แชร์

ตอนที่ 5 ร้อยเล่ห์

ผู้เขียน: ฝ้ายสีคราม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-15 16:52:06

ร่างอรชรนอนอยู่บนตั่งนอนในห้องนอนของตน ท่ามกลางสายตาที่ห่วงใยจากบิดาและมารดาที่นั่งเฝ้าอยู่ในห้อง

“หลานหลานยังไม่หายดีแต่ก็ออกไปเดินแบบนั้นจึงเป็นลมหมดสติไป เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกฮูหยิน” เจ้าเมืองฉวนบอกแก่หลี่หงภรรยาเอกของตนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นร้อนใจกับอาการเจ็บป่วยของบุตรสาว

“หมดสติหรือโดนกลั่นแกล้งกันแน่” ฉวนฮูหยินกล่าวเสียงแข็ง ตั้งแต่สามีพาหญิงงามกลับมาที่เรือน ทุกอย่างก็เลวร้ายลงไปทุกวัน

“เจ้าอคติกับซือซือมากเกินไปแล้ว ข้าเห็นเองกับตาว่าลูกเราไม่สบาย ซือซือนางมิได้แตะหลานหลานแม้แต่ปลายเล็บ” ฉวนเซ่าฉือกล่าวเสียงแข็ง

ริมฝีปากของผู้เป็นภรรยาเอกเม้มแน่น จะทำหรือไม่นางไม่สนใจ เพราะอย่างไรเสียสามีก็เข้าข้างผู้หญิงแพศยานางนั้นอยู่แล้ว

เฉินกู้เฉียงหมอที่ถูกเรียกเข้ามา เป็นญาติฝ่ายมารดาของหลี่หง ในห้องนอนของคุณหนูรองฉวน เขาจับชีพจรและตรวจดูก็พบว่าทุกอย่างเป็นปกติดี จึงวินิจฉัยว่าอาจเป็นเพราะร่างกายเพิ่งฟื้นตัวจึงยังคงอ่อนเพลียอยู่ และจัดยาบำรุงเอาไว้ให้

“ไม่มีอะไรมากแล้ว ข้าต้องขอตัวก่อน” หลังจากตรวจสอบอาการป่วยเสร็จก็จะกลับไป

“เสร็จแล้วเชิญท่านไปทางด้านนั้น ในเรือนยังมีคนป่วยอีกคน” ฉวนเซ่าฉือวางใจกับอาการของบุตรี จากนั้นก็ผายมือเชิญให้หมอวัยกลางคนเดินตามออกไปที่เรือนทางด้านหลัง

“หึ ดูเอาเถิด นี่หรือท่านเจ้าเมืองจินโจวผู้ตงฉิน แค่ให้ความยุติธรรมแก่ลูกเมียยังทำไม่ได้” หลี่หงกล่าวด้วยความเจ็บใจ

ฉวนเร่อหลานที่แกล้งหลับอยู่ได้ยินทุกอย่าง เข้าใจหัวอกของภรรยาเอกที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากสามี แต่เจ้าเมืองฉวนไม่ได้เลวอย่างเช่นถังฮ่าวอี้ เขาแค่ถูกความงามของมู่ซือซือบังตาเท่านั้น

ที่ห้องนอนของมู่ซือซือที่บัดนี้อยู่ในสถานะแขกที่มาพักที่เรือน พอรู้ว่าฉวนเซ่าฉือพาหมอมารักษาตนก็รีบแสร้งทำเป็นว่าเจ็บป่วยจนทนไม่ไหว

“เป็นอย่างไรบ้างซือซือ” เจ้าเมืองฉวนแทบจะพุ่งเข้าไปหาด้วยความห่วงใย

“ปวดหัวไม่ไหว รู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างรอบกายหมุนไม่หยุด อยากอาเจียนเจ้าค่ะ” น้ำเสียงเบาหวิวราวกับจะขาดใจ กรีดนิ้ววางมือที่ศีรษะเพื่อแสดงให้รู้ว่าตนเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว

“ตอนแรกเจ้าปวดท้อง ตอนนี้ลามมาปวดหัวแล้วหรือ” ฉวนเซ่าฉือถามอย่างร้อนใจ

มู่ซือซือเอามือกุมที่ท้องแล้วนิ่วหน้า แอบถลึงตามองเสี่ยวหลิงที่ไม่เตือนว่าตนปวดท้องมิใช่ปวดหัว จนสาวใช้วัยสิบหกหนาวต้องรีบก้มหน้าลงเพราะเกรงจะมีความผิด

“เช่นนั้นท่านเจ้าเมืองถอยออกไปก่อน ข้าขอตรวจชีพจรนางสักครู่” ท่านหมอได้กล่าวขึ้น แล้วเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ที่วางข้างตั่งนอน จับชีพจรดูแล้วพบว่าอีกฝ่ายแข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น

“อาการป่วยนี้ยากที่จะบอกว่าเกิดจากสาเหตุใด ชีพจรของนางปกติมาก แต่กลับมีอาการปวดท้องและวิงเวียนศีรษะ เป็นท่าไม่ดีแล้ว” มือของเขายกขึ้นลูบเคราที่ปลายคางอย่างครุ่นคิด

“เช่นนั้นมีทางรักษาหรือไม่” เจ้าเมืองแห่งจินโจวถามด้วยความร้อนใจ

“ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ และต้องฝังเข็มสักเล็กน้อยให้เลือดลมของนางไหลเวียน” แววตานั้นเต็มไปด้วยความหลักแหลมและล้ำลึก อาการป่วยสำออยนี้ตนเห็นมามากแล้ว และนางยังเข้ามาทำร้ายหลานสาวของตนจนตกน้ำ คงต้องสั่งสอนเสียหน่อย

“ฝะ ฝังเข็มอย่างนั้น” คราวนี้มู่ซือซือถามเสียงสั่น แสร้งป่วยจะให้กินยาและฝังเข็ม นางจะเปลืองร่างกายเกินไปแล้ว

“ใช่แล้ว นอนนิ่งๆ ลงไป ข้าจะเริ่มทำการฝังเข็มรักษาให้ รับรองว่าอาการเจ็บป่วยจะหายเป็นปลิดทิ้ง” แววตาของเฉินกู้เฉียงดูเต็มไปด้วยความจริงจังและบ่งบอกว่าเขารู้เท่าทันนาง แม้ตอนนี้อยากบอกว่าตนไม่เป็นอะไร มีหรือจะพูดได้ จึงจำใจต้องนอนนิ่งๆ ให้เขาได้รักษา

เจ้าเมืองฉวนมองดูญาติห่างๆ ของภรรยาทำการรักษาหญิงงามด้วยการฝังเข็ม เฉินกู้เฉียงค่อยๆ หมุนเข็มไปยังจุดต่างๆ เป็นการฝังเข็มเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย แม้อยากจะสั่งสอนแต่ก็ไม่ได้จะทำร้ายใคร

ความเจ็บในจุดที่ฝังเข็มทำเอามู่ซือซือได้แต่อดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ พลางโทษว่าที่ตัวเองเป็นเช่นนี้ก็เพราะฉวนเร่อหลาน คิดหาทางเอาคืนในภายหลัง

************************

“คุณหนู จะออกไปข้างนอกอีกไม่ได้นะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นนายท่านจะลงโทษบ่าวแน่” บ่าวคนสนิทรีบห้ามปราม เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนลุกมาแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอก

“เมื่อวานข้าแค่แกล้งเป็นลมเจ้าดูไม่ออกหรือ”

เสี่ยวชิงหันไปรอบๆ เกรงว่าจะมีคนเดินผ่านมาได้ยิน แล้วสาวเท้าเข้าไปจับมือคุณหนูของตนด้วยความเป็นกังวลแล้วกระซิบเสียงเบา

“บ่าวดูออกเจ้าค่ะ แต่อย่าพูดดังไป ไม่เช่นนั้นเรื่องใหญ่แน่”

