LOGIN
“อ๊ากกกกก!” เมฆินทร์เซถลาราวกับถูกผลักจนร่างกายเกือบทรุดลงไป แต่สองมือยังกำแน่นที่ขอบของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ความรู้สึกที่เขาได้รับรู้แล่นพล่านไปทั่วร่างกายราวกับของจริง... ความปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ความทรมานที่หัวใจ... และความสิ้นหวังที่กัดกินจิตใจ... เขารับรู้ถึงมันทั้งหมด
‘ถ้าสิ่งที่รับรู้ มันคือความจริง.. มันน่าสมเพชเกินไป! ยอมตายเพราะผู้ชายคนเดียวน่ะเหรอ? ช่างเป็นวิธีจบชีวิตที่ไร้ค่าสิ้นดี!’
ส่วนลึกในจิตใจของที่กำลังสับสนว่าตัวตนของเขาหรือความทรงจำที่ฉายชัด มันคืออะไรกันแน่ เมฆินทร์ที่มุ่งมั่นและทะเยอทะยานมาตลอดชีวิต จะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด แต่ทำไมความเจ็บปวดหรือทุกอย่างที่รู้สึกได้.. ราวกับมันคือตัวเขาเองที่เป็นผู้กระทำและทรมานกับมันแบบแสนสาหัส ดวงตาเวลานี้รื้นไปด้วยน้ำตา สมองของเขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด
เขาคือเมฆินทร์ที่ก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุรถชน ร่างกายของเขาเหมือนกับจะแหลกสลายในครานั้น ก่อนจะไม่รับรู้อะไร สติอันเลือนรางอ้อนวอนต่อใครก็ตามที่เขานึกได้ให้เขารอด
‘หรือว่า.. พรข้อนั้นที่เขาขอ มันเป็นจริง?’
ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือการที่เขาได้มีชีวิตใหม่... ที่หมายถึงไม่ใช่การมีชีวิตในตัวตนเมฆินทร์ของเขาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? เรื่องน่าเหลือเชื่อแบบนี้ เรื่องที่คิดว่ามีแต่ในโลกนิยายหรือการจินตนาการเท่านั้น... กำลังเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ ใช่ไหม?
เขามาอยู่ในร่างของลมหนาว เจ้าของภาพความทรงจำเมื่อครู่ คนที่เพิ่งละทิ้งชีวิตของตัวเองไปจากการผิดหวังในเรื่องของความรัก
‘นี่มัน...เกิดขึ้นจริง ๆ ใช่ไหม ไม่อยากจะเชื่อเลย!!’
เสียงหอบหายใจหนัก ๆ ของเมฆินทร์ดังสะท้อนก้องทำลายความเงียบของห้องน้ำ ผนังหินอ่อนที่เคยดูสวยงามบัดนี้กลับให้ความรู้สึกเย็นเยียบและกดดันราวกับผนังหินหลุมศพในสุสาน
เขายันตัวลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แข้งขาสั่นเทาจนแทบจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหว ดวงตาสีเทาเข้มจ้องมองภาพสะท้อนในกระจกอีกครั้ง... ภาพของชายหนุ่มผมสีบลอนด์ประกายเบจที่มีใบหน้าเหมือนกับเขาทุกประการ อย่างกับคลอดออกมาจากท้องแม่เดียวกัน เวลาเดียวกัน เพียงแต่เขามั่นใจว่านี่ไม่ใช่ตัวเขาอย่างแน่นอนแล้วในเวลานี้ ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวถาโถมเข้าใส่จนสติของเขาแทบแหลกสลาย
‘นี่เราตายไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?’
