Share

ตอนที่ 4 ถึงเวลาเอาคืน

Penulis: ลัยลา
last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-04 16:15:55

จื่อเหยากับมารดานางนั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จื่อเหยาจะวกกลับเข้ามาในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบิดานาง

            “ท่านแม่ ข้าว่าพวกเรารั้งอยู่ในเรือนสกุลจางนี้ต่อไปคงไม่เหมาะ คงต้องคิดหาทางขยับขยายแยกตัวออกมาเสียล่วงหน้านะเจ้าคะ” จื่อเหยาเอ่ยตามหลักความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าชีวิตคู่ระหว่างบิดามารดานางไม่ราบรื่นนับตั้งแต่มีสองแม่ลูกตัวร้ายเข้ามาแทรก หากรั้งอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด

            “เหยาเอ๋อ แม่ไม่นึกเลยนะว่าลูกจะคิดใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ย คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินบุตรสาวที่ไม่ค่อยจะใส่ใจเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ของคนในครอบครัวลึกซึ้งนักเอ่ยเป็นนัยออกมาเช่นนี้ จื่อเหยาชะงักไปเล็กน้อย ในเมื่อนางเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าจื่อเหยาคนเดิมไม่มีทางสนใจหรือเอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แน่

            “หลังลูกผ่านพ้นจากความเป็นความตาย จึงย้อนกลับมาคิดทบทวนในเรื่องต่างๆได้หลายเรื่องเลยเจ้าค่ะ ความสัมพันธ์ในครอบครัวเราก็เป็นหนึ่งในนั้น” จื่อเหยาเอ่ยแก้ตัวออกไป

            “อืม ดีแล้วแม่ดีใจเหลือเกินที่ลูกเติบโตขึ้น ความจริงแม่เองก็คิดเรื่องนี้มานาน เพียงแต่ก่อนหน้านี้เห็นแก่ลูกจึงไม่ได้คิดที่จะตัดความสัมพันธ์แยกย้ายกับพ่อของเจ้าให้เด็ดขาด แต่มาตอนนี้เกิดเรื่องที่ทำให้แม่เกือบต้องสูญเสียเจ้าไปโดยที่พ่อของเจ้าไม่คิดเข้าข้างหรือทบทวนถึงสิ่งที่สองแม่ลูกนั่นกระทำกับเจ้าเลยแม้นแต่น้อย แม่เองก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงให้แม่นมหยางของเจ้าเดินทางไปเมืองหลวงบอกกล่าวท่านตาเรื่องความตั้งใจของแม่ที่จะหย่าขาดแยกทางกับพ่อเจ้าเพื่อขอความเห็นชอบแล้วล่ะ” ฮูหยินใหญ่จางส่งแม่นมหยาง หยางจิ้งถงคนสนิทเดินทางไปยังเมืองหลวงเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยอ้างว่านางขอลากลับบ้านเกิดแต่ความจริงตั้งใจไปทำธุระสำคัญให้ฮูหยินของนางต่างหากล่ะ

            “ท่านแม่..ท่านตัดสินใจถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ ข้าเห็นด้วยพร้อมส่งเสริมท่านให้หย่ากับท่านพ่อ ตัดขาดจากสกุลจางไปซะ แต่สิ่งสำคัญคือ..เราต้องเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของเรากลับคืนมา อย่าได้ยอมเสียเปรียบสองแม่ลูกนั่นหรือแม้นแต่ท่านพ่อเองเป็นอันขาดนะเจ้าคะ”

            “เยี่ยมไปเลยเหยาเอ๋อ แม่รับรองว่าจะไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใดแน่ การตัดสินใจนี้ไม่รีบร้อน แม่ต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะไม่เสียเปรียบใครอีก” ฮูหยินใหญ่จางยืนยันพร้อมยื่นมือไปลูบศีรษะบุตรสาวแผ่วเบา จากนั้นสองแม่ลูกก็ยิ้มให้กันอย่างสบายใจผ่อนคลายมากขึ้น

