Beranda / รักโบราณ / เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ / ตอนที่ 5 แผนการแบ่งแยกทรัพย์สิน

Share

ตอนที่ 5 แผนการแบ่งแยกทรัพย์สิน

Penulis: ลัยลา
last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-05 16:15:51

จื่อเหยามองหน้าสองแม่ลูกรวมทั้งนายท่านจางด้วยท่าทางสะใจไม่น้อย ก่อนหน้านี้นางและแม่ของนางไม่เคยคิดใช้อำนาจของท่านตานางมาก่อน จื่อเหยาคนเดิมก็ไม่มีความคิดในเรื่องล้างแค้นเอาคืนเช่นนี้เลยด้วยซ้ำไป พอเกิดเรื่องนางก็มักจะระเบิดอารมณ์ลงไปในตอนนั้นเลย จนทำให้นางกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาผู้อื่น ส่วนคนผิดจริงอย่างรั่วเหรินและฮูหยินรองก็ทำตัวเป็นเหยื่อดูน่าสงสารเห็นใจแทน

            ‘ในส่วนของจื่อเหยาคนเดิมนั้นมีเพียงแต่ใช้อารมณ์กับกำลังเข้าปะทะจนทำให้ตัวเองถูกใส่ร้ายกล่าวหามองดูเป็นคนไม่ดีคิดเรื่องที่ชาญฉลาดมีเหตุมีผลไม่ได้ ส่วนมารดานางนั้นคิดเพียงต้องการรักษาความสัมพันธ์ของครอบครัวเอาไว้ก็เพื่อบุตรีของนางเองจึงไม่ยอมใช้ไม้แข็งหรือต่อต้านอันใดมากนัก มาบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกนางจะลุกขึ้นมาจัดการกับสองแม่ลูกและบิดาที่ไม่เป็นธรรมเสียที’ จื่อเหยาคิดเอาคืนทุกอย่างแทนสาวน้อยร่างท้วมที่ตายไปอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งเพื่อฮูหยินใหญ่จางซึ่งเป็นมารดาของนางนับจากนี้ไปด้วย

            “เอาเถอะเหรินเอ๋อ จิงหยู พวกเจ้าสองคนได้ยินที่เหยาเอ๋อกล่าวแล้วใช่ไหม เช่นนั้นก็ไปรวบรวมข้าวของกลับคืนมาให้นางเสียเถอะ หาไม่ก็คืนเงินให้นางซะ” นายท่านจางกล่าวอย่างเสียไม่ได้เพราะเกรงกลัวในอำนาจบารมีของท่านพ่อตาอยู่มาก

            “ท่านพ่อ..”

            “ท่านพี่..”

สองแม่ลูกโอดครวญแต่นายท่านจางทำเป็นเฉยเสียและก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไป ทำให้สองแม่ลูกหันกลับมามองกันหน้านิ่วคิ้วขมวดเลยทีเดียว

            “พวกท่านไม่ต้องกังวลหรอกนะว่าจะตีราคาข้าวของไม่เป็นธรรม ข้าระบุในรายการสิ่งของแต่ละชิ้นเอาไว้ชัดเจนแล้ว อ้อ..หากพวกท่านเอาคืนกลับมาได้แต่ไม่อยู่ในสภาพเดิม ข้าไม่รับคืนนะ ขอเป็นเงินแทนแล้วกัน” จื่อเหยาย้ำพร้อมยิ้มอย่างสะใจ สองแม่ลูกอยากจะโต้เถียงแต่ก็เถียงอะไรไม่ออก เพราะนายท่านจางไม่เข้าข้างพวกนางก็เท่ากับไม่มีคนหนุนหลังคอยส่งเสริมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

            “นังจื่อเหยานั่นฟื้นขึ้นมาแล้วราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว ช่างร้ายกาจนัก” รั่วเหรินเอ่ยกับมารดาหลังจากกลับเข้ามาที่ห้องของนาง

            “นั่นสิ ช่างฝีปากกล้าถือดีและร้ายกาจยิ่งนัก รู้จักนำท่านตานางมากล่าวอ้างเช่นนี้ ท่านพ่อเจ้าจะกล้าขัดใจได้อย่างไรกัน” ฮูหยินรองจางเอ่ยอย่างไม่พอใจและประหลาดใจไม่น้อย

