บทที่ 2
ตัวร้ายเกรดซี หลังจากที่โผล่มาในโลกนิทานเมื่อวานแล้ว เอกภพก็เผลอหลับอยู่ที่หน้าเตาผิงด้วยความเหนื่อยล้าจากร่างกายนี้ที่ทำงานบ้านมาทั้งวันก่อนที่เจ้าของร่างนี้จะจากไป “ไอ้ซิน! ไอ้ซิน! ทำไมไม่ขึ้นมาเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ซิน ซิน อยู่ไหน มานี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยรึไง ทำไมต้องให้ฉันเรียก” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ร่างบางงัวเงียตื่นจากนิทราเพราะไม่อาจทนฟังเสียงบาดหูนั้นได้ ด้วยความที่พึ่งตื่นทำให้สมองของเอกยังไม่แล่นเท่าไหร่ ใช้เวลาครู่หนึ่งก็ประมวลเหตุการณ์ได้ทันที ตอนนี้เขาคงต้องรองมือรองเท้าพี่น้องกับแม่เลี้ยงสินะ น่าจะใช่แหละ น่าจะเรื่องนี้แหละ เขาหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งชุดนอนที่ดูก็รู้ว่าผ้าราคาแพง พอก้มมองตัวเองก็ได้แต่ส่ายหัว แหม เงินก็เงินพ่อเขาเอาไปใช้ซะสบายเชียวนะ ใส่ผ้าดีขนาดไหนก็ยังสวยสู้น้องสาวในโลกเก่าของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ หึ เดี๋ยวเจอเลยย เดี๋ยวเจอไอ้ซินเวอร์ชันเอกภพซะหน่อย “อิซิน กูบอกให้มึงมาเตรียมน้ำให้กูอาบ” ผู้หญิงคนนั้นเดินลงมาจากบันไดแล้วตรงมายังเขา ตอนนี้ในหัวเขาอยู่อย่างเดียว เขาต้องเล่นบทนางเอกก่อนไหม หรือสู้ได้เลยนะ “โอ้ววว คุณพี่ น้องซินขอโทษนะพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยทำงานมาอย่างหนักหน่วงจนทำให้หมดแรงอยู่เป็นลมตรงนี้ โอ้ยยย ข้าหมดแรง” พูดจบเขาก็หมุนตัวก่อนล้มลงช้า ๆ ประหนึ่งนางเอกซีรี่ส์จีนค่อย ๆ พับเพียบไปกับพื้น เป็นไงล่ะน้องเอกการละคร ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดแบบไหนดีก็รวมแม่งเลย “เป็นบ้าอะไรของแก พูดภาษาอะไรพูดไม่รู้เรื่อง แล้วนี่เมื่อคืนแกนอนที่นี่เหรอ เสนียด ห้องแกอยู่ใต้หลังคา อย่าเสนอหน้ามานอนห้องนี้อีก” แหมแม่นางก็ คนมันเหนื่อยนี่ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือไม่รู้ว่าห้องตัวเองอยู่ที่ไหน ที่สำคัญเหนื่อยขนาดนั้นใครจะพาตัวเองไปหาห้องนอนไหว สงสารนายซินคนเก่าเลยคงต้องทำงานหนักมากแน่ ๆ “แหมมคุณพี่ก็ เดี๋ย...” “ใครพี่แก! อย่ามาสะเออะเรียกฉันว่าพี่!” พี่สาวปลอม ๆ หันมาตวัดตาใส่เขา “แล้วคุณพี่จะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ” “คนอย่างแกเรียกฉันว่าคุณหนูได้เท่านั้น อย่ามาทำตัวเสมอฉัน ฉันมีน้องชายคนเดียวคือ อลัน แกมันก็แค่กาฝาก” ว้าว กล้าที่จะนะ นี่ร่างนายเอกนิทานนะ แหมตัวเองกับแม่สตอเข้ามาทำท่าจะเลี้ยงแสร้งทำตัวเป็นแม่ที่ดี แล้วฮุบสมบัติ กล้าที่จะว่านายเอกเป็นกาฝาก “ขอโทษด้วยนะครับคุณหนู สงสัยผมทำงานหนักแล้วสมองเลอะเลือน จนลืมตัวไป ทำตัวเสมอคุณหนูเสียได้ ผมมันก็แค่กาฝากมาอาศัยบ้านอาศัยครอบครัวคนอื่นอยู่แล้วยังไม่สำเหนียกตัวเองมาทำตัวต่ำช้ากับคุณหนูของบ้านได้อีก” เขาเน้นเสียงคำว่ากาฝากเป็นพิเศษ พอเขาพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นที่ผมยังไม่รู้ชื่อก็เชิดหน้าขึ้นจนคอแทบเคล็ดเหมือนจะภูมิใจกับการเยินยอจอมปลอมของผม อ่ะรู้อย่างหนึ่งละ ตัวร้ายหมายเลข 1 น่ะโง่ชะมัด จัดเป็นนางร้ายเกรดซี จัดการได้ไม่ยาก “พี่อลิสครับ มีอะไรหรือเปล่าเสียงดังไปถึงห้องผมเลย” ตัวละครตัวที่สองเดินลงมาจากบันได เป็นชายร่างเล็ก น่าจะตัวเตี้ยกว่าร่างของนายเอกนิดหน่อย ผมแดงเหมือนพี่สาว หน้าตาออกไปทางน่ารัก ส่วนตัวพี่สาวนั้นออกไปทางสวย มาดูกันต่อไปว่าตัวละครนี้จะนิสัยเป็นยังไง พระเจ้านี่ก็ช่างปั้นนะ ตัวละครสองตัวที่โผล่มาหน้าตาดีทั้งคู่เลย “พี่อลิส ดุซินอีกแล้วเหรอครับ พูดกันดี ๆ ก็ได้ยังไงซินก็เป็นน้องชายของเรานะครับ” โอ๊ะโอ คนนี้มาล้ำแฮะ มาด้านการแสดงเป็นคนดี แหมเห็นเหรอกว่าแอบทำหน้าสะใจอยู่น่ะ เธอมันร้ายอินางซ้องปีบ หึ ละครช่องน้อยสีที่ดูเป็นเพื่อนน้องสาวนี่มีประโยชน์จริงๆ มันดูออกค่ะ “คุณอลิสคุณอลันมีอะไรให้ผมรับใช้ไหมครับ” “อุ้ย รับใช้อะไรกันล่ะครับน้องซิน ช่วยๆ กันนะครับพี่น้องกัน” ช่วยกับผีน่ะสิ ช่วยจริงซินคนเดิมมันจะทำงานหนักจนตายไหม พูดมาได้ไม่อายปาก “แกไปเตรียมน้ำให้ฉัน น้องแล้วก็แม่อาบก่อน ทำไมฉันต้องมาเสียเวลาบอกแกด้วย หน้าที่ตัวเองแท้ๆ ไม่รู้จักจำ” “ส่วนของพี่ พี่ไม่ได้อยากใช้ซินนะครับ แต่คุณแม่ท่านให้พี่มาบอกว่าวันนี้ท่านเจ้าเมืองจะมีการพบปะกับประชาชน ท่านเลยอยากให้ซิน ทำความสะอาดทั้งบ้านหน่อย เสร็จแล้วก็จัดโต๊ะ เตรียมอาหารมื้อกลางวันสำหรับต้อนรับท่านเจ้าเมืองด้วย เพราะท่านรู้จักคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวเสร็จแล้วน้องซินมาเอาชุดของพี่ไปใส่นะ ดูสิใส่ชุดมอซอ ไม่สมกับเป็นน้องพี่เลย เราคงต้องร่วมโต๊ะกับท่านเจ้าเมืองน้องคงต้องแต่งให้สมเกียรติของบ้านหน่อย ถึงน้องซินจะชอบแต่งตัวสกปรก แต่วันนี้ไม่ได้น้า” เขาอยากจะกลอกตาให้กลับหลัง ชอบแต่งตัวสกปรก ก็พวกมึงไม่ให้มันใส่ของใหม่เลยป่ะ กล้าที่จะพูดนะพ่อคุณ “ครับ ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะทำความสะอาดให้เกลี้ยงเลยครับ” ตอนนี้ผมก็ได้แต่ทำตามไปก่อน ค่อยมาคิดว่าจะทำยังไงต่อ ผมเริ่มทำความสะอาดบ้านจนเสร็จ แล้วมาเตรียมอาหารต่อ ดีที่มีสกิลทำอาหารมาบ้างเพราะต้องทำให้น้องสาวตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่พ่อและแม่ของพวกเราเสียไป หน้าที่ดูแลน้องสาวก็ตกเป็นของเขา เพราะงั้นการทำอาหารซักผ้าดูแลบ้านเขาก็ทำเป็นทั้งหมด ดูท่าแล้ววันนี้เขาคงจะต้องทำอาหารเยอะหน่อย ที่สำคัญเลยเขาจะรอดูว่าวันนี้พระเอกจะมาไหม ลูกชายเจ้าเมืองที่ว่า ก็น่าจะเป็นพระเอก ถ้าเค้าจำไม่ผิด หรือว่ามีเจ้าชายป่ะวะ รอดูเอาละกันถ้าเบ้าหน้าหล่อก็คงเป็นตัวละครหลักนั่นแหละ หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จเขาก็เดินไปที่ห้องของอลันพี่ชายไม่แท้ของเขา เพื่อไปเอาเสื้อผ้าที่เจ้าตัวบอกจะให้ ทำใจไว้แล้วว่าเขาคงไม่ให้ของดี ๆ มาหรอก แต่ด้วยความที่โลกเก่าของเขา เขาประกอบอาชีพเป็นดีไซเนอร์แม้ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะทำเบื้องหลังเป็นส่วนใหญ่ แต่เขาก็มั่นใจว่าสามารถที่จะทำให้มันปังได้แน่ เขาน่ะมีแผนในหัวแล้วว่าจะทำยังไงในวันนี้ ถึงจะต้องให้เนื้อเรื่องเดินแต่เขาก็ต้องวางแผนการเอาทุกอย่างของเขาคืนมาได้ด้วยตัวเอง คนพวกนี้จะต้องตกต่ำยิ่งกว่าเจ้าของร่างเดิมเคยโดน พอมาถึงหน้าห้องของอลัน ก็เป็นอย่างที่เขาคิด ชุดถูกแขวนไว้หน้าห้องเป็นชุดที่ดูเก่าและธรรมดามาก เหอะ เดี๋ยวรู้เลยว่าเขาในร่างนายซินกับชุดโทรม ๆ นี่ทำอะไรได้บ้าง แต่ว่านะแค่ความสวยออร่าของนายซินก็ กระแทกตาพอแล้วป่ะ ฮุฮุ แต่งเติมนิดหน่อยก็สวยละ โอ๊ะ พึ่งนึกได้ เจ้าเมืองจะมางั้นเหรอ งั้นชุดแบบนี้อาจจะดีกว่าชุดสวย ๆ ได้นะบทที่ 27 ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เวลาผ่านมาจนเกือบถึงงานวันแต่งงาน สามแม่ลูกนั่นเข้าไปใช้กรรมในคุกมาสักพักแล้ว เขาว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อยล่ะนะ อยากรู้ว่าในคุกมันสุขสบายเกินกว่าที่พวกนั้นเคยทำร้ายเอลเลอร์คนเก่าไว้หรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละ การที่พวกนั้นต้องติดคุกตลอดชีวิตทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทองของคนอื่นก็คงจะทุกข์ทรมานกันอยู่ไม่น้อยเห็นว่าหากทำตัวดีทำงานในคุกที่มีการสอนงานและให้ทำงานไปด้วย ถ้าขยันและประเมินแล้วสำนึกผิดจริงก็จะถูกลดโทษก็ต้องมารอดูกันว่าพวกนั้นจะทำได้รึเปล่า“พี่เกรย์ครับเตรียมตัวเสร็จรึยัง พี่ไม่ต้องเอาคนไปด้วยหรอกไปแค่เรานี่แหละครับ พวกนั้นอยู่ในคุกคงทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว”เอลเลอร์มารอที่บ้านของเกรย์ฟาเพื่อรอให้อีกฝ่ายพาไปเยี่ยมสามแม่ลูกนั่น“เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวเอาตามที่หนูว่าก็ได้ค่ะ ไปกันเลยดีกว่า พี่ให้คนเตรียมรถม้าไว้แล้วค่ะ”ทั้งสองคนออกเดินทางตรงไปที่ราชทัณฑ์ในเมือง เกรย์ฟาก็ไม่ได้มีการถามว่าน้องจะไปเยี่ยมทำไม ก็อย่างที่บอกเขาน่ะแค่น้องบอกว่าต้องการเขาก
บทที่ 25ความยุติธรรมอยู่ที่นี่ วันที่ทางกรมยุติธรรมบอกว่าจะติดประกาศ ทางกรมยุติธรรมได้มีการส่งเจ้าหน้าที่นำจดหมายเชิญเอลเลอร์ เกรย์ฟา เจ้าเมืองและทนายประจำตระกูลทอมสันเข้ามาฟังคำตัดสินที่บ้านทอมสันเองใช้เวลาเพียงไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องรับรองของบ้านทอมสัน เป็นห้องที่มีความคล้ายห้องประชุม โต๊ะกลางห้องเป็นรูปวงรี เก้าอี้วางพอสำหรับคนพอดี โดยที่ตอนนี้รองเจ้ากรมยุติธรรมนั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดมาทางด้านซ้ายคือท่านเจ้าเมือง