            “ไงจื่อเหยาเจ้าอาการดีขึ้นมากแล้วสินะ” นายท่านจางเอ่ยถามบุตรสาวที่ต้องพักรักษาตัวในห้องนานนับเดือน จนในที่สุดก็ออกมารับประทานอาหารร่วมกันกับคนอื่นๆได้ตามปกติ

            “ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ แต่ยังเจ็บในใจอยู่ไม่น้อย” จื่อเหยาตอบกลับไป

            “เหตุใดกัน เรียกหมอจิ่นมาตรวจดูหรือยัง” นายท่านจางเอ่ยถาม

            “เรื่องนี้หมอจิ่นคงช่วยอันใดไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”

            “ทำไมเล่า”

            “เพราะความเจ็บใจนี้เกิดจากการที่ข้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านพ่อเองก็ไม่แม้นแต่ถามด้วยซ้ำไปว่าเกิดเหตุกับข้าได้อย่างไร ทั้งที่รู้ว่าข้าฟื้นคืนสติมาได้นานแล้วแท้ๆ” จื่อเหยากล่าวขึ้นมาทำเอานายท่านจางหน้าเจื่อนไป ส่วนรั่วเหรินกับฮูหยินรองก็หน้าตาเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที

            “พี่จื่อเหยาท่านเอ่ยอะไรกัน ตอนนี้ตัวท่านเองก็สบายดีแล้วจะพูดเรื่องโชคร้ายขึ้นมาอีกเพื่ออะไรเจ้าคะ รีบทานข้าวเถอะเจ้าค่ะ นี่ขาหมูตุ๋นซีอิ๊วของโปรดท่านอย่างไรเล่าเจ้าคะ” รั่วเหรินเอ่ยขัด ทำทีเป็นใจดีคีบขาหมูตุ๋นใส่ชามให้จื่อเหยา

            “นั่นสิจื่อเหยารีบทานอาหารเถอะกำลังร้อนๆเลย นี่ผัดหมูสามชั้นใส่ขิงของโปรดเจ้าเหมือนกัน รีบกินเสียสิ” ฮูหยินรองจางก็เอ่ยสนับสนุนบุตรสาวขึ้นอีกคน พร้อมคีบหมูสามชั้นชิ้นโตใส่ลงไปในชามจื่อเหยาอีกหลายชิ้น

            “ฮึ ทำไม? กลัวอะไรกันงั้นเหรอเจ้าคะ รึว่าร้อนตัวเรื่องที่ความจริงแล้วข้าไม่ได้ลื่นล้มลงไปเอง แต่เป็นรั่วเหรินต่างหากที่จงใจผลักข้าให้ล้มลงไปเช่นนั้น”

            “พี่จื่อเหยา ท่านพูดไร้สาระอะไรน่ะ ไม่จริงเลยสักนิด” รั่วเหรินรีบปฏิเสธทันที

            “นั่นสิจื่อเหยาเจ้าใส่ร้ายเหรินเอ๋อทำไมกัน” ฮูหยินรองโต้ตอบกลับไป

            “ท่านพ่อ หากท่านไม่เชื่อข้า..ตัวข้าเองก็ไม่อาจทำอะไรได้ แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่าข้าไม่ได้โกหก รั่วเหรินให้คนไปหลอกซูเจียวว่าข้าอยากกินขนมกุ้ยฮวา จากนั้นก็ให้ไห่ถังสาวใช้คนสนิทเข้าไปขโมยกำไลหยกเลือดนกของข้าในห้องนอน ที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย หลายครั้งที่นางทำตัวอุกอาจเป็นขโมยเช่นนี้ แต่ข้าก็แสร้งหลับตาข้างหนึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะคิดว่ายังไงเสียนางก็เป็นน้อง แต่กำไลหยกเลือดนกเป็นของเก่าแก่ที่ท่านตาส่งมอบมาให้ข้า ข้ายอมให้ผู้ใดเอาไปไม่ได้จริงๆ พอข้าไปทวงมันกลับคืนมารั่วเหรินก็ไม่พอใจหันกลับมาทำร้ายข้า หากท่านเป็นบิดาที่มีความเป็นธรรมหลงเหลืออยู่บ้างก็คงไม่เข้าข้างคนผิดอีกหรอกนะเจ้าคะ” จื่อเหยาร่ายยาว จนนายท่านจางถึงกับพูดไม่ออก

ทุกคนต่างตกตะลึงในท่าทีที่แปลกออกไปของจื่อเหยาซึ่งดูสงบนิ่งขึ้นทั้งยังพูดจามีเหตุมีผลดูเฉลียวฉลาด ทำให้ฮูหยินใหญ่จางวางใจในตัวนางมากขึ้นด้วย

            “เหรินเอ๋อเป็นเช่นนั้นจริงงั้นหรือ” นายท่านจางหันไปถามบุตรสาวคนรองซึ่งตั้งตัวไม่ติด ทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจื่อเหยาจะโต้ตอบกลับมาเช่นนี้ ทั้งที่โดยปกตินางมักจะอาละวาด เกรี้ยวกราดจนทำให้ท่านพ่อไม่พอใจเสียมากกว่า

            “เหรินเอ๋อ พ่อถามว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆใช่ไหม” นายท่านจางเอ่ยคาดคั้นอีกรอบ

            “ทะ..ท่านพ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจนะเจ้าคะ ข้าเพียงแค่หยิบยืมกำไลข้อมือหยกนั่นมาใส่เล่นเท่านั้น แต่พี่จื่อเหยาโมโหเข้ามายื้อแย่ง สุดท้ายยื้อกันไปมาพี่จื่อเหยาก็พลาดล้มลงไปเองเจ้าค่ะ” รั่วเหรินไม่ยอมรับความผิด

            “เด็กๆแค่ล้อเล่นกันเท่านั้น เกิดเรื่องไม่คาดฝันบ้างก็เป็นธรรมดานะเจ้าคะ” ฮูหยินรองรีบกล่าวช่วยเหลือบุตรสาวทันที

            “เล่นกันงั้นเหรอ เล่นจนเหยาเอ๋อเกือบตายเนี่ยนะ” ฮูหยินใหญ่สวนกลับไป

            “นั่นสิฮูหยินรอง หากการที่ข้าเกือบตายเป็นการล้อเล่น เช่นนั้นนับจากนี้ไปข้าก็จะล้อ..เล่นกับรั่วเหรินให้นางเกือบตายบ้างดีไหมล่ะ” จื่อเหยาโต้กลับไปอีกคน สองแม่ลูกหน้าซีดขึ้นมาทันที

            “ทะ..ท่านพี่..” ฮูหยินรองจางหันไปหาตัวช่วย

            “เอาล่ะ พอทีเถอะเรื่องก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้จื่อเหยาก็สบายดีแล้ว ให้ทุกอย่างมันยุติอยู่เพียงแค่นี้แหละ” นายท่านจางเอ่ยด้วยความลำเอียงและเพื่อตัดรำคาญอีกครั้ง

            “ฮึ ข้าก็คิดอยู่แล้วเชียว ว่าคงไม่ได้รับความเป็นธรรมใดแน่” จื่อเหยาเอ่ย นายท่านจางชะงักไป

            “เหรินเอ๋อก็บอกแล้วนี่ว่าพวกเจ้ายื้อแย่งกันไปมาสุดท้ายเจ้าจึงล้มลงไปเอง” นายท่านจางตอบกลับบุตรสาว

            “ท่านพ่อ ท่านยังคงฟังเพียงคำพูดฝ่ายเดียวของรั่วเหรินอยู่ดีสินะเจ้าคะ ฮึ..เอาเถอะ แต่ถึงอย่างไรเรื่องที่รั่วเหรินหยิบของของข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็เรียกว่าเป็นขโมย เป็นผู้กระทำผิดอยู่ดีเรื่องนี้ท่านไม่คิดว่าควรจะเอ่ยอะไรบ้างงั้นหรือเจ้าคะ หากเรื่องแย่ๆที่ข้าถูกกระทำทราบไปถึงหูท่านตารับรองว่ารั่วเหรินบุตรสาวแสนรักของท่านคงไม่ได้อยู่ดีแน่” จื่อเหยาฉลาดเอ่ยอ้างถึงท่านตานางซึ่งเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง แม้นจะอยู่ห่างไกลออกไปยังเมืองหลวงแต่นายท่านจางก็ยังคงเคารพยำเกรงอยู่มาก