            “ไม่ได้แล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ขืนปล่อยไปเช่นนี้ ต่อไปท่านพ่อคงไม่เห็นหัวพวกเราแน่” รั่วเหรินเอ่ย

            “แล้วจะทำอย่างไรได้เล่า”

            “หากท่านพ่อไม่ส่งเสริม เราคงต้องหาผู้อื่นมาหนุนหลังแทน”

            “ใครกัน”

            “สกุลจางเรามีสัญญาหมั้นหมายอยู่กับสกุลหาน ซึ่งนายท่านหานกำลังจะเดินทางกลับจากเมืองหลวงเพื่อมารับตำแหน่งเจ้าเมืองเสียนโจวมิใช่หรือเจ้าคะ” รั่วเหรินเอ่ยสีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์

            “แต่สัญญาหมั้นหมายระบุว่าเป็นบุตรีของภรรยาเอก ฮูหยินใหญ่แห่งสกุลจางนี่” ฮูหยินรองจางเอ่ย

            “ฮึ แม้นจะเป็นเช่นนั้น แต่หากบุตรีของภรรยาเอกรูปร่างอัปลักษณ์ นิสัยใจคอน่ารังเกียจ ทั้งยังทำเรื่องเสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูล สกุลหานก็ไม่อาจรับได้หรอกเจ้าค่ะ” รั่วเหรินเอ่ยอย่างมีแผนการในใจ

            “ฉลาดจริงลูกแม่ หากเจ้าทำให้คุณชายหานพึงพอใจและเปลี่ยนการหมั้นหมายมาเป็นเจ้าได้ เราสองแม่ลูกก็ไม่ต้องห่วงกังวลอะไรแล้วล่ะ” ฮูหยินรองเอ่ยอย่างเห็นชอบด้วยกับความคิดของบุตรสาว

ในขณะเดียวกันสองแม่ลูกจื่อเหยากับฮูหยินใหญ่จางยามนี้ก็ไปคอยสำรวจกิจการร้านค้าที่เป็นสินเดิมรวมทั้งร้านค้าที่ร่วมกันสร้างขึ้นมากับนายท่านจางหลังการสมรส ตรวจดูทรัพย์สินที่คิดว่าสมควรจะแบ่งกันให้เหมาะสม หากภายภาคหน้าตกลงเรื่องหย่าร้างจะได้ไม่เสียเปรียบ

            “เหยาเอ๋อ เจ้าคิดว่าท่านพ่อเจ้ากับสองแม่ลูกนั่นจะยอมให้เราแบ่งเอาทรัพย์สินกิจการมาโดยง่ายงั้นหรือ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยกับบุตรสาวที่ยามนี้เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดการเรื่องต่างๆ รวบรวมรายการทรัพย์สินกิจการ คิดบัญชีผลกำไรรายได้รายเดือนรายปีออกมาให้เห็นกันชัดเจน เพื่อจะแบ่งแยกทรัพย์สินในภายภาคหน้าโดยไม่เสียเปรียบผู้ใด

            “ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปนักหรอกเจ้าค่ะ อย่าลืมสิเจ้าคะว่าเรามีท่านตาคอยหนุนหลังอยู่ทั้งคน หากมันเลวร้ายนักก็เชิญท่านตามาเยือนเมืองเสียนโจวนี้เสียหน่อย จัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย แต่ลูกคิดว่าคงไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกเจ้าค่ะ” จื่อเหยาเอ่ยด้วยวาจาท่าทางเฉลียวฉลาด

            “ท่านแม่เจ้าคะ ตอนนี้พวกเราก็บริหารกิจการร้านค้าสินเดิมที่ท่านตากว้านซื้อเอาไว้ที่เมืองเสียนโจวให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นกันดีกว่าเจ้าค่ะ จากนั้นก็เปิดร้านค้าที่ขายสินค้าชนิดเดียวกันกับกิจการหลักของสกุลจางเอาไว้ พอถึงเวลาแบ่งกิจการทรัพย์สิน เราไม่จำเป็นต้องได้กิจการเหล่านั้นมา ปล่อยทิ้งไว้ให้พวกเขาได้ใจไป หลังจากนั้นค่อยหาทางเล่นงานกลับคืนเอาให้พวกคนเลวหน้าหงายกันไปเลยดีกว่า” จื่อเหยาบอกแผนการคร่าวๆระยะยาวที่จะเอาคืนสกุลจางกับมารดา ซึ่งฮูหยินใหญ่จางก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมยิ้มออกมาอย่างพอใจ

