[ถ้าต้องการจะประชดกันบอกเลยนะว่าไม่ได้ผล!]
˜ ยังไม่ได้ทันจะขานรับ ปลายสายก็เอ่ยคำพูดที่ตัวหมิงเองก็พอจะคาดเดาได้ ‘ประชด’ คำคำนี้ไม่ใช่แค่เฟยคนเดียวที่โดนตั้งคำถามแต่กับเขาเองก็ยังไม่เว้น “ทำไมคิดว่ากูตั้งใจจะประชดมึงล่ะ หื้ม?” [ก็เห็น ๆ อยู่ร้อยวันพันปีเฮียไม่เคยถูกกับคุณเฟย แล้วจู่ ๆ ก็มาบอกว่าจะหมั้นกัน...มันไม่ดูจงใจไปหน่อยเหรอ?] จริงอยู่ที่ดูเหมือนว่าการประกาศหมั้นสายฟ้าแลบนี้อาจดูจงใจทำให้คู่กรณีของทั้งเขา และเฟยได้รู้ ทว่าหมิงกลับไม่ได้คิดเช่นนั้นจริง ๆ เขาเพียงแค่อยากกันลีให้ออกห่างจากยัยหนูเฟยก็เท่านั้น.. “เป็นความต้องการของตาแก่..” [คิดเหรอว่าลีจะเชื่อ ปกติไม่เห็นเฮียจะยอมคล้อยตามพ่อตัวเองอยู่แล้วนี่] อาจเพราะเขาทั้งคู่รู้จักกันดีพอ เพราะไม่ว่าเขาจะเอ่ยเหตุผลใดมาอีกฝ่ายก็กลับดักทางได้ซะหมด “อืม...กูจงใจ แต่ไม่ใช่เพราะอยากประชดมึงหรอกนะลี” สุดท้ายก็จำต้องยอมรับออกไปอย่างง่ายดาย เพราะหากฝืนโกหกต่อไปก็ดูท่าว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมจบง่าย ๆ [ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วอะไรล่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะยังไงความรู้สึกของลีก็ยังไม่เปลี่ยน] ทุกครั้งที่ลียืนยันในรักมั่นคงที่มีต่อหยางมันราวกับมีดคมกริบปักเข้าตรงกลางใจ แม้หมิงจะทำใจขึ้นมาได้แล้วบ้างแต่เช่นไรคำพูดเหล่านั้นก็ยังเชือดเฉือนใจเขาอยู่ไม่หาย “กูแค่ไม่อยากให้เฟยไปยุ่งวุ่นวายกับพวกมึงสองคนน่ะอีกอย่างถ้าไม่แต่ง ตาแก่นั่นจะถอดกูออกจากเก้าอี้ประธาน” ความเป็นจริงเหตุผลหลัก ๆ คืออย่างแรกต่างหาก ทว่าหากไม่พ่วงอย่างหลังเข้าไปด้วยเขาคงจะกลายเป็นคนดีเกินไปใสสายตาของลี เหตุผลที่เขาทั้งสองเลิกกันเป็นเพราะตอนนั้นหมิงต้องการพิสูจน์ตัวกับคนเป็นพ่อว่าตนนั้นสามารถพาบริษัทไปได้ไกลกว่า จำต้องทุ่มเทอย่างหนักให้กับการทำงานจนหลงลืมเอาใจใส่คนที่ข้าง ๆ ไป นี่จึงเป็นเหตุให้ทั้งคู่เป็นอันต้องเลิกกัน และหมิงก็ถูกลีตราหน้าว่าเพื่อตำแหน่งหน้าที่การงานแล้วเขาไม่เคยให้ความสนใจใครอื่นแม้แต่คนรัก.. เหตุการณ์นั้นทำให้หมิงเสียใจมาก แต่ก็มิอาจกลับไปขวนขวายเอาอีกคนกลับมาได้อีกแล้ว เมื่อมารู้ว่าหยางถึงกับถอนหมั้นเฟยเพื่อมาคบกับลีด้วยแล้ว แม้เขาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อาจจะเข้าไปแทรกแซงได้อีก [ถ้าแค่งั้นก็ดีครับ ผมกับเฮียหยางจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสักที] “แน่ใจแล้วเหรอที่คบกับหยางน่ะ มันทิ้งอีกคนมาหามึงได้แล้วต่อไปมันจะทิ้งมึงไปหาคนอื่นหรือไง?” เขาเป็นเพื่อนกับหยางมานานจึงรู้ดีว่าหมอนั่นเป็นคนเช่นไร ตราบใดที่หยางยังไม่เจอคนที่สามารถสยบเขาได้ต่อให้เป็นเฟย หรือแม้แต่ลีเองก็ไม่อาจหยุดความเจ้าชู้ของเพื่อนสนิทลงได้อย่างแน่นอน [นั่นมันเรื่องของลี เฮียไม่ต้องมายุ่ง...