            “นั่นย่อมเป็นความผิดจริงๆ เหรินเอ๋อต่อไปอย่าได้ไปแตะต้องสิ่งของของจื่อเหยาอีกเข้าใจไหม” นายท่านจางหันไปเอ่ยกับบุตรสาวคนรองอย่างเสียมิได้ รั่วเหรินทำท่าขัดใจครู่หนึ่ง แต่ฮูหยินรองแม่ของนางดึงรั้งแขนนางเอาไว้ ทำสัญญาณให้นางเออออไปกับบิดา

            “เจ้าค่ะท่านพ่อ”

            “เท่านี้เองหรือเจ้าคะ หากท่านตาทราบนางคงได้เข้าไปอยู่ในคุกจริงๆแล้วล่ะ” จื่อเหยาเอ่ยย้ำน้ำเสียงสีหน้าจริงจัง

            “เหรินเอ๋อ รีบขอโทษพี่สาวเจ้าเสียสิ” นายท่านจางกล่าว

            “ฮึ ขอโทษ!!!” รั่วเหรินเอ่ยขอโทษอย่างไม่เต็มใจนัก

            “แค่ขอโทษไม่พอหรอกนะ”

            “แล้วเจ้าจะเอาอะไรอีก” รั่วเหรินเริ่มเก็บอาการไม่อยู่

            “ข้าจดรายการข้าวของที่เจ้าขโมยไปก่อนหน้านี้เอาไว้หมดแล้ว หากเจ้าไม่อยากติดคุก ก็นำของทุกอย่างคืนกลับมาให้ข้าเสีย ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ นับจากนี้ไปหากตัวเจ้าและแม่ของเจ้าหยิบฉวยสิ่งใดไปจากข้ากับท่านแม่อีกก็เตรียมตัวเข้าคุกกันได้เลย ท่านพ่อ..หวังว่าท่านจะให้ความเป็นธรรมกับพวกข้าในเรื่องนี้ด้วยนะเจ้าคะ” จื่อเหยาพูดจาเด็ดขาดจริงจัง จนนายท่านจางและสองแม่ลูกตัวร้ายอึ้งไปเลย ขณะเดียวกันฮูหยินใหญ่จางกับซูเจียวต่างก็พากันยิ้มพอใจกับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีของจื่อเหยาในครั้งนี้

            “ทะ ท่านนพ่อ..” รั่วเหรินโอดครวญเนื่องจากของบางชิ้นนางได้นำไปมอบเป็นของกำนัลให้ผู้อื่นหรือไม่ก็นำออกไปขายแล้ว

            “หากเจ้าไม่มีปัญญาเอากลับคืนมาให้ข้าในสภาพเดิมก็จงชดใช้มาเป็นจำนวนเงิน นับแล้วทั้งหมดก็ราว 1,000 ตำลึงทอง” จื่อเหยาคิดคำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้ว ทำให้ทุกคนต่างพากันตกตะลึงไปอีกรอบกลับความละเอียดรอบคอบของนาง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 5 แผนการแบ่งแยกทรัพย์สิน

