สูงถึงเอาคนมาต่อกันสิบคน อวี้หลานชิงเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ที่แท้ใต้ก้นแอ่งนี้มีอีกโลกหนึ่งซ่อนอยู่ สมกับเป็นถ้ำที่อสูรอาศัยอยู่จริง ๆ”

“มา พวกเราเข้าไปดูกัน” เสิ่นหวยจั๋วเดินเข้าไปในถ้ำราวกับกำลังเดินเล่น

“ท่านอาจารย์ ระวังด้วย!” อวี้หลานชิงที่เดินตามหลัง มองไม่เห็นสีหน้าของเสิ่นหวยจั๋วที่เดินนำหน้า ไม่มีความประหลาดใจแม้แต่น้อย

ยิ่งเดินลึกเข้าไป แสงสว่างรอบข้างก็ยิ่งมืดสลัวลง

หลังจากเดินต่อไปอีกสักระยะ อวี้หลานชิงก็มองเห็นปลายหางที่แกะสลักจากหินปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าอย่างเลือนราง

นางยังไม่ทันได้มองดี ๆ ก็มีแรงกดดันอันมหาศาลถาโถมใส่นางราวกับคลื่นยักษ์เป็นระลอก

ด้วยสัญชาตญาณ อวี้หลานชิงจึงควบรวมเจตจำนงกระบี่ออกมาต้านทาน!

……

ตลอดห้าวันเต็ม

เสิ่นหวยจั๋วนั่งอยู่บนเก้าอี้เอน แทะเมล็ดแตงโมหมดห่อแล้วห่อเล่า

สหายเก่าตนนี้ของเขามีที่มาไม่ธรรมดา แม้แต่กระดูกหลังจากการดับสูญของเศษเสี้ยวร่างแยก แค่ดูก็สามารถช่วยให้รู้แจ้งถึงแก่นแท้ได้ไม่น้อย

แต่สิ่งที่หายากยิ่งกว่าคือ ลูกศิษย์ที่เขาได้รับมาโดยบังเอิญ

เพียงห้าวันทะลวงถึงระดับสร้างฐานขั้นกลาง และรู้แจ้งเจตจำนงกระบี่สามสาย

ลูกศิษย์คนนี้ของเขา ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใด ก็ล้วนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

มองดูลูกศิษย์ที่กำลังจะหลุดจากสภาวะ ‘รู้แจ้ง’ เสิ่นหวยจั๋วคำนวณเวลาครู่หนึ่ง แล้วแสยะปากหัวเราะเหอะ ๆ

พอดีเลย ไม่มีอะไรผิดพลาด
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 64

    “ศิษย์เอ๋ย จงหายใจเข้าออก ปล่อยวางความคิดฟุ้งซ่านเสีย”น้ำเสียงของเสิ่นหวยจั๋วอ่อนละมุน ระหว่างพูดก็เปิดค่ายกลควบรวมพลังวิญญาณในเรือวิเศษอวี้หลานชิงทำตามคำแนะนำของอาจารย์อย่างไม่รู้ตัว ทุกลมหายใจล้วนซาบซ่านไปด้วยพลังวิญญาณจิตใจที่ว้าวุ่นอยู่แต่เดิม ค่อย ๆ สงบลงในทุกครั้งที่หายใจเข้าออก เลือดลมที่ปั่นป่วนในกาย ก็กลับสู่ความสงบตามไปด้วยเสิ่นหวยจั๋วเห็นดังนั้นจึงกล่าวต่อ “เมื่อครู่จิตใจเจ้าว้าวุ่น จิตวิญญาณไม่มั่นคง มีเค้าลางว่าจะถูกจิตมารครอบงำ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี”อวี้หลานชิงได้ยินดังนั้นพลันตกใจ ก่อนจะได้สติขึ้นมาทันทีสถานการณ์ของนางเมื่อครู่ค่อนข้างอันตรายจริง ๆช่างลำบากท่านอาจารย์ที่ต้องเดินทางมาไกล นอกจากเป็นห่วงความปลอดภัยของนางแล้ว ยังต้องดูแลจิตใจที่ยังสั่นไหวไม่สงบของนางอีกด้วยบรรยากาศในเรือวิเศษเงียบสงบและผ่อนคลาย สายตาของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อได้สัมผัสทุกสิ่งตรงหน้า อวี้หลานชิงก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น “ท่านอาจารย์ ต่อไปศิษย์จะระวังให้มากขึ้น จะไม่ทำผิดเช่นวันนี้อีก”“อาจารย์มิได้บอกว่าเจ้าผิด” น้ำเสียงของเสิ่นหวยจั๋วหนักแน่นผิดจากปกติเมื่อเห็นอวี

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 63

    “ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนหรือ?” สำนักอู๋จี๋เตี้ยนมีต้นกำเนิดจากหนานโจว เพิ่งย้ายมาตั้งที่ตงโจวได้ไม่ถึงสิบปีเท่านั้นลั่วอู๋ซางไม่รู้จักเสิ่นหวยจั๋ว และไม่รู้จักปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเช่นกันทว่าจากวิชากระบี่อันเฉียบคม ก็สามารถตัดสินฐานะของอีกฝ่ายได้ ในใจพลันหนักอึ้งลงทันที“หรือว่าปรมาจารย์กระบี่คิดจะปล่อยปละและปกป้องศิษย์ของตนเอง?”ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนขมวดคิ้ว ก้าวไปยืนบังจี้ฝูเหยาไว้ด้านหลัง จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “สิ่งที่ผู้อาวุโสลั่วต้องการ ก็เพียงค้นหาสาเหตุที่ศิษย์ของท่านหายตัวไปเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องกดดันฝูเหยาอีก”“หรือว่าปรมาจารย์กระบี่ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?” ลั่วอู๋ซางจ้องเขม็งมองปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนอย่างไม่วางตา“ขอเจรจาเป็นการส่วนตัว” ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนยกมือสะบัด ปราณกระบี่ไร้รูปพลันห่อหุ้มคนทั้งสองเอาไว้ครู่หนึ่งให้หลังปราณกระบี่ก็สลายไป ลั่วอู๋ซางมีสีหน้าอึมครึม ก่อนจะพยักหน้าอย่างฝืนใจต่อมา ทุกคนก็เห็นปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเรียกลูกศิษย์ชั้นนอกจากยอดเขาหลิงเซียวคนหนึ่งซึ่งติดตามอยู่ข้างกายจี้ฝูเหยาให้ก้าวออกมาจากนั้นก็นำโอสถเม็ดหนึ่งออกมา ส่งเ

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 62

    สายตาของผู้คนล้วนติดตามผีเสื้อที่กลายร่างจากแสงวิญญาณ ไปหยุดอยู่ที่อวี้หลานชิงลั่วอู๋ซางพลันนึกขึ้นได้ว่า ก่อนที่ตนจะลงมือเป็นครั้งที่สอง ศิษย์หญิงผู้นี้เองที่แอบ “ปลดปล่อย” ศิษย์สำนักกระบี่หลายคนซึ่งถูกแรงกดดันกดทับไว้ต่อหน้าต่อตาเขาก็จริงอยู่ เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนหญิงกระโปรงชมพูที่อาจเกี่ยวพันกับการตายของศิษย์ตน เอะอะก็ตาแดง แสร้งทำเป็นน่าสงสาร นางยังชวนให้พึงใจยิ่งกว่า“เอาเถิด ข้าจะเห็นแก่สำนักกระบี่เสวียนเทียน คนที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหลายถอยออกไปได้”มือที่ลั่วอู๋ซางยกขึ้นยังคงชี้ไปที่จี้ฝูเหยา น้ำเสียงเย็นชาไร้ปรานี “ข้าจะไต่สวนเพียงนางผู้เดียว”ร่างของจี้ฝูเหยาสั่นเทาเล็กน้อย มองไปรอบ ๆ อย่างไร้ที่พึ่งศิษย์ร่วมสำนักที่นางมองไปหา ต่างพากันหลบสายตาแม้แต่เจินเหรินระดับแก่นปราณหลายคนที่ก่อนหน้านี้ยังคอยปกป้องนาง เวลานี้กลับพากันนิ่งเงียบ ไม่มีผู้ใดลุกขึ้นมาพูดแทนนางอีกจี้ฝูเหยากำฝ่ามือแน่น ตัดใจเด็ดขาดหันไปทางเสิ่นหวยจั๋ว “ผู้อาวุโสเสิ่น อาจารย์ปู่…ท่านอาจารย์ของศิษย์ยังมาไม่ถึง ท่านจะทอดทิ้งศิษย์มิได้!”เสิ่นหวยจั๋วชิงชังที่สุดในชีวิตก็คือการมีผู้ใดมาข่มขู่ตนเองสายตาท

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 61

    ต่อหน้าธารกำนัล เขานั่งลงบนเก้าอี้เมฆาตัวหนึ่งในนั้นอย่างไม่ลังเลจากนั้นก็ผลักเก้าอี้อีกตัวไปข้างหน้า โอบล้อมด้วยสายลมบริสุทธิ์ ส่งตรงไปยังด้านหลังของลั่วอู๋ซางศิษย์จากสี่สำนักที่อยู่ด้านล่าง ต่างก็มองจนตะลึงงันผู้อาวุโสแห่งสำนักกระบี่เสวียนเทียนท่านนี้ กำลังคิดจะทำสิ่งใดกัน?นี่มันยามใดแล้ว ยังจะมีกะจิตกะใจนั่งลงสนทนากันอีก!เหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียน ยิ่งร้อนใจหนัก พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าผู้อาวุโสเสิ่นคิดจะงัดกลอุบายอันใดออกมาเกรงว่าการกระทำของผู้อาวุโสเสิ่นอาจยิ่งยั่วโทสะลั่วอู๋ซาง ทำให้ทุกคนต้องพลอยรับเคราะห์หนักหนาสาหัสกว่าเดิมท่ามกลางแววตาสงสัยของผู้คนมากมาย เสิ่นหวยจั๋วเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวกับลั่วอู๋ซางว่า “สหายโปรดนั่ง เรื่องราวในวันนี้ ข้าพอจะเข้าใจคร่าว ๆ แล้ว ข้ามิได้โน้มน้าวให้ท่านคลายโทสะ เพียงแต่อยากพูดคุยด้วยเหตุผลกับท่านเท่านั้น”เขาไม่เคยคิดจะประมือกับลั่วอู๋ซางเลยสักครั้ง เสิ่นหวยจั๋วผู้นี้ เป็นคนที่ยึดถือเหตุผลเสมอมาเป็นครั้งแรกที่ลั่วอู๋ซางต้องเผชิญกับคนที่เล่นนอกกติกาเช่นนี้อย่างไรเสียสองสำนักก็ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีงามอยู่ อีกทั้ง