ในเมื่อกำลังจะหมั้นกับคุณเฟยแล้ว งั้นต่อไปเฮียก็ดูคนของเฮียให้ดีด้วยนะครับ] จบประโยคสายก็ถูกตัดไปทันทีทำเอาหมิงที่ได้แค่เอามือถือออกจากที่แนบหูไว้มาวางลงที่หน้าตักจ้องมองมันอยู่เช่นนั้นด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า สิ่งที่เขาพอจะทำได้ก็คงมีเท่านี้จริง ๆ ˜ ณ ผับแห่งหนึ่ง หลังคุยสายกับลีเสร็จก็ทำเอาหมิงนอนไม่หลับจนถึงขั้นต้องออกมาหาอะไรดื่มเพื่อให้รู้สึกกริ่ม ๆ แล้วค่อยกลับไปนอน นั่นไม่ใช่เพราะเขารู้สึกเสียใจแต่หากเป็นความรู้สึกอึดอัดเสียมากกว่า จริงอยู่ที่เขาเป็นคนตอบตกลงกับข้อเสนอของคนเป็นพ่ออีกทั้งยังเอ่ยปากท้าทายให้ยัยหนูเฟยรับคำ ทว่าใจจริงเขาเองไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก “จินที่สั่งได้แล้วครับ” พนักงานทำเครื่องดื่มมึนเมานำเอาเมนูที่ลูกค้าขาประจำคนนี้มักสั่งมาเสิร์ฟ “วันนี้สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ” “งั้นเหรอ?” “ครับ อืม...วันนี้เป็นวันเปิดตัวซีรีส์ที่บริษัทนี่นาแล้วไหงถึงมานั่งดื่มคนเดียวแบบเศร้า ๆ ได้ล่ะ มันไปได้ไม่สวยเหรอครับ?” “ใครว่า...ทั้งกระแสเปิดตัว ทั้งข่าวดังมากเลยต่างหาก แต่ไม่ใช่เพราะซีรีส์นะ” ประโยคท้ายที่บอกว่า ‘แต่ไม่ใช่เพราะซีรีส์นี้’ หายลงคอไปหลังจากที่หมิงยกแก้วจินขึ้นดื่มอัก ๆ จนหมด “เอามาอีกแก้ว” หมิงยื่นแก้วกลับไปให้พนักงานเพื่อเป็นการเปลี่ยนเรื่องอึดอัดใจที่กำลังคุยกันให้เป็นเรื่องอื่นซะ ซึ่งบาร์เทนเดอร์คนนั้นก็รู้งานอาจจะด้วยเพราะเป็นลูกค้ากันมานานจึงพอเดาได้ว่าขาประจำของเขาไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องเมื่อครู่อีก “ไอ้หมิง!” พลั่ก! เสียงตะโกนเรียกดังมาจากด้านหลัง ไม่ทันที่เจ้าของชื่อจะหันไปขานรับก็ถูกคนเรียกตั้นเข้าที่หน้าจนถลาไปซบยังเคาน์เตอร์บาร์เรียบร้อย “ก็รู้ว่ากูชอบเฟย แล้วยังมีหน้ามาขอหมั้นกับหมอนั่นอีกเหรอ!?” เป็นหวังที่เข้ามากระชากคอหมิงให้ลุกขึ้นมา นี่เป็นครั้งที่สองของวันนี้ที่หมิงถูกกระชากคอแบบไม่ทันตั้งตัว คนโดยรอบต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ บ้างก็ตะโกนบอกบาร์เทนเดอร์ให้แจ้งเจ้าของร้าน บ้างก็สั่งให้แจ้งการ์ดเพื่อลากสองคนนี้ออกไปซะ “ปล่อย!” ความอึดอัด เบื่อ เซ็ง และหงุดหงิดในใจของหมิงถูกระบายออกด้วยการสะบัดมือของเพื่อนให้ออกห่างจากคอเสื้อเขาที่มุมปากมีลิ่มเลือดไหลออกมาซิบ ๆ พอให้ได้รสเฝื่อนกับความคาวคละคลุ้งอยู่ในปาก ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจนัก.. “ออกไปคุยกันข้างนอก” พูดจบหมิงก็เดินนำออกไป ฟีโรโมนจากกายของอีนิกม่าโฉยออกมาทำเอาผู้คนในผับไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเจ้าตัวซะด้วยซ้ำ ˜ ทั้งสองเดินออกมายังลานจอดรถที่ห่างไกลสายตาจากผู้คนอยู่บ้าง ก่อนที่หมิงหันขวับไปชกหน้าเอาคืนกับเพื่อนหวังจนหน้าสะบัดเกือบล้มทั้งยืน พลั่ก! ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยมีใครหยามหน้าเข้ามาชกหน้าเขาได้เลยสักครั้ง แม้หมิงกับอีกสามคนจะเป็นเพื่อนกัน ทว่าคนที่อยู่เหนือชั้นกว่าก็คือเขาที่อยู่ชนชั้นเผ่าพันธุ์อีนิกม่า “กูไม่สนใจหรอกว่ามึงจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ไหม หรือชอบยัยหนูเฟยขนาดไหน แต่ในเมื่อมันตอบตกลงกับกูแล้ว ก็เท่ากับว่ามึงไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง” หมิงพูดพลางถุยเอาเลือดที่อยู่ในปากทิ้งลงพื้น “แต่นั่นมันชีวิตของเฟยมันนะ ทำไมทั้งมึงทั้งเฟียถึงได้ทำอย่างกับมันเป็นสิ่งของด้วยวะ” “แล้วไงล่ะ ถ้าเฟยไม่หมั้นกับกูแล้วจะยังไงต่อ...หันไปคบกับเบต้าที่บังเอิญเกิดมาบ้านรวยอย่างมึงน่ะนะ หึ ตลกฉิบหาย!” ใจจริงหมิงไม่ได้อยากเอ่ยคำพวกนี้กับเพื่อนสนิทของเขาเลยแม้แต่น้อย หากแต่อยากให้อีกคนออกห่างจากความยุ่งเหยิงตรงนี้ซะมากกว่า แค่เพียงเพราะเกิดมาเป็นเบต้าก็ทำให้หวังต้องพิสูจน์ตัวกับใครต่อใครมามาก หากยังต้องมาจมปลักกับเรื่องบ้าบอระหว่างพวกเขาสี่คนนี้อีก ก็อาจดึงให้หมอนี่ลงไปสู่จุดต่ำสุดของชีวิตก็เป็นได้ “เฮอะ! ในที่สุดก็พูดออกมาแล้วสินะ...มึงแม่งก็พวกเดียวกับไอ้พวกที่ดูถูกกูนั่นแหละ หึ...ไหนมึงเคยบอกไงว่าต่อให้เป็นเบต้าแต่กูก็ไม่น้อยหน้าใคร แล้วไหงวันนี้เสือกเป็นมึงที่พูดจาหยามกูซะเอง” นัยน์หวังวูบไหวไปด้วยความโกรธ และความเสียใจ.. ‘โกรธ’ ที่ตัวเองหลงเชื่อในคำพูดปลุกใจของคนตรงหน้าที่บอกให้เขาลุกขึ้นมาต่อสู้พิสูจน์ตัวเองต่อสังคมที่เย้ยหยันเบต้าว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำต่อให้ฐานะทางบ้านจะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม ‘เสียใจ’ เพราะคนที่เขามองว่าเป็นเพื่อนมาตลอดก็มีความคิดไม่ต่างจากไอ้พวกเผ่าพันธุ์ที่คิดว่าตัวอยู่สูงเหนือผู้ใด แถมยังมาแย่งคนที่เขารักไปอย่างหน้าด้าน ๆ “ไอ้หวัง กูไม่ได้..” “หึ ไม่ต้องมาแก้ตัว มันไม่ทันแล้วล่ะ ดี...งั้นตั้งแต่นี้ไปไม่ว่ามึงกับเฟยจะเป็นคู่หมั้น หรืออะไรกูไม่สน กูจะทำให้เฟยหันมารักกูให้ได้!” หวังเอ่ยพลางน้ำตาแห่งความเสียใจไหลลงจากตา ก่อนที่เขาจะหันหลังแล้วเดินจากไปทั้งอย่างนั้น พลั่ก! โครม! คล้อยหลังจากที่เพื่อนสนิทเดินจากไปหมิงก็ระบายความโกรธด้วยการอัดแรงเตะไปยังถังขยะจนล้มคว่ำกระจาย ไม่คิดว่าการที่เขาตกลงหมั้นหมายกับเฟยจะทำให้เรื่องต่าง ๆ แย่ลงไปมากเช่นนี้ ความอึดอัดที่อยู่ภายในใจ อารมณ์ต่อต้านไม่อยากหมั้นหรือแม้แต่งงาน อีกทั้งความสัมพันธ์ต่าง ๆ รอบตัวพังทลาย ยิ่งชวนให้เขาคิดว่าตัวเองเลือกทางนี้ถูกแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แล้วถ้าหากเขายอมยกเลิกการหมั้นไปทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า.. โปรดติดตามตอนต่อไป..