Share

บทที่ 2

Author: กวนอวิ๋นเจี้ยน
อาจจะเป็นเพราะการออกฌานของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน ภายในตำหนักจึงมีคนมารวมตัวอย่างคับคั่ง

สำนักกระบี่เสวียนเทียนมียอดเขาทั้งหมดสิบแปดยอด หากไม่นับประมุขยอดเขาที่กำลังเข้าฌานแล้ว ประมุขยอดเขาทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่นี่ แม้แต่ประมุขยอดเขาชิงจู๋ที่มักจะหายตัวอย่างเสิ่นหวยจั๋วก็ยังโผล่มาและกำลังนั่งสัปหงกอยู่ที่มุม

การทดสอบคัดเลือกศิษย์ใหม่เพียงอย่างเดียวไม่อาจเรียกคนมาได้มากขนาดนี้

ทุกคนมาเพื่อให้เกียรติปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน

หลังจากเข้าฌานมาสิบปี ท่าทีของเขาดูสุขุมมากขึ้น ส่วนพลังก็ยิ่งล้ำลึกยากจะหยั่งถึง บัดนี้ไม่มีผู้ใดในสำนักกระบี่เสวียนเทียนกล้าถือตัวต่อหน้าเขาอีกต่อไป

อวี้หลานชิงก้าวเท้าเข้าสู่ตำหนัก ได้ยินเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ชี้มาที่นางพลางกล่าวแนะนำ

“ฉางยวน นี่คือคนที่คุณสมบัติโดดเด่นที่สุดจากการคัดสอบเมื่อห้าปีก่อน มีรากวิญญาณทองคำบริสุทธิ์เฉกเช่นเดียวกับเจ้า นอกจากนี้ยังคว้าอันดับหนึ่งจากการทดสอบบันไดสวรรค์”

“ฉางเยี่ยและจวีหยางต่างหมายจะรับนางเป็นศิษย์ แต่ข้ามองว่า อย่างไรนางก็มีรากวิญญาณแบบเดียวกับเจ้า ทั้งยังมีจิตใจมุ่งมั่น เป็นต้นกล้าชั้นเลิศในการฝึกกระบี่ ให้เป็นศิษย์เจ้าจะเหมาะสมที่สุด อีกอย่าง เจ้าก็ยังไม่มีศิษย์”

“ฉางยวน บัดนี้เจ้าหายดีและออกฌานโดยราบรื่น หากได้มีศิษย์ฝีมือดีเพิ่มอีก ก็จะเท่ากับมีโชคสองชั้น”

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บรรดาผู้อาวุโสในตำหนักต่างมีรอยยิ้มเช่นกัน

ทว่าตัวเอกทั้งสองคนของงานนี้กลับไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย

อวี้หลานชิงมองขึ้นไปที่ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนที่นั่งอยู่ข้างเจ้าสำนักอวิ๋นไห่

สายตาของเขายังคงเป็นเช่นเดียวกับชาติก่อน จับจ้องไปยังกระจกวารีที่อยู่กลางตำหนัก

ภายในกระจกฉายภาพบรรดาศิษย์ใหม่ที่กำลังขึ้นบันไดสวรรค์หน้าตำหนัก

อวี้หลานชิงรู้ว่าผู้ที่ดึงดูดสายตาของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนมีเพียงคนเดียว นั่นก็คือจี้ฝูเหยาที่มีสภาพสะบักสะบอมและอยู่รั้งท้ายด้านหลังสุด

ส่วนถ้อยคำที่เจ้าสำนักอวิ๋นไห่แนะนำนางนั้น เขาคงไม่ได้ตั้งใจฟัง หรือต่อให้ฟังก็สำคัญไม่สู้เงาร่างที่อยู่ในกระจก

แต่เขาก็เฉยชากับทุกสิ่งแบบนี้มานานแล้ว เจ้าสำนักอวิ๋นไห่กับเหล่าผู้อาวุโสต่างเคยชิน ไม่ได้ถือสาแต่อย่างใด

“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้”

