Share

2. จางเจียวซินมันเป็นใคร!!!

last update Huling Na-update: 2025-06-22 10:55:46

“อื้ออออออ” หนูนิดรู้สึกตัวขึ้น เธอรู้สึกเหมือนตนเองได้นอนหลับจนเต็มอิ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าอันงดงามยังคงหลับตาพริ้มซึมซับความรู้สึกอันแสนสบาย แม้ว่าจะฝันร้ายว่าถูกแผ่นไม้หล่นใส่

เอ๊ะ? แผ่นไม้ แผ่นมะ..ไม้ เดี๋ยวนะ มันไม่ใช่ฝัน เธอเจ็บจริง เจ็บมากๆ ด้วย เมื่อนึกได้ดังนั้นก็ตกใจลืมตาโพลงขึ้นสิ่งแรกที่เธอเห็นคือแผ่นไม้สีน้ำตาล

อ่า…นี่ยังไม่มีใครพาเธอไปโรงพยาบาลหรือยังไงทำไมเธอยังเห็นแผ่นไม้บ้านี่อยู่นะ

“พระชายา ฮื่อออ…พระชายาฟื้นแล้วเจ้าค่ะท่านหมอ”

“พระชายารู้สึกเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”

หนูนิดหันมองไปยังต้นตอของเสียง กลับพบกับชายชรา สวมชุดสีขาวทั้งตัว ด้านหลังเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก อายุน่าจะไม่เกิน 20 ปี แต่ตาของเด็ก คนนั้นบวมแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มาหลายวัน หนูนิดมองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่เธออยู่เป็นห้องที่สร้างจากไม้ เตียงที่เธอนอนก็เป็นไม้ รอบๆ ห้องมีของตกแต่งหรูหรามากมายจนรกหูรกตาไปหมด หนูนิดลองมองลอดออกไปนอกหน้าต่างก็พบแต่ความมืดมิด

นี่เธออยู่ที่ไหนกัน สมัยนี้ยังมีโรงพยาบาลที่สร้างมาจากไม้อยู่หรือ

“คุณเป็นหมอหรือป่าวคะ แล้วนี่ฉันอยู่โรงพยาบาลที่ไหนคะ”

“พระชายา พระองค์ทรงกล่าวสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ” หมอชราขมวดคิ้วแน่น

“พระชายา พระชายาอะไรกัน นี่คุณ! ถึงฉันจะชอบนิยายยุคจีนโบราณมาก แต่ตอนนี้ฉันไม่เล่น จะรีบกลับไปปั่นแผนค่ะ รีบทำเรื่องออกให้ฉันตอนนี้! เดี๋ยวนี้เลยยิ่งดี” คำพูดยาวเหยียดของหนูนิด ยิ่งทำให้หมอชราขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นๆ

“พระชายาทรงจำคนสนิทของพระองค์ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“คน...สนิท” หนูนิดพึมพำออกมา

“ฮึก ฮึก พระชายา บ่าวเองเพคะ หนิงเออร์ของพระองค์อย่างไรเพคะ”

“หนิงเออร์…” ยังไม่ทันได้ตอบสิ่งใดไป หมอชราก็ได้เอ่ยถามขึ้นมาอีกครา

“พระชายาจำชื่อแซ่ของตนเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“จำได้สิ นางสาว คณิต ประดิษฐ์ทรัพย์” คำตอบของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์มิได้ทำให้หมอชราคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมออกแม้แต่น้อย อาการเช่นนี้มิใช่วิปลาสไปแล้วหรือ

“ฮึก มิใช่เพคะ พระชายามีนามว่า จางเจียวซิน เพคะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ท่านรักษาเร็วเข้าท่านหมอ ฮื่อออ”

“จางเจียวซิน…ใครกัน” ตอนนี้หนูนิดได้แต่งง งง แล้วก็งง จางเจียวซินไหนก่อนนน?!! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเด็กคนนั้นเรียกเธอว่า “พระชายา” แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่มันที่ไหนกัน!