    จื่อเหยามองหน้าสองแม่ลูกรวมทั้งนายท่านจางด้วยท่าทางสะใจไม่น้อย ก่อนหน้านี้นางและแม่ของนางไม่เคยคิดใช้อำนาจของท่านตานางมาก่อน จื่อเหยาคนเดิมก็ไม่มีความคิดในเรื่องล้างแค้นเอาคืนเช่นนี้เลยด้วยซ้ำไป พอเกิดเรื่องนางก็มักจะระเบิดอารมณ์ลงไปในตอนนั้นเลย จนทำให้นางกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาผู้อื่น ส่วนคนผิดจริงอย่างรั่วเหรินและฮูหยินรองก็ทำตัวเป็นเหยื่อดูน่าสงสารเห็นใจแทน ‘ในส่วนของจื่อเหยาคนเดิมนั้นมีเพียงแต่ใช้อารมณ์กับกำลังเข้าปะทะจนทำให้ตัวเองถูกใส่ร้ายกล่าวหามองดูเป็นคนไม่ดีคิดเรื่องที่ชาญฉลาดมีเหตุมีผลไม่ได้ ส่วนมารดานางนั้นคิดเพียงต้องการรักษาความสัมพันธ์ของครอบครัวเอาไว้ก็เพื่อบุตรีของนางเองจึงไม่ยอมใช้ไม้แข็งหรือต่อต้านอันใดมากนัก มาบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกนางจะลุกขึ้นมาจัดการกับสองแม่ลูกและบิดาที่ไม่เป็นธรรมเสียที’ จื่อเหยาคิดเอาคืนทุกอย่างแทนสาวน้อยร่างท้วมที่ตายไปอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งเพื่อฮูหยินใหญ่จางซึ่งเป็นมารดาของนางนับจากนี้ไปด้วย “เอาเถอะเหรินเอ๋อจิงหยู&nb

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 4 ถึงเวลาเอาคืน

    จื่อเหยากับมารดานางนั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จื่อเหยาจะวกกลับเข้ามาในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบิดานาง “ท่านแม่ ข้าว่าพวกเรารั้งอยู่ในเรือนสกุลจางนี้ต่อไปคงไม่เหมาะ คงต้องคิดหาทางขยับขยายแยกตัวออกมาเสียล่วงหน้านะเจ้าคะ” จื่อเหยาเอ่ยตามหลักความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าชีวิตคู่ระหว่างบิดามารดานางไม่ราบรื่นนับตั้งแต่มีสองแม่ลูกตัวร้ายเข้ามาแทรก หากรั้งอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด “เหยาเอ๋อ แม่ไม่นึกเลยนะว่าลูกจะคิดใส่ใจในเรื่องนี้ด้วย” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ย คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินบุตรสาวที่ไม่ค่อยจะใส่ใจเรื่องราวความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ของคนในครอบครัวลึกซึ้งนักเอ่ยเป็นนัยออกมาเช่นนี้ จื่อเหยาชะงักไปเล็กน้อย ในเมื่อนางเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าจื่อเหยาคนเดิมไม่มีทางสนใจหรือเอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แน่ “หลังลูกผ

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 3 ยอมรับสภาพความเป็นจริง

    ฮูหยินใหญ่จางไม่สามารถโต้แย้งใดๆกลับไปได้อีก เมื่อรู้ดีว่านางไม่มีทั้งหลักฐานและพยาน ทำได้เพียงรอให้จื่อเหยาฟื้นขึ้นมารวมทั้งนำกำไลหยกเลือดนกอันล้ำค่าคืนกลับมาเท่านั้น “ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูดื่มยาลงไปแล้ว เช่นนี้คงไม่เป็นไรแล้วกระมังเจ้าคะ” ซูเจียวเอ่ยกับฮูหยินใหญ่จางขณะนั่งเฝ้าจื่อเหยาที่ยังคงไม่ได้สติอยู่ด้วยกัน “ใช่ เหยาเอ๋อต้องไม่เป็นไร ลูกข้าต้องฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้แหละ” ฮูหยินใหญ่ทั้งเอ่ยปลอบและให้กำลังใจตนเอง ก่อนจะนั่งเฝ้าจื่อเหยาต่อจนร่างกายเหนื่อยล้าเผลอฟุบหลับไปทั้งนายและบ่าว ขณะเดียวกันจื่อเหยาที่หมดสติไปนานหลายชั่วยาม ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว ‘โอย ปวดหัวปวดตัวไปหมดเลย’ จื่อเหยาโอดครวญในใจ ร่างกายรู้สึกหนักอึ้ง ก่อนที่นางจะพยายามลืมตาขึ้นมาช้าๆ ‘นี่ ที่ไหนกัน เราถูกรถชนไม่ใช่เหรอ’ จื่อเหยากวาดตามองไปโดยรอบซึ่งเป็นสถานที่ไม่คุ้นตา อีกทั้งยังดูแปลกแตกต่างออกไปจากที่ซึ่งเธอเคยอยู่มาก สิ่งสำคัญคือจากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้น หากเธอไม่ตายก็ควรจะฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ‘ทำไมที่นี่