ด้านขวาเป็นตำรวจที่มากับท่านรองเจ้ากรมและสามแม่ลูกตามลำดับอายุ ทางด้านเจ้าเมืองต่อด้วยเกรย์ฟา และถัดมาคือเอลเลอร์“เอาล่ะครับหลังจากที่ผมได้เข้ามาจัดการคดีนี้ด้วยตัวเอง และตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว วันนี้คือวันที่คดีสิ้นสุดและระหว่างที่ผมมาแจ้งผลอย่างเป็นทางการนั้น เจ้าหน้าที่อีกส่วนได้มีการนำผลการตัดสินไปติดประกาศหลังจากที่ผมก้าวเท้าออกจากห้องนี้ คดีนี้จะเผยแพร่การตัดสินสู่สาธารณชนทันที ทุกคนถือว่ารับทราบแล้วนะครับ” เจ้ากรมยุติธรรมพูดขึ้น“ค่ะ” “ครับ” ทุกคนตอบรับด้านสามแม่ลูกที่เห็นวันนี้ท่าน
บทที่ 26จบเรื่องสักทีนะ ตอนนี้ทั้งเมืองนั้นต่างพูดคุยกันเรื่องบ้านทอมสัน ที่สามแม่ลูกนั้นไม่ได้ใช้นามสกุลทอมสันอีกต่อไป ทั้งยังมีเรื่องที่เป็นข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นความจริงทั้งหมด ทุกคนต่างเห็นใจเจ้าเด็กซนที่แม้จะพึ่งปรากฏตัวออกจากบ้านได้ไม่นานแต่ก็มีนิสัยที่น่ารักและเป็นกันเอง ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ชาวเมืองสาปส่งสามแม่ลูกและมีการพูดกันว่าการติดคุกตลอดชีวิตนั้นดีแล้ว ไม่ควรปล่อยออกมาให้เป็นอันตรายต่อคนอื่น ที่สำคัญคือจะไม่เป็นอันตรายต่อเอลเลอร์ที่เป็นคนลากพวกนั้นเข้าคุกด้วยแล้วยังมีข่าวลืออีกเรื่องที่เป็นที่ฮือฮาและน่าแตกตื่น คือท่านรองเจ้ากรมแยกบ้านกันอยู่กับภรรยา แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่ได้รับการยืนยันจึงไม่ได้มีการพูดต่อกันมากมาย แต่ก็มีข่าวออกมาว่าเพราะภรรยาท่านเจ้ากรมที่เป็นเพื่อนกับแอนนานั้น พยายามที่จะช่วยแอนนาเลยทำให้ท่านรองเจ้ากรมนั้นไม่พอใจ แต่ก็นั่นแหละข่าวลือที่ออกมานั้นไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการสักอย่าง...“เป็นไงบ้างคะ หลังจากที่เรื่องจบแล้ว หนูมีความสุขขึ้นรึเปล่
บทที่ 24ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ทางด้านคนที่เกรย์ฟาส่งให้เดินทางไปตามหาป้ามาลีนั้น เมื่อผ่านไปหนึ่งวันได้ทำการส่งจดหมายมาว่าตอนนี้เจอป้ามาลีแล้วและป้าปลอดภัยดี ตอนนี้กำลังรวบรวมคนที่เคยเป็นคนของบ้านทอมสันตั้งแต่สมัยนายท่านทอมสันกลับไปที่บ้านมาลีเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ได้ยินการพูดคุยระหว่างสามแม่ลูกกับท่านรองเจ้ากรมและภรรยา จึงได้รู้ว่าทางด้านภรรยาของท่านรองเจ้ากรมเป็นเพื่อนกับแอนนา ทางนั้นจึงติดต่อแล้วขอร้องให้รองเจ้ากรมยุติธรรมนั้นช่วยเหลือ ทางสามแม่ลูกนั้นแสดงละครใหญ่โตว่าโดนเอลเลอร์กลั่นแกล้ง หากเธอไม่ได้อยู่ด้วยทุกครั้งตอนเกิดเรื่องและไม่รู้จักนิสัยแม่ลูกพวกนี้มาก่อนอย่างที่ท่านรองเจ้ากรมนั้นได้รับรู้เธอก็คงเชื่อคำลวงเหล่านั้นคนพวกนั้นเล่าทั้งน้ำตาใส่ร้ายคุณหนูของเธอต่าง ๆ นานา ความจริงเรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือรองเจ้ากรมเรื่องต่าง ๆ ก็สามารถจบได้อย่างยุติธรรม อีกทั้งคดีนี้ก็กำลังจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ หรือก็คือหลังจากวันที่ท่านรองเจ้ากรมมาที่บ้านทอมสันถึงแม้รองเจ้ากรมจะเชื่อมั่นในการทำงานของลูกน้องตัวเอง แต
