หน้าหลัก / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

แชร์

เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-14 21:50:56

         สุดท้ายแล้ววันนั้นเหลียนเฟินก็ผ่านการสอบมาได้ กลายเป็นศิษย์ที่เหล่าอาจารย์และเพื่อนพ้องร่วมสำนักภาคภูมิใจ อาจารย์อาจึงตกรางวัลเขาด้วยวันหยุดพักผ่อนห้าวันพร้อมอัฐอีกหนึ่งถุงใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว

          กระนั้นความฝันที่จะได้นอนเล่นอยู่เงียบ ๆ ก็สลายไปเมื่อศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้นเหมือนจะได้ออกไปนอกสำนัก

          “เหลียนเฟินนนน” นางเรียกศิษย์น้องพร้อมรอยยิ้มเลศนัย

          เหลียนเฟินจึงรีบหันหน้าไปอีกทางเตรียมวิ่งหนีเพราะรู้ดีว่าสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอะไร

          “เหลียนเฟิน ถ้าเจ้าหนี ข้าจะฟ้องอาจารย์ว่าเจ้าไม่ดูแลข้า” หลวนเล่ออ้างคำสั่งของหมิงฮวาที่ฝากฝังเอาไว้ เขาจึงถอนหายใจรอรับฟังสิ่งที่นางจะเอ่ย

          “ข้าเดาว่า ข้าต้องช่วยทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่” เหลียนเฟินถาม ในใจภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันว่างของเขาเลย

          “อาจารย์อาสั่งให้ข้าไปตรวจหาสาเหตุการตายของชาวบ้านที่เมืองเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองไม่อยู่ ศิษย์พี่ซีหลิวมีงานรัดตัว ข้าเลยขอพาเจ้าไปด้วย อาจารย์อาอนุญาตแล้ว” หลวนเล่อร่ายยาวเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรู้ดีว่าศิษย์น้องผู้นี้เพิกเฉยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านไม่ได้ อีกทั้งวิชาและฝีมือด้านกระบี่ก็เหนือกว่านาง มีเขาไปด้วยอุ่นใจมากกว่าไปคนเดียวเป็นไหน ๆ

          “อื้ม รีบไปเก็บสัมภาระเถิดขอรับ อาจารย์อาให้อัฐมาด้วยหรือไม่” เหลียนเฟินเอ่ยปากถาม การไปต่างเมืองไกลเพียงนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายมากนัก ในเมื่อวันว่างของเขาหมดไปแล้ว อย่างน้อยก็เหลือถุงเงินของเขาไว้ก็ยังดี

          “ของเช่นนั้น แน่นอนว่าไม่มี เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าอาจารย์อาแพ้พนัน แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าขอยืมศิษย์พี่ซีหลิวกับซิ่นเฉิงมาแล้ว” หลวนเล่อยิ้มแป้นพลางยกถุงเงินนั้นให้ศิษย์น้องดู

          หลังจากเก็บของเรียบร้อย คืนนั้นทั้งสองคนก็เร่งเดินทางไปยังเมืองเฟิงที่อยู่ทางตอนใต้ของแคว้นฉินในทันที

          ก่อนหน้านี้สามวัน วังธาราเหมันต์ได้รับจดหมายจากอ๋องเมืองเฟิงให้ส่งคนมาช่วยสืบหาเรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข แต่จู่ ๆ วันหนึ่งกลับมีคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

          อ๋องเมืองเฟิงสั่งทหารตามหาอยู่นานก็ไม่พบเบาะแสอะไร ความเก่ายังไม่ได้สะสางดันมีเรื่องใหม่แทรกเข้ามา เช้าวันหนึ่งชาวบ้านพบศพไร้หน้า ไร้เนื้อหนังห่อหุ้มร่างกาย เนื้อคนสีแดง ๆ บนกองเลือดส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง สร้างความขวัญผวาให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก

          เมื่อสังเกตให้ดี ร่างที่ไร้ผิวหนังกลับมีไอสีดำปกคลุมแทน ครั้นจะดูว่าผู้เคราะห์ร้ายคือใครก็คาดเดาได้ยาก แต่หญิงชราผู้หนึ่งกลับจำได้ดีว่า ร่างนั้นคือบุตรชายที่หายตัวไป

          แรกเริ่มที่นางเห็นสภาพเช่นนั้น นางไม่อยากยอมรับด้วยซ้ำเพราะนึกถึงสิ่งที่เขาต้องเจอ แต่เมื่อได้เห็นฟันซี่บนที่หลอไปสองซี่ รวมถึงรูปร่างและส่วนสูงของเขา นางแน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าคือบุตรชายของนางจริง ๆ

          หญิงชราผู้นี้นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นสงสารบุตรชาย ไม่อยากยอมรับชะตาของเขา หากแต่เวลานี้ไม่อาจทำสิ่งใดให้ได้แล้วนอกจากจัดการฝังศพทำพิธีส่งวิญญาณให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย

          ราวกับว่าความลับถูกเปิดเผย เช้าวันรุ่งขึ้นศพที่สองก็ถูกวางทิ้งไว้ในตรอกเปลี่ยวกลางเมือง จนบัดนี้ยังไม่อาจหาตัวตนของคนผู้นั้นได้

         

          การเดินทางจากตอนเหนือของแคว้นฉินไปยังเมืองเฟิงจำต้องใช้เวลาเดินเท้าอยู่หลายวันเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นเป็นภูเขาสูงมีหิมะปกคลุม

          “เหลียนเฟิน อีกไกลหรือไม่จะถึงท่าเรือ” หลวนเล่อถามเขาเพราะสอบตกวิชาแผนที่ หากไปที่ใดเพียงลำพังมักจะหลงทางจนต้องให้คนไปตามหา

          “เดินตรงไปข้างหน้าอีกหนึ่งชั่วยามขอรับ” เขาสังเกตว่าพื้นที่รอบ ๆ เริ่มมีดอกหยาดน้ำค้างโผล่แซมกองหิมะบนพื้นบ้างแล้ว จึงมั่นใจว่าท่าเรือที่อยู่ในเขตอบอุ่นอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก

          “อื้ม เจ้าหิวหรือไม่ ข้าพกของหวานมาเผื่อเจ้าด้วย” นางทำท่าจะล้วงมือเข้าไปหยิบของกินมาแบ่งเขา แต่คนตรงหน้ายกมือห้ามไว้

          “ตามสบายเถิด” เหลียนเฟินยังคงระแวดระวัง มองไปรอบด้านตลอดเวลา คอยดูว่ามีสิ่งใดผิดสังเกตไปหรือไม่

          “เจ้าอย่าได้กังวลไป ศิษย์พี่อยู่ตรงนี้ทั้งคน” หลวนเล่อเห็นเขาขมวดคิ้ว สีหน้าจริงจังจึงตะโกนบอก แม้นางจะมีฝีมือเก่งกาจไม่เท่าเหลียนเฟินแต่ถ้าเทียบกับศิษย์สำนักอื่นแล้วถือว่าสูสี

          เหลียนเฟินได้ยินเช่นนั้นจึงยิ้มออกมา เขาคงจะเคร่งเครียดมากเกินไปเพราะรู้สึกว่าเรื่องราวในเมืองเฟิงมีเบื้องหลังซับซ้อน

          ครั้นเดินทางมาถึงท่าเรือช่วงตะวันลับฟ้า พวกเขาก็รีบวิ่งลงเรือเที่ยวสุดท้ายก่อนจะเอาสัมภาระของตนไปวางไว้แล้วนั่งเล่นให้หายเหนื่อย

          เรือไม้ลำไม่ใหญ่มากค่อย ๆ แล่นไปตามน้ำที่ไหลลงไปทางตอนใต้ เหลียนเฟินอยากคลายเหนื่อยจากการเดินทางหลายวันจึงเดินมาหาศิษย์พี่ของเขาพูดอะไรบางอย่างแล้วกระโดดลงไปในน้ำเย็นช่วงค่ำคืน

          “เหลียนเฟิน เจ้าขี้โกง ให้ข้าเฝ้าของแล้วลงไปเล่นน้ำคนเดียวได้อย่างไร” หลวนเล่อตะโกนตามหลัง

          “ศิษย์พี่จะลงมาด้วยข้าไม่ห้าม เพียงแต่ว่าจะไม่มีผู้ใดเฝ้าถุงของหวานก็เท่านั้น” เหลียนเฟินพูดจบพลางยิ้มให้นางแล้วดำดิ่งลงไปใต้น้ำอันมืดมิด

          พรึ่บ พลันแสงสีฟ้าสว่างขึ้นมาเพราะเหลียนเฟินร่ายวิชาหนึ่งส่องใต้ท้องน้ำยามราตรี

          เมื่อพืชน้ำที่กำลังหลับใหลต้องแสงอาคม พวกมันก็พริ้วไหวไปตามสายน้ำไหลราวต้องมนตร์ เหลียนเฟินแหวกว่ายพลางมองดูปลาตัวน้อย ๆ ลอยอยู่ตามโขดหินด้วยความสนุกสนาน

          ครั้นพักผ่อนจนพอใจแล้วก็กลับขึ้นมาบนเรือ สวมอาภรณ์ชุดใหม่เอี่ยมมานั่งข้างศิษย์พี่หญิง

          “หลับแล้วหรือ” เขาเรียกนางเพราะเห็นเจ้าตัวนั่งเงียบทั้ง ๆ ที่ในมือยังถือซาลาเปาครึ่งลูก

          เหลียนเฟินจึงประคองให้นางนอนบนฟูกดี ๆ ก่อนห่มผ้าให้ แล้วเอนกายพิงถังไม้ เงยหน้ามองดวงดาวระยิบระยับ แล้วร่ายอาคมกันไม่ให้ผู้ใดรบกวนก่อนจะผล็อยหลับไปท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่าง

          บรรยากาศบนเรือสงบเงียบแต่ทางฝั่งเมืองเฟิงกลับตรงกันข้าม ชายขอทานผู้หนึ่งกำลังวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างด้วยสีหน้าตกใจราวเห็นผี เขาพยายามจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือแต่เสียงของเขากลืนหายลงไปในลำคอ สองขาแทบจะก้าวไม่ออก ร่างกายหนักอึ้ง เนื้อตัวเริ่มร้อนระอุอยู่ภายใน

          “วิ่งหนีเหนื่อยเสียเปล่า” น้ำเสียงเยือกเย็นเจือปนความอำมหิตพูดกับเขา คนผู้นี้แสยะยิ้มเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด

          ชายขอทานส่งสายตาพยายามอ้อนวอนเขา ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วยเถิด มือข้างหนึ่งคว้าชายกางเกงพร่ำขอร้อง ช่วยข้าด้วย

          ไฉนเลยจะได้รับเมตตากลับคืน คนผู้นี้ร่ายอาคมเชือดเฉือนเลาะหนังของชายขอทานผู้น่าสงสารอย่างใจเย็น ประคองไม่ให้เนื้อหนังนั้นฉีกขาดจนใช้การไม่ได้ จากนั้นผสานมันเข้ากับกายเนื้อของตนเอง

          เพียงไม่กี่อึดใจ หน้าตารูปร่างของกายเนื้อเดินได้ก็เปลี่ยนรูปลักษณ์อย่างที่เขาต้องการ นับตั้งแต่นี้ไปเขาจะใช้ชีวิตเป็นชายขอทานหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเฟิงจนกว่าแผนที่วางไว้จะสำเร็จ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 3 ลอบทำร้ายประมุข