“กำหนดพิธีคำนับอาจารย์ไว้ที่อีกเจ็ดวันหลังจากนี้ดีหรือไม่? จะได้กระจายข่าวเรื่องที่เจ้าออกฌานและรับศิษย์ได้ทัน”

สิ้นเสียงของเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ ปรมาจารย์กระบี่ฉางจวนจึงค่อยละสายตาจากกระจกวารีในที่สุด

หลังจากขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก เขาก็กล่าวขึ้นว่า “ข้าไม่คัดค้านที่จะจัดพิธีรับศิษย์ในอีกเจ็ดวัน แต่ว่า…ศิษย์ที่ข้าจะรับ ยังมีอีกคน”

“ยังมีอีกคนหรือ?”

“ผู้ใดกัน?”

ถ้อยคำของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนทำให้ทุกคนตกใจ

ผู้อาวุโสในตำหนักตกใจเช่นกัน พากันมองเข้าไปในกระจกวารี หรือว่าท่ามกลางศิษย์ชุดนี้จะมีต้นกล้าชั้นดีคนอื่นที่พวกเขามองข้ามไป?

แต่มองอยู่นานก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร แม้ว่าศิษย์ที่เดินนำอยู่หัวแถวจะมีคุณสมบัติไม่เลว แต่เทียบกับอวี้หลานชิงเมื่อห้าปีก่อนแล้วยังห่างไกลอีกมาก

ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเห็นดังนี้ ก็โบกมือปล่อยพลังวิญญาณออกมา ควบคุมให้กระจกวารีฉายภาพเหตุการณ์ครึ่งหลังของการทดสอบขึ้นบันไดสวรรค์ บัดนี้เวลาที่ใช้ทดสอบล่วงเลยมาเกินครึ่ง คนส่วนใหญ่ปีนบันไดได้เกินครึ่งหนึ่งแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่ยังอยู่ด้านหลัง

ในจำนวนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่รั้งท้ายสุด นางมีเหงื่อออกโชก ทุกย่างก้าวเป็นไปอย่างยากลำบาก

ยามที่กระจกวารีจับภาพไปที่นาง นางก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อ เผยให้เห็นถึงดวงหน้า

ผู้อาวุโสในตำหนักหยุดหายใจพร้อมกัน หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ไม่มีผู้ใดถามอีกว่า เหตุใดปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนจึงต้องการรับหญิงสาวนางนี้เป็นศิษย์

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง “ได้ ในเมื่อเจ้ามีคนที่ถูกใจ เช่นนั้นก็รับเป็นศิษย์พร้อมกัน พวกนางเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องหญิงกัน จะได้มีเพื่อนด้วย”

อวี้หลานชิงเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนในตำหนักอยู่เงียบ ๆ

ท่าทีของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนไม่ได้ต่างจากในความทรงจำของนางเมื่อชาติก่อน กระนั้นครั้งนี้ นางกลับสังเกตเห็นรายละเอียดที่ชาติก่อนไม่เคยสังเกตหลายอย่าง

ตอนแรกผู้อาวุโสพวกนี้ก็ดูแคลนจี้ฝูเหยาที่อยู่รั้งท้ายบันไดสวรรค์ แต่แล้วกลับพากันเปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นหน้าตาของนาง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ใบหน้าของจี้ฝูเหยาเป็น “ปัญหาใหญ่”

หลังจากแสดงความยินดีกับปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนที่ได้ศิษย์เพิ่มเป็นสองคน จนต้องเปลี่ยนจากคำว่า “โชคสองชั้น” เป็น “โชคสามชั้น” ทุกคนถึงค่อยนึกถึงอวี้หลานชิงที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่ด้านล่างมานานแล้วขึ้นมาได้

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่กวักมือเรียกนาง “หลานชิง เข้ามาใกล้ ๆ สิ เจ้ายังไม่ได้คำนับฉางยวนอย่างเป็นทางการ”

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่พูดแบบนี้เพื่อบอกให้อวี้หลานชิงเข้าไปคำนับอาจารย์นั่นเอง