“เอาหล่ะหนูนิดตั้งสติก่อน ตั้งสติ” หนูนิดพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา ในหัวของเธอเริ่มคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเดินออกจากห้องประชุม...จากนั้นมีแผ่นไม้กระดานตกลงบนศีรษะของเธอซึ่งมันไม่ใช่ฝัน จากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาที่นี่ พบกับชายชราและเด็กสาวที่คำพูดคำจาแปลกประหลาดเหมือนหลุดมาจากนิยายจีนโบราณที่เธอเคยอ่าน…

เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ! อย่าบอกนะ…อย่าบอกน๊าาาา…

“ฮืออออ ท่านหมอทำอย่างไรดี ท่านรักษาพระชายาได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ฉะ- เอ่อ ข้า…ข้าจำอะไรไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ พวกท่านเป็นใครแล้วตัวข้าเป็นผู้ใด” หนูนิดจำใจต้องตามน้ำไปก่อน ขอยืมคำจากนิยายที่เคยอ่านมาใช้เพื่อให้ดูกลมกลืนมากขึ้น ตอนนี้สมองซีกขวากำลังบอกว่าเธอได้ย้อนเวลามาเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณแบบนิยายที่เคยอ่าน แต่สมองซีกซ้ายกำลังบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมากล่าวว่าชีวิตหลังการตายไม่มีอยู่จริง! ก่อนที่จะคิดอะไรฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น

แอด~

ปรากฎให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงกำยำ กลิ่นอายสูงส่ง ใบหน้าหล่อเหลา คมคาย ผิวกายสีแทนยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูดุดันและแข็งแกร่ง

“หล่อ หล่อมาก…” หนูนิดใช้สายตาอันหวานหยดกวดมองไปทั่วใบหน้าและเรือนร่างของผู้มาใหม่ แต่เธอก็ต้องชะงักเพราะสายตาที่คนผู้นี้ใช้มองมาที่เธอช่างเป็นสายตาที่เย็นชาราวกับว่าเธอกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก

“นางเป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ” เมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม หมอชราจึงได้ทำการตรวจอาการของหนูนิดอีกครั้ง หมอชราใช้ปลายนิ้วแตะบนข้อมือของเธออยู่ชั่วครู่

“อาการทางกายมิมีสิ่งใดต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่…เอ่ออ” หมอชราได้แต่อึกอัก เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาตามไรผม

“ชักช้าอันใดอยู่ มีสิ่งใดพูดออกมาให้หมด!” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงแข็ง สายตาจดจ้องไปที่หมอชราอย่างคาดคั้น

“พระชายาทรงมีอาการของคนความจำหดหายพ่ะย่ะค่ะ พระชายาจดจำเหตุการณ์ต่างๆ มิได้เลยพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่บ่าวคนสนิทและตนเองก็ไม่สามารถจำชื่อแซ่ได้พ่ะย่ะค่ะ อาการเช่นนี้พบเจอได้ยากยิ่ง แม้มีทางรักษาให้หายได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีพ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนนั่งอึ้ง ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ และก็เป็นชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นที่พูดขึ้น

“ท่านหมอตามข้าไปที่ตำหนัก ส่วนเจ้าดูแลนายของเจ้าให้ดี อย่าให้ไปก่อเรื่องเดือดร้อนอีก” ชายหนุ่มพูดกับหนิงเออร์ก่อนเดินออกไปจากห้อง แต่ยังมิวายส่งสายตาเย็นมาที่หนูนิดจนเธอสดุ้งโหยง

อุ้ย! มองเหมือนจะฆ่าจะแกงกัน อะไรวะเนี่ยยย

หลังจากที่หมอชราและชายหนุ่มคนนั้นเดินออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงหนูนิดและหนิงเออร์ที่ยังนั่งร้องให้อยู่

“เจ้าหยุดร้องไห้ก่อนเถิดหนิงเออร์ แล้วมาพยุงข้าไปนั่งตรงนั้นที” ปลายนิ้ว เรียวยาวชี้ไปยังหน้ากระจกบานใหญ่

“อึก เพคะ” สองนายบ่าวพยุงกันไปนั่งหน้ากระจกบานใหญ่ ตากลมกวาดดูใบหน้าและรูปร่างที่สะท้อนให้เห็นในกระจก หนูนิดยกมือขึ้นมาลูบไล้ไปตามโครงหน้าเรียว ไม่ใช่ร่างกายของเธอจริงๆ เธอเข้ามาอยู่ในร่างของคนอื่นจริงๆ และคนอื่นที่ว่าคือ จางเจียวซิน

“ต่อจากนี้เราคงต้องเป็นจางเจียวซินแล้วสินะ” คำพูดที่หลุดออกมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ตากลมกวาดมองพิจารณาภาพที่สะท้อนจากกระจกบานใหญ่อีกครั้ง บอกได้คำเดียวว่าสวย คนผู้นี้สวยมาก ไม่ใช่สวยแบบน่ารักแต่เป็นความสวยที่ดูสง่างามและสูงส่ง

“หนิงเออร์ ตอนนี้ข้าจำสิ่งใดไม่ได้เลย เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ เริ่มจากข้าเป็นผู้ใด”

“ได้เพคะพระชายา”

เวลาผ่านไปหลายชั่วยามเสียงเล่าเจื้อยแจ้วก็หยุดลง จากที่หนิงเออร์เล่า จางเจียวซินเป็นบุตรสาวของอดีตแม่ทัพจางฮุ่ยหมิงกับฮูหยินจางเจียวมี่ มีพี่ชาย หนึ่งคนนามว่าจางซีห่าวเป็นแม่ทัพที่บัดนี้กำลังทำสงครามอยู่ทางเหนือของแคว้น ท่านแม่เสียไปตั้งแต่จางเจียวซินยังเป็นเด็กวัย 3 หนาว ท่านพ่อก็พึ่งจะเสียไปเมื่อหนาวที่แล้วเพราะเอาตัวบังคมดาบให้นายเหนือหัวนั้นคือท่านอ๋องสามเฉินเฟยเทียน ซึ่งเป็นคนเดียวกับชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามาก่อนหน้านี้ เฉินเฟยเทียนเป็นโอรสองค์ที่สามของฮ่องเต้ผู้ปกครองแผ่นดินฮ่องเต้เฉินเฟยหลงที่ประสูติจากฮองเฮาหลี่หนิงเฟิง และการตายของท่านพ่อก็เป็นเหตุผลที่จางเจียวซินผู้นี้ได้รับพระราชทานสมรสเข้ามาเป็นชายาเอกของจวนอ๋องแห่งนี้ เพื่อทำตามคำขอสุดท้ายของอดีตแม่ทัพจางที่คิดว่าบุตรสาวของตนหลงรักท่านอ๋องสาม เจียวซิน ถูกพ่อและพี่ชายเลี้ยงมาอย่างตามใจเนื่องจากขาดแม่แต่เยาว์วัย ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใดพ่อและพี่ชายก็จะหามาให้จนได้ จางเจียวตกหลุมรักท่านอ๋องสามมานาน เมื่อแต่งเข้ามาก็พยายามทำให้ตนเองได้เป็นที่โปรดปรานด้วยวิธีผิดๆ สร้างเรื่องให้จวนอ๋องไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องหลักคงเป็นเรื่องหึงหวงสวามี เนื่องจากท่านอ๋องสามผู้นี้มีทั้งชายาเอกนั่นคือจางเจียวซิน ชายารองอีกหนึ่งคน นามว่า อันอ้ายฉิง และมีอนุภรรยาถึงสามคน นามว่า ตงลี่ถัง จ้งลู่เอิน ถังซูเหวิน จึงทำให้เกิดเรื่องตบตี รังแกกันอยู่เป็นประจำ จนท่านอ๋องประกาศลั่นว่าจะถวายฎีกาขอหย่าขาดจากเจียวซิน ด้วยเหตุนี้เจียวซินจึงโดดน้ำหวังปิดชีพของตนเองและเรื่องราวก็เป็นอย่างที่เห็น

“เห้ออออ เจ้าจะอยู่เคียงข้างข้าใช่หรือไม่หนิงเออร์” ไม่ว่าจะโลกก่อนหรือโลกนี้ทุกคนล้วนทิ้งนางให้อยู่โดดเดี่ยว ยังดีที่โลกนี้ยังมีหนิงเออร์และพี่ชายที่ไม่พบหน้ากันตั้งแต่ท่านพ่อเสียไป

“หนิงเออร์จะอยู่รับใช้พระชายาจนกว่าจะหมดลมหายใจเพคะ ฮึก”

“ขอบใจเจ้ามาก มาเถอะ พาข้าไปที่เตียงที วันนี้ข้าขอพักก่อน” พรุ่งนี้ค่อยเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป

“เพคะ พระชายา” เจียวซินล้มตัวนอน หนิงเออร์ทำหน้าที่ยกผ้าขึ้นห่มกายให้ผู้เป็นนาย เจียวซินพลิกตัวไปมาไม่นานนางก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   120. ตอนพิเศษ สองแฝดกับ “อย่ามาว่าน้องข้านะ!” (2)

    “ยึ้ย! นี่มันอันใดกัน! ใครถ่ายหนักแล้วเอามาเช็ดตรงนี้ แหวะ!” ไฉ่หงรีบเช็ดมือเข้ากับบานประตูแล้วรีบออกมาทันที เพราะกลัวว่าจะมีผู้ใช้ห้องสุขาต่อและคิดว่าตนเองเป็นคนทำ แต่ทว่าเด็กน้อยมิทันได้ระวังจึงเหยียบเข้ากับน้ำมะม่วงที่สองแฝดเทเอาไว้จนรองเท้าหรูเปรอะเปื้อนไปหมด“อ่าว! ไฉ่หงอยู่นี่เอง ข้าอยากขอโทษที่ต่อว่าเจ้าเมื่อวันก่อน ยกโทษให้ข้านะ” ซินอี๋ทำทีว่าบังเอิญเจอไฉ่หงที่หน้าห้องสุขา เขาแสร้งตีหน้าเศร้าราวกับว่าเรื่องวันก่อนเขาได้ทำผิดไป“อะ เอ่อ ข้ายกโทษให้ แต่เจ้าอย่าได้มาขึ้นเสียงกับข้าอีกเล่า มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน หึ!”“ขอบใจเจ้ามากนะไฉ่หง น้องข้าก็เอาแต่ใจเช่นนี้ มิได้ความเสียจริง” หย่งเล่อที่จู่ก็โผล่มาเกาะไหล่ไฉ่หงจากด้านหลัง มือเล็กของหย่งเล่อลูบไปทั่วแผ่นหลังและบั้นท้ายของไฉ่หง“อืม ข้าต้องไปแล้ว เจ้าก็สั่งสอนน้องเจ้าให้ดีด้วยเล่า” ว่าแล้วไฉ่หงก็เดินกลับเข้าห้องเรียนของตนทันทีหย่งเล่อและซินอี๋ที่มองไฉ่หงจากด้านหลังก็ยิ้มกริ่มพอใจกับผลงานตนเอง เพราะอาภรณ์ด้านหลังของไฉ่หงเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมะม่วงสุกที่หย่งเล่อลงทุนใช้มือตนเองป้ายลงไป“ข้าว่าเจ้าไปล้างมือก่อนเถิด ข้าเหม

