หลินไป่หลันสั่งงานกับพ่อบ้านว่าเธอจะเข้าในเมืองหลวงไปธุระ
"พ่อบ้านดูแลจวนและคนงานด้วยเพราะว่าข้าอาจจะไปหลายวัน" "ขอรับนายหญิงอย่าได้เป็นห่วงข้าจะทำตามที่นายหญิงสั่งทุกอย่าง" "กับดักก็ให้ขึ้นไปดูทุกวันและไม่ต้องเข้าไปลึกมากให้ทำสัญลักษณ์เวลาขึ้นไป ถ้าไปนอกเส้นทางที่ข้าพาไปเอาคนที่ร่างกายแข็งแรงไปช่วยกันหลายๆคน และอย่าปล่อยให้พวกสาวๆอยู่ตามลำพังในป่าเด็ดขาดต้องมีผู้ชายคุ้มกันเผื่อมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น" ทุกคนรับทราบว่านายหญิงไม่อยู่จวนหลายวันก็บอกว่าจะตั้งใจทำหน้าของตัวเองอย่างดี ยามเซินรถม้าจากจวนอ๋องก็มารอที่ประตูจวน แม่นมถงชือเดินออกมาส่งคุณหนูของนางที่รถม้าให้พี่สาวลู่ซิงไปตามดูแลในวังด้วย "พี่ลูฟางฝากพี่ดูแลแม่นมด้วยนะเจ้าคะ" "เจ้าค่ะพี่จะดูแลแม่นมอย่างดีคุณหนูอย่าได้เป็นห่วง" หลินไป่หลันขึ้นไปในรถรถม้าก็ตกใจ 'เอ้ยตกใจหมดเลยขวัญเอ่ยขวัญมา' ไป่หลันตบหน้าอกตัวเองเบาๆ "ข้าไม่ไช่ผีสักหน่อยพระชายา" อ๋องโม้เทียนพูดและมองหน้าพระชายาของตัวเอง "ใครจะไปรู้ว่ามีคนอยู่ในรถม้าท่านอ๋องทำไมไม่ขี่ม้าไปละเพคะ หรือว่าจะให้หม่อมฉันไปเองก็ได้เพคะ" ไป่หลันถามอ๋องโม้เทียนหลงและแอบกรอกตามองบนที่จะต้งมานั้งกับคนที่เธอไม่ชอบ ท่านอ๋องมองชายาตนแล้วพูด " ข้าอยากนั่งรถม้าเจ้าถามทำไมหรือพระชายาไปด้วยกันนี้ละไม่ต้องไปหลายคัน" อ๋องหนุ่มตอบหน้าตาย "เปล่าเพคะเห็นพระองค์เคยบอกว่าไม่อยากให้หม่อมฉันนั่งใกล้เพราะรังเกียจกลัวจะติดเสนียดจากหม่อมฉันนะเพคะ" "ข้าจำไม่ได้แล้ว" "แต่หม่อมฉันจำได้" ให้ตายเถอะด่าเขาแรงขนาดนั้นใครจะไปลืมลง ไป่หลันมองหน้าท่านอ๋องสงสัยวันนี้คงจะกินยาลืมเขย่าขวดมั่งหรือลื่นล้มหัวกระแทกพื้นมาเลยทำตัวแปลกๆต้องระวังตัวแล้วตัวเธอคิดในใจ "พูดอะไรหรือพระชายา" "เปล่าเพคะ" ไป่หลันตอบพร้อมกับขยับตัวไปติดหน้าต่างอีกฝั่งหนึ่ง เขาจะทำเป็นว่าไม่ได้ยินแล้วกัน โม้เทียนหลงมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายาเขายอมรับว่าหลินไป่หลันสวยมาก มองแล้วให้คันยุบยิบหัวใจที่เขาไม่ชอบในอดีตก็คือเธอชอบมองเขาและแสดงออกว่ารักและหลงเขามากเวลาเห็นเขาที่ไหนก็จะแสดงออกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่ในเวลานี้ชายาเขาไม่แม้จะหันหน้ามองเขาเลยแสดงออกว่าไม่อยากแม้จะพูดคุยด้วยคนเราจะเปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืนเลยหรือเขาได้แต่คิดในใจ "ข้าได้ยินว่าเจ้าซื้อทาสมาหลายครอบครัวเลยหรือพระชายา" ท่านอ๋องถามเปลี่ยนเรื่อง หลินไป่หลันหันหน้ามามองพระสวามี "เพคะท่านอ๋องมีอะไรปัญหาหรือเจ้าคะ ก็จวนท่านก็ให้เป็นชื่อของหม่อมฉันแล้วจะทำอะไรก็ได้ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้วนี้เพคะ" "ข้าก็แค่ถามว่าซื้อมาทำไมเยอะแยะจะให้พวกเขาทำอะไรอย่างงั้นหรือพระชายา" "เปล่าก็แค่สงสารจึงซื้อมาและให้ช่วยทำสวนทำไร่ปลูกข้าวกินเองจะได้ไม่ต้องตกนรกในโรงค้าทาสก็แค่นั้น" "ข้าพึ่งรู้ว่าพระชายาเป็นคนขี้สงสารชาวบ้านตาดำๆกับเขาเป็นด้วย" "คนเราก็ต้องมีบ้างคงไม่เลวได้ตลอดเวลาหรอกมั้งเพคะคนทุกคนก็ย่อมมีสองด้านเสมอ หม่อมฉันรับรองว่าไม่ให้เดือดร้อนท่านอ๋องแน่นอนเพคะ" "ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เสร็จงานในวังข้าจะไปชายแดน3เดือนมีเรื่องที่ชายแดนต้องไปสะสางพระชายาจะไปด้วยหรือไม่" ท่านอ๋องถาม หลินไป่หลันมองหน้าท่านอ๋อง "ทำไมหม่อมฉันต้องไปด้วยละเพคะ ในเมื่อคนไม่ชอบหน้ากันอยู่คนละที่กันก็ดีแล้ว" "อ้อถ้าต้องมีคนไปด้วยพระองค์ก็ให้ชายารองไปด้วยสิเห็นรักกันมากไม่ไช่หรือเป็นหม่อมฉันที่ไปตัดด้วยแดงของคู่หยินหยางต้องขอโทษด้วย" ไป่หลันไม่ลืมที่จะแซะกัดไปเบาๆเพื่อความสะใจ "ข้าไม่แต่งใครอีกแล้วละ" "ก็แล้วแต่แล้วอย่าบอกว่าหม่อมฉันห้ามอีกนะเพคะ" ไป่หลันตอบไปแบบไม่แคร์อะไร ต่างคนต่างเงียบไป่หลันจึงหันหน้าออกไปทางหน้าต่างรถม้ามองดูวิวสวยๆข้างทางบ้านเรือนไร่นาสมัยโบราณ อ๋องโม้เทียนหลงก็มองดูพระชายาเงียบๆ ไป่หลันตื่นเต้นถ้าเห็นอะไรแปลกๆข้างทาง ตาเธอดูกลมโตมือก็กำๆเหมือนตื่นเต้นตลอดเวลา อ๋องหนุ่มมองดูชายมาด้วยความเอ็นดูเล็กน้อยหึนึกว่าจะมีแค่หน้าเดียว ยามอิ่วก็มาถึงเมืองหลวงรถม้าวิ่งผ่านประตูเมืองไปเรื่อยๆไปหลันดูตื่นตาตื่นใจในตัวเมืองหลวงมองนั้นมองนี้ด้วยความลืมตัว เมืองสมัยโบราณก็สวยดีเหมือนกันมีโรงเตี้ยมใหญ่หลายที่เหลาอาหารใหญ่โตรถม้าวิ่งช้าลงเพราะเข้าเมืองเสียงคนคุยกันจอแจนี้คือตลาดสินะคนก็เยอะดีเหมือนกัน เราต้องชวนพี่ลู่ซิงออกมาเที่ยวดีกว่าวันหน้า "เจ้าไม่เคยเห็นหรือดูตื่นเต้นไปได้" หลินไป่หลันลืมตัวตอบ "ก็ไม่เคยเห็นนะสิถามโง่ๆ" "เจ้าว่าอะไรนะพระชายา" ท่านอ๋องถามเสียงเรียบนางช่างพยศพูดจาดีๆไม่เป็น "เปล่าเพคะหม่อมฉันเพียงแต่ตอบว่าไปอยู่นอกเมืองนานเป็นหลายเดือนจึงคิดถึงในเมืองเป็นธรรมดานะเพคะ" ไป่หลันที่ได้ยินน้ำเสียงเรียบๆของท่านอ๋องก็รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างลืมไปเลยยังไงท่านอ๋องก็เป็นโอรสสวรรค์คนหนึ่งเธอแอบปาดเหงื่อทิพย์เบาๆ "แล้วไปนึกว่าพระชายาไม่เคยเห็น" ท่านอ๋องประชดหลินไป่หลันจึงมองค้อนท่านอ๋องวงใหญ่ ท่านอ๋องหนุ่มมองชายาด้วยความสงสัยข้าจะต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าเป็นอะไรจึงเปลี่ยนเป็นคนละคนได้ โปรดติดตามตอนต่อไปวันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกในวันนี้หลินไป่หลันกลับมาจากชายแดนได้เกือบปี มาถึงเมืองหลวงไป่หลันตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วสร้างความดีใจให้กับสามีจนร้องให้ด้วยความดีใจในที่สุดเขาก็ปั้นก้อนแป้งสำเร็จ ท้องของเธอใหญ่โตจนคิดว่าในท้องของเธอมีเด็กอยู่หลายคนตามที่หมอหลวงมาตรวจ"เส้นมงคลของพระชายาหลายสายมากพระย่ะค่ะท่านอ๋อง" เธอจึงไม่ต้องทำอะไรนอกจากกินและนอนและเดินออกกำลังกาย งานการก็ยกให้สวามีกับพี่สาวทั้งสองดูแลไปส่วนแม่นมอยู่ข้างกายไม่ห่างกายต่อจากสามีผู้หน้ารัก หลังออกไปดูแลงานก็จะเป็นแม่นมดูแลต่อไม่ห่างส่วนพี่ทั้งสองก็แต่งให้กับองครักษ์คนสนิทของท่านอ๋องทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากกลับมาถึงเมืองหลวงได้หนึ่งเดือนส่วนตอนนี้ทางท่านพ่อก็ส่งจดหมายมาเป็นประจำพร้อมของท่านแม่และพี่ชายและเพื่อนสาวว่าตอนนี้ทั้งสองสาวได้ตั้งท้องได้สามเดือนแล้ว สร้างดีใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมากท่านพ่อก็น้ำยาดีใช่ย่อยแฮะทำน้องได้สำเร็จจนได้พี่ชายก็เก่งเหมือนกัน ทั้งสี่คนจะขึ้นมาในอีกหนึ่งเดือนมาดูแลลูกสาวที่จะคลอดในอีกเดือนกว่าๆเท่านั้นไป่หลันนั่งอ่านจดหมายในห้องนอนให้สามีฟังด้วยที่ห้องนอนตอนนี้เธอเดินลำบากเพราะท
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันแต่งงานของท่านพ่อกับพี่ชายก็มาถึง ไป่หลันนำเห็ดหลินจือที่เก็บไว้ในมิติออกมายี่สิบดอกโสมคนอีกยี่สิบหัวไข่มุกในหอยน้ำจืดที่เก็บไว้ในมิติอีกคนละห้าสิบเม็ดเงินตำลึงทองสองแสนตำลึงทองทองคำอีกสิบหีบและแหวนเพรชสองวงให้องค์หญิงทั้งสอง และเครื่องเพรชครบชุดอีกสองชุดแลชุดเครื่องทองอีกสองชุดและสร้อยทองที่สลักรูปของท่านพ่อและพี่ชายสองเส้นใหญ่สวมใส่ที่คอให้ทั้งสองสาวรวมทั้งผลไม้ในมิติทุกอย่างขนมาเป็นสินสอดให้ท่านพ่อกับพี่ชายสร้างความฮือฮาให้กับขุนนางเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เห็นเห็ดและโสมคนทั้งที่บ้านเมืองแห้งแล้งแต่พระชายากับมีของล้ำค่าไว้ในครอบครองอย่างมากมายฮ้องเต้ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมากจะให้กลับไปเอาของที่จวนของท่านพ่อก็อยู่ไกลเกินไปจึงขนเอาของในมิตินี้ละง่ายดีไป่หลันคิดเราเป็นคนแต่งงานให้ท่านพ่อกับพี่ชายนะนี้ไม่เป็นไรวันหน้าจะขอคืนมาใช้ก็ได้ถ้าเธอจนขึ้นมาหึๆส่วนแม่ทัพก็ขนสินสอดในค่ายมาเติมจนเต็มเหมือนกันไม่น้อยหน้าน้องสาว"ขอบใจมากลูกกลับเมืองหลวงไปลูกก็ไปขนในคลังของพ่อคืนนะ" ท่านราชครูบอกลูกสาวเขาไม่คิดว่าการชายแดนพร้อมกันกับลูกสาวครั้งนี้ทำให้ได้เมียรักกลับไปด้วยจึงไม่ได้เอ