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 2 ความอยุติธรรมในเรือนสกุลจาง

    จื่อเหยานอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนเตียงขนาดใหญ่พิเศษในห้องนอนของนาง โดยมีฮูหยินใหญ่จาง นายท่านจางหรือจางตงจื่อบิดานาง รวมทั้งรั่วเหรินและฮูหยินรองนามเสิ่นจิงหยูมารดารั่วเหรินคอยเฝ้ารอฟังผลการตรวจของหมอที่เรียกมารักษาอาการของจื่อเหยา “ท่านหมอบุตรสาวของข้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยถามท่านหมอที่ตรวจอาการจื่อเหยาเสร็จก็หันกลับมาด้วยสีหน้าท่าทางไม่สู้ดีนัก “คุณหนูใหญ่จางอยู่ในสภาพร่างที่แทบจะสิ้นลมหายใจไปแล้ว ยามนี้ทำได้เพียงรอให้สวรรค์เมตตาแล้วล่ะ” ท่านหมอเอ่ยพร้อมส่ายศีรษะน้อยๆ “หมายความว่าอย่างไรกันเจ้าคะ” ฮูหยินใหญ่จางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ “ด้วยน้ำหนักและขนาดตัวของนางล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง แม้นภายนอกดูเหมือนบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ความจริงภายในได้รับผลกระทบเสียหายอีกทั้งศีรษะยังแตกด้วย ข้าคาดว่า..” ท่านหมอเอ่ยค้างเอาไว้ พร้อมทำสีหน้าท่าทางหนักใจ “คาดว่าอันใดกันเจ้าคะ” “เอาเป็นว่าข้าได้ทำแผลให้แล้ว และจะให้ยาช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต รักษาอาการบาดเจ็บภายในให้นางดื่ม หากนางผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้ก็ถือว่านางรอดพ้

  • เกิดใหม่เป็นสาวท้วมพร้อมมิติพิเศษ   ตอนที่ 1 วันเกิดกลายเป็นวันเศร้า

    ในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ผู้คนพลุกพล่านวุ่นวาย จางจื่อเหยาหรือคุณหนูจางแห่งตระกูลเศรษฐีใหญ่อันดับต้นๆของเมืองกำลังเต้นไปมาอย่างสนุกสนานในคลับหรูใจกลางเมือง เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 25 ปีของเธอ หลังจากฉลองกับครอบครัวเสร็จเธอก็นัดหมายร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดกับเหล่าบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายที่ตั้งใจมาอวยพรและร่วมสนุกสนานครื้นเครงด้วยกันอย่างพร้อมหน้า “เหยาเหยา วันนี้ไม่เมาไม่กลับนะ” เฉินลี่หลินเพื่อสนิทของจื่อเหยาเอ่ยบอกกับเพื่อนสาว ขณะถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือพร้อมกับเต้นไปมาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้คนมากมายในคลับ “ได้เลย วันนี้เป็นวันเกิดของฉันเราต้องฉลองกันให้เต็มที่” จื่อเหยาตอบรับพร้อมกระดกเครื่องดื่มในมือขึ้นมาดื่มดับกระหาย จากนั้นก็เต้นไปมาอย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง เข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าใกล้จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเวลาของวันใหม่แล้ว ทันใดนั้นโทรศัพท์ที่เสียบอยู่ในกระเป๋ากางเกงหนังเข้ารูปของจื่อเหยาก็สั่นสะท้านขึ้นมาถี่ๆ “หลินหลิน สงสัยพี่ลี่จิ่นโทรมาตามฉันกลับบ้านแล้วแน่เลย” จื่อเหยาหันไปเอ่ยข้าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status