            “เหยาเอ๋อ ลูกแม่เจ้าโตแล้วจริงๆ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยด้วยความยินดีและภาคภูมิใจในตัวบุตรสาว

            ‘แน่ละ..ในโลกก่อนหน้านี้นางเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งเจ้าของกิจการที่เริ่มจากการฝึกงานในบริษัทต่างๆของครอบครัวจากระดับล่างจนรู้พื้นฐานกิจการร้านค้าหลากหลาย ก่อนจะก้าวเข้าสู่ระดับผู้บริหาร ทั้งยังจบปริญญาโทด้านการบริหารจากต่างประเทศมีความรู้และประสบการณ์ไม่น้อยทีเดียวที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโลกใบใหม่นี้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยนักหากเทียบกับกิจการมากมายที่นางเคยบริหารจัดการมาก่อนหน้านี้’ จื่อเหยาคิดอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง

เมื่อในโลกใบใหม่นี้มีอะไรมากมายที่นางหยิบจับทำเงินได้ไม่น้อยเลย ที่สำคัญนางเพิ่งจะค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่ากำไลหยกเลือดนกที่ได้มาจากบรรพบุรุษสกุลซุนฝั่งท่านแม่ของนางเป็นกำไลวิเศษที่ภายในมีมิติพิเศษซึ่งด้านในนั้นมีบ่อน้ำที่ช่วยรักษาโรคและอาการบาดเจ็บ ฟื้นฟูร่างกายได้ รวมทั้งยังมีรสชาติดีหากนำมาปรุงอาหารก็เลิศรสยากที่จะมีผู้ใดเทียบเทียมได้ หากนำมาปรุงยาทำเครื่องสำอางหรือสินค้าอื่นๆก็คงจะดีไม่แพ้กัน อีกทั้งบริเวณโดยรอบของมิติพิเศษยังมีพืชผักผลไม้มากมายขึ้นอยู่เต็มไปหมด รสชาติที่นางได้ลิ้มลองก็สดอร่อยเหลือหลาย

            “ท่านแม่ข้าหิวแล้ว พวกเราไปทานอาหารที่ภัตตาคารเยียนโจวกันดีกว่าเจ้าค่ะ” จื่อเหยาเอ่ยชักชวนมารดาไปทานมื้อกลางวันที่ภัตตาคารชื่อดังซึ่งจื่อเหยาจำได้ว่าเจ้าของร่างเดิมชอบอาหารของที่นั่นมาก และการไปครั้งนี้ก็เพื่อสำรวจรายการอาหารของที่นั่นเพื่อนำมาปรับปรุงเหลาสุราและอาหารในโรงเตี๊ยมที่แม่ของนางเป็นเจ้าของนั่นเอง

            “เหยาเอ๋อ ที่เจ้าเลือกมาที่นี่อยู่บ่อยๆเป็นเพราะเสี่ยวหยางหรือเปล่า” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยถึงคู่หมั้นตามสัญญาหมั้นหมายของบุตรสาวซึ่งก็คือคุณชายหานลี่หยางเจ้าของภัตตาคารแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งนางรู้ดีว่าบุตรสาวนางรักและคอยตามติดเขามาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งครอบครัวสกุลหานย้ายไปอยู่เมืองหลวง มาบัดนี้ลี่หยางกลับมาบริหารกิจการร้านค้าที่เมืองเสียนโจวก่อนหน้าที่บิดามารดาจะตามกลับมาในภายหลัง จื่อเหยาก็คงไม่เปลี่ยนแปลงคอยติดตามลี่หยางไปนู่นมานี่เสมอ