“ข้ารู้แล้วว่าท่านพ่อรักข้าและเป็นห่วงข้า เพียงแต่ว่ามู่ซือซือนางใช้มารยาตบตาให้ท่านพ่อหลงใหลนางชั่วขณะเท่านั้น รู้แบบนี้แล้วอะไรก็น่าจะง่ายขึ้น”

“คุณหนู... คิดจะทำอะไรเจ้าคะ”

“ในเมื่อนางใช้มารยามา ข้าก็จะใช้มารยากลับไปบ้าง คราวนี้มาวัดกันว่ามารยาของใครจะเหนือกว่า” ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่อ่อนหวานแล้วหันไปยิ้มให้กับเสี่ยวชิงที่ยืนอึ้งอยู่

“เจ้าเคยบอกจะช่วยข้า”

“คุณหนูจะให้บ่าวช่วยอะไรเจ้าคะ”

“เจ้าสนิทกับอาหลิงใช่หรือไม่ สาวใช้คนนั้นของมู่ซือซือน่ะ”

“เจ้าค่ะ นางนอนข้างบ่าวในเรือนพัก เราพูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคืนนี้ก็ระบายเรื่องที่ถูกแม่นางมู่ตบตี แต่ไม่ได้เล่าโดยละเอียด เอาแต่ร้องไห้ คงลำบากใจที่ต้องรับใช้แม่นางมู่”

เล่าไปสีหน้าของเสี่ยวชิงก็บ่งบอกถึงความกังวลกับสิ่งที่เสี่ยวหลิงเล่า

“บอกนางว่าหากไม่อยากรับใช้มู่ซือซือไปตลอด มีอะไรต้องรายงานให้ข้ารู้ ทางนั้นเคลื่อนไหวอะไร เราต้องก้าวนำก่อนเสมอ เหตุการณ์เมื่อวานนี้นางต้องแค้นข้ามากแน่ๆ จึงได้ลงมือกับอาหลิงเช่นนั้น” ฉวนเร่อหลานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาในตอนท้าย

แม้รู้ว่าคุณหนูเปลี่ยนไปจากเดิม แต่เสี่ยวชิงก็เห็นว่าดีกว่าการอยู่เฉยให้ถูกรังแก จึงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

“เรื่องนี้บ่าวจะจัดการตามที่คุณหนูสั่ง เสี่ยวหลิงนางต้องยอมให้ความร่วมมืออย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

ฉวนเร่อหลานพยักหน้ารับ โดยปกติแล้วไม่มีบ่าวที่ไหนทรยศนาย แต่มู่ซือซือไม่ได้เป็นเจ้านายของเสี่ยวหลิงอย่างเป็นทางการ เพียงแค่ฉวนเซ่าฉือยกสาวใช้ในเรือนให้ไปรับใช้เท่านั้น

อีกทั้งมู่ซือซือก็รังแกสาวใช้ มีหรือว่าเสี่ยวหลิงจะกล้าปฏิเสธไม่ร่วมมือ เพราะนับตามอำนาจและสถานะในตอนนี้ ตนต่างหากที่เป็นคุณหนูตระกูลฉวน และเป็นนายของเสี่ยวหลิง เพราะอีกฝ่ายยังเป็นแค่แขกที่อาศัยในเรือนเท่านั้น