“หรือมึงไม่อยาก?”แม้จะรู้สึกแปลกใจอยู่ทว่าแรงปรารถนาเองก็มีมากพอสมควร“เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะไม่ได้ทำแบบนี้แล้ว”ขณะเฟยกำลังก้มหน้าลงไปใช้ปากช่วยทำให้คนพี่อยู่นั้นกลับหลุดถ้อยคำที่ทำให้หมิงถึงกับต้องหยุดค้างไปกลางคัน“อีกหน่อยจะไม่ได้ทำ? หมายความว่าไง?”หมิงถามทวนอีกครั้งพร้อมกับช้อนคางคนด้านล่างให้เงยหน้าขึ้น ทั้งสองจ้องตากันอยู่สักพัก ก่อนจะเป็นยัยน้องเองที่เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาแล้วผุดลุกขึ้นนั่งข้างกายหมิง“กูตัดสินใจว่าจะไปเรียนแลกเปลี่ยนน่ะ”ราวกับฝันที่หมิงวาดไว้พังลงตรงหน้า เมื่อเฟยเอ่ยออกมาถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เขาเองก็ไม่ได้คิดถึงมันมาก่อน“ความจริงกูตั้งใจว่า...หลังหย่าค่อยไปน่ะ แต่ตอนนี้คุณลุงเขาไม่ได้เร่งรัดอะไรแล้วไง กูก็เลย...อยากใช้โอกาสนี้รีบไปก่อนที่เขาจะไม่อนุญาต”ช่วงที่ผ่านเหตุการณ์ลักพาตัวครั้งนั้น เฟยก็รู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ที่ตัวเองมีต่อหมิงแล้ว นั่นไม่ใช่แค่ความรู้สึกหวั่นไหวแต่เป็นความรู้สึกชอบ เป็นห่วง คิดถึงจนสามารถเรียกได้ว่ามันเป็นความรักได้เลยเพียงแต่เฟยไม่รู้ว่าอีกคนคิดเช่นไร แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากรู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอะไรกับตัวเองหรือไม่ เพราะเฟยกลั
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“นอนห้องนี้แล้วกัน”หวังเดินนำไปยังห้องนอนห้องหนึ่ง พลางเปิดประตูแล้วบอกให้อีกคนเข้าพักที่นี่ เฟยได้แต่ทำว่าง่ายทว่าสายตากลับพยายามสอดส่ายมองว่ามีบริเวณไหนบ้างที่ตนจะสามารถหลบหนีออกไปได้ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัวก็ถูกลียึดไว้แล้วส่งให้หวังไปเรียบร้อยแล้ว การจะติดต่อกับคนภายนอกจึงถูกตัดไป“ทะ ทำไมระเบียงเป็นกระจกปิดตายล่ะครับ? แบบนี้ได้อึดอัดตายกันพอดี” สายตากวาดไปรอบห้องแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าระเบียง ที่ปกติตามคอนโดทั่วไปจะสามารถเปิดออกได้“กูสั่งให้คนเอาประตูเลื่อนออกน่ะ มึงจะได้หนีไปไม่ได้ไง”เรื่องนี้หวังคงคิดมาอย่างดี เพราะแม้ว่าเขาจะรู้จักเฟยคนนี้ดีแค่ไหน ทว่าคนตรงหน้านี้กลับดูแตกต่างราวกับคนละคน ซึ่งเขามั่นใจว่าถ้ามีช่องทางให้หนีได้ละก็ไม่ว่าจะระเบียง หรือแค่หน้าต่างโง่ ๆ เจ้าตัวก็คงสามารถหนีตนไปแน่นอน“หึ เฮียกะจะขังไว้ที่นี่เลยสินะครับ?”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่จนกว่างานแต่งนั่นจะยกเลิกไปน่ะ”ยามนี้เฟยคิดถึงหมิง คิดถึงเฟียสุดหัวใจ ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะสามารถตามรอยจากมือถือ และหาที่อยู่ของเขาเจอหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องหาหนทางด้ว