            “เปล่านะเจ้าคะท่านแม่ คุณชายหานผู้นั้นดูท่าว่าจะรังเกียจรูปร่างหน้าตาข้าที่เป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่คิดจะไปตอแยอะไรกับเขาอีกแล้วล่ะเจ้าค่ะ หากเป็นไปได้ข้าเองอยากจะเป็นฝ่ายขอยกเลิกการหมั้นหมายเสียด้วยซ้ำ” จื่อเหยาเอ่ย นางไม่ใช่จื่อเหยาคนเดิมแล้วจึงไม่คิดสนใจบุรุษที่ไม่มีใจให้นางไม่ว่าเขาจะเลิศเลอสมบูรณ์พร้อมเพียงใดก็ตาม

            “เป็นเช่นนั้นจริงๆนะหรือ” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาเบื้องหลังจื่อเหยาโดยที่นางไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ตกใจจนเซถลาไป แต่เขาเอื้อมมือเข้ามาคว้าร่างท้วมของนางเอาไว้ได้ก่อนที่จะต้องล้มลงไปนอนแนบชิดกับพื้นอีกรอบ

            “เสี่ยวหยาง วันนี้เจ้าอยู่ดูแลที่นี่งั้นหรือ” ฮูหยินใหญ่จางเอยทักทายลี่หยางคู่หมั้นคู่หมายของบุตรสาว

            “คารวะท่านน้าซุนขอรับ” ลี่หยางเอ่ยทักทายพร้อมเรียกนามตามสกุลเดิมของฮูหยินใหญ่จาง เนื่องจากความคุ้นเคยด้วยเป็นสหายสนิทกับมารดาเขามาเนิ่นนานตั้งแต่ยามรู้จักกันที่เมืองหลวง

            “ตามสบายเถอะเสี่ยวหยาง เหยาเอ๋อ ทักทายพี่เขาหน่อยสิ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยเตือนบุตรสาวที่ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของลี่หยางและนิ่งตะลึงไป

            ‘เห็นในภาพฝันคิดว่ารูปร่างหน้าตาใช้ได้ แต่ตัวจริงนี่หล่อขาดบาดใจไม่แพ้ดารานายแบบยุคสมัยใหม่เลยแฮะ’ จื่อเหยาคิดในใจ

            “อะ..เอ่อ คารวะคุณชายหานเจ้าค่ะ” จื่อเหยาเอ่ยพร้อมผละตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขา ลี่หยางมีสีหน้าท่าทางประหลาดใจเนื่องจากที่ผ่านมาจื่อเหยามักจะเรียกเขาว่าพี่ลี่หยางอย่างสนิทสนมมาโดยตลอด แต่มาคราวนี้กลับเรียกเสียห่างเหินทีเดียว ซึ่งฮูหยินใหญ่จาง ซูเจียวรวมทั้งคนสนิทของลี่หยางนามเยว่จางหลงก็มีสีหน้าท่าทางประหลาดใจไม่แพ้กัน

            “อืม” ลี่หยางตอบรับคำทักทายของจื่อเหยาเพียงสั้นๆ

            “ขอเชิญท่านน้าขึ้นไปทานอาหารที่ห้องรับรองด้านบนเถอะขอรับ” ลี่หยางเอ่ยเชื้อเชิญฮูหยินใหญ่จาง

            “น้ากับเหยาเอ๋อแค่มาทานมื้อกลางวันธรรมดาเท่านั้นไม่รบกวนเจ้าหรอกนะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยด้วยความเกรงใจ

            “ไม่ได้หรอกขอรับ ท่านแม่ให้ความสำคัญและใส่ใจในตัวท่านน้ากับเหยาเอ๋อมาก หากรู้ว่าข้าไม่ใส่ใจดูแลพวกท่านให้ดีต้องว่ากล่าวข้าแน่ๆ” ลี่หยางตอบกลับไป

            “เอาเถอะ เช่นนั้นทำตามใจเจ้าก็แล้วกัน” ฮูหยินใหญ่จางตอบรับกลับไปด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็เดินตามลี่หยางขึ้นไปยังห้องรับรองพิเศษด้านบนอันเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับแขกพิเศษโดยเฉพาะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 5 แผนการแบ่งแยกทรัพย์สิน