และแล้วกองทัพของอ๋องอี้ถูก็มาประชิดเมืองกำลังทหารนับแสนจากที่มันบังคับลูกผัวใครไม่สนขอแค่บังคับให้รบเพื่อตัวเองก็พอ ใครขัดขืนฆ่าทิ้งให้หมดแม้แต่คนในแคว้นของตัวเองมันยังไม่ละเว้นเพราะว่าอยากจะเป็นฮ้องเต้ซะเองแต่ชอบใช้กำลังข่มเหงประชาชนตาตาดำๆกองทัพตั้งท่ารอคำสั่งแม่ทัพใหญ่อี้ถูว่าจะให้ลงมือยามใด หลินไป่หลันอ๋องโม้เทียนหลงแม่ทัพฝูทรงใช้ปืนไรเฟิลเล็งหัวแม่ทัพอี้ถูและกุนชือและรองแม่ทัพมันคนละกระบอกเตรียมยิงทันทีจะไม่มีการให้เสียเลือดเนื้อชาวบ้านและทหารที่โดนบังคับมาเด็ดขาดทุกคนเล็งหัวของพวกมันได้แล้วรอให้มันยกมือส่งสัญญาญก็จะยิงพร้อมกันทันทีฟากฝั่งชายแดนของค่ายทหารใหญ่แม่ทัพฝูทรงรองแม่ทัพใหญ่เฟยหลงก็เอาปืนเล็งหัวแม่ทัพของฝ่ายตรงข้ามเหมือนกันรวมทั้งกุนชือใหญ่ด้วย ส่วนทหารทั้งหลายก็เตรียมธนูที่ใส่ระเบิดขี้ค้างคาวเรียงหน้ากระดานบนกำแพงค่ายทหารรอแค่คำสั่งรองแม่ทัพเท่านั้นการรบเหมือนกับที่วางแผนเอาไว้กับท่านแม่ทัพฝูทรงทุกอย่างและไม่ประมาทอย่างเด็ดขาดไป่หลันส่งสัณญาณมือยกขึ้นและบอกให้ยิงทันทีพร้อมกันที่เห็นมือของท่านอ๋องยกขึ้น ให้บุกเข้ากำแพงเมือง ลูกปืนยิงแสกหน้าผากของอ๋องอี้ถูและคนสนิททั้ง
ในเวลาสองอาทิตย์ที่ข้าศึกจะมาถึงเมืองหลวงฮ้องเต้ได้เกณฑ์ชาวบ้านที่อยู่ทางที่ข้าศึกจะผ่านให้ไปหลบภัยบนภูเขาที่สร้างเป็นที่หลบภัยชั่วคราวทุกหมู่บ้านและเตรียมรับมืออย่างแข็งแกร่งในทุกวันหลินไป่หลันก็ออกไปช่วยหารทำระเบิดและแปรรูปอาหารแห้งให้เพียงพอและยังมีสัตว์ที่ดักได้ขนลงมาเลี้ยงขยายพันธุ์อีก ส่วนปลานำมาตากแดดทำปลาร้าปลาส้มกุ้งจ๋อมปลาจ๋อมไว้กินกับข้าวสวยร้อนๆและรมควันปลาย่างไว้อีกเยอะแยะส่วนท่านแม่ของเธอก็ไปช่วยลูกสะใภ้ปรุงยาทุกวันเหมือนกันแต่ทุกเย็นต้องกลับมาเสวยมื้อเย็นที่เรือนรับรองจนดึกทุกคืนจึงจะกลับไปตำหนักของตัวเอง ส่วนกลางวันก็กลับไปเสวยกับบิดาและมารดาเพื่อที่พวกท่านจะวางใจไม่เป็นห่วงเวลาไปช่วยงานพระชายาและไปปรุงยาที่โรงหมอหลวงส่วนบิดาของเธอที่เดินทางมาถึงแคว้นเว่ยตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ในวันที่ท่านแม่วิ่งเข้ากอดท่านพ่อคนหล่อในตอนค่ำที่มาถึงและเรียกท่านพ่อว่าท่านพี่ ไป่หลันอยากหัวเราะดังๆท่านพ่อตกใจจนหน้าซีดที่องค์หญิงลี่อิงฮวากอดและเรียกท่านว่าท่านพี่ ทั้งยังกอดเขาร้องให้และเล่าเรื่องราวที่อยู่ด้วยกันและตั้งชื้อลูกก่อนจะเกิดว่าให้ชื่ออะไรบ้าง บิดาตกใจและเรียกองค์หญิงว่าเป็นน้
