LOGIN2
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
"คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" สาวใช้ถามผู้เป็นนายด้วยความห่วงใย แม้จะยังงุนงงสงสัยเกี่ยวกับการที่นางสิ้นลมแล้วฟื้นขึ้นมา ถามเสร็จก็จัดแจงหาอาภรณ์มาให้ผู้เป็นนายได้ผลัดเปลี่ยน เจียงถิงถิงนั่งกระพริบตาถี่ ๆ ราวกับกำลังนึกบางสิ่งบางอย่างอยู่ ผู่เย่ว์ใช้มือแตะลงบนต้นขาที่อวบอ้วน นางจึงเริ่มได้สติหันมามองผู่เย่ว์ที่มีท่าท่างกล้า ๆ กลัว ๆ ราวกับไม่กล้าจะมองนาง
"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องห่วงไป" เจียงถิงถิงหันไปบอกสาวใช้ของตนเองด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน ไม่ได้ต่างไปจากก่อนนางจะจมน้ำที่บ่อบัวกลางสวนใหญ่แม้แต่น้อย ผู่เย่ว์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะลุกขึ้นเพื่อช่วยคุณหนูของนางเปลี่ยนอาภรณ์ที่เปียกชื้น
"โอ๊ย นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันถึงได้อ้วนขนาดนี้ล่ะเนี่ย" หลังจากถอดอาภรณ์ที่เปียกชื้นออกเผยให้เห็นร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกคลุม เจียงถิงถิงกรีดร้องออกมาอย่างไม่ทันได้คิดสิ่งใด เพียงเพราะนางเห็นร่างกายของตนเองในชาตินี้ ภาพวาดสตรีจากโลกแห่งอนาคตที่ใช้ชีวิตด้วยการเป็นนักโภชนาการอาหารเพื่อช่วยลดและควบคุมน้ำหนักของผู้อื่น นางจึงมีทรวดทรงที่เพรียวบางอยู่เสมอ การเห็นตนเองอวบอ้วนเช่นนี้ทำนางใจหายไม่น้อย นางจึงโอดครวญเมื่อเห็นร่างกายตนเอง
"คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ" ผู่เย่ว์ถามด้วยความเป็นห่วงขณะเดียวกันก็ช่วยคุณหนูของนางสวมใส่อาภรณ์สีเหลืองอ่อนงดงาม เพียงแต่จะใหญ่ไปเสียหน่อยหากเทียบกับสตรีทั่วไป คงเป็นเพราะสกุลเจียงมั่งคั่งมากกระมังนางจึงมีอาหารทานอยู่ตลอดเวลา ซ้ำร้ายนางยังเป็นลูกที่บิดาชังเสียอีกจึงได้ถูกบังคับให้แต่งเข้าสกุลหยุน เพื่อผูกขาดการค้าขายของสองสกุลไว้ไม่ให้ตกไปยังบุคคลอื่น นอกจากบิดาชังแล้วสามีของนางยังหมางเมินนางตั้งแต่วันแรกที่เข้าพิธีเลย เจียงถิงถิงไม่ทันได้เข้าหอกับหยุนฮ่าวหรานเสียด้วยซ้ำ
"ข้ากำลังคิดว่าเหตุใดตนเองจึงอวบอ้วนเช่นนี้"
"เหตุใดจึงคิดเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ก่อนนี้นายท่านสั่งให้คุณหนูอดอาหารคุณหนูยังไม่ยอมทำตามนายท่านว่าเลย"
"จริงเหรอ"
"จริงเจ้าค่ะ" ผู่เย่ว์บอกนายของตนพร้อมสวมอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายให้คุณหนูถิงถิงอย่างเบามือ