ทว่าอวี้หลานชิงก้าวออกไปข้างหน้าแล้ว ไม่ได้คุกเข่าก้มลงคำนับศีรษะแต่อย่างใด นางเพียงโค้งตัวเล็กน้อยและกล่าวว่า

“ศิษย์อวี้หลานชิง คารวะท่านปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน”

คำว่า “ศิษย์” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเป็น “ศิษย์” ของเขา เป็นเพียงการสื่อว่านางเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่เสวียนเทียนเท่านั้น นางทำความเคารพตามแบบที่ผู้น้อยพึงมีต่อผู้อาวุโสในแดนบำเพ็ญเพียร น้ำเสียงแสดงถึงความห่างเหินชัดเจน

ยกเว้นเพียงคนผู้หนึ่งที่นั่งสัปหงกอยู่ในมุมแล้ว สายตาทุกคู่ในตำหนักล้วนจับจ้องมาที่อวี้หลานชิง

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่กระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเตือน “นังหนูหลานชิง เจ้าควรเรียกฉางยวนว่าท่านอาจารย์ถึงจะถูก”

อวี้หลานชิงไม่ได้ทำความเคารพใหม่ตามที่เจ้าสำนักอวิ๋นไห่บอก

สีหน้าของนางจริงจัง แววตามุ่งมั่น พูดเสียงฉะฉานว่า “เรียนท่านเจ้าสำนัก ผู้อาวุโสทุกท่าน”

“ศิษย์ไม่ประสงค์จะคำนับท่านปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเป็นอาจารย์เจ้าค่ะ!”

“กระไรนะ?” มีเสียงอุทานด้วยความตกใจหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกันทั่วตำหนัก

หากก่อนหน้านี้รูปโฉมของจี้ฝูเหยาทำให้ทุกคนประหลาดใจ เช่นนั้นคำตอบของอวี้หลานชิงตอนนี้ก็เป็นการทำให้ตกใจ

นี่คือผู้เป็นหนึ่งด้านวิถีกระบี่ ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเชียวนะ!

ลองถามทั่วทั้งตงโจว มีผู้ฝึกกระบี่คนใดไม่อยากได้เขาเป็นอาจารย์บ้าง?

ยิ่งไปกว่านั้น อวี้หลานชิงก็รอที่ยอดเขาหลิงเซียวมาแล้วห้าปี รอคอยให้ฉางยวนออกจากฌานเพื่อจะได้เป็นศิษย์สายตรงอย่างเป็นทางการ

อุตส่าห์รอมาห้าปี แต่เมื่อตอนนี้ถึงเวลาคำนับอาจารย์กลับไม่ยินยอมเสียอย่างนั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

หรือจะประชดประชันที่เมื่อครู่นี้ฉางยวนรับศิษย์อีกคน?

ทุกคนดาดเดากันไปต่าง ๆ นานา

เจ้าสำนักอวิ๋นไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาแสดงความไม่เห็นด้วย “เจ้าอย่าใช้อารมณ์ อย่าล้อเล่นกับอนาคตตัวเอง”

“ท่านเจ้าสำนัก ศิษย์ไม่ได้ใช้อารมณ์เจ้าค่ะ”

อวี้หลานชิงเงยหน้าพูดเสียงดัง “ศิษย์ต้องการคำนับผู้อื่นเป็นอาจารย์เจ้าค่ะ!”

ครานี้ บรรดาผู้อาวุโสพากันเผยแววตาที่สื่อว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”

นั่นสินะ อย่างไร “อัจฉริยะ” ก็ต้องมีความเย่อหยิ่งในตัวอยู่แล้ว

พรสวรรค์ของอวี้หลานชิงไม่ได้ด้อยไปกว่าปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเมื่อครั้งอดีต หากจะไม่อยากคำนับอาจารย์ร่วมกับ “คนอ่อนแอ” ที่อยู่รั้งท้ายในกระจกวารีก็เข้าใจได้

ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฉางยวนแล้ว

เป็นครั้งแรกที่ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเคลื่อนสายตามามองศิษย์หญิงที่ปฏิเสธตัวเองต่อหน้าธารกำนัล

เห็นว่านางยืนหลังตรง แววตาแน่วแน่ เป็นเหมือนดาบเล่มคมที่ถูกชักออกจากฝัก

นับว่าเป็นต้นกล้าชั้นดีสำหรับฝึกกระบี่

แต่หากคิดว่าตัวเองมีสวรรค์ นั่นก็ดูจะสำคัญตัวเองเกินไปหน่อย

คิดจะบังคับให้เขากลับคำและรับนางเป็นศิษย์เพียงคนเดียว? เขาไม่มีทางทำตามที่นางต้องการ

อย่างไรก็เป็นศิษย์อาจารย์กันมาหลายปี

อวี้หลานชิงมองออกทันทีว่า “อดีตอาจารย์” ของตนกำลังคิดอะไรอยู่

เขาอยากเห็นว่าถ้าเขาไม่เปลี่ยนคำพูด นางจะเล่นละครฉากนี้ต่อไปอย่างไร

เช่นนั้นนางจะให้เขาดูแบบเต็มตา!

อวี้หลานชิงเดินออกไปข้างหน้า ประสานมือโค้งคำนับเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ “ศิษย์จำได้ว่าตอนที่ไต่บันไดสวรรค์ได้เป็นอันดับหนึ่งเมื่อห้าปีก่อน ท่านเจ้าสำนักเคยสัญญาว่าจะเลือกผู้ใดในตำหนักเป็นอาจารย์ก็ได้”

“ไม่ทราบว่าตอนนี้ คำสัญญานี้ยังมีผลอยู่หรือไม่?”

“ต้องมีผลอยู่แล้ว” เจ้าสำนักอวิ๋นไห่เห็นว่าอวี้หลานชิงไม่ได้ล้อเล่น

เริ่มคาดเดาไม่ออกว่าศิษย์หญิงผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่

หรือจะต้องการคำนับผู้อื่นเป็นอาจารย์จริง ๆ?

“เจ้าต้องการคำนับผู้ใดเป็นอาจารย์?”

ทุกคนในตำหนักต่างมีสีหน้าสนใจใคร่รู้

อวี้หลานชิงกวาดสายตามองผู้อาวุโสทุกคน ก่อนจะหยุดสายตาที่บุรุษกำลังเอนเก้าอี้หลับตาอยู่ทางริมสุด

เทียบกับผู้อาวุโสหน้าตาเคร่งขรึมท่าทางน่าเกรงขามภายในตำหนักแล้ว บุรุษผิวขาวปากแดงรูปงามปานภาพวาดผู้นี้กำลังนอนหลับแบบไม่รักษาภาพลักษณ์ ราวกับมาผิดที่อย่างไรอย่างนั้น

สายตาของนางหยุดนิ่งอยู่ที่เขา

อวี้หลานชิงประกาศเสียงดังฉะฉาน “ศิษย์ต้องการคำนับท่านผู้อาสุโสเสิ่นแห่งยอดเขาชิงจู๋เป็นอาจารย์เจ้าค่ะ!”

ผู้อาวุโสในตำหนักต่างแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา

หากอวี้หลานชิงเลือกเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ หรือไม่ก็ผู้อาวุโสจวีหยางที่มีฝีมือเก่งกาจและขึ้นชื่อว่าเก่งด้านการสอนเป็นอาจารย์ พวกเขาก็คงไม่แปลกใจขนาดนี้

เหตุใดจึงเลือกเสิ่นหวยจั๋วได้?

เสิ่นหวยจั๋วที่มีแค่ตำแหน่ง ปกติเหมือนคนไร้ตัวตน ทำตัวเหลาะแหละและไม่มีผลงานอะไรเลยเนี่ยนะ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 100

    บรรดาสำนักที่เมื่อครู่นี้ลอยเด่นอยู่กลางอากาศ เวลานี้ได้ยึดครองตำแหน่งที่ดีที่สุดบนอัฒจันทร์แล้ว ส่วนสำนักขนาดกลางและขนาดเล็กที่เหลือก็แทรกตัวเข้าไปในช่องว่างที่สำนักใหญ่เหลือไว้ อวี้หลานชิงนั่งอยู่บนที่นั่งของศิษย์สายตรงชั้นใน นางกวาดตามองไปรอบ ๆ ทอดสายตามองไปยังเบื้องล่างที่มีศีรษะผู้คนอยู่อย่างเนืองแน่นผู้ฝึกตนในงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนมีเกือบหนึ่งแสนคนเลยทีเดียวเมื่อรอให้ทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว แสงที่เปล่งออกมาจากเสาค้ำฟ้าโดยรอบก็รวมตัวเข้าด้วยกันชายชราผมขาวโพลนดุจหิมะคนหนึ่ง ถือไม้เท้าหัวมังกร ดูสง่างามดั่งเซียนมากกว่าอวี้ชิงจื่อจากสำนักอวี้ซวีก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศทุกก้าวที่เดิน ร่างก็เข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้นราวกับว่าเดินมาจากท่ามกลางความว่างเปล่า ท้ายที่สุดก็หยุดอยู่ตรงใจกลางสนามเมื่อเขาปรากฏตัว เจ้าสำนักต่าง ๆ ที่อยู่บนที่นั่งสูงสุดของอัฒจันทร์โดยรอบก็พากันลุกขึ้น ประสานมือคารวะชายชราผู้นั้นแล้วร้องเรียกว่า “ผู้อาวุโสเช่อ” “ผู้อาวุโสเช่อผู้นี้เป็นใครกัน?” จิตวิญญาณของอวี้หลานชิงอยู่แค่ระดับหลอมแก่นปราณเท่านั้น ไม่อาจมองทะลุระดับพลังยุทธ์ของชายชราได้ คนท

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 99

    เวลานี้เอง ฉากที่อยู่ด้านนอกเสาค้ำฟ้าแทบจะเป็นภาพจำลองของโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรทั้งหมด เมืองที่รองรับผู้คนได้หลายแสนคนแห่งนี้ ทุกคนในเมืองล้วนเฝ้าติดตามสถานการณ์ของทางเสาค้ำฟ้าตรงใจกลางเมือง ศิษย์สำนักใหญ่ที่นำโดยอาจารย์จากสำนัก ต่างก็ยืนอยู่บนอาวุธวิเศษเหาะเหินขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงแวววาวของสำนักต่าง ๆ ส่วนลูกศิษย์ของสำนักขนาดกลางและขนาดเล็กก็ยืนอยู่บนพื้นดิน รออยู่รอบ ๆ เสาค้ำฟ้าอย่างเงียบเชียบถัดออกไปด้านนอก ยังมีผู้ฝึกตนอิสระนับไม่ถ้วนที่ไม่มีสิทธิ์เข้างานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนกำลังชะเง้อคอมองสถานการณ์ในนี้ แววตาแฝงไปด้วยความชื่นชมและความหลงใหลใฝ่ฝันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดก่อนที่หมอกจาง ๆ ที่ปกคลุมเสาค้ำฟ้าจะสลายหายไป สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังบรรดาเจ้าสำนักและผู้อาวุโสของสำนักใหญ่ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศอัดฉีดพลังวิญญาณเข้าไปในเสาค้ำฟ้า ผู้ที่ยืนตระหง่านกลางอากาศปลดปล่อยพลังอันมหาศาลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกตนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ส่วนมากก้าวเข้าสู่ระดับทารกวิญญาณช่วงปลายแล้ว ยังมีบางส่วนที่ครอบครองพลังของระดับเทพจุติด้วยผู้ทรงพลังที่มีคว

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 98

    บางทีอาจเป็นเพราะตอนนี้จี้ฝูเหยายังเยาว์วัย ยังไม่เข้าใจการเก็บงำอารมณ์โดยสมบูรณ์ หรืออาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาสองชาติ ทำให้อวี้หลานชิงเข้าใจนางดีเกินไป เมื่อจิตสัมผัสรู้สึกได้ถึงสายตาของจี้ฝูเหยาที่มองตามหลังอีกฝ่ายไป อวี้หลานชิงก็คาดเดาการกระทำต่อไปของนางได้แล้ว นางทำเช่นนี้เป็นประจำใช้ท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา คำนึงถึงผู้อื่นมาดึงดูดทุกคนที่มีประโยชน์ต่อนาง ชาติที่แล้ว หากไม่ใช่เพราะกระบี่ที่ทะลวงหัวใจในตอนสุดท้าย อวี้หลานชิงก็คงถูกรูปลักษณ์ภายนอกของนางหลอกไปแล้ว ในฐานะผู้หญิงเหมือนกัน อวี้หลานชิงไม่อยากใช้คำพูดที่ร้ายกาจมาบรรยายจี้ฝูเหยา แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนที่แสดงออกมาเลย สายตาของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนน่าเป็นห่วงยิ่งนักความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมาในใจ อวี้หลานชิงก็อดไม่ได้ที่จะ “ถุย” อีกครั้ง ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนก็ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนกัน ศิษย์อาจารย์คู่นั้นชอบพอกันและกัน มีความรักต้องห้าม เรียกได้ว่าเหมือนเต่ามองถั่วเขียว รับสืบทอดสายตาที่ย่ำแย่มา“ไปกันเถิด” อวี้หลานชิงหันหน้ากลับมามอง เจ้าของแผงลอยที่ยังกำถุงเก็บของไว้แน่นเพราะกล

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 97

    อวี้หลานชิงไม่ได้สนใจสายตาของผู้คนรอบข้าง และไม่อยากอธิบายอะไร เดิมทีนางก็ไม่ได้คิดจะสังหารสัตว์วิญญาณตัวนี้เลย ในเมื่อจี้ฝูเหยายินดีเข้ามายุ่งเรื่องผู้อื่น ก็ปล่อยให้นางดูแลต่อไปก็พอ “ศิษย์หลานกล่าวมีเหตุผล เช่นนั้นหน้าที่สำคัญอย่างตามหาเจ้าของสัตว์วิญญาณตัวนี้ก็ยกให้ศิษย์หลานจัดการแล้วกัน” “แต่ว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้มีนิสัยซุกซน ศิษย์หลานต้องคอยจับตาดูหน่อย อย่าให้มันทำร้ายผู้คนอีกเป็นอันขาด” อวี้หลานชิงพูดจบก็เก็บกระบี่ยาว เจ้าของแผงลอยที่อาศัยช่วงเวลาชุลมุนเก็บกล่องบรรจุหญ้าเย็นกระจ่างกลับคืนสู่อ้อมอกอีกครั้ง ก็ฉวยโอกาสที่จี้ฝูเหยาพูดเมื่อครู่นี้เก็บข้าวของบนแผงลอยจนเสร็จเรียบร้อยนานแล้วอวี้หลานชิงส่งสายตา เขาก็เดินตามหลังนางออกจากฝูงชนทันทีจิ้งจอกแดงเพลิงที่ก่อความวุ่นวายไปครึ่งถนนตัวนั้น เมื่อครู่กำลังทำตากลมสุกใสนิ่งอยู่กับที่ มองอวี้หลานชิงกับจี้ฝูเหยาเหมือนชมละครสนุก ๆ ก็ไม่ปานปากยังคงเคี้ยว “หนวดหัวไชเท้า” ที่มันโยนทิ้งไว้บนพื้นลวก ๆ ก่อนหน้านี้อย่างไม่เร่งรีบเมื่อเห็นอวี้หลานชิงและเจ้าของแผงลอยนำสมุนไพรวิญญาณที่มันหมายตาจากไป มันก็อดร้อนใจไม่ได้มันคายหนวดหัว