    จื่อเหยามองหน้าสองแม่ลูกรวมทั้งนายท่านจางด้วยท่าทางสะใจไม่น้อย ก่อนหน้านี้นางและแม่ของนางไม่เคยคิดใช้อำนาจของท่านตานางมาก่อน จื่อเหยาคนเดิมก็ไม่มีความคิดในเรื่องล้างแค้นเอาคืนเช่นนี้เลยด้วยซ้ำไป พอเกิดเรื่องนางก็มักจะระเบิดอารมณ์ลงไปในตอนนั้นเลย จนทำให้นางกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาผู้อื่น ส่วนคนผิดจริงอย่างรั่วเหรินและฮูหยินรองก็ทำตัวเป็นเหยื่อดูน่าสงสารเห็นใจแทน ‘ในส่วนของจื่อเหยาคนเดิมนั้นมีเพียงแต่ใช้อารมณ์กับกำลังเข้าปะทะจนทำให้ตัวเองถูกใส่ร้ายกล่าวหามองดูเป็นคนไม่ดีคิดเรื่องที่ชาญฉลาดมีเหตุมีผลไม่ได้ ส่วนมารดานางนั้นคิดเพียงต้องการรักษาความสัมพันธ์ของครอบครัวเอาไว้ก็เพื่อบุตรีของนางเองจึงไม่ยอมใช้ไม้แข็งหรือต่อต้านอันใดมากนัก มาบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกนางจะลุกขึ้นมาจัดการกับสองแม่ลูกและบิดาที่ไม่เป็นธรรมเสียที’ จื่อเหยาคิดเอาคืนทุกอย่างแทนสาวน้อยร่างท้วมที่ตายไปอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งเพื่อฮูหยินใหญ่จางซึ่งเป็นมารดาของนางนับจากนี้ไปด้วย “เอาเถอะเหรินเอ๋อจิงหยู&nb

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 4 ถึงเวลาเอาคืน

    จื่อเหยากับมารดานางนั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จื่อเหยาจะวกกลับเข้ามาในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบิดานาง “ท่านแม่ ข้าว่าพวกเรารั้งอยู่ในเรือนสกุลจางนี้ต่อไปคงไม่เหมาะ คงต้องคิดหาทางขยับขยายแยกตัวออกมาเสียล่วงหน้านะเจ้าคะ” จื่อเหยาเอ่ยตามหลักความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าชีวิตคู่ระหว่างบิดามารดานางไม่ราบรื่นนับตั้งแต่มีสองแม่ลูกตัวร้ายเข้ามาแทรก หากรั้งอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด “เหยาเอ๋อ แม่ไม่นึกเลยนะว่าลูกจะคิดใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ย คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินบุตรสาวที่ไม่ค่อยจะใส่ใจเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ของคนในครอบครัวลึกซึ้งนักเอ่ยเป็นนัยออกมาเช่นนี้ จื่อเหยาชะงักไปเล็กน้อย ในเมื่อนางเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าจื่อเหยาคนเดิมไม่มีทางสนใจหรือเอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แน่ “หลังลูกผ

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 3 ยอมรับสภาพความเป็นจริง

    ฮูหยินใหญ่จางไม่สามารถโต้แย้งใดๆกลับไปได้อีก เมื่อรู้ดีว่านางไม่มีทั้งหลักฐานและพยาน ทำได้เพียงรอให้จื่อเหยาฟื้นขึ้นมารวมทั้งนำกำไลหยกเลือดนกอันล้ำค่าคืนกลับมาเท่านั้น “ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูดื่มยาลงไปแล้ว เช่นนี้คงไม่เป็นไรแล้วกระมังเจ้าคะ” ซูเจียวเอ่ยกับฮูหยินใหญ่จางขณะนั่งเฝ้าจื่อเหยาที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ด้วยกัน “ใช่ เหยาเอ๋อต้องไม่เป็นไร ลูกข้าต้องฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้แหละ” ฮูหยินใหญ่ทั้งเอ่ยปลอบและให้กำลังใจตนเอง ก่อนจะนั่งเฝ้าจื่อเหยาต่อจนร่างกายเหนื่อยล้าเผลอฟุบหลับไปทั้งนายและบ่าว ขณะเดียวกันจื่อเหยาที่หมดสติไปนานหลายชั่วยาม ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว ‘โอย ปวดหัวปวดตัวไปหมดเลย’ จื่อเหยาโอดครวญในใจ ร่างกายรู้สึกหนักอึ้ง ก่อนที่นางจะพยายามลืมตาขึ้นมาช้าๆ ‘นี่ ที่ไหนกัน เราถูกรถชนไม่ใช่เหรอ’ จื่อเหยากวาดตามองไปโดยรอบซึ่งเป็นสถานที่ไม่คุ้นตา อีกทั้งยังดูแปลกแตกต่างออกไปจากที่ซึ่งเธอเคยอยู่มาก สิ่งสำคัญคือจากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้น หากเธอไม่ตายก็ควรจะฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ‘ทำไมที่นี่