"สามีข้ารู้หรือไม่ว่าข้าตกน้ำ" เจียงถิงถิงถามขณะใช้มือจับผมที่ยังชื้นอยู่ของตน พลางใช้สายตามองสำรวจใบหน้าที่อวบอิ่มของตนเองในกระจกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
"ทราบเจ้าค่ะ บ่าวแจ้งแก่นายท่านแล้ว ท่านเพียงให้บ่าวไปตามหมอเท่านั้น" เสียงแผ่วเบาออกมาจากปากสาวใช้ผู่เย่ว์ ราวกับนางไม่ต้องการให้คุณหนูของนางได้ล่วงรู้คำที่นางบอกไป นางคงนึกเห็นใจผู้เป็นนายอยู่ไม่น้อยที่ถูกคนทั้งบ้านเมินไม่เว้นแต่บ่าวไพร่เอง หากต้องเลือกระหว่างเจียงถิงถิงและซ่งเยี่ยนฟาง บ่าวไพร่ล้วนเลือกฟังอนุภรรยาอย่างซ่งเยี่ยนฟางมากกว่าคุณหนูของนางที่เป็นฮูหยินใหญ่
"ช่างเถอะ ไม่ต้องใส่ใจที่ข้าว่าเพราะจากนี้ข้าก็หาใส่ใจชายผู้นั้นไม่ จากนี้ข้าจะลดน้ำหนักและอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข" เจียงถิงถิงว่าจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันกลับไปมองผู่เย่ว์ที่ยืนสงบนิ่งรอฟังคำของผู้เป็นนาย บ้านใหญ่โตทั้งหลังนี้คงมีเพียงแต่ผู่เย่ว์และอันอี้เฉินกระมังที่ดีกับนาง
"คุณหนูจะไปไหนเจ้าคะ"
"ไปจัดการธุระให้เสร็จ ไปเถอะผู่เย่ว์" เจียงถิงถิงเดินนำผู่เย่ว์ออกนอกเรือนนอนของตน ตรงไปทางเรือนใหญ่ซึ่งมีหยุนฮ่าวหรานหรือสามีของนางอาศัยอยู่กับภรรยารองซ่งเยี่ยนฟาง แทนที่จะเป็นภรรยาเอกอย่างตัวเจียงถิงถิงเอง
"พวกเจ้าหลบไปเสีย" เดินมาจนถึงหน้าห้องหนังสือก็มีบ่าวไพร่สองสามคนขวางไม่ให้เจียงถิงถิงเข้าไปข้างใน โดยที่ไม่ได้มีใครเกรงกลัวนางที่เป็นฮูหยินเลยแม้แต่น้อยเพราะบ่าวไพร่ทุกคนรู้ดีว่าหยุนฮ่าวหรานนั้นผูกสมัครรักใคร่เพียงอนุภรรยาเท่านั้น
"นายท่านไม่ต้องการให้ฮูหยินเข้าไปรบกวนเจ้าค่ะ"
"ข้าจะเข้าไปเดี๋ยวนี้ หากพวกเจ้าไม่หลบอย่ามาว่าข้าใจร้าย" เจียงถิงถิงคนใหม่เดินตรงเข้าหาบ่าวไพร่ พวกนางจึงเข้ามายื้อยุดฉุดกระชากเพื่อห้ามนางไม่ให้เข้าไปด้านใน แต่มีหรือสตรีผอมแห้งเช่นนี้จะขวางฮูหยินผู้อวบอิ่มได้ เจียงถิงถิงเหวี่ยงบ่าวไพร่ชนกระเด็นกันไปทั่วสารทิศจนเกิดเสียงอึกทึก อันอี้เฉินที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนใหญ่ก็รีบวิ่งมาดูเมื่อได้ยินเสียงดังไปถ้วนทั่ว
"เจียงถิงถิงเจ้าทำสิ่งใดกัน" เป็นหยุนฮ่าวหรานที่ออกมาจากห้องหนังสือพร้อม ๆ กับที่อันอี้เฉินเดินมาถึงหน้าด้านของห้องหนังสือพอดิบพอดี
"ออกมาแล้วหรือ ข้านึกว่าท่านหมดลมในห้องนั้นพร้อมนังจิ้งจอกนั่นเสียแล้ว" ผู้คนที่อยู่บริเวณเรือนถึงกับตกตะลึงที่เห็นเจียงถิงถิงกล่าววาจาไม่เคารพผู้เป็นสามีแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายยังไม่เคยเห็นฮูหยินทำกิริยาเช่นนี้เลยสักครานางมักจะยอมถูกด่าถูกประชดประชันจากผู้อื่นเสมอ ทุกวันนี้จึงได้ไม่มีผู้ใดมองนางเป็นฮูหยินเลย
