Share

บทที่ 4 : ฝึกการร่ายเวท

Author: MIN-G
last update Last Updated: 2024-04-03 21:39:43

“การปล่อยพลังเวท เราจะใช้การร่ายออกมาพร้อมกับฝ่ามือที่หันออกจากตัว หรือให้พูดง่าย ๆ ก็คือแบมือไปข้างหน้านั่นแหละนะ พ่อจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วกัน” อิซามุนั้นอธิบายเกี่ยวกับวิธีการร่ายเวท โดยการใช้ฝ่ามือพร้อมกับการพูด

“ลูกบอลเพลิง!” บริเวณรอบข้อมือของอิซามุนั้นมีวงแหวนเวทสีแดงปรากฏขึ้น แล้วมันก็หายไป ในขณะเดียวกันที่กลางฝ่ามือของอิซามุก็มีลูกไฟเล็ก ๆ ออกมาและลอยอยู่อย่างนั้น

“สุดยอด แต่ไหนพ่อบอกว่าตระกูลเรามีพลังมังกรไงครับ ทำไมพ่อถึงมีพลังไฟ.. หรือคือมังกรไฟ? แล้วทำไมมันถึงอยู่นิ่งแบบนั้นล่ะครับพ่อ พ่อทำให้มันไม่ยิงออกไปเหรอครับ?”

“เจ้าลูกบ้านี่ ใช่แล้วล่ะ พลังมังกรที่พ่อบอกไว้ก็คือมังกรไฟ..”

“แล้วก็เราสามารถควบคุมพลังเวทได้อย่างอิสระตราบใดที่มันยังอยู่ตรงฝ่ามือเรา ถ้าจะยิงมันออกไปก็ต้องพูดต่อว่า 'ยิงลูกบอลเพลิง' และการร่ายแบบนี้นั้นส่วนมากจะใช้ในการรวบรวมพลังเพื่อนำไปสู่การใช้พลังเวทหรือใช้การโจมตีขนาดใหญ่ แต่มันก็มีการร่ายแบบลัดเพื่อใช้ในการต่อสู้จริงอยู่แล้ว วิธีก็คือพูด 'ยิงลูกบอลเพลิง' โดยที่ไม่ต้องพูดว่า 'ลูกบอลเพลิง จงออกมา' เหมือนตอนแรก.. มันก็มีอยู่แค่นั้นแหละนะ”

การร่ายเวทที่โลกนี้ใช้ต่อ ๆ กันมานั้นไม่ได้มีความยาวของประโยคที่พูดเลยสักนิด เหมือนกับแค่พูดออกมาว่าต้องการอะไร แต่ก็ยังคงเรียกต่อ ๆ กันมาว่ามันเป็นการร่ายเวท

“ลูกลองรวบรวมสมาธิไว้ในจุดเดียว บีบเค้นพลังเวทให้ออกมาที่ฝ่ามือ ถ้าทำได้ก็จะรู้ว่าพลังเวทของลูกคืออะไร แต่ก็คงจะเป็นพลังมังกรเหมือนกันหมดนี่แหละนะ อีกสักหน่อยก็จะมีเปลวไฟจาง ๆ ออกมาที่ฝ่ามือ หลังจากนี้ลูกก็จะใช้พลังเวทได้แล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นอาคุมุจึงทำตามที่บอกด้วยความกระตือรือร้น เพราะเขาก็อยากจะรู้ว่าการใช้พลังเวทนั้นเป็นอย่างไร

ไม่นานนักอาคุมุก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย อิซามุก็เริ่มสังเกตเห็นออร่าสีขาวจาง ๆ ที่แผ่ออกมาจากตัวเขา

“แบบนั้นแหละ แล้วค่อย ๆ ควบคุมให้มันออกมาที่ฝ่ามือ เดี๋ยวจะมีเปลวไฟออกมาเอง...”

อิซามุพูดยังไม่ทันจบ เขาก็ต้องตาค้างราวกับว่าเห็นผีในทันที เพราะพลังที่ออกมาจากฝ่ามือของอาคุมุนั้นไม่ใช่ไฟ แต่เป็น..

“มังกรสายฟ้าเหรอ?! อาคุมุ พลังเวทย์ของลูกคือมังกรสายฟ้า! ไม่ใช่มังกรไฟแบบของพ่อ”

ได้มีสายฟ้าปะทุอยู่ที่ฝ่ามือของอาคุมุ ซึ่งทำให้อาคุมุนั้นแปลกใจเป็นอย่างมากเพราะมันไม่เหมือนที่อิซามุนั้นพูดไว้ ถึงแม้มันจะไม่เหมือนที่พูดไว้ อิซามุนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีที่แปลกใจแต่อย่างใด เขากับตกใจและยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น

“หมายความว่าอะไรเหรอครับพ่อ?” อาคุมุกล่าวถามด้วยความสงสัย

“พลังเวทมังกรสายฟ้า(มังกรอัสนี) เป็นพลังเวทที่หาได้ยากมาก ถึงแม้ตระกูลของเราจะเป็นตระกูลแห่งมังกร แต่ส่วนมากก็เป็นมังกรไฟ(มังกรอัคคี) และมังกรน้ำ(มังกรวารี) แต่ของลูกเป็นมังกรสายฟ้าที่มีจุดเด่นคือความเร็วและพลังโจมตีรุนแรงที่สุดในหมู่มังกร พลังเวทของลูกจะทำให้ตัวลูกเองสามารถยกระดับในหลาย ๆ เรื่องได้เลยล่ะนะ เพราะมันเป็นพลังเวทในตำนานเลยล่ะ” อิซามุอธิบายให้อาคุมุได้รับรู้

ดูเหมือนว่าอาคุมุนั้นจะมีความโชคดีไม่น้อย เพราะมีความเป็นไปได้ว่าพลังของเขานั้นมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน  แม้แต่แววตาของอิซามุก็ยังคงปรากฏให้เห็นถึงความตื่นเต้นอยู่อย่างนั้น

“ถ้าอย่างนั้น โดยพื้นฐานแล้วพลังของผมก็แข็งแกร่งกว่าพ่อสินะครับ” อาคุมุถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

“อืม แน่นอน แต่ใช่ว่ามีพลังที่แข็งแกร่งแล้วจะแข็งแกร่งได้ตามที่คิดนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งการฝึกฝน ความคุ้นเคยกับพลัง ความชำนาญ การใช้พลังอย่างถูกวิธี ระดับพลัง และอีกหลายอย่าง” อิซามุกล่าวตอบ

“แล้วผมสามารถใช้ทักษะอะไรได้บ้างเหรอครับ?” อาคุมุถามกลับไป เพราะนี่คือสิ่งที่เขาอยากจะรู้มากที่สุด

“ทักษะที่ลูกใช้ได้ตอนนี้จะมีอยู่ 2 ทักษะ คือทักษะร่างกายและทักษะพลังเวท” เขาพูดแล้วหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดต่อ

“ทักษะร่างกายคือสิ่งที่สามารถนำมันออกมาใช้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังเวท แต่ก็มีขีดจำกัดตามสภาพของร่างกาย แบ่งออกเป็นทักษะการโจมตี ป้องกัน และเคลื่อนที่ ส่วนทักษะพลังเวทก็คือใช้พลังเวทที่มีในการโจมตี ป้องกัน และเคลื่อนที่ ส่วนขีดจำกัดก็ตามจำนวนของแต้ม B ถึงแม้ในตอนนี้ลูกจะมีแต้ม B อยู่ที่ 0 แต้ม แต่มันจะมีอยู่ 1 ทักษะการโจมตีที่ไม่จำเป็นต้องใช้แต้ม B ทักษะการโจมตีนั้นคือการปล่อยพลังเวทแบบธรรมดา ลูกลองตั้งใจสัมผัสพลังเวทที่ไหลเวียนในร่างกายอีกครั้งหนึ่งสิ” 

เมื่อได้ยินอย่างนั้น อาคุมุพยักหน้ารับแล้วจึงทำตามที่พ่อของตนบอกในทันที เขาเริ่มนั่งนิ่ง ๆ แล้วรวบรวมสมาธิ ไม่นานนักก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย

เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับกางนิ้วทั้งห้าและหันออกจากตัว พร้อมกับกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

“แสงอัสนีบาต!!” ได้มีวงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา พร้อมกับ..

ตู้มม!!

สายฟ้าได้ถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของเขาราวกับว่าฟ้าฝ่าลงตรงจุดนั้นโดยเฉพาะ กำแพงบ้านเผยให้เห็นรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวเพียงประมาณ 30 เซนติเมตรเท่านั้น แต่มันก็นับว่าเป็นรูอยู่ดี อีกทั้งมันไม่ควรจะเกิดขึ้นในบ้านเพราะกำแพงบ้านก็บาง ๆ ไม่ได้มีความหนามากนัก จึงทำให้มองทะลุได้

“เอ่อ..” เมื่ออิซามุได้เห็นอย่างนั้นจึงพูดไม่ออกในทันที อาคุมุก็เช่นกัน เขายังคงนิ่งอยู่ในท่านั้นและปากของเขาก็อ้าออกจนแทบจะมองผ่านลำคอลงไปได้แล้ว

อิซามุนั้นไม่คิดเลยว่าอาคุมุจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย มันเกินความคาดหมายของเขาไปอย่างมากเลยทีเดียว

“พี่ชายของลูกยังทำแบบนี้ไม่ได้เลยนะตอนที่เขาอายุเท่ากับลูก นี่นับว่าเป็นพรสวรรค์ที่ดีใช้ได้เลยล่ะ” อิซามุบอกกับอาคุมุด้วยความภูมิใจในตัวลูกชายคนเล็ก แต่ลึก ๆ ก็ยังอยากให้เขาทำแบบนี้ได้ในตอนที่โตกว่านี้ เพราะจะได้ให้เขาช่วยซ่อมกำแพงบ้าน

“ผมว่าน่าจะแค่ดวงดีน่ะครับ..” อาคุมุพูดจบก็ล้มตัวลงและสลบไปในทันที นี่คือผลข้างเคียงของการปล่อยพลังเวทครั้งแรก และมันจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่สิ่งนี้อาจจะเป็นเพราะความรุนแรงของพลังเวทที่อาคุมุปล่อยออกมาก็เป็นได้ การปล่อยพลังครั้งแรกยิ่งรุนแรงเท่าไร ผลกระทบหลังจากนั้นก็จะรุนแรงตาม

“เฮ้อ.. ต้องซ่อมกำแพงบ้านซะได้” อิซามุถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับอุ้มอาคุมุเข้าไปในห้องนอน ให้พลังเวทของเขาได้รับการฟื้นฟูด้วยตนเองและได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามการฝึกของอาคุมุนั้นไปได้อย่างราบรื่นดี ซึ่งแน่นอนว่ามันเกินความคาดหมายของอิซามุไปอย่างมากโข

แต่สิ่งแรกที่ผู้เป็นพ่อต้องทำในตอนนี้... ก็คือซ่อมกำแพงบ้าน

ในเช้าวันต่อมา อาคุมุนั้นลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับพลังที่เต็มเปี่ยม ภายในร่างกายของเขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก พลังเวทของเขาก็ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย นี่คงเป็นผลดีของการปลดปล่อยพลังเวทที่รุนแรงในครั้งแรกก็เป็นได้

“ทักษะทางร่างกายและทักษะพลังเวท ทั้งโจมตี ป้องกัน และเคลื่อนที่ ตอนนี้ที่ใช้ไปก็แค่การปล่อยพลังเวทแบบธรรมดา.. ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องค้นหาสินะ” เขากำมือไว้แน่นและพูดกับตนเอง เพราะนี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในโลกใบนี้ที่รอเขาอยู่

“ฉันจะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้ได้เลย ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้... จะต้องเป็นฉัน!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

    บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]การต่อสู้จบลง สนามประลองแบบจำลองก็ได้หายไป อาคุมุลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเขาอยู่ที่สนามประลองของจักรวรรดิไดจิเสียแล้ว เขามองไปรอบ ๆ ขณะเดียวกันกับเสียงตอบรับที่ดังมาจากผู้ชมทั่วทั้งสนามประลองอย่างครึกครื้น“อาคุมุชนะจริง ๆ ด้วย?!!”“เขาสู้แบบนั้นได้ยังไงกันนะ? โดนรุมนั่นน่ะ”“เจ้าเด็กคนนี้ต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกันเนี่ย?! แน่ใจนะว่าไม่ใช่นักเวทของจักรวรรดิ?”“ตามดูเจ้าหนูนี่มาตั้งแต่วันแรก ไม่ทำให้ผิดหวังเลย!”…“ในรอบนี้เราสามารถหาผู้ชนะเลิศได้เลยล่ะครับทุกท่าน! ผู้ชนะการประลองของจักรวรรดิไดจิในครั้งนี้คือ… คาอิคะ อาคุมุ!!!” ผู้คุมสนามประกาศออกไปอย่างเป็นทางการด้วยผลการต่อสู้ที่เป็นเอกฉันท์กลางสนามประลองที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก คู่ต่อสู้ทั้งหกคนของอาคุมุนั้นนอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้น โดยมีอาคุมุยืนอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น แม้การบาดเจ็บจะไม่ได้สาหัสมากนัก แต่ร่องรอยบาดแผลตามที่เห็นคงต้องใช้เวลาพอสมควร‘ไม่มีใครตายเพราะเมื่อพลังชีวิตแบบจำลองหมดไปก็จะถูกส่งออกมาทันทีสินะ’ อาคุมุที่ไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับทักษะสร้างภาพลวงตาของราชันจอมเวทอาวุโสนี้มากนัก ทำได้เพียงวิเ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 59 : หนึ่งรุมหก