************************

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 30 ตอนจบ

    ในตอนเช้าของวันหนึ่ง ฉวนเร่อหลานมีอาการไม่สู้ดีนัก ใบหน้าของนางซีดเซียวและกินอาหารไม่ลง กินสิ่งใดก็อาเจียนและคลื่นไส้ไปหมด ทำให้หยางหมิงซานไม่ได้ออกไปฝึกซ้อมทหารและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สองเจิ้งในการควบคุมดูแลการฝึกซ้อมแทนตน และอยู่ดูแลภรรยาไม่ห่างหมอเฉินผู้มีศักดิ์เป็นท่านลุงของฉวนเร่อหลาน ถูกเชิญให้มาตรวจดูอาการ ทันทีที่ตรวจชีพจรและสอบถามอาการต่างๆ เบื้องต้น รอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นที่ใบหน้า ทำให้แม่ทัพหนุ่มอยากรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น“ท่านลุงเฉิน ไม่ทราบว่าข้าเป็นอะไรหรือ”“ยินดีด้วย เจ้าตั้งครรภ์อยู่ร่างกายจึงอ่อนแอ เป็นธรรมดา หลังจากนี้พักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าสิ่งใดที่หักโหมให้มาก ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ หลังจากนี้ก็ดูแลตัวเองให้ดี ดื่มยาบำรุง เท่านี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว”“ขอบคุณท่านหมอ” หยางหมิงซานกล่าว แล้วขยับไปนั่งกุมมือภรรยาที่นอนอยู่ ในขณะที่หมอเฉินกำลังเขียนใบสั่งยาาเอาไว้ให้ฉวนเร่อหลานเอามือกุมท้องของตน นางกำลังตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก ในที่สุดก็จะได้สัมผัสรสชาติของการเป็นแม่ ไม่คิดเลยว่าแต่งงานเพียงไม่กี่เดือน ตนก็จะมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแร

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 29 ฮูหยินหยาง

    ฉวนเร่อหลานสามารถจัดการเรื่องทุกอย่างในจวนได้อย่างไม่มีที่ติ คนรับใช้ที่ติดตามมาจากสกุลเดิมนั้นมีส่วนหนึ่ง มีคนของหยางหมิงซานส่วนหนึ่ง และได้ซื้อตัวเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการคัดเลือกนั้นก็เป็นนางที่ทำหน้าที่ด้วยตนเอง เข็ดแล้วกับบ่าวที่คิดคดทรยศ อย่างสืออิน จะต้องหาผู้ที่ซื่อตรงและไว้ใจได้นอกจากนั้นงานบ้านงานเรือนก็เรียบร้อย และเป็นระเบียบ ตั้งกฎของจวนร่วมกันกับหยางหมิงซานผู้เป็นสามี มีความเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้บ่าวในเรือน ทำผิด เพราะโทษที่จะได้รับนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้าง หนักหนา“วันนี้นายหญิงลงมือทำอาหารด้วยตนเองอีกแล้ว เช่นนี้แม่ครัวก็สบายไปเลยนะสิเจ้าคะ” เสี่ยวชิงและเสี่ยวหลิงที่กำลังเป็นลูกมืออยู่ในครัว ต่างก็รู้สึก ว่านายหญิงของตน เอาใจสามีบ่อยไปแล้ว“สบายที่ไหนกันเล่า ข้าทำอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม่ครัวก็ทำอีกตั้งหลายอย่าง”“แต่อย่างเดียวที่นายหญิงทำ ใช้เวลานานมากเลยนะเจ้าคะ กลับเข้าห้องเถิดเจ้าค่ะ ที่เหลือให้บ่าวทำต่อเอง บ่าวรู้ว่าคุณหนูจะใส่สิ่งใดลงไปบ้าง”“ใช่แล้วเจ้าค่ะนายหญิง ให้พวกบ่าวช่วยทำต่อเถอะเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลิงเองก็ช่วยเสี่ยวชิงโน้มน้าวให้นายหญิงกลับออกไปพ