"บังอาจนัก เจ้ากล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับข้าเลยเชียวหรือคนสกุลเจียง"
"เหอะ แล้วข้ากล่าวผิดอย่างไรเล่า ไม่เพียงไม่ไปดูข้าที่จมน้ำท่านกลับมาขลุกอยู่กับคนที่ทำให้ข้าจมน้ำ เป็นเช่นนี้แล้วข้าจะเคารพท่านไปใยสามี" ท่าทีและวาจาของนางนั้นเรียกความสนใจจากบ่าวไพร่ทุกคนจนต้องพากันหยุดฟัง เรื่องที่นางกล่าวว่าซ่งเยี่ยนฟางผู้นอบน้อมอ่อนหวานเป็นคนทำให้นางจมน้ำบ่อบัวกลางสวน เป็นที่รู้กันดีว่าฮูหยินรองวาจากิริยาล้วนเป็นสตรีที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตางดงามหมดจด เพียงแต่เกิดในตระกูลไม่สูงนักจึงเป็นเพียงอนุภรรยาเท่านั้น แต่หยุนฮ่าวหรานหลงนางหัวปรักหัวปรำเป็นเหตุให้เจียงถิงถิงถูกเมินจากทุกคนในบ้าน
"เหลวไหลคนอย่างเยี่ยนฟาง ไม่มีทางรังแกเจ้าได้หรอก ใช่หรือไม่เยี่ยนฟาง"
"เจ้าค่ะท่านพี่ เยี่ยนฟางผู้นี้จะทำกับฮูหยินเช่นนั้นได้อย่างไรกัน" ซ่งเยี่ยนฟางบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางหลบสายตาของเจียงถิงถิงราวกับกลัวนางเหลือคณา
"หึ อยากเล่นบทนางเอกเหรอ งั้นฉันรับบทนางร้ายละกัน" คุณหนูถิงถิงพูดจบก็เดินตรงเข้าไปหาสตรีจอมเสแสร้งอย่างซ่งเยี่ยนฟางพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้างดงาม จนใบหน้านั้นหันไปอีกทางเพราะแรงจากการถูกตบ บ่าวไพร่ทุกคนต่างพากันตื่นตะลึงจากการกระทำของเจียงถิงถิง ยกเว้นเพียงอันอี้เฉินที่ยืนยิ้มนึกพอใจ ที่มีใครสักคนกล้าลงโทษภรรยารองของญาติผู้พี่เสียบ้าง
"เจ้ากล้ามากไปแล้วคนสกุลเจียง" หยุนฮ่าวหรานกล่าวพร้อมทำท่าจะเดินสามขุมเข้าหาเจียงถิงถิง เพียงก้าวเดียวที่ก้าวไปก็ต้องหยุดชะงักเพราะถูกเจียงถิงถิงตบอีกคน
"นี่เจ้า"
"นี่ถือเป็นการเตือนสติที่หลงผิดเป็นชอบ ไม่รู้ถูกผิดหากจะหาผู้ผิดข้ารับเองทั้งหมด แต่อย่าคิดจะทุบตีข้าอีกเพราะข้าจะไม่ยอมผู้ใดอีกต่อไป" หลังเอ่ยวาจาด้วยเสียงแข็งกร้าวถ้วนทั่วบริเวณล้วนไม่มีผู้ใดเอ่ยสิ่งใดออกมา คงเพราะผู้คนล้วนตกตะลึงในท่าทีที่เปลี่ยนไปจนหมดของเจียงถิงถิง กล่าวจบนางก็เดินหันหลังจากไปพร้อมด้วยสาวใช้คนสนิทเดินตามไม่ห่าง ผู่เย่ว์มองเจ้านายด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนางอยากให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้มาแล้ว
"ฉันแก้แค้นให้เธอแล้วนะเจียงถิงถิง" ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำเสียงแผ่วเบาขณะเดินกลับเรือนของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนใหญ่ออกไป
5ใจคนยากแท้…หยั่งถึง"ไปทำอาหารกันเถอะผู่เย่ว์ อีกเดี๋ยวก็ได้เวลาไอเอฟแล้ว" กล่าวจบนางก็พาร่างอวบเดินไปทางครัวในเรือนตน สาวใช้ทำหน้างุนงงกับคำพูดเมื่อครู่ของผู้เป็นนายจึงได้แต่ทบทวนคำของนางแล้วเดินตามไป"คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ" ผู่เย่ว์ถามนายของตนหลังเท้าซ้ายแตะบนพื้นห้องครัว เจียงถิงถิงหันกลับมามองผู่เย่ว์ด้วยสายตาเช่นเดียวกับที่ผู่เย่ว์มองนาง"อะไรเหรอ""ไอเอฟอะไรหรือเจ้าคะ" คนพูดยิ้มกว้างด้วยความลืมตัวเพราะดันหลุดกล่าวคำพูดของยุคตนเอง นางหัวเราะในลำคอพร้อมก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าคนถามมองสาวใช้ของตนอย่างเอ็นดู"ไอเอฟคือการกินและหยุดกินเป็นเวลาเพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารที่กินเข้าไปให้หมดอย่างไรล่ะ ทีนี้รู้แล้วก็ไปเอาเนื้อหมู แครอท พริกอ่อนมาให้ข้าที" สาวใช้พยักหน้ารับคำแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว เจียงถิงถิงเดินเข้าไปเพื่อเตรียมข้าวของที่ใช้ทำอาหารพร้อมกับบ่นพึมพำอยู่ลำพัง"ถ้าอยู่โลกนู้นฉันคงทำอาหารได้เยอะกว่านี้แน่ ๆ เฮ้อ…อีกกี่เดือนร่างยายคุณหนูนี่ถึงจะผอมได้ล่ะเนี่ย" ระหว่างที่เตรียมข้าวของก็เติมไฟรอทำอาหารไปด้วย เธอจะทำอย่างไรกับอนุภรรยานางนั้นดีเท่าที่ดูจากความทรงจำของเจียงถิง
4เจ้าไม่ใช่นาง"ผู่เย่ว์จัดโต๊ะแล้วตักข้าวสวยให้ข้าที ตักเผื่อคุณชายอันสักชาม" เจียงถิงถิงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่ายจะปะทะวาจาต่อ จึงปลงใจหันไปสั่งผู่เย่ว์ให้เตรียมจัดโต๊ะอาหารที่โถงกลางของเรือนตนเอง"เจ้าค่ะคุณหนู" ผู่เย่ว์ค้อมหัวรับคำแล้วยกไก่ผัดต้นหอมชามใหญ่และจานไข่เจียวเพื่อจะออกไปจัดโต๊ะอาหาร"อ๋อ ข้าวสวยของข้าไม่ต้องตักมากเพียงสองอุ๋งมือก็พอ" เสียงหวานกล่าวจบก็หยิบแตงกวาที่ปอกแล้วขึ้นมาหั่นใส่ชามจนหมดทั้งสองลูก เพียงไม่นานผู่เย่ว์ก็กลับมาตักข้าวสวยให้ผู้เป็นนายและแขก"ไปสิ รีบกินรีบกลับได้แล้ว""เหตุใดจึงรีบไล่ข้าเช่นนี้ คราก่อนเจ้ายังขอให้ข้าพาไปเที่ยวตลาดอยู่เลย""นั่นมันเมื่อก่อน รีบไปกันเถอะ" คุณหนูเจียงเอ็ดบุรุษตรงหน้าก่อนจะลากข้อมือของเขาให้ตามไปที่โต๊ะที่ผู่เย่ว์จัดไว้ คนเดินตามยกยิ้มมุมปากอย่างขบขันกับกิริยาสตรีที่เดินอยู่เบื้องหน้า"ตั้งแต่คราที่เจ้าจมบ่อบัวหัวคงกระแทกอย่างหนักกระมัง นิสัยและกิริยาจึงเปลี่ยนไปมากมายเช่นนี้""ไม่ต้องพูดมาก รีบกินรีบกลับไปเสีย" น้ำเสียงขุ่นมัวเอ่ยออกมาจากริมฝีปากสีชมพูที่แห้งแตกด้วยความไม่พอใจบุรุษตรงหน้าเพราะมาวุ่นวายกับตนเอง น
