Share

ตอนที่ 4 แม่ดอกบัวขาว

last update Last Updated: 2025-04-15 16:52:02

เมื่อร่างกายพร้อมแล้วฉวนเร่อหลานก็ไม่รีรอที่จะเอาคืนมู่ซือซือผู้ร้ายกาจ

เท่าที่ฟังจากเสี่ยวชิงเล่าแล้ว มู่ซือซือผู้นี้เดิมทีเป็นอี้จี[1] ที่บุรุษต่างหมายปอง นางติดตามฉวนเซ่าฉือมาจากต่างเมือง เดิมตกลงกันว่าจะรับไว้เป็นอนุคนที่เจ็ด แต่กลับเป็นที่หลงใหลมากกว่าอนุผู้ใด

จนฉวนเซ่าฉือยินยอมจะจัดงานแต่งงานให้นางเข้าตระกูลฉวนได้อย่างออกหน้าตามที่อีกฝ่ายร้องขอ ยอมผิดคำสัญญาแก่ฉวนฮูหยิน มารดาของเจ้าของร่างนี้ เช่นเดียวกับถังฮ่าวอี้ที่ผิดสัญญากับหลิวอี้เจิน

แบบนี้จะไม่ให้นางเกลียดการออกเรือนได้อย่างไร ในความคิดของฉวนเร่อหลานตอนนี้นางเกลียดชังบุรุษยิ่งนัก พวกเขาเห็นความรักและความไว้ใจของภรรยาเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า

“คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ” เสี่ยวชิงและสาวใช้อีกสองคนเดินตามมาไม่ห่าง

“อยากไปนั่งเล่นที่สวนที่เรือนใหญ่เสียหน่อย ไปดูดอกบัวน่ะ” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงที่แสดงถึงความสดใส อยากให้สาวใช้คนอื่นๆ ยังเข้าใจว่าตนยังคงเป็นคุณหนูที่แสนดี

“แต่เวลานี้แม่นางมู่กำลังนั่งจิบน้ำชากับนายท่านที่สวน ข้าเกรงว่าจะไม่เป็นการดีนัก” เสี่ยวชิงบอกด้วยความกังวล ไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมากับคุณหนูของตนอีก

“ในเมื่อนางอยากผูกมิตรกับข้า มีสิ่งใดเล่าที่ไม่ควร” ฉวนเร่อหลานกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วเดินไปยังศาลาในสวนของเรือนหลักด้วยก้าวย่างที่มั่นคงไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย

มู่ซือซือที่กำลังบรรเลงพิณให้ความสำราญแก่เจ้าเมืองฉวน เมื่อเห็นว่าฉวนเร่อหลานเดินเข้ามาทางศาลาที่พวกตนนั่งอยู่จึงวางพิณลงแล้วลุกขึ้นยืนไปต้อนรับด้วยจริตที่แสร้งทำว่าห่วงใย

“คุณหนูรอง หายดีแล้วหรือ ข้ายังไม่ได้ไปเยี่ยมเจ้าเลย เห็นยิ้มแย้มแบบนี้ก็โล่งใจ”

“โชคดีที่ข้าถูกช่วยขึ้นจากน้ำทันเลยไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่เช่นนั้นคงได้จมน้ำเพราะถูกท่านเดินชนโดยไม่ตั้งใจ แต่ข้าไม่โทษท่านหรอกเจ้าค่ะ เชื่อว่าท่านคงไม่ตั้งใจให้ข้าจมน้ำแบบนั้น”

คำพูดที่ดูแฝงไปด้วยความนัยทำให้นางมู่ได้แต่ยิ้มรับ ภายในใจกลืนคำพูดที่จะตอบโต้ออกไปเพราะไม่อยากให้เจ้าเมืองฉวนเห็นด้านที่ร้ายกาจ

“ข้ารู้สึกผิดยิ่งนัก ตอนนั้นหากข้าไม่เดินพลาดคงไม่ชนเจ้าจนตกน้ำ” กล่าวแล้วมือเรียวก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาที่ไม่ได้หลั่ง