    บทที่ 59 : หนึ่งรุมหกการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วของรินนั้นทำให้ฮิบาริไม่สามารถหลบหลีกหรือป้องกันได้ทั้งหมด ทำให้เขาต้องรับการโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพลังชีวิตแบบจำลองเป็นศูนย์ในตอนนี้ฮิบาริได้ถูกคัดออกจากการประลองแบบกลุ่มแล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มของอาคุมุนั้นเหลือเพียงสามคน และภายในทักษะหมอกเพลิงสีชาดของรินนี้… เหลือเพียงอาคุมุและรินเท่านั้น“นายจะทำยังไงดีล่ะเจ้าหนูอาคุมุ? สู้กับฉันตัวต่อตัวไหวไหมนะ? อืม… ฉันมีสมาชิกอยู่ข้างล่างทั้งหมด 5 คนเนี่ยสิ คงจะเอาชนะฉันได้ไม่ง่ายหรอกมั้ง” รินพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้อาคุมุแปลกใจในทันที“ว่าไงนะ? ทั้งหมดห้าคนนี่หมายความว่าอะไร?” อาคุมุถามกลับไป“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นายนี่น่าขำจริง ๆ เลย คิดว่าเจ้าพวกที่เหลืออยู่จะมั่นใจในตัวนายแล้วไม่สนผลประโยชน์หรือไงกัน?” รินตอบกลับมา“หรือว่านั่นคือ…”“ใช่แล้วล่ะ! ฉันแค่เสนอให้พวกมันมาร่วมมือกับฉัน ข้อแลกเปลี่ยนคือการเข้าร่วมกลุ่มจันทราแดง ถึงจะถูกคัดออกและไม่ชนะเลิศในการประลอง แต่มีเงินใช้ง่าย ๆ ต่อจากนี้… ใครจะไม่ชอบกันล่ะ ลองดูนั่นสิ” รินพูดจนจบและชี้ลงไปยังข้างล่าง ซึ่งสิ่งที่เห็นนั้นคือสมาชิกกลุ่มของอาคุมุที

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก

    บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรกในตอนนี้ สถานการณ์ของอาคุมุและฮิบารินั้นไม่สู้ดีนัก พวกเขาถูกปิดล้อมไปด้วยทักษะหมอกเพลิงสีชาดของริน อีกทั้งยังถูกล้อมไปด้วยสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มของรินจากภายนอก ซึ่งสามารถโจมตีเข้ามาได้โดยตรง เรียกได้ว่าถูกบีบให้จนมุมทั้งอย่างนั้น‘ซวยจริง ๆ แล้วไง’“ออกไปเฉย ๆ ไม่ได้เลย!” ฮิบาริกำลังพยายามจะดันตัวเองออกไปจากทักษะของริน‘ไอ้บ้านี่มันแกล้งทำเป็นไม่รู้เหรอ?’“ถ้าออกไปได้ง่าย ๆ เขาจะสร้างขึ้นมาทำไมล่ะครับคุณฮิบาริ?” อาคุมุถามกลับไป“พวกนายฟังฉันนะ! ทักษะหมอกเพลิงสีชาดนี้จะสามารถใช้ได้ 30 นาที หลังจากนั้นจะสามารถใช้ทักษะนี้ได้อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปอีก 30 นาที” รินพูดขึ้นมา“แล้ว... บอกทำไมเหรอครับ?” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นจึงถามกลับไป“เพราะว่า... ฉันสามารถเอาชนะพวกนายได้ใน 30 นาทีนี้ไงล่ะ!! กระสุนเพลิงสีชาด!!!” รินตอบกลับมาพร้อมกับยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่อาคุมุและฮิบาริด้วยความเร็ว“ตาข่ายอัสนี!”ตู้มมมม!!!“อึ่ก! บ้าจริง”ถึงแม้อาคุมุจะใช้ทักษะป้องกันไว้ได้ทัน แต่ความเสียเปรียบนั้นปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะตาข่ายอัสนีของอาคุมุนั้นถูกทำลายได้โดยการ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์

    บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์รินและสมาชิกอีกสามคนได้มาถึงที่ตำแหน่งของอาคุมุ ซึ่งรินนั้นปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอาวุธคู่กายอย่างปืนพกเช่นเดิม ส่วนอีกสามคนนั้นก็คือนักเวทชุดขาวเป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน โดยทุกคนนั้นมีกระเป๋าสะพายอยู่ข้างหลัง“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลยล่ะครับ... ทุกอย่างเลย” สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นเป็นจริงทุกอย่าง ซึ่งก็คือการที่นักเวทชุดขาวทั้งสามนั้นเปลี่ยนชุดก่อนจะเข้ามายังสนามประลองแบบจำลองนี้“แต่ว่า... จะทำไปเพื่ออะไรเหรอครับ? เตรียมชุดมาเปลี่ยนตอนเข้ามาในนี้แล้วเนี่ย?” อาคุมุถามออกไป“ก็ถ้าพวกฉันอยู่ในบทบาทของนักเวทชุดขาวตั้งแต่ตอนที่อยู่ข้างนอกล่ะก็... คงจะโดนประท้วงพอดีน่ะสิ” หนึ่งในนักเวทชุดขาวตอบกลับมา“ฉันควรจะแนะนำตัวอีกครั้งไหมนะ? ฉันคือ อากาเนะ ริน เป็นเพียงคนที่กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 แล้วล่ะนะ!!” รินพูดขึ้นมาพร้อมกับจับปืนพกทั้งสองกระบอกไว้แน่น ลมจากแรงของพลังเวทปะทะเข้ากับร่างของอาคุมุโดยตรง‘กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 งั้นเหรอ? สีของออร่าพลังเวทกำลังจะเป็นสีแดงแล้วสินะ แข็งแกร่งขึ้นมากจริง ๆ ด้วย’“สุดยอดไปเลยนะครับ สมแล้วกับตำแหน่งรอ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่ม

    บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่มในตอนนี้ ผู้คุมสนามได้ทำการสร้างสนามประลองแบบจำลองเสร็จสิ้นแล้ว เป็นทักษะที่มีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก ถึงได้ชื่อว่าเป็นภาพลวงตา และด้วยความแข็งแกร่งระดับราชันจอมเวทอาวุโส การที่สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ก็คงจะไม่เกินจริงนัก...ที่สนามประลอง ภายนอกทักษะภาพลวงตา“สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านี้... คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นครับ” เสียงของผู้คุมสนามได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามประลองด้วยทักษะพลังเวทของพิธีกร เสียงตอบรับจากคนดูก็เกิดขึ้นในทันที“น... นี่เหมือนฉันดูการประลองผ่านจอเลยนะ”“ข้างในนั้นจะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ?”“ดูนั่นสิ! อาคุมุอยู่นั่นล่ะ!!”“ที่นั่นมันคือจำลองเมืองไหนหรือเปล่า? ที่ไหนในจักรวรรดิหรือเปล่านะ?”...สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือลูกบาศก์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยออร่าของพลังเวทสีม่วง ลอยอยู่ในอากาศตรงกลางสนามประลอง ทั้งสี่ด้านนั้นเผยให้เห็นภาพจากมุมมองของแต่ละคนและมุมมองภาพรวมภายในนั้น ราวกับว่ากำลังดูผ่านจอขนาดยักษ์“สถานที่ภายในนั้นคือเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจักรวรรดิ มีชื่อว่าเมืองชิโตเสะครับ... ขอให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการประลองในครั้ง

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?

    บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?กฎและกติกาการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้ายนั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันโดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้ารอบหรือผู้ชมทั่วทั้งสนามประลอง ไม่เคยมีใครคิดไว้ว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นการประลองแบบกลุ่ม“เริ่มจากการจัดกลุ่ม กลุ่มที่ 1 จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมก็คือสาย A, B, C และ D ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมคือสาย E, F, G และ H ครับ”พิธีกรได้ประกาศวิธีการแบ่งกลุ่มให้กับทั้ง 8 คน‘ฉันพอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงแบ่งกลุ่มง่าย ๆ แบบนี้...’‘...เพราะรินอยู่ในกลุ่มที่ 2 สินะ? การคาดเดาของฉันถูกต้องอย่างแน่นอน!’สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นมีเพียงความได้เปรียบของฝั่งตรงข้าม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และในสถานการณ์ตรงหน้านี้ ความได้เปรียบที่ว่าก็คงจะหนีไม่พ้นการที่กลุ่มนั้นมีคนอย่างรินอยู่ด้วยนั่นเอง“ก่อนที่จะเข้าสู่ลำดับถัดไป...” พิธีกรพูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงจากแท่นด้านบนก็ดังขึ้นมาในทันทีตึ้ง!!ซึ่งเป็นเสียงขององค์จักรพรรดิที่ใส่พลังเวทเข้าไปในแท่นข้าง ๆ ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน“องค์จักร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status