3งามจากจิตใจ“ข้าไม่งามใช่หรือไม่ผู่เย่ว์” ฮูหยินเอ่ยถามสาวใช้ข้างกายที่เดินตามอยู่ทางด้านหลังด้วยน้ำเสียงเรียบ นางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วใช้สายตาไล่มองตั้งแต่ฝ่ามือพลิกมองหลังมือ ข้อมือ ตลอดจนแขนทั้งสองข้างที่อวบอ้วน พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“คุณหนูของข้างามจากจิตใจเจ้าค่ะ” ผู้เป็นบ่าวตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางยกยิ้มให้คุณหนูของตนจากทางด้านหลัง เจียงถิงถิงหยุดเดินแล้วขมวดคิ้วก่อนจะหันกลับไปมองสาวรับใช้ของตน“แปลว่าภายนอกไม่งามสินะ”“ไม่ใช่เจ้าค่ะคุณหนู”“เอาเถอะ ข้าก็พอจะรู้ตัวดีอยู่แล้ว เฮ้อ” สองเท้าออกเดินไปข้างหน้าหลังจากพูดจบ พอเห็นคุณหนูของตนดูมีท่าทีไม่สบายใจก็รีบเดินตามไปติด ๆ“คุณหนูมีสิ่งใดไม่สบายใจหรือเจ้าคะ” ผู่เย่ว์ถามเจ้านายของตนขณะที่กำลังเปิดประตูห้องให้เจียงถิงถิงเข้าไปด้านใน เจียงถิงถิงพาร่างที่อวบอ้วนของตนเดินเข้าไปด้านใน ผู่เย่ว์ปิดประตูแล้วเดินตามเข้าไปยืนอยู่ข้าง ๆ ตั่งไม้“หนักใจน่ะสิ ข้าต้องลดน้ำหนักเกือบสองร้อยจิน เมื่อใดจะผอมเล่าไหนจะข้าวปลาอาหาร งานหนักโดยแท้” เจียงถิงถิงกล่าวกับสาวใช้ของตนพร้อม ๆ กับใช้มือข้างที่ถนัดกุมขมับของตนเอาไว้ราวกับกำลังคิดหนักเสีย
2ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" สาวใช้ถามผู้เป็นนายด้วยความห่วงใย แม้จะยังงุนงงสงสัยเกี่ยวกับการที่นางสิ้นลมแล้วฟื้นขึ้นมา ถามเสร็จก็จัดแจงหาอาภรณ์มาให้ผู้เป็นนายได้ผลัดเปลี่ยน เจียงถิงถิงนั่งกระพริบตาถี่ ๆ ราวกับกำลังนึกบางสิ่งบางอย่างอยู่ ผู่เย่ว์ใช้มือแตะลงบนต้นขาที่อวบอ้วน นางจึงเริ่มได้สติหันมามองผู่เย่ว์ที่มีท่าท่างกล้า ๆ กลัว ๆ ราวกับไม่กล้าจะมองนาง"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องห่วงไป" เจียงถิงถิงหันไปบอกสาวใช้ของตนเองด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน ไม่ได้ต่างไปจากก่อนนางจะจมน้ำที่บ่อบัวกลางสวนใหญ่แม้แต่น้อย ผู่เย่ว์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะลุกขึ้นเพื่อช่วยคุณหนูของนางเปลี่ยนอาภรณ์ที่เปียกชื้น"โอ๊ย นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันถึงได้อ้วนขนาดนี้ล่ะเนี่ย" หลังจากถอดอาภรณ์ที่เปียกชื้นออกเผยให้เห็นร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกคลุม เจียงถิงถิงกรีดร้องออกมาอย่างไม่ทันได้คิดสิ่งใด เพียงเพราะนางเห็นร่างกายของตนเองในชาตินี้ ภาพวาดสตรีจากโลกแห่งอนาคตที่ใช้ชีวิตด้วยการเป็นนักโภชนาการอาหารเพื่อช่วยลดและควบคุมน้ำหนักของผู้อื่น นางจึงมีทรวดทรงที่เพรียวบางอยู่เสมอ การเห็นตนเองอวบอ้วนเช่นนี้ทำนางใจหาย