ฉวนเซ่าฉือเห็นดังนั้นก็เดินมาโอบไหล่แล้วปลอบใจเป็นการใหญ่ “อย่าได้เศร้าไป เจ้าไม่ได้ตั้งใจมิใช่หรือซือซือ”

เมื่อเห็นว่าบิดาปิดหูปิดตา ขนาดตนพูดเหน็บแนมแฝงความนัยที่ตกน้ำก็ยังมิได้สนใจตีความหมาย กลับเอาอกเอาใจหญิงงามแพศยาตรงหน้า โดยไม่สนใจบุตรีที่เพิ่งหายป่วยเลยสักนิด

“โอ๊ย... ข้าเวียนหัว”

ร่างอรชรของบุตรีกำลังเซเล็กน้อย ฉวนเซ่าฉือรีบปล่อยมือจากมู่ซือซือแล้วรีบมารับร่างของฉวนเร่อหลานเอาไว้ก่อนจะล้มลง นางจึงรู้ว่าบิดาก็รักนางอยู่เพียงแต่ความหลงใหลที่มีต่อมู่ซือซือนั้นก็มากเช่นกัน

“ยังไม่หายดีก็ออกมาเดินตากลม เจ้าอย่าทำให้พ่อเป็นห่วงนักเลยหลานหลาน”

“ลูกรู้สึกเบื่อเจ้าค่ะ อีกอย่างพอตกน้ำความจำก็เลือนหายไปหลายส่วน จึงอยากเดินดูบรรยากาศเดิมๆ เผื่อจะช่วยให้จำอะไรได้บ้าง” ฉวนเร่อหลานกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน แล้วลอบหันไปยกยิ้มที่มุมปากเพื่อเยาะเย้ยมู่ซือซือ

เมื่อเห็นว่าคุณหนูรองฉวนที่แท้ก็แสร้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากบิดา นางจึงไม่รอช้าที่จะทำการแสดงบ้าง

“ท่านเจ้าเมือง จู่ๆ ข้าก็ปวดท้อง” พูดจบก็เอามือวางกุมที่ท้องของตน

ฉวนเร่อหลานกอดแขนบิดาไว้ ทำราวกับว่าตนยืนไม่อยู่ ทำให้ท่านเจ้าเมืองต้องประคองบุตรีเอาไว้ แล้วหันไปสั่งสาวใช้ที่ยกให้เป็นสาวใช้ของมู่ซือซือ

“อาหลิง ดูแลซือซือด้วย”

สาวใช้วัยสิบหกรีบเข้าไปประคองมู่ซือซือเอาไว้ ทำให้นางรู้สึกขัดใจยิ่งนักที่ฉวนเร่อหลานตั้งใจเปิดศึกกับตนอย่างชัดเจน

“ท่านเจ้า...” ยังไม่ทันที่จะพูดเรียกร้องความเห็นใจใดๆ ฉวนเร่อหลานก็ชิงความสนใจของเจ้าเมืองฉวนตัดหน้าตนเสียแล้ว

“ท่านพ่อ...” นางกล่าวเสียงเบาแล้วหมดสติไปในอ้อมแขนของบิดา

ฉวนเซ่าฉือรีบอุ้มช้อนตัวบุตรสาว อุ้มนางกลับไปยังหอนอนที่อยู่ฝั่งซ้ายในเรือนหลักด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

“ไปตามหมอมา” พูดไปก็เดินอุ้มบุตรีไป เสี่ยวชิงจึงต้องรีบไปเรียกให้หมอมาดูอาการคุณหนูของตน

มู่ซือซือสะบัดมือสาวใช้เสี่ยวหลิงออกจากตน ยืนกำมือแน่นด้วยความรู้สึกที่แค้นจนอกแทบจะระเบิดออกมา

“แม่นางมู่ ท่านหายปวดท้องแล้วหรือเจ้าคะ” เสี่ยวหลิงถามสาวงามที่รอการตบแต่งจากนายท่าน ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีสถานะอะไรในเรือน นอกจากเป็นแขกของท่านเจ้าเมือง