ณ คอนโดแห่งหนึ่งย่านชานเมือง“เข้าไป! พวกมึงจับมันดี ๆ สิวะ!” ลีตะโกนออกคำสั่งให้ลูกน้องที่หวังส่งไปลักพาตัวเฟยมา ให้นำเข้ามาในห้องพักย่านห่างไกลจากการตามหาของหมิง และเฟียสภาพยัยหนูเฟยที่ถูกนำตัวเข้ามามีแต่รอยช้ำจากการถูกตบถูกทำร้าย และมีเลือดออกที่บริเวณมุมปากหวังที่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาดู ทว่าก็กลับต้องชักสีหน้าเมื่อเห็นสภาพของคนน้องไม่เป็นไปตามที่ตนกำชับ“กูสั่งไปแล้วเหรอ...ว่าห้ามใครทำร้ายเฟย!” รอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจในตอนแรกเปลี่ยนกลับมาเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมา“ใครใช้ให้มีปากดีใส่กูล่ะ อีกอย่างก็เพราะมันเสือกโทรหาหมิงไงล่ะ ดีนะที่กูจับได้” นายเอกของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้คีพความเป็นนายเอกอีกต่อไป สีหน้าหงุดหงิด และรังเกียจ ทุกแสดงออกมาจนหมดเฟยได้เห็นอีกมุมของทั้งสองคนจากที่ต่างออกไปมาก เมื่อก่อนที่มักเห็นทั้งคู่เป็นคนสุภาพ แต่บัดนี้ไม่มีแม้แต่คราบของตัวละครที่เขาดูมาก่อนเลยสักนิด“พวกมึงกลับไปได้ล่ะ โดยเฉพาะมึงไอ้ลี...อย่าคิดนะว่ามึงจะเอาเหตุผลเหี้ยอะไรนั่นมาอ้างแล้วกูจะปล่อยมึงไป ถ้าไม่ติดว่ามึงยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง...มึงได้ตายห่าอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว!”หวังกระชากคอเสื้อลีเข้า
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 วันก่อน..˜“เฟยนอนหรือยัง เจ๊เข้าไปหาได้ไหม?”เฟียพยายามเคาะเรียกน้องชายหลังจากที่เธอไล่ให้เพื่อนสนิทกลับไปก่อน เพราะอยากให้ทั้งสองฝ่ายอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งไม่นานเฟยก็เป็นฝ่ายเดินมาเปิดประตูให้ร่างบางเดินนำพี่สาวเข้าไปด้านใน ก่อนจะนั่งลงบนเตียงหลังกว้างด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ...บอกเจ๊ได้ไหม?”เฟียเดินไปนั่งลงข้าง ๆ โอบไปยังไหล่ของเฟยพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้คาดคั้น“เรื่องมันยาวอะเจ๊ แต่สรุปสั้น ๆ เลยก็คือลีมันจ้างคนมาทำร้ายตัวเองเพื่อใส่ร้ายเฟย แล้วหยางกับหมิงก็เชื่อ”เฟยเล่าเพียงแค่นั้น ทว่าเฟียก็พอจะเดาสถานการณ์ที่เหลืออยู่ออก เธอต่อยมือลงบนที่นอนเพื่อระบายโกรธ ซึ่งไม่ได้โกรธที่ลีทำแบบนั้น แต่เธอโกรธที่ตัวเองไม่ดื้อตามน้องชายไปด้วย เพราะอย่างน้องเธอนี่แหละที่จะสามารถเป็นพยานยืนยันได้ว่าเฟยไม่ได้เป็นคนทำ“เจ๊ขอโทษนะ ฮึก” เฟียขอโทษน้องชายเสียงสั่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปกป้องน้องชายผู้เป็นที่รักได้“ขอโทษทำไม เจ๊ไม่เกี่ยวซะหน่อย” พอเฟยได้ยินเช่นนั้นก็หันไปโอบไหล่เล็ก ๆ ของพี่สาวพลางลูบเบา ๆ เพื่อปลอบ“เจ๊จะไปบอกไ