1ทางเดียวที่เลือกได้"ท่านยมทำไมพูดอะไรใจร้ายแบบนั้นล่ะคะ" หลังจากที่ยมฑูตพูดจบเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลคาราเมลก็พูดต่อแทบจะทันที ใบหน้าสวยหงิกงอเพราะทางเลือกที่ไม่ได้ดีนักทั้งสองทาง ก่อนจะถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ด้วยความปลงตก"เลือกได้แล้วสินะ""ใช่ค่ะ""เช่นนั้นก็บอกทางเลือกของเจ้ามา ข้าจะได้รีบทำภารกิจให้เสร็จแล้วรีบไปต่อ" ยมฑูตยกมือสองข้างขึ้นมากอดอก รอฟังคำตอบของร่างโปร่งแสงตรงหน้า เพราะหลังจากจัดการเรื่องของเธอสำเร็จหัวหน้ายมฑูตก็จะได้กลับไปจิบชานมในยมโลก โดยไม่ต้องมาวุ่นวายกับเหล่ามนุษย์อีก"เลือกเป็นตัวเองในอดีต""ข้าคิดว่าเจ้าควรเป็นสุนัขมากกว่า ไม่ต้องคิดไม่ต้องทำอะไรวัน ๆ ได้แต่กินกับนอน" บุรุษในร่างโปร่งแสงพูดขึ้นพร้อม ๆ กับใช้มือขวามาวางเหนือศีรษะของวิญญาณหญิงสาวตรงหน้า คล้ายกับกำลังร่ายเวทย์มนตร์"เดี๋ยวค่ะ""มีอะไรอีก ข้าต้องรีบไปแล้วมัวชักช้าลีลาอยู่ได้เดี๋ยวสาปให้เป็นหมาซะนี่" ยมฑูตที่รอนานพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มจนวิญญาณหญิงสาวแทบกรูหนี ก่อนเธอจะอ้าปากพูดด้วยความเกร็งเล็กน้อย"ใจเย็น ๆ นะคะ ฉันแค่อยากขออะไรสักสองสามข้อได้ไหมคะ""ว่ามา""ขอความทรงจำทุกเรื่องของฉันเอาไว้""ต่อไ
บทนำในสถานที่เริงรมย์กลางเมืองปรากฏร่างระหงส์ของหญิงสาวในเสื้อกล้ามครอปสีดำสนิทโชว์เอวเล็กคอด บวกกับกางเกงยีนส์เข้ารูปและที่ทำให้เธอดูโดดเด่นเป็นพิเศษเห็นจะเป็นใบหน้าสะสวย ซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสนุกสนานเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทเธอจึงได้ออกจากบ้านหรือที่เธอเรียกมันว่าถ้ำ เธอมักจะหมกตัวอยู่ในโลกส่วนตัวทำคลิปเทรนลูกค้าเรื่องการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก พอได้ออกมาเพื่อนสาวของเธอเลยจัดหนักจัดใหญ่ให้เธอได้เมาจนแทบจะพากันเลื้อยกลับโชคยังดีที่ตอนนี้มีบริการคนขับรถแทนเธอจึงจำต้องใช้บริการเพราะไม่สามารถขับรถกลับไปในสภาพนี้ได้จริง ๆ“ฉันกลับก่อนนะ มีความสุขมาก ๆ นะแก” ภาพวาดคือชื่อของหญิงสาวที่ยืนเซซ้ายเซขวาอยู่หน้าทางออกจากคลับ ซึ่งเธอกำลังร่ำลาเจ้าของวันเกิดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแก้มที่เคยมีสีชมพูอ่อนเพราะบลัชออน ตอนนี้บลัชออนได้จางไปหมด แต่ที่เห็นว่าแก้มนวลยังมีสีชมพูอยู่คงเพราะแอลกอฮอล์สูบฉีดอยู่ในร่างกายของเธอละมั้งมันถึงแดงมากกว่าบลัชออนซะอีก“โอเค แล้วเจอกันใหม่นะภาพวาดเพื่อนรัก” เจ้าของวันเกิดบอกเสียงอ้อแอ้เพราะอาการลิ้นเปลี้ยจากการดื่มแอลก