    รุ่งเช้าวันต่อมา สีหน้าเรียบเฉยของคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ข้างบนระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหวาดกลัวเฉกเช่นคนทั่วไป พลันรอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างเรื่องทั้งหมดหวังสิ่งใด “ตามตัวได้หรือไม่” เสียงเย็นชาถามลูกน้องคนสนิท มือข้างหนึ่งถือถ้วยชายกดื่มสบายอารมณ์ “ยังไม่พบขอรับนายท่าน” เขารายงานตามความจริง นับตั้งแต่รับคำสั่งจากหวังเยี่ยนหลง เขาออกเดินทางสืบเสาะไปทั่วแคว้นซีเป่ย ในที่สุดก็พบว่าคนผู้นี้แอบหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเฟิง ใช้วิชาของตนเองหลบหนียามเมื่อถึงคราวจวนตัว เพียงแต่ครานี้ เขากลับทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจนมากเกินไปจนผิดสังเกต “นายท่าน กำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ” ชายอีกคนเอ่ยปาก “เห็นหรือไม่ว่าเจ้านั่นตั้งใจทิ้งร่องรอยของปราณมารเอาไว้” เขาชี้ไปยังข้างล่างที่มีทหารสี่ห้านายกำลังเก็บศพของชายขอทาน “วิชาของหลินหลีเหว่ยไม่เคยมีร่องรอยเช่นนั้น” “เพราะเหตุใดเล่าขอรับ” ลูกน้องทั้งสองคนยังคงไม่เข้าใจ แต่เจ้านายของพวกเขากลับคาดการณ์แผนทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

    สุดท้ายแล้ววันนั้นเหลียนเฟินก็ผ่านการสอบมาได้ กลายเป็นศิษย์ที่เหล่าอาจารย์และเพื่อนพ้องร่วมสำนักภาคภูมิใจ อาจารย์อาจึงตกรางวัลเขาด้วยวันหยุดพักผ่อนห้าวันพร้อมอัฐอีกหนึ่งถุงใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว กระนั้นความฝันที่จะได้นอนเล่นอยู่เงียบ ๆ ก็สลายไปเมื่อศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้นเหมือนจะได้ออกไปนอกสำนัก “เหลียนเฟินนนน” นางเรียกศิษย์น้องพร้อมรอยยิ้มเลศนัย เหลียนเฟินจึงรีบหันหน้าไปอีกทางเตรียมวิ่งหนีเพราะรู้ดีว่าสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอะไร “เหลียนเฟิน ถ้าเจ้าหนี ข้าจะฟ้องอาจารย์ว่าเจ้าไม่ดูแลข้า” หลวนเล่ออ้างคำสั่งของหมิงฮวาที่ฝากฝังเอาไว้ เขาจึงถอนหายใจรอรับฟังสิ่งที่นางจะเอ่ย “ข้าเดาว่า ข้าต้องช่วยทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่” เหลียนเฟินถาม ในใจภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันว่างของเขาเลย “อาจารย์อาสั่งให้ข้าไปตรวจหาสาเหตุการตายของชาวบ้านที่เมืองเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองไม่อยู่ ศิษย์พี่ซีหลิวมีงานรัดตัว ข้าเลยขอพาเจ้าไปด้วย อาจารย์อาอนุญาตแล้ว” หลวนเล่อร่ายยาวเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรู้ดีว่า

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 1 ชีวิตใหม่

    สิบแปดปีต่อมา ยามนี้หิมะแรกตกโปรยปรายราวกับละอองฝนไปทั่วทั้งแคว้นฉิน ทำให้ผู้คนที่ออกมาเที่ยวเดินชมงานรื่นเริงประจำปีต่างรู้สึกเบิกบานใจ บ้างอธิษฐานขอให้พบแต่ความสงบสุข บ้างขอให้ได้เจอคนรักในเร็ววัน มีไม่น้อยที่มัวแต่เล่นสนุกสนานอยู่บนลานน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย “ศิษย์พี่รอข้าด้วย!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กอายุเจ็ดขวบดังขึ้นเพราะไสลากเลื่อนตามศิษย์พี่ของเขาไม่ทัน “ซิ่นเฉิง ข้าจะไปรอเจ้าที่เส้นชัย รีบ ๆ ตามมาเล่า” หญิงสาวผู้หนึ่งตอบกลับ “ศิษย์พี่หลวนเล่อ แบบนั้นไม่เรียกว่ารอแล้วขอรับ คราวนี้ท่านยอมข้าหน่อยไม่ได้หรือ” ซิ่นเฉิงรีบไสลากเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่านางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว สีหน้าของเขาดูจริงจังเสียจนศิษย์อีกสองคนที่ยืนดูรู้สึกเอ็นดู “หลวนเล่อ เจ้าโตจนป่านนี้แล้วยังชอบแกล้งเขาอยู่เรื่อย เพลา ๆ บ้างเถิด” น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยปากห้ามปราม “ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ฟังที่ศิษย์พี่พูดเลยนะขอรับ” ศิษย์น้องของนางชี้ให้ดูคนทั้งสองที่ตั้งหน้าตั้งตาไสลากเลื่อนอย่างสุดกำลัง “เฮ้อ! ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 55 คลุ้มคลั่ง