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 60

    “ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนห่วงใยความปลอดภัยของศิษย์น้องหญิงจี้จริงดังคาด เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน ก็รีบมาด้วยตัวเองแล้ว”ส่วนลั่วอู๋ซางแห่งสำนักอู๋จี๋เตี้ยน มาเร็วก็จริง แต่ก็เป็นเพียงร่างแยกเท่านั้นแต่ดูจากแสงสีขาววาบเดียวเมื่อครู่นั้น เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำลายแรงกดดันของลั่วอู๋ซางได้ พลังนั้นชัดเจนว่าย่อมมีได้เมื่อร่างจริงมาถึงเท่านั้นต่างเป็นระดับเทพจุติเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งเป็นเพียงร่างแยก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งปรากฏกายมาด้วยร่างจริง...ใครแพ้ใครชนะ มองปราดเดียวก็รู้แล้วเหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียนต่างถอนหายใจโล่งอกในที่สุดเหล่าเจินเหรินที่เมื่อครู่ยังรู้สึกไม่พอใจที่จี้ฝูเหยายั่วโมโหลั่วอู๋ซาง บัดนี้ต่างก็สงบความขุ่นเคืองใจลงแล้วอย่างไรเสีย จี้ฝูเหยาก็เป็นศิษย์สายตรงของปรมาจารย์กระบี่ ไม่เห็นหรือว่าแค่นางเกิดปัญหาเล็กน้อย ปรมาจารย์กระบี่ก็รีบรุดมาด้วยตัวเอง?เพียงเท่านี้ ก็มากพอให้นางมีทุนที่จะเอาแต่ใจแล้วเช่นเดียวกับทุกคน จี้ฝูเหยาก็กำลังแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าตามทิศทางที่แสงสีขาวพุ่งมา บนหมู่เมฆที่ขอบฟ้าอันไกลโพ้น ปรากฏร่างหนึ่งยืนอยู่จี้ฝูเหยากำยันต์หยกไว้ในฝ่ามื

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 59

    ทั้งสองคนนี้อวี้หลานชิงไม่รู้จักเลย พียงเลือกคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดเท่านั้นขณะที่นางยื่นมือช่วยเหลือศิษย์ร่วมสำนักใกล้ตัวต้านแรงกดดัน ทางด้านนั้น ลั่วอู๋ซางก็ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าพวกจี้ฝูเหยาทั้งสี่แล้วมองปราดเดียวก็รู้ว่า จี้ฝูเหยาต่างหากที่เป็นผู้ตัดสินใจได้ในบรรดาทั้งสี่คนและไม่สนใจว่าคนอื่นจะกล่าวว่าเขารังแกคนอ่อนแอกว่า สายตาจ้องเขม็งไปที่จี้ฝูเหยา มองจากที่สูงลงมาอย่างดูถูก ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “พูดมา หลังจากเจ้าพบเฉินถงแล้วไปที่ไหน แยกจากกันเมื่อใด หลังจากนั้นเจ้าพบเขาอีกหรือไม่?”ใบหน้าจี้ฝูเหยาซีดเผือดภายใต้สายตาอำมหิตของยอดฝีมือระดับเทพจุติ นางตัวสั่นระริก จนไม่อาจเอ่ยวาจาใดออกมาแต่หาใช่เพราะแรงกดดันไม่ นางมีของวิเศษที่ท่านอาจารย์มอบไว้ติดตัว จึงไม่รู้สึกถึงแรงกดดันของลั่วอู๋ซางที่ปกคลุมเหนือหัวของเหล่าศิษย์สำนักกระบี่เสวียนเทียนเพียงแต่นางมีระดับพลังยุทธ์เพียงขั้นหลอมปราณช่วงกลางเท่านั้น การถูกยอดฝีมือระดับเทพจุติจ้องด้วยสายตาอำมหิต ความกดดันเช่นนี้เพียงพอจะทำลายแนวป้องกันในจิตใจของนางได้นางหลับตาลงเบา ๆ กำยันต์หยกที่ท่านอาจารย์มอบให้ตนเอง สัมผัสถึงความอบอุ่นจา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status