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 28 ฤกษ์งามยามดี

    หลังจากที่ผลัดการแต่งงานมาหลายครา ในที่สุด งานแต่งงานระหว่างแม่ทัพหยางคนลูกและบุตรีท่านเจ้าเมืองจินโจวก็เกิดขึ้น ตามฤกษ์ยามที่วางเอาไว้เจ้าสาวแสนสวยอยู่ในชุดสีแดงที่ปักด้วยลวดลายที่ประณีต ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ ทำให้ใบหน้าหวานดูสวยงามและโดดเด่น เครื่องประดับหัวที่หนักอึ้งทำให้ต้องนั่งหลังตรงเพื่อไม่ให้ทิ้งน้ำหนักเอนไปทางใดทางหนึ่ง“วันนี้คุณหนูของบ่าวงดงามที่สุด” เสี่ยวชิงพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตารื้นปริ่มอยู่เส้นขอบตาด้วยความ ปลื้มปีติ ที่คุณหนูของตนกำลังจะออกเรือน“พอได้แล้ว ข้าจะร้องตามเจ้าแล้ว” ฉวนเร่อหลานอมยิ้ม เกรงว่าน้ำตาจะไหลตามแล้วทำให้ใบหน้าเปรอะเปื้อน ทำให้เสี่ยวชิงรีบกะพริบตาไล่น้ำตาออกไป ไม่ให้ไหลออกมาเมื่อถึงฤกษ์ยามที่เหมาะสม ผ้าคลุมศีรษะของเจ้าสาวก็ถูกวางคลุมบนเครื่องประดับหัว ชายผ้าถูกปิดลงมาจนถึงใบหน้าสวยงามในวันมงคลเจ้าสาวถูกพาไปยังห้องโถงพิธีเพื่อทำตามขั้นตอนตามประเพณีหยางหมิงซานสวมชุดเจ้าบ่าวพิธีการเต็มยศสีแดง เดินทางมารับฉวนเร่อหลานเจ้าสาวของตนถึงที่บ้านเจ้าสาวตามธรรมเนียม จากนั้นจึงไปเคารพศาลบรรพชนของสกุลฉวน พร้อมกับให้หนังสื

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 27 ความจริง

    การมาถึงของนายอำเภอรูปงามทำให้หยางหมิงซานชักสีหน้าออกมาด้วยความไม่พอใจอย่างเปิดเผย และที่น่าโมโหคือฉวนเร่อหลานไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ ใบหน้าที่ดีใจที่เห็นบุรุษอื่นอย่างไม่ปิดบัง ยิ่งทำให้หัวใจปวดร้าว“ข้าจะแนะนำท่านให้รู้จักกับพี่ยี่หาน” นางหันมาบอกก่อนที่บุรุษนามว่ายี่หานที่เรียกอย่างสนิทสนมนั้นจะเดินเข้ามาถึง‘พี่ยี่หาน’ นางเรียกบุรุษอื่นอย่างสนิทสนมเช่นนั้นได้อย่างไร“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”“อืม” นายอำเภอหนุ่มตอบ มองไปยังหยางหมิงซานยืดอกขึ้นเล็กน้อยอวดหุ่นกำยำราวกับจะข่มขวัญ“พี่ใหญ่ นี่คือรองแม่ทัพหยางหมิงซาน พี่หมิงซาน ผู้นี้คือพี่ชายของข้า ฉวนยี่หาน”บุรุษทั้งสองโค้งศีรษะให้แก่กัน แล้วเผยรอยยิ้มออกมาทั้งคู่ โดยเฉพาะบุรุษร่างกำยำที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าบึ้งตึง เมื่อรู้ว่าบุรุษเจ้าสำอางที่ตนเกือบไม่ชอบหน้าในตอนแรก แท้จริงคือพี่ชายของฉวนเร่อหลาน บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองจินโจว จึงยิ้มออกมา“ได้ยินว่านายอำเภอซีเหอ มีผลงานตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่คิดว่าจะเป็นคนกันเอง”“ข้าก็ได้ยินมาว่าท่านเป็นรองแม่ทัพตั้งแต่อายุยังน้อย และกำลังจะเป็นแม่ทัพประจำที่จินโจว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งแต่งตั้ง น่านับถือย