เพียะ! ฝ่ามือของนางฟาดเข้าที่แก้มซ้ายของสาวใช้จนอีกฝ่ายทรุดนั่งลงกับพื้น

เสี่ยวชิงเอามือกุมหน้านั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เป็นโชคร้ายของตนที่ถูกเลือกให้มารับใช้ว่าที่อนุร้ายกาจผู้นี้ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเป็นบ่าวก็ไม่สามารถเลือกนายของตนได้

“กล้าดีอย่างไรมาถามข้า” เมื่อไม่ได้ดั่งใจจึงระบายอารมณ์กับผู้ที่ไม่มีทางสู้ แววตาของมู่ซือซือในยามนี้ฉายแววร้ายกาจและน่ากลัวจนเสี่ยวชิงรู้สึกถึงภัยที่จะมาถึงตน

“บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ” น้ำเสียงนั้นกล่าวด้วยความกลัว ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาที่ดุดันนั้น

มู่ซือซือหายใจแรงๆ ใบหน้างามเขียวคล้ำบึ้งตึงด้วยโทสะ หันกลับไปมองแผ่นหลังฉวนเซ่าฉือที่ไกลออกไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทวีความเจ็บแค้นแก่คนในอ้อมแขนนั้น

“ฉวนเร่อหลาน... กล้าดีอย่างไรมาทำให้ท่านเจ้าเมืองเมินข้า” นางกล่าวออกมาโดยไม่สนใจว่าเสี่ยวชิงจะเอาคำพูดร้ายกาจของตนไปฟ้องใคร สาวใช้อย่างนางพูดไปจะมีใครเชื่อ 

ในขณะเดียวกันฉวนเร่อหลานที่แสร้งหมดสติ เมื่อพิสูจน์ได้แล้วว่าตนเป็นบุตรีที่บิดาให้ความรักและห่วงใยอยู่มาก ก็คิดได้ว่าการที่จะจัดการกับมู่ซือซือนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

เพียงแต่ต้องรอจังหวะเวลาที่จะเปิดเผยธาตุแท้ของนางออกมาให้บิดาประจักษ์ โดยใช้ความรักที่บิดามีให้แก่ตนและความอ่อนแอไม่สู้คนของฉวนเร่อหลานในการจัดการกับนางจิ้งจอกนั่น

“หลานหลาน” ฉวนฮูหยินร้องเรียกชื่อบุตรี เมื่อเห็นว่าสามีอุ้มนางกลับมาที่เรือน

“หลานหลานหมดสติในสวน ข้าให้คนไปตามหมอเฉินแล้ว” พูดจบก็พอบุตรีกลับไปยังหอนอน แล้ววางลงบนตั่งนอนด้วยความระมัดระวัง

“ไม่ใช่ถูกนังผู้หญิงชั่วนั้นรังแกเอาอีกแล้วหรือ” หลี่หงกล่าวเสียงแข็ง ฉวนเร่อหลานไม่ได้สติขนาดนี้จะเป็นฝีมือใครไปได้

“เจ้าอย่าหาเรื่องซือซือ นางไม่ได้ทำอะไรแม้แต่น้อย ลูกเราหมดสติไปเอง เจ้าเลิกอคติกับนางเสียทีเถิดฮูหยิน” น้ำเสียงของบิดาที่ต่อว่ามารดา ทำให้ฉวนเร่อหลานยิ่งอยากจัดการมู่ซือซือให้เร็วที่สุด

************************

[1]  อี้จี คือหญิงงามในหอคณิกาหรือหอสังคีต ทำหน้าที่ให้ความสุขด้านการระบำและดนตรี ส่วนใหญ่ไม่ได้ขายบริการทางเพศ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 30 ตอนจบ