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   119. ตอนพิเศษ สองแฝดกับ “อย่ามาว่าน้องข้านะ!” (1)

    “หย่งเล่อเจ้าว่าน้องของเราจะเป็นหญิงหยือชาย” ซินอี๋และหย่งเล่อกำลัง ยืนเกาะขอบประตูห้องทำคลอด ที่บัดนี้ด้านในกำลังทำคลอดให้มารดาของพวกเขาอยู่หลังจากที่บิดาของพวกเขาให้คำมั่นว่าจะมีน้องชายน้องสาวมาให้พวกเขาเลี้ยงมานานนับหลายปีจนตอนนี้พวกเขาอายุได้สี่หนาวย่างเข้าห้าหนาวแล้วมารดาพวกเขาถึงได้ตั้งครรภ์และกำลังจะคลอด มิเหมือนกับท่านลุงซีห่าวกับท่านน้าเฟยเฟิ่งที่บัดนี้มีทั้งน้องชายวัยสองหนาว ทั้งท่านน้าเฟยเฟิ่งยังตั้งครรภ์ได้กว่าแปดเดือนแล้ว แต่ก็ช่างเถิด อย่างไรเสด็จพ่อก็ทำตามสัญญาแม้จะช้าไปหลายปีก็เถอะนะ…“ไม่รู้” หย่งเล่อจดจ้องอยู่ที่ประตูตาไม่กระพริบ เด็กน้อยกำลังกังวลว่าเสด็จแม่และน้องจะปลอดภัยหรือไม่ แต่ปากเล็กก็ยังเอ่ยตอบน้องชาย“แล้วเจ้าว่าน้องจะหน้าตาเหมือนผู้ใด เสด็จพ่อหยือเสด็จแม่”“ไม่รู้”“แต่ข้าว่าให้น้องเหมือนข้าน่าจะเข้าท่า เพราะข้าเป็นชายหนุ่มที่หย่อเหยาที่สุดในแคว้นเฉินแห่งนี้” ซินอี๋ใช้มือเล็กๆ ลูบคางของตนเองไปมา ดึงท่าทีคล้ายต้องการแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าตนเองนั้นหล่อเหลาเพียงใด สองแฝดคู่นี้แม้หน้าตา จะเหมือนกันจนแยกไม่ออกแต่ทว่านิสัยใจคอกลับแตกต่างกับลิบลับ คนหนึ่งนิ่งข

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   118. ตอนพิเศษ คืนเข้าหอ (ซีห่าวxเฟยเฟิ่ง) (2)

    “อ๊ะ อื้ออออ”จุ๊บ! จ๊วบ! ปากหนาเลื่อนไปครอบยอดถันสีแดงก่ำ ทั้งไล่เลีย ทั้งดูดดึงดั่งทารกที่หิวโหย เฟยเฟิ่งที่พึ่งเคยถูกสัมผัสที่ลึกซึ้งถึงกับตัวอ่อนระทวย ปล่อยให้ร่างหนารุกเร้าอยู่อย่างนั้น ปากบางถูกเจ้าของขบกัดจนแดงก่ำ สองมือลูบไล้ไปตามร่างกายอันกำยำของสามีอย่างหลงไหล“ทะ ท่านพี่ ของ ของท่านมัน-” ร่างกายเปลือยเปล่าบดเบียดแนบชิดกันจนเฟยเฟิ่งรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งดุนดันอยู่ที่บั้นท้ายของนางอยู่“อะฮึ่ม! มันคงอยากมาเล่นกับเจ้ากระมัง มาเถิด ทำให้พี่ดูว่าที่เจ้าเล่าเรียนมานั้นจะใช้ได้จริงหรือไม่” ซีห่าวผละกายออกจากเฟยเฟิ่งพลางถอยไปพิงอ่าง สองแขนแกร่งยกขึ้นพาดขอบอ่างดั่งคุณชายเจ้าสำราญที่รอรับการปรนนิบัติ เฟยเฟิ่งที่ถูกทวงถามก็รีบเค้นบทเรียนที่เล่าเรียนมาปรนนิบัติให้สามีประทับใจ“อึก! ของท่านดูเหมือนจะใหญ่กว่าแท่งหยกที่เสด็จแม่นำมาสอน” เฟยเฟิ่งเอื้อมมือที่สั่นเทาไปแตะแท่งทวนของสามีที่อยู่ใต้น้ำ มือบางชักรูดเบาๆ พลางวนนิ้วโป้งบนปลายหยัก“อืมมมม ดี มือเจ้านุ่มเหลือเกิน ซี๊ดดด” ซีห่าวแหงนหน้าสูดลมเข้าปากด้วยความเสียวซ่าน เฟยเฟิ่งเห็นท่าทีของสามีก็ได้ใจรีบรูดรั้งแท่งทวนช้าบ้างเร็วบ้างหวังให้สา