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 26 ไหน้ำส้มแตก

    แปดเดือนผ่านไปในช่วงเหมันตฤดูที่เริ่มมีลมหนาวพัดผ่านมากระทบร่าง ขบวนรถม้าของนายอำเภอซีเหอ เขตเมืองซีเถาของแคว้นกู่ กำลังมุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองจินโจวและตรงไปยังจวนของเจ้าเมืองที่ตั้งอยู่ตรงหน้าภายในรถม้าคือนายอำเภอหนุ่มวัยยี่สิบที่มีรูปร่างสันทัด รูปงาม และมีความฉลาดและเที่ยงธรรมจนเลื่อนขั้นได้ด้วยความสามารถ แต่ยังไม่ได้ออกเรือนเนื่องจากยังไม่พบสตรีที่ถูกใจเมื่อรถม้าไปถึงหน้าจวนสกุลฉวน ก็พบว่ามีรถม้าอีกคันมาจอดเช่นเดียวกับตน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจผู้ที่มาเยือน ลงจากรถม้าแล้วให้บ่าวที่ตามมาขนข้าวของเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมหยางหมิงซานลงมาจากรถม้า เห็นบุรุษหนุ่มเจ้าสำอางที่รูปงามเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับข้าวของที่ดูเหมือนเป็นของกำนัล ก็มองด้วยความสงสัยเจิ้งจิ้งเหยาและเจิ้งจิ้งหยวนถือกล่องที่มัดด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินคนละกล่อง เดินตามรองแม่ทัพหยางเข้าไปในจวนแล้วก็ต้องชะงักเท้าเมื่อหยางหมิงซานหยุดเดินแล้วถามทหารที่เฝ้ายามอยู่หน้าประตูวันนี้เป็นวันที่ฉวนเร่อหลานอายุครบสิบแปด ทุกปีจะมีเทียบเชิญส่งไปยังตระกูลใหญ่ไม่กี่ที่ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างสตรีวัยเดียวกัน เพราะเดิมฉวนเร่อห

  • เกิดใหม่ชาตินี้เป็นดรุณีร้ายกาจ   ตอนที่ 25 ร่ำลา

    เมื่อรอจนถึงยามซวี[1] บุรุษหน้านิ่งที่คิดว่าจะมาหาก็ยังไม่ได้มาเยือนที่หน้าห้องฉวนเร่อหลานตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเดินไปหาเสียเอง เพราะพรุ่งนี้เขาต้องนำทหารส่วนหนึ่งคุมรถม้าที่จะไปส่งสกุลเซียวออกนอกแคว้นกู่ และจะถือโอกาสกลับไปร่วมรบที่ชายแดนฝั่งตะวันออกเมื่อเดินพ้นจากเขตเรือนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ทางเดินเรือนรับรอง ก็พบว่ารองแม่ทัพหนุ่มก็กำลังเดินมาหาตนเช่นกัน“คุณหนูรอง ท่านจะไปที่ใดยามวิกาลเช่นนี้” พูดแล้วก็หันไปรอบๆ เห็นทหารยามเดินผลัดเวรยามอยู่บริเวณนั้นก็ทำหน้าเคร่งขรึมจนพวกนั้นไม่ได้หันมามองยังพวกตน“ข้าจะ...ไปห้องพระ”“ห้องพระไม่ได้อยู่ในเรือนใหญ่หรอกหรือ” น้ำเสียงนั้นกล่าวถามอย่างรู้ทัน“เป็นเช่นนั้น... สงสัยว่าข้าคิดเรื่องอื่นอยู่จึงเดินเลยมาถึงตรงนี้” สิ้นประโยคที่กลบเกลื่อนความเขินอายนั้น ร่างอรชรก็หันหลังรีบเดินกลับไป ตอนแรกใจกล้าจะมาอวยพรให้คู่หมั้นหมายเดินทางอย่างปลอดภัย แต่พอเจอหน้าก็เขินอายจนทำตัวไม่ถูกเสียอย่างนั้น“ให้ข้าเดินไปส่งท่าน” ฝ่ามือขนาดใหญ่ผายเชิญให้นางเดินไปด้วยกัน ขณะที่เดินไปนั้นต่างคนก็ต่างอมยิ้มน้อยๆ จนมุมปากยกขึ้นอย่างเปิดเผย“พี่หมิงซานยังไม่นอนอีกหรือ พร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status