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 2 ความอยุติธรรมในเรือนสกุลจาง

    จื่อเหยานอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียงขนาดใหญ่พิเศษในห้องนอนของนาง โดยมีฮูหยินใหญ่จาง นายท่านจางหรือจางตงจื่อบิดานาง รวมทั้งรั่วเหรินและฮูหยินรองนามเสิ่นจิงหยูมารดารั่วเหรินคอยเฝ้ารอฟังผลการตรวจของหมอที่เรียกมารักษาอาการของจื่อเหยา “ท่านหมอบุตรสาวของข้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยถามท่านหมอที่ตรวจอาการจื่อเหยาเสร็จก็หันกลับมาด้วยสีหน้าท่าทางไม่สู้ดีนัก “คุณหนูใหญ่จางอยู่ในสภาพร่างที่แทบจะสิ้นลมหายใจไปแล้ว ยามนี้ทำได้เพียงรอให้สวรรค์เมตตาแล้วล่ะ” ท่านหมอเอ่ยพร้อมส่ายศีรษะน้อยๆ “หมายความว่าอย่างไรกันเจ้าคะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ “ด้วยน้ำหนักและขนาดตัวของนางล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง แม้นภายนอกดูเหมือนบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ความจริงภายในได้รับผลกระทบเสียหายอีกทั้งศีรษะยังแตกด้วย ข้าคาดว่า..” ท่านหมอเอ่ยค้างเอาไว้ พร้อมทำสีหน้าท่าทางหนักใจ “คาดว่าอันใดกันเจ้าคะ” “เอาเป็นว่าข้าได้ทำแผลให้แล้ว และจะให้ยาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต รักษาอาการบาดเจ็บภายในให้นางดื่ม หากนางผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้ก็ถือว่านางรอดพ้

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 1 วันเกิดกลายเป็นวันเศร้า

    ในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย จางจื่อเหยาหรือคุณหนูจางแห่งตระกูลเศรษฐีใหญ่อันดับต้นๆของเมืองกำลังเต้นไปมาอย่างสนุกสนานในคลับหรูใจกลางเมือง เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 25 ปีของเธอ หลังจากฉลองกับครอบครัวเสร็จเธอก็นัดหมายร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดกับเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายที่ตั้งใจมาอวยพรและร่วมสนุกสนานครื้นเครงด้วยกันอย่างพร้อมหน้า “เหยาเหยา วันนี้ไม่เมาไม่กลับนะ” เฉินลี่หลินเพื่อสนิทของจื่อเหยาเอ่ยบอกกับเพื่อนสาว ขณะถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือพร้อมกับเต้นไปมาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้คนมากมายในคลับ “ได้เลย วันนี้เป็นวันเกิดของฉันเราต้องฉลองกันให้เต็มที่” จื่อเหยาตอบรับพร้อมกระดกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาดื่มดับกระหาย จากนั้นก็เต้นไปมาอย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง เข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าใกล้จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเวลาของวันใหม่แล้ว ทันใดนั้นโทรศัพท์ที่เสียบอยู่ในกระเป๋ากางเกงหนังเข้ารูปของจื่อเหยาก็สั่นสะท้านขึ้นมาถี่ๆ “หลินหลิน สงสัยพี่ลี่จิ่นโทรมาตามฉันกลับบ้านแล้วแน่เลย” จื่อเหยาหันไปเอ่ยข้าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status