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 96

    วิญญาณร้ายยังไม่สลายไปสักที ในสมองของอวี้หลานชิงผุดขึ้นมาแปดคำทันที จี้ฝูเหยาที่อยู่ตรงหน้าถือกระบี่ใบหลิวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ปลายกระบี่เรียวเล็ก ตรงด้ามกระบี่เคลือบทอง บนนั้นยังฝังอำพันที่ส่องประกายแวววาวสามก้อนตอนที่กระบี่ทั้งสองปะทะกันเมื่อครู่นี้ อวี้หลานชิงรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณธาตุไฟที่บริสุทธิ์สายหนึ่งปรากฏขึ้นบนตัวกระบี่เล่มนั้น เป็นลมปราณสายนี้เองที่ต้านทานปราณกระบี่ของนาง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นกระบี่เล่มใหม่ที่ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนมอบให้จี้ฝูเหยา แม้จะเทียบไม่ได้กับกระบี่ที่หล่อหลอมปราณกระบี่ของปรมาจารย์กระบี่เยวี่ยหวาเล่มนั้นในชาติก่อน ซึ่งเข้ากับวิชาที่จี้ฝูเหยาฝึกฝนแต่ก็เป็นกระบี่ดีที่หาได้ยากเล่มหนึ่งจริง ๆ อย่างน้อยในแง่ของระดับก็ถือว่าหายากมากนี่ไม่ใช่อาวุธวิเศษ แต่เป็นอาวุธวิญญาณ แตกต่างกันเพียงคำเดียว แต่ราคาและความล้ำค่าระหว่างทั้งสองนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว อาวุธวิญญาณทั่วไปมีราคาแค่หินวิญญาณไม่กี่ร้อยก้อน แพงอีกแค่ไหนก็แค่พันกว่า แต่อาวุธวิญญาณเป็นสิ่งที่มีราคาแต่ไม่มีในตลาดมาโดยตลอด อย่าว่าแต่ผู้ฝึกตนระดับหลอมปราณเลย ตลอดชีวิตของผู้ฝึกตนระดับห

  • เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง   บทที่ 95

    เจ้าของแผลลอยกล่าวจบก็แอบเชยตามองปฏิกิริยาของอวี้หลานชิง จากนั้นก็เห็นนางทำสีหน้าเคร่งขรึม ไม่เอ่ยสักคำเดียวในใจอด “กระตุก” ขึ้นมาไม่ได้ผู้ฝึกตนหญิงผู้นี้คงไม่ให้เขาคืนหินวิญญาณหรอกนะ?ศิษย์ของสำนักใหญ่ ปกติแล้วจะไม่ยอมเสียหน้ากระมัง?แต่ว่าไม่มีเรื่องอะไรที่แน่นอน เขาตัดสินใจแล้วว่าหากผู้ฝึกตนหญิงตรงหน้าให้เขาคืนหินวิญญาณละก็ เขาจะเก็บแผงหนีไปทันที จากนั้นก็เปลี่ยนที่แล้วค่อยตั้งแผงใหม่ เจ้าของแผงลอยถึงค่อยเอ่ยปากพูดอย่างระมัดระวังว่า “สหายน้อย?” สิ่งที่อวี้หลานชิงคิดไม่ใช่เรื่องขอหินวิญญาณคืน “เมื่อครู่ท่านบอกว่าสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ระงับพิษเพลิงชื่อว่าอะไรนะ?”“หญ้าเย็นกระจ่าง สมุนไพรวิญญาณชั้นสูง หนึ่งต้นสามารถระงับพิษเพลิงได้สามเดือน” ความคิดที่จะหนีไปของเจ้าของแผงลอยถูกโยนทิ้งไว้ที่ด้านหลังสมองทันที ก่อนจะถามด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้นว่า “สหายน้อยถามถึงสมุนไพรนี้ แสดงว่า?”“ข้ามีอยู่ต้นหนึ่ง” อวี้หลานชิงก็เพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกันว่ามีสมุนไพรวิญญาณเช่นนี้อยู่ในแหวนเก็บของของตนเป็นของที่ผู้อาวุโสจวีหยางจากสำนักมอบให้ในพิธีกราบอาจารย์ก่อนหน้านี้ สมุนไพรวิญญาณที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status