    ในตอนเช้าของวันหนึ่ง ฉวนเร่อหลานมีอาการไม่สู้ดีนัก ใบหน้าของนางซีดเซียวและกินอาหารไม่ลง กินสิ่งใดก็อาเจียนและคลื่นไส้ไปหมด ทำให้หยางหมิงซานไม่ได้ออกไปฝึกซ้อมทหารและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สองเจิ้งในการควบคุมดูแลการฝึกซ้อมแทนตน และอยู่ดูแลภรรยาไม่ห่างหมอเฉินผู้มีศักดิ์เป็นท่านลุงของฉวนเร่อหลาน ถูกเชิญให้มาตรวจดูอาการ ทันทีที่ตรวจชีพจรและสอบถามอาการต่างๆ เบื้องต้น รอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นที่ใบหน้า ทำให้แม่ทัพหนุ่มอยากรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น“ท่านลุงเฉิน ไม่ทราบว่าข้าเป็นอะไรหรือ”“ยินดีด้วย เจ้าตั้งครรภ์อยู่ร่างกายจึงอ่อนแอ เป็นธรรมดา หลังจากนี้พักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าสิ่งใดที่หักโหมให้มาก ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ หลังจากนี้ก็ดูแลตัวเองให้ดี ดื่มยาบำรุง เท่านี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว”“ขอบคุณท่านหมอ” หยางหมิงซานกล่าว แล้วขยับไปนั่งกุมมือภรรยาที่นอนอยู่ ในขณะที่หมอเฉินกำลังเขียนใบสั่งยาาเอาไว้ให้ฉวนเร่อหลานเอามือกุมท้องของตน นางกำลังตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก ในที่สุดก็จะได้สัมผัสรสชาติของการเป็นแม่ ไม่คิดเลยว่าแต่งงานเพียงไม่กี่เดือน ตนก็จะมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแร

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 29 ฮูหยินหยาง

    ฉวนเร่อหลานสามารถจัดการเรื่องทุกอย่างในจวนได้อย่างไม่มีที่ติ คนรับใช้ที่ติดตามมาจากสกุลเดิมนั้นมีส่วนหนึ่ง มีคนของหยางหมิงซานส่วนหนึ่ง และได้ซื้อตัวเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการคัดเลือกนั้นก็เป็นนางที่ทำหน้าที่ด้วยตนเอง เข็ดแล้วกับบ่าวที่คิดคดทรยศ อย่างสืออิน จะต้องหาผู้ที่ซื่อตรงและไว้ใจได้นอกจากนั้นงานบ้านงานเรือนก็เรียบร้อย และเป็นระเบียบ ตั้งกฎของจวนร่วมกันกับหยางหมิงซานผู้เป็นสามี มีความเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้บ่าวในเรือน ทำผิด เพราะโทษที่จะได้รับนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้าง หนักหนา“วันนี้นายหญิงลงมือทำอาหารด้วยตนเองอีกแล้ว เช่นนี้แม่ครัวก็สบายไปเลยนะสิเจ้าคะ” เสี่ยวชิงและเสี่ยวหลิงที่กำลังเป็นลูกมืออยู่ในครัว ต่างก็รู้สึก ว่านายหญิงของตน เอาใจสามีบ่อยไปแล้ว“สบายที่ไหนกันเล่า ข้าทำอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม่ครัวก็ทำอีกตั้งหลายอย่าง”“แต่อย่างเดียวที่นายหญิงทำ ใช้เวลานานมากเลยนะเจ้าคะ กลับเข้าห้องเถิดเจ้าค่ะ ที่เหลือให้บ่าวทำต่อเอง บ่าวรู้ว่าคุณหนูจะใส่สิ่งใดลงไปบ้าง”“ใช่แล้วเจ้าค่ะนายหญิง ให้พวกบ่าวช่วยทำต่อเถอะเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลิงเองก็ช่วยเสี่ยวชิงโน้มน้าวให้นายหญิงกลับออกไปพ

