รุ่งเช้าวันต่อมา
หวังเยี่ยนหลงและพรรคพวกของตนออกเดินทางไปตอนใต้ของแคว้นซีเป่ย
“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมข้าต้องมาด้วย” เหลียนเฟินที่เดินอยู่ข้าง ๆ ถามหวังเยี่ยนหลง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเขาเลยสักนิด
“...” เขาไม่ตอบสิ่งใด คว้าเอวของเหลียนเฟินไว้แล้วใช้วิชาย่นระยะทางในพริบตา
เพียงแค่ชั่วอึดใจ ทั้งสองคนก็มาถึงที่พักแรมคืนแรก คนอื่นในสำนักต่างพากันแยกย้ายจัดเตรียมสถานที่พั
รุ่งเช้าวันต่อมา หวังเยี่ยนหลงและพรรคพวกของตนออกเดินทางไปตอนใต้ของแคว้นซีเป่ย “ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมข้าต้องมาด้วย” เหลียนเฟินที่เดินอยู่ข้าง ๆ ถามหวังเยี่ยนหลง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเขาเลยสักนิด “...” เขาไม่ตอบสิ่งใด คว้าเอวของเหลียนเฟินไว้แล้วใช้วิชาย่นระยะทางในพริบตา เพียงแค่ชั่วอึดใจ ทั้งสองคนก็มาถึงที่พักแรมคืนแรก คนอื่นในสำนักต่างพากันแยกย้ายจัดเตรียมสถานที่พั
สำนักเขาศิลาหยก อาจารย์ประจำสำนักพาตัวหลิ่งอินกลับมารักษาอย่างทันท่วงที อาการของเขาดีขึ้นมากจนฟื้นได้สติ หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าเรื่องราวของคนอื่น ๆ ที่เข้าช่วยเหลือในวันนั้น หลิ่งอินรู้สึกว่าสถานการณ์แปลกไปมากนัก ใครต่อใครต่างบอกว่าร่องรอยบนตัวของชาวบ้านและศิษย์พี่น้องร่วมสำนักเกิดจากฝีมือของคนวังธาราเหมันต์ วิชาเกล็ดน้ำแข็งไม่มีผิดเพี้ยน “วังธาราเหมันต์หรือขอรับ”&
เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นแล้ว ขอบตายังคงบวมเพราะน้ำตาที่ไหลล้นตลอดทั้งคืน ร่างกายทุกส่วนบอบช้ำ กลางหว่างขาเปรอะเปื้อนน้ำสีขุ่น เขาเกลียดที่เห็นสภาพเช่นนี้ของตัวเองยิ่งนักจึงรีบหาน้ำท่ามาอาบชำระล้างร่องรอยที่เหลืออยู่ เขาขัดถูร่างกายซ้ำไปซ้ำมาจนผิวขาวเริ่มแดง ทว่าสิ่งเหล่านั้นยังคงไม่จางหายไป พลันรู้สึกเหนื่อยล้าจิตใจยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งยังสัมผัสได้ถึงปราณมารอ่อน ๆ ในตัว เหลียนเฟินมีพลังเพียงพอที่จะขจัดมันออกไปได้ แต่มีบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ปราณมารส่วนหนึ่ง
วันต่อมา หวังเยี่ยนหลงออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ปล่อยให้เหลียนเฟินนอนหลับเพียงลำพัง ครั้นเมื่อเจ้าตัวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใครจึงพอโล่งใจไปบ้าง กระนั้นก็ไม่ลืมสังเกตร่างกายตัวเองกลัวจะมีสิ่งแปลกปลอมดังเช่นตอนนั้น เสื้อผ้าทั้งชุดยังปิดมิดชิดจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเปิดประตู ทว่า หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมปิดเรือนเอาไว้ ทำให้เขาออกไปที่ใดไม่ได้ จึงถือโอกาสเดินสำรวจในตัวเรือนใบไผ่ ชั้นวางหนังสือด้านในถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ตำราวิชาต่าง ๆ เรียงรายชิดริมฝั่งผนัง ส่วนใหญ่
เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินงัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของหวังเยี่ยนหลง ทันทีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว เขารีบพลิกตัวหนีแล้วถีบร่างหวังเยี่ยนหลงไปอีกทาง คนที่นอนหลับอยู่พลันกระเด็นตามแรงไปชนขอนไม้ใหญ่ดังพลั่ก สะดุ้งตื่นในทันที “กล้าดีอย่างไร!” หวังเยี่ยนหลงสบถ “คนชั่วช้า เจ้าทำอะไรข้า ทำไมข้าถึงขัดขืนไม่ได้” เหลียนเฟินโพล่งออกมา สีหน้าโกรธแค้นระคนเสียใจ&
หลังจากวันนั้น หวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่วนเวียนวุ่นวายกับเหลียนเฟินไม่จบสิ้นไม่ว่าจะพูดยั่วยุเท่าใดก็ไม่เป็นผล จิตวิญญาณของเหลียนเฟินยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ปล่อยให้ความแค้นเกาะกุม ปราณมารจึงไม่อาจเข้าครอบงำได้อีก ในเมื่อเวลานี้รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใดจึงไม่มีเหตุผลต้องปิดบังอีกต่อไป หวังเยี่ยนหลงจึงพาเขากลับมาที่สำนักตระกูลหวัง ระหว่างพรรคมารกลุ่มหนึ่งตาดีมองเห็นหวังเยี่ยนหลงแต่ไกล คนในนั้นรู้ทันทีว่าเป็นหวังเยี่ยนหลง ยิ่งอยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก็คิดว่าตนเองมีแต้มเป็นต่อ หากกำจัดเขาได้ก็คงจะมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถโค่นล้มประมุขสำนักตระกูลหวังได้ จึงรวมหัวกันวางแผนพร้อมลอบโจมตี