    รุ่งเช้าของอีกวัน หวังเฉิงเย่พร้อมบุตรชายเดินทางกลับจากถ้ำที่อยู่อีกฝั่งของป่า ไม่ทันจะได้เข้าใกล้สำนักกลับได้กลิ่นเลือดโชยมาจากทุกทิศทาง บรรยากาศอึมครึมหมองหม่น เยือกเย็น ทั้งสองคนก้าวเข้ามาด้านในสำนักด้วยความระมัดระวัง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ามีเพียงซากศพของบรรดาคนในสำนัก ทั้งศิษย์สำนัก อาจารย์ ทาสรับใช้ “เจ้าไปดูทางโน้น” หวังเฉิงเย่สั่งการบุตรชาย เขาเดินไปเรือนของตนเองเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตมาถามไถ่เรื่องราว “ขอรับ” หวังซีซวนเห็นภาพที่เกิดขึ้นจึงรีบตรงดิ่งไปที่เรือนใบไผ่ก่อนอันดับแรก เพราะหางตาเหลือบเห็นร่องรอยของปราณมาร&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 54 จากลา

    ราวกับหวังเยี่ยนหลงกำลังตกอยู่ในภวังค์จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เซี่ยฟานพูด เขาเสพสมกามารมณ์หลายท่วงท่าตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า โอบกอดร่างบางของเซี่ยฟานแล้วนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย ช่วงสายของวัน เขาลืมตาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงนกร้องอยู่ริมหน้าต่าง แสงแดดบาง ๆ ส่องมาที่เตียงนอน หวังเยี่ยนหลงยังคงกอดเซี่ยฟานไว้อย่างเช่นเคย พลันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเซี่ยฟานเริ่มเย็น สีหน้าตระหนกปรากฏขึ้น เขาตรวจเส้นชีพจรของคนที่ยังนอนหลับใหล “เซี่ยฟาน” คนที่ถูกเรียกไม่ขานตอบ เขาจึงนำยาที่อยู่ในขวดมาให้เซี่ยฟานดื่มแล้วนั่งเฝ้าไม่ห่าง&nbs

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนที่ 53 ใจสลาย

    สามเดือนผ่านไป หวังเยี่ยนหลงเริ่มหลอมรวมปราณมารที่อยู่ในศิลาหินให้เป็นหนึ่งเดียวกับตนเองได้บ้างแล้ว จึงออกมาจากถ้ำแห่งนั้น โดยไม่รู้เลยว่ากาลเวลาผ่านไปนานเท่าใด ครั้นข่ายอาคมที่ศิลาหินสร้างขึ้นหายไป ป่าวิญญาณจึงกลายเป็นเพียงป่าทึบทั่วไปที่มีสัตว์ดุร้ายกับปีศาจอาฆาตแค้นก็เท่านั้น หมอกพรางตาที่คอยล่อลวงผู้คนได้สลายไปเพราะไม่มีพลังจากศิลาหินคอยควบคุม เขากลับมาที่เรือนใบไผ่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วกว่าเดิมจนไม่มีใครจับตาทัน บรรยากาศภายในสำนักตระกูลหวังจึงยังคงความสงบเงียบได้อยู่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status