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   117. ตอนพิเศษ คืนเข้าหอ (ซีห่าวxเฟยเฟิ่ง) (1)

    “เป็นอย่างไรบ้าง มาให้แม่ดูเสียหน่อยว่าเรียบร้อยดีหรือไม่” ฮองเฮาหลี่เดินเข้ามาจัดชุดพิธีการสีแดงปักดิ้นทองที่เฟยเฟิ่งใส่อยู่ให้เป็นระเบียบมากขึ้น มือบางลูบไล้จัดแต่งเรือนผมของบุตรีพลางย้อนนึกถึงตอนที่เฟยเฟิ่งยังเป็นเด็กซุกซนวิ่งเล่นอยู่ในตำหนัก แต่มาบัดนี้เด็กน้อยแสนซนผู้นั้นกำลังจะได้ตบแต่งออกไปมีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว“ลูกงดงามหรือไม่เพคะ” เฟยเฟิ่งที่เห็นว่ามารดานิ่งเงียบไป จึงเอ่ยถามขึ้น“งดงาม แต่คงมิเท่าแม่ หึๆ”“โถ่! วันนี้เป็นวันสมรสของลูก เสด็จแม่จะมิยอมให้ลูกงดงามที่สุดบ้างเลยหรือเพคะ”“ฮ่าๆ ได้ๆ วันนี้แม่ให้เจ้างดงามที่สุด…เฟิ่งเออร์ แม้ตบแต่งออกไปแล้วแต่เจ้าก็ยังเป็นบุตรของแม่และเสด็จพ่อ หากว่าซีห่าวทำสิ่งใดให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจขอเพียงเข้าบอกแม่ แม่จะให้เสด็จพ่อจัดการกับเขาเอง” ฮองเฮาหลี่อดเป็นห่วงบุตรีของตนมิได้ ด้วยเพราะตั้งแต่เกิดมาเฟยเฟิ่งมิเคยห่างจากอกบิดามารดาเลยสักครา“หึ อย่างซีห่าวนะหรือจะทำให้เฟิ่งเออร์เจ็บซ้ำน้ำใจ คงจะมีแต่คนของเรามากกว่าที่จะทำให้เขาปวดหัว” ฮ่องเต้เฟยหลงที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยเย้าบุตรของตน“โถ่ เสด็จพ่อละก็ ลูกมิได้ซุกซนถึงเพียงนั้นเสียหน่อย อีก

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   116. ตอนพิเศษ “เราทั้งคู่ต่างเป็นบุรุษ” (เฉินเฟยฉีxจ้าวจินเยว่) (2)