“ยกเลิกงานแต่งไปซะ”หลังประโยคนั้นบรรยากาศกลับเงียบลงทันตา เฟยนิ่งคิดว่าที่อีกคนนัดตนมาแล้วพูดเช่นนี้เพราะอะไรกันแน่“หึ แล้วกูต้องทำตามที่มึงพูดด้วยเหรอ?” ยัยหนูเฟยสวนกลับกลอกตาทำเหมือนไม่ใส่ใจฟังที่ลีบอก พลางยกขาขึ้นมาไขว่ห้างทำราวกับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร“ไม่แปลกใจหน่อยเหรอที่ผมก็มาคุยกับคุณเรื่องนี้น่ะ”แน่นอนว่าเฟยก็ต้องแปลกใจอยู่แล้ว เพียงแต่จะให้แสดงทีท่าเช่นนั้นต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามก็อาจเป็นการเผยไต๋ให้อีกคนคาดเดาความคิดของเขาได้“ก็ไม่นี่ แล้วไง...สรุปนี่เรียกมาคุยแค่นี้ใช่ไหม? งั้นกูขอตัว”“ดูท่าจะมั่นใจมากสินะว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เฮียหยางหันกลับไปสนใจน่ะ...ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกไม้แค่นี้มันอ่อนเกินไปหน่อยน่ะ เฮ้ออ ถ้าเป็นผมคงทำได้ดีกว่านี้” คำพูดยืดยาวทำให้ เฟยต้องหยุดฟังโดยไม่ทันรู้ตัวทำไมกันนี่เขายังแสดงออกไม่พออีกเหรอว่าตัวเองไม่ได้สนใจในตัวของหยางอีกต่อไปแล้ว..“เฮ้ออ พูดจนปากเปียกปากแฉะ มึงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีสินะว่าที่กูแต่งงานน่ะ...ไม่ใช่เพราะไอ้หยาง”“แล้วมันเพราะอะไรล่ะ? จะบอกว่าเป็นเพราะคุณชอบเฮียหมิงงั้นเหรอ หึ ๆ อย่ามาพูดให้ขำหน่อยเลย เอาตรง ๆ นะที่พวกคุณเล่นละครว่าร
“ช่วยกูแยกเฟยออกจากไอ้หมิงซะ”“หึ ชอบมันมากสินะ” พอได้ยินเช่นนั้นก็ทำเอาลีพ่นเสียงหัวเราะในลำคอออกมาอย่างนึกขบขัน ไม่คิดว่าคนอย่างหวังจะมีความคิดอยากแย่งชิงแบบนี้กับเขาด้วย“คิดว่าคนอย่างมึงมีสิทธิ์จะมาเรียกเฟยว่ามันงั้นเหรอ?”เบต้าหนุ่มยกเหล้าขึ้นจิบเบา ๆ พลางมองแก้วในมือก่อนจะเงยหน้าจ้องไปที่อีกคนด้วยสายตาดูถูก“ทำไม!? มันมีดีกว่าตรงไหน ก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจ...”เพล้ง!แก้วถูกเขวี้ยงผ่านหน้าไปยังด้านหลังโอเมก้าหนุ่ม ก่อนมันจะตกกระทบลงพื้นดังสนั่น ทำเอาร่างบางสะดุ้งตกใจหน้าซีดไม่คิดว่าคนสุภาพเช่นนั้นจะมีมุมน่ากลัวแบบนี้ด้วย“ต้องถามว่ามึงมีอะไรเอามาเทียบกับเฟยได้หรือเปล่ามากกว่า”“เฮีย!”“หรือว่าไม่จริง?” ลีถึงกับพูดไม่ออกได้แต่คว้าแก้วค็อกเทลของตัวเองมาดื่มรวดเดียวจนหมด สีหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก“ถ้าช่วยแล้วจะได้อะไรล่ะ?”“ก็ได้ไอ้หมิงคืนไปไม่ใช่หรือไง?”“ทำไมพูดแบบนั้นอะ! ลีไม่ได้...คิดอะไรกับเฮียหมิงแล้วซะหน่อย” ทำเป็นเฉไฉไปอย่างนั้น ทว่าในใจกลับรู้สึกเต้นเร่าเพราะถูกอีกคนจับทางเอาได้ หากยังด้อแพร่งไม่ให้ความร่วมมือต่อไปดีไม่ดีเรื่องนี้คงได้ไปเข้าหูของหยางอย่างแน่นอน“เฮียจะทำยังไง