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 28 ฤกษ์งามยามดี

    หลังจากที่ผลัดการแต่งงานมาหลายครา ในที่สุด งานแต่งงานระหว่างแม่ทัพหยางคนลูกและบุตรีท่านเจ้าเมืองจินโจวก็เกิดขึ้น ตามฤกษ์ยามที่วางเอาไว้เจ้าสาวแสนสวยอยู่ในชุดสีแดงที่ปักด้วยลวดลายที่ประณีต ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ ทำให้ใบหน้าหวานดูสวยงามและโดดเด่น เครื่องประดับหัวที่หนักอึ้งทำให้ต้องนั่งหลังตรงเพื่อไม่ให้ทิ้งน้ำหนักเอนไปทางใดทางหนึ่ง“วันนี้คุณหนูของบ่าวงดงามที่สุด” เสี่ยวชิงพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตารื้นปริ่มอยู่เส้นขอบตาด้วยความ ปลื้มปีติ ที่คุณหนูของตนกำลังจะออกเรือน“พอได้แล้ว ข้าจะร้องตามเจ้าแล้ว” ฉวนเร่อหลานอมยิ้ม เกรงว่าน้ำตาจะไหลตามแล้วทำให้ใบหน้าเปรอะเปื้อน ทำให้เสี่ยวชิงรีบกะพริบตาไล่น้ำตาออกไป ไม่ให้ไหลออกมาเมื่อถึงฤกษ์ยามที่เหมาะสม ผ้าคลุมศีรษะของเจ้าสาวก็ถูกวางคลุมบนเครื่องประดับหัว ชายผ้าถูกปิดลงมาจนถึงใบหน้าสวยงามในวันมงคลเจ้าสาวถูกพาไปยังห้องโถงพิธีเพื่อทำตามขั้นตอนตามประเพณีหยางหมิงซานสวมชุดเจ้าบ่าวพิธีการเต็มยศสีแดง เดินทางมารับฉวนเร่อหลานเจ้าสาวของตนถึงที่บ้านเจ้าสาวตามธรรมเนียม จากนั้นจึงไปเคารพศาลบรรพชนของสกุลฉวน พร้อมกับให้หนังสื

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 27 ความจริง

    การมาถึงของนายอำเภอรูปงามทำให้หยางหมิงซานชักสีหน้าออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างเปิดเผย และที่น่าโมโหคือฉวนเร่อหลานไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ ใบหน้าที่ดีใจที่เห็นบุรุษอื่นอย่างไม่ปิดบัง ยิ่งทำให้หัวใจปวดร้าว“ข้าจะแนะนำท่านให้รู้จักกับพี่ยี่หาน” นางหันมาบอกก่อนที่บุรุษนามว่ายี่หานที่เรียกอย่างสนิทสนมนั้นจะเดินเข้ามาถึง‘พี่ยี่หาน’ นางเรียกบุรุษอื่นอย่างสนิทสนมเช่นนั้นได้อย่างไร“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”“อืม” นายอำเภอหนุ่มตอบ มองไปยังหยางหมิงซานยืดอกขึ้นเล็กน้อยอวดหุ่นกำยำราวกับจะข่มขวัญ“พี่ใหญ่ นี่คือรองแม่ทัพหยางหมิงซาน พี่หมิงซาน ผู้นี้คือพี่ชายของข้า ฉวนยี่หาน”บุรุษทั้งสองโค้งศีรษะให้แก่กัน แล้วเผยรอยยิ้มออกมาทั้งคู่ โดยเฉพาะบุรุษร่างกำยำที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าบึ้งตึง เมื่อรู้ว่าบุรุษเจ้าสำอางที่ตนเกือบไม่ชอบหน้าในตอนแรก แท้จริงคือพี่ชายของฉวนเร่อหลาน บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองจินโจว จึงยิ้มออกมา“ได้ยินว่านายอำเภอซีเหอ มีผลงานตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่คิดว่าจะเป็นคนกันเอง”“ข้าก็ได้ยินมาว่าท่านเป็นรองแม่ทัพตั้งแต่อายุยังน้อย และกำลังจะเป็นแม่ทัพประจำที่จินโจว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งแต่งตั้ง น่านับถือย