    “อืม…แค่กๆ” เฟยฉีรู้สึกตัวขึ้นมาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ตาคมมองไปรอบๆ ก็พบว่าตะเกียงในห้องของเขาถูกจุดสว่างไสว ความทรงจำสุดท้ายคือเขารู้สึกตาพร่ามัว ทั้งยังเจ็บปวดไปทุกส่วน และหลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดดับไป“องค์รัชทายาท ได้สติแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” จินเยว่ที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงได้ ไม่นานก็ได้เสียงไอของคนบนเตียงเขาจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา จิเยว่รีบเดินไปรินน้ำอุ่นมาให้เฟยฉีทันที ร่างบางพยายามประคองร่างสูงให้ดื่มน้ำให้มากๆ ด้วยการขับพิษในครั้งนี้เฟยฉีเสียเลือดไปมาก“แค่กๆ จินเยว่” ปากหนาเอ่ยเรียกคนรักด้วยเสียงออดอ้อน ยังดีที่เฟยเทียนสั่งให้นางกำนัลเฝ้าอยู่หน้าห้องบรรทม ภายในห้องจึงมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น“พ่ะย่ะค่ะ”“จินเยว่”“อึก! พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทมีสิ่งใดจะรับสั่งกับกระหม่อมหรือ” ดวงใจน้อยๆ ของจินเยว่ถึงกับกระตุกเมื่อเห็นแววตาเว้าวอนของคนรัก“เยว่เยว่ เยว่เยว่”“ว่าอย่างไร”“ข้าเจ็บไปทั้งตัวเลย ฮึก! ใจข้าก็เจ็บ” ร่างสูงโถมกายเข้าซุกซบกับอกของ จินเยว่จนล้มหงายหลัง“ชะ เช่นนั้นกระหม่อมจะไปนำยามาให้ องค์รัชทายาทปล่อยกระหม่อมก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ หากข้าปล่อยเจ้า เจ้าก็จะหนีไป”“กระห

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   115. ตอนพิเศษ “เราทั้งคู่ต่างเป็นบุรุษ” (เฉินเฟยฉีxจ้าวจินเยว่) (1)

    "ซี๊ดดดดด ตัวเล็กกระจิดริดเหตุใดจึงกัดเจ็บถึงเพียงนี้นะ”จินเยว่ที่กำลังเก็บสมุนไพรเงี่ยหูฟังเสียงที่ดังแว่วเข้ามาในหู ใบหน้าแสนน่ารักหันไปหันมาเพื่อสำรวจหาต้นเสียง เขาเดินไปตามเสียงที่ได้ยินสุดท้ายก็พบเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังก้มๆ เงยๆ ล้างเลือดออกจากแผลบนมือ จินเยว่ขมวดคิ้วแน่นคิดไม่ตกว่าควรเข้าไปช่วยดีหรือไม่ หากเข้าไปช่วยจะเกิดเหตุการณ์ดังเช่นครั้งก่อนหรือไม่“เจ็บๆ หากรู้ว่ากัดเจ็บถึงเพียงนี้ อย่าหวังว่าข้าจะช่วย ข้าจะปล่อยเจ้าแห้งตายอยู่ในกับดักโง่ๆ นั่น ฮึ่ย!” เสียงบ่นกับตนเองของชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นทำให้จินเยว่อดยิ้มขำออกมามิได้ หากให้เขาคาดเดาชายหนุ่มผู้นี้คงจะช่วยสัตว์ที่ติดอยู่ในกับดักแต่ดันถูกสัตว์ตัวนั้นกัดมาเป็นแน่จึงได้มานั่งบ่นอยู่เช่นนี้น่าสงสารเสียจริง…“คิกๆ” จินเยว่หยุดหัวเราะออกมาโดยมิรู้ตัว“ใครน่ะ” แย่แน่แล้ว!!! จินเยว่รีบหลบไปอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ร่างบางตัวสั่นเทา ใจหนึ่งก็นึกกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็อดสงสารชายหนุ่มผู้นั้นมิได้ หากชายหนุ่มถูกสัตว์มีพิษกัดเข้าเล่าจะทำเช่นไร“ข้าถามว่าใคร ออกมา! มิเช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้ามาร้าย” จินเยว่ได้ยินเสียงเข้มเอ่ยดังนั้นจ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status