หลินไป่หลันตั้งสติและจับมือองค์หญิงลี่อิงและตบหลังมือเบาๆ"ใจเย็นก่อนเพคะองค์หญิงลี่อิงฮวาค่อยๆเล่าเพคะหม่อมฉันรับฟังทุกอย่างที่องค์หญิงจะเล่าให้ฟังเพคะ"หลังจากสงบใจอยู่พักหนึ่งองค์หญิงลี่อิงก็เริ่มเล่าเรื่องของเธอกับหลินไป่หลันหลินฟางเซียนคือชื่อของเธออดีตคือภรรยาของท่านราชครูหลินตรงให่และเสียชีวิตตอนลูกสาวได้10ขวบ"วันนั้นแม่เข้าวังไปงานเลี้ยงกับบิดาของเจ้าโดนวางยาพิษโดยไม่รู้ตัวจึงล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด คนที่วางยาพิษคือคนที่หลงรักบิดาของเจ้าแต่บิดาเจ้าไม่รักตอบกลับมาแต่งงานกับแม่ทำให้นางเสียใจและอาฆาตแค้นโดยที่แม่ไม่รู้เลยว่านางเข้ามาแก้แค้นและวางยา คิดว่าแม่ตายไปบิดาของลูกจะรับนางมาเป็นเมียอีกคนแต่ดีที่บิดาของลูกมั่นคงในความรักกับแม่จึงไม่รับรักนางตอบ นางจึงโกรธมากพูดเหมือนคนเสียสติบิดาถึงรู้ว่าแม่โดนวางยามันไม่ออกฤทธิ์ทันทีมันค่อยๆกัดกินที่ละน้อยกว่าจะรู้ก็สายแม่จึงเสียชีวิตจากลูกทั้งสอง" องค์หญิงเล่าไปน้ำตาก็ไหลไปและเอามือลูบแก้มไป่หลันไปด้วยความรัก"แล้วคนที่วางยาท่านแม่ละเจ้าค่ะท่านพ่อทำอย่างไร" กับนางไป่หลันถามมารดาต่อด้วยความอยากรู้"บิดาของเจ้าก็จับนางกรอกยาพิษแบบเดี
หลินไป่หลันสอนทหารที่ขึ้นเขาให้รู้จักผักป่าที่กินได้เห็ดป่าเถามันเทศมันฝรั่งและสอนทำที่ดักปลาอยู่หนึ่งอาทิตย์ ส่วนหลุมดักสัตว์เป็นคนสนิทของท่านอ๋องที่สอนทั้งทำที่ดักและบอกวิธีดักสัตว์ใส่รอบดักปลาพาเก็บผักบุ้งมาผัดกินกันอย่างอร่อยส่วนแม่ทัพฝูทรงก็ขึ้นเขาไปช่วยองค์หญิงลี่จูไปเก็บสมุนไพรเหมือนเดิมอยู่หนึ่งอาทิตย์เหมือนกันและพากันไปปรุงยาที่โรงหมอหลวงหนักเข้าไม่กลับมากินข้าวกับน้องสาวเลย ขลุกอยู่กับองค์หญิงทั้งคืนเพื่อเร่งปรุงยาให้ได้เยอะที่สุด กลับมาก็นั่งยิ้มตาหวานในตอนเช้ากับน้องสาวไป่หลันบอกเย้ายอกพี่ชายเหม็นกลิ่นความรักจึงได้เจอแจกค้อนจากพี่ชายในวันนั้นมาส่วนวันนี้ทุกคนหยุดเพื่อจะวางแผนรบและฟังสายข่าวที่ไปสืบความว่าอ๋องอี้ถูนำทหารมาถึงไหนแล้วจะได้เตรียมรับมือถูก"ไม่เกินสองอาทิตย์ขบวนทหารจะถึงชายแดนฝั่งแม่ที่แม่ทัพฝูทรงดูแลขบวนหนึ่งและขบวนที่ท่านอ๋องนำมาเองคือมุ่งสู่วังหลวงพะย่ะค่ะฝ่าบาท" ม้าเร็วเข้ามารายงานในท้องพระโรงฮ้องเต้จึงปรึกษาแม่ทัพใหญ่ของพระองค์เองพร้อมทั้งอ๋องโม้เทียนหลงและแม่ทัพใหญ่ฝูทรงต่อในห้องส่วน"พระองค์หม่อมฉันวางแผนเอาไว้กับแม่ทัพของพระองค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ" แม่ทัพฝ