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 26 ไหน้ำส้มแตก

    แปดเดือนผ่านไปในช่วงเหมันตฤดูที่เริ่มมีลมหนาวพัดผ่านมากระทบร่าง ขบวนรถม้าของนายอำเภอซีเหอ เขตเมืองซีเถาของแคว้นกู่ กำลังมุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองจินโจวและตรงไปยังจวนของเจ้าเมืองที่ตั้งอยู่ตรงหน้าภายในรถม้าคือนายอำเภอหนุ่มวัยยี่สิบที่มีรูปร่างสันทัด รูปงาม และมีความฉลาดและเที่ยงธรรมจนเลื่อนขั้นได้ด้วยความสามารถ แต่ยังไม่ได้ออกเรือนเนื่องจากยังไม่พบสตรีที่ถูกใจเมื่อรถม้าไปถึงหน้าจวนสกุลฉวน ก็พบว่ามีรถม้าอีกคันมาจอดเช่นเดียวกับตน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจผู้ที่มาเยือน ลงจากรถม้าแล้วให้บ่าวที่ตามมาขนข้าวของเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมหยางหมิงซานลงมาจากรถม้า เห็นบุรุษหนุ่มเจ้าสำอางที่รูปงามเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับข้าวของที่ดูเหมือนเป็นของกำนัล ก็มองด้วยความสงสัยเจิ้งจิ้งเหยาและเจิ้งจิ้งหยวนถือกล่องที่มัดด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินคนละกล่อง เดินตามรองแม่ทัพหยางเข้าไปในจวนแล้วก็ต้องชะงักเท้าเมื่อหยางหมิงซานหยุดเดินแล้วถามทหารที่เฝ้ายามอยู่หน้าประตูวันนี้เป็นวันที่ฉวนเร่อหลานอายุครบสิบแปด ทุกปีจะมีเทียบเชิญส่งไปยังตระกูลใหญ่ไม่กี่ที่ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างสตรีวัยเดียวกัน เพราะเดิมฉวนเร่อห

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 25 ร่ำลา

    เมื่อรอจนถึงยามซวี[1] บุรุษหน้านิ่งที่คิดว่าจะมาหาก็ยังไม่ได้มาเยือนที่หน้าห้องฉวนเร่อหลานตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเดินไปหาเสียเอง เพราะพรุ่งนี้เขาต้องนำทหารส่วนหนึ่งคุมรถม้าที่จะไปส่งสกุลเซียวออกนอกแคว้นกู่ และจะถือโอกาสกลับไปร่วมรบที่ชายแดนฝั่งตะวันออกเมื่อเดินพ้นจากเขตเรือนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ทางเดินเรือนรับรอง ก็พบว่ารองแม่ทัพหนุ่มก็กำลังเดินมาหาตนเช่นกัน“คุณหนูรอง ท่านจะไปที่ใดยามวิกาลเช่นนี้” พูดแล้วก็หันไปรอบๆ เห็นทหารยามเดินผลัดเวรยามอยู่บริเวณนั้นก็ทำหน้าเคร่งขรึมจนพวกนั้นไม่ได้หันมามองยังพวกตน“ข้าจะ...ไปห้องพระ”“ห้องพระไม่ได้อยู่ในเรือนใหญ่หรอกหรือ” น้ำเสียงนั้นกล่าวถามอย่างรู้ทัน“เป็นเช่นนั้น... สงสัยว่าข้าคิดเรื่องอื่นอยู่จึงเดินเลยมาถึงตรงนี้” สิ้นประโยคที่กลบเกลื่อนความเขินอายนั้น ร่างอรชรก็หันหลังรีบเดินกลับไป ตอนแรกใจกล้าจะมาอวยพรให้คู่หมั้นหมายเดินทางอย่างปลอดภัย แต่พอเจอหน้าก็เขินอายจนทำตัวไม่ถูกเสียอย่างนั้น“ให้ข้าเดินไปส่งท่าน” ฝ่ามือขนาดใหญ่ผายเชิญให้นางเดินไปด้วยกัน ขณะที่เดินไปนั้นต่างคนก็ต่างอมยิ้มน้อยๆ จนมุมปากยกขึ้นอย่างเปิดเผย“พี่หมิงซานยังไม่นอนอีกหรือ พร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status