บทที่ 23สายสืบตัวจ้อย หลังจากที่ฟังเรื่องราวจากหนูทั้งหลายที่แย่งกันเล่า แม้จะต้องนำมาปะติดปะต่อเรื่องสักหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ พวกเขาเลยรีบกลับไปที่บ้านของเกรย์ฟาเพื่อเร่งหารือกับท่านเจ้าเมืองว่าตอนนี้เรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง หากมีการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือจริง ๆ จะทำอย่างไรกันต่อก่อนออกมาเอลเลอร์ไม่ลืมกำชับให้บรรดาหนูนั้นดูแลตัวเองดี ๆ เพราะหากพวกนั้นเห็นมีหวังคงฆ่าทิ้งแน่ ตอนแรกเอลเลอร์เสนอให้มาด้วยกัน แต่เจ้าตัวเล็กทั้งหลายบอกว่าจะอยู่คอยสืบความให้ แม้เป็นห่วงแต่เจ้าหนูก็แสดงให้เห็นว่าห้าวันที่ผ่านมานั้นดูแลตัวเองได้ฟ้าที่มืดลงสนิทพอดีกับที่ทั้งสองคนเดินทางมาถึงบ้านของเกรย์ฟา พวกเขารีบเดินเข้าไปในบ้านเพราะเวลานี้ จาฟาร์น่าจะเดินทางกลับมาจากที่ทำงานแล้ว“พ่อครับ ผมพึ่งรู้เรื่องที่กรมยุติธรรมทำงานล่าช้า พ่อช่วยตรวจสอบให้หน่อยได้ไหมครับว่ามีคนยศใหญ่ลงมาช่วยเหลือสามแม่ลูกนั่นรึเปล่า เรื่องใหม่ที่ผมรู้มาเป็นอย่างนี้ครับ...” เกรย์ฟาเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาจากหนูทั้งสิบแปดตัวให้กับจาฟาร์ได้รับรู้“จริงเหรอ ช่วงน
บทที่ 22การเตือนจากเพื่อนตัวน้อย เอลเลอร์เริ่มกระวนกระวาย เมื่อป้ามาลีขาดการติดต่อนานเกินไป เขารอให้เกรย์ฟากลับมาจากที่ทำงานเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ อาจจะต้องกลับไปดูที่บ้านทอมสัน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไปหลังจากนั้นไม่นานเกรย์ฟาก็ได้กลับจากที่ทำงาน เอลเลอร์ก็พุ่งเข้าไปหาทันที“พี่เกรย์ หนูมีอะไรจะปรึกษาค่ะ”“ครับ มีอะไรครับ”“ป้ามาลี ไม่ส่งจดหมายมาหาหนูห้าวันแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า พี่ช่วยพาหนูไปดูหน่อยได้ไหม” ตอนนี้เอลเลอร์ร้อนใจเป็นอย่างมาก เขามามีความสุขอยู่บ้านนี้จนลืมไปว่าป้ามาลีอาจตกอยู่ในอันตรายได้“ได้สิครับ ให้พี่ส่งคนไปก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวเป็นยังไงให้เขารายงานมาแล้วเราค่อยมาคิดอีกที”“พี่เกรย์ หนูอยากไปเองมากกว่า พี่พาหนูไปหน่อยได้ไหม ยังไงก็มีเจ้าหน้าที่กรมยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่น่ามีอะไรหรอก”“ได้ครับ เดี๋ยวพี่ขอเตรียมตัวสักครู่นะครับ เดี๋ยวพี่ไปด้วยเอาคนของเราไปด้วยแล้วกันนะครับ”“ครับ หนูรอนะ”เกรย์ฟาเมื่อเข้าไปเตรียมพร้อมเสร็จแล้วก็สั่งคนเตรียมตั