คำถามที่ต่อให้ถามย้ำอีกครั้งก็ไม่มีใครมาตอบหรือยืนยันเขาได้ในเวลานี้ แต่พอนึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เขาเผชิญมา ก็ยิ่งแน่ใจแล้วว่า วิญญาณของเขาอาจจะถูกนำพาให้กลับมามีชีวิตในร่างของ 'ลมหนาว' ผู้ซึ่งยอมแพ้ต่อโชคชะตาและเลือกจบชีวิตตัวเอง
“ลมหนาว! มึงเป็นอะไรวะ” สายหมอกที่นั่งรออยู่เอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนตะโกนลั่นห้องน้ำ เขาตัดสินใจกระชากบานประตูให้เปิดออกอย่างแรงด้วยความเป็นห่วง และพบกับร่างของลมหนาวที่ตอนนี้นั่งกองอยู่กับพื้น ดวงตาสีเทาเข้มเบิกกว้างเนื้อตัวสั่น ใบหน้าซีดเผือกราวกับเจอเรื่องช็อกหรือเห็นผี แววตาเหมือนคนที่กำลังตื่นตระหนก สายหมอกมือเอื้อมไปจับไหล่ทั้งสองข้างของเพื่อนสนิทแล้วเขย่าตัวเพื่อเรียกสติ ก่อนจะพยายามพยุงร่างกายที่ดูน่าสงสารนี้ให้ลุกขึ้นและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
“มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ย เดี๋ยวกูเรียกหมอให้”
“ม... ไม่เป็นไร” เมฆินทร์หายใจเฮือก และสติของเขาเริ่มกลับมา พยายามเปล่งเสียงตอบกลับไป มือทั้งสองจับเข้าที่แขนของสายหมอกแน่น มันเป็นความรู้สึกที่ปนเปไปหมด ทั้งยากที่จะยอมรับ ทั้งยากที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขามีทางเลือกอะไรในตอนนี้ล่ะ? ถามหาพระเจ้า ปลุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกรอบให้มาตอบคำถามมากมายเพื่อบอกให้เขาเข้าใจ หรือช่วยบอกทีว่านี่เขากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ ต้องตายอีกรอบไหมถึงจะกระจ่างชัดทุกอย่าง
“ไม่เป็นไรน้อยไปน่ะสิ หน้ามึงซีดหมดแล้วเนี่ย”
“พักสักหน่อยอาจจะดีขึ้น” เมฆินทร์ตอบกลับไป เขารับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงจากคนข้างตัว เลยบอกไปแบบนั้นเพื่อให้สายหมอกสบายใจขึ้น
“โอเค ๆ งั้นมึงนอนพักซะ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องฟุ้งซ่าน เรื่องร้าย ๆ ผ่านไปหมดแล้ว มึงไม่ต้องใส่ใจสนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากตัวเอง... เข้าใจไหม?” สายหมอกพาร่างของลมหนาวไปนอนพักที่เตียงได้สำเร็จ จัดการห่มผ้าและจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อย
“ขอบคุณนะครับ” เมฆินทร์พูดออกไป เพราะในใจของเขานึกขอบคุณที่อีกคนดูแลเขาดีขนาดนี้ จากส่วนหนึ่งที่เข้าใจว่ามันคือความทรงจำของลมหนาวคนเดิมที่ไหลเข้ามาเมื่อครู่ พอจะยืนยันสถานะของคนตรงหน้าแล้วว่าเป็นเพื่อนสนิทเพื่อนรักของลมหนาวจริง ๆ
“กูว่าเดี๋ยวไปซื้อเค้กให้มึงกินดีกว่า อาจจะน้ำตาลตกหรือเพิ่งฟื้นแล้วอยากได้อะไรหวาน ๆ กระตุ้นร่างกายให้สดชื่น ร้านโปรดของมึงอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง เดี๋ยวมานะ” สายหมอกพูดระรัวราวกับคนลนลาน เขาคว้าเอากระเป๋าเงินที่โต๊ะกาแฟ แล้วหันมาย้ำแล้วย้ำอีกกับลมหนาวเพื่อนรักว่าอย่าลุก อย่าซนอะไรให้นอนพัก ให้หลับไปเลย เมฆินทร์พยักหน้าตอบรับหลายต่อหลายครั้งจนในที่สุดสายหมอกก็เดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
เมฆินทร์กระชับผ้าห่มขึ้นจนถึงลำคอ ตาเหม่อมองไปยังเพดานสีขาวอย่างไร้จุดหมาย ในหัวเขาวางเปล่า ล่องลอย แต่ในขณะเดียวกันก็อื้ออึงไปด้วยคำถามนับล้าน
‘เขาตายแล้ว? ...’
คงไม่ใช่ความฝันจริง ๆ ร่างกายของคนที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป มันคือปาฏิหาริย์หรือคำสาปกันแน่? เขาควรจะดีใจที่ได้รับโอกาสครั้งที่สอง หรือควรจะหวาดกลัวกับชีวิตที่ไม่ใช่ของตัวเอง? ...
‘28 กุมภาพันธ์ .. วันนี้จู่ ๆ ภาสก็มาขอเลิก เขาบอกว่าครอบครัวของเขาบังคับให้เขาไปแต่งงานกับคนระเดียวกัน คนที่เหมาะสมกับบ้านเขา.. โลกทั้งใบของฉันพังทลายลงแล้ว’ ‘2 มีนาคม .. ฉันพยายามยื้อและคุยกับเขาเพราะวันนี้เขามาเก็บเสื้อผ้าออกจากคอนโดของเรา แต่เขาไม่แม้แต่จะสบตาด้วยซ้ำ.. ทำไมถึงใจร้ายใส่กันได้ขนาดนี้’ ‘3 มีนาคม .. วันนี้ทั้งวันพยายามโทรหาเขาเพื่อที่จะขอโอกาสมาคุยกันให้รู้เรื่องแต่เขาไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย.. ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าความรักที่มีให้กันตลอดระยะเวลา 5 ปีมันจะสูญเสียไปภายในวันเดียวอย่างไม่ยุติธรรม’ ‘15 มีนาคม .. วันนี้ลองไปดักรอที่คณะ แต่เหมือนเขาจะหลบหน้าฉัน ภาสไม่ยอมแม้แต่จะติดต่อกัน เหมือนตัดขาดฉันออกไปจากชีวิตเขา.. ไหนว่าเราจะมีอนาคตร่วมกันไง? ไหนว่าจะสร้างครอบครัวที่น่ารักด้วยกัน? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!’ ‘18 มีนาคม.. ขอร้องล่ะ ฉันอยากได้แค่คำอธิบาย ความรักของเราไม่มีค่าพอให้เอาชนะทุกอุปสรรคได้จริง ๆ หรอ หรือฐานะทางสังคมสำคัญมากจริง ๆ เรา..ไม่ดีพอสำหรับเธอแล้วใช่ไหมในตอนนี้’ ‘27 มีนาคม .. เหงาจัง ที่ที่ไม่มีภาสอยู่มันไม่ม
สองวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าในห้องพักผู้ป่วยที่หรูหราแต่ไร้ชีวิตชีวา ในที่สุดเมฆินทร์ก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ร่างกายของเขาค่อนข้างอ่อนเพลียเบาโหวงอย่างไม่คุ้นชิน แต่ก็ดีขึ้นมากหลังจากได้รับวิตามินและสารอาหารอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศในรถยนต์ระหว่างเดินทางกลับบ้านนั้นแสนสงบ มีเสียงเพลงบรรเลงเปียโนเบา ๆ ชวนให้ผ่อนคลาย พราวฟ้าดูคลายความกังวลมากกว่าเมื่อหลายวันก่อนที่เข้ามาคุยกับเขา เธอขับรถด้วยท่วงท่าเรียบนิ่ง ไม่ได้ชวนคุยอะไรมากนัก คงเพราะอยากให้เขาได้พักผ่อนและชื่นชมบรรยากาศนอกโรงพยาบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งเมฆินทร์เองก็รู้สึกขอบคุณในใจสำหรับความเงียบนั้น ทำให้มีเวลาจมอยู่กับตัวเอง พิจารณาและทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างที่แทบจะตลอดเวลาตั้งแต่เขาฟื้นมาก็เอาแต่คิดวนซ้ำ ๆ ไม่เลิก ดวงตาสีเทาเข้มทอดมองออกไปนอกหน้าต่างรถ มันไม่ใช่ความตื่นตระหนกเหมือนครั้งแรกที่สัมผัสกับที่แห่งนี้ แต่เป็นการเฝ้ามองด้วยสายตาของนักสำรวจ ในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อม ทำความเข้าใจโลกใบใหม่ที่เขาถูกเหวี่ยงเข้ามา... สถาปัตยกรรมของตึกระฟ้าดูเน้นความทันสมัยและสวยงามแปลกตา ไม่มีแม้แต่เสาไฟหรื
“อะไรครับ? แต่อะไร” “ลูกใจเย็น ๆ ก่อน” พราวฟ้าเห็นท่าทางเริ่มไม่สงบของลมหนาว เธอเริ่มกังวลมากขึ้น “การรับการรักษาผ่านทางโรงพยาบาลต้องรอคิวที่นาน และทั้งพิสทิลเอง แอนไทเองก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะตกลงรักษาให้กันหรือปฏิเสธที่จะไม่รับเคสนี้ก็ได้ มันเลยทำให้การรันระบบช้ามากกว่าที่ควรจะเป็น” “เอ้า.. แล้วแบบนี้จะมาลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครเพื่อ?” เมฆินทร์ทั้งไม่เข้าใจ และงงหนักกว่าเก่า “เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายจ้ะ มันมีระบบกฎหมายเข้ามาคุ้มครองด้วยสำหรับแอนไทที่ลงทะเบียน เอาเป็นว่า… เราอย่าสนใจเลย เพราะที่แม่จะบอกคือแม่มีทางรักษาให้น้องหนาวแบบที่ไม่ต้องรอคิวอะไรทั้งนั้น อย่าที่แม่บอกไปพิษค่อนข้างรุนแรงจะมัวแต่ยืดเวลานานมากไม่ได้” พราวฟ้าพูดพลางลูบหัวลูกชายตนเบา ๆ เมื่อเห็นว่ามีการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คล้ายโล่งอก “งั้นดีเลยครับ แม่บอกวิธีมาเลย ผมจะทำตาม.. ผมไม่อยากจบชีวิตอีกรอบแล้วจริง ๆ” “ลูกยอมรับได้ใช่ไหม ถ้าลูกต้องมีอะไรกับแอนไทเพื่อการรักษาพิษ... มันอาจจะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หรือสองครั้ง” “ห้ะ!! ด…เดี๋ยวนะ มีอะไรกับแอนไทหรอครับ
หลังจากสายหมอกกลับไปแล้ว บรรยากาศในห้องก็กลับมาเงียบสงบลงอีกครั้ง พราวฟ้าเดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วยอีกครั้ง เธอจับมือของลูกชายมากุมเอาไว้แน่น แววตาเต็มไปด้วยความรัก ความเจ็บปวดและความมุ่งมั่นที่แน่วแน่กับสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกมาหลังจากนี้ และเป็นจังหวะเดียวกันที่เมฆินทร์เห็นป้ายชื่อที่ถูกปักไว้บนเสื้อกาวน์ของคนตรงหน้า ชื่อจริงเป็นชื่อพราวฟ้า ส่วนนามสกุลทำไมนามสกุลเดียวกัน มันเป็นความบังเอิญอีกอย่างที่น่าตกใจมาก บังเอิญราวกับถูกจับวาง รวมถึงการแสดงออกหรือสีหน้าท่าทางก็เหมือนแม่เนตรนภาในโลกเดิม แต่ที่สะดุดตาและชวนสงสัยมากกว่าคือแผนก เวชศาสตร์เพศรอง ชื่อแผนกแปลกจนในหัวเมฆินทร์นึกตลก หรือว่าจะเป็นพวกโอเมก้าอัลฟ่าแบบในนิยายที่เขาเคยอ่าน ‘ต้องช็อคอีกกี่เรื่อง… เพศรองมีจริงบนโลกเหรอ? โอเมก้าเวิร์สของแท้ไหมเนี่ย’ “ลมหนาว... ฟังแม่นะลูก” เสียงของพราวฟ้าจริงจังเรียกสติที่กำลังคิดนั่นคิดนี่ของเมฆินทร์ให้เข้าที่ “สิ่งที่อยู่บนหลังของลูก พิษของดอกอะโคไนต์... มันไม่ใช่สิ่งที่จะปล่อยไว้เฉย ๆ ได้ แม่ว่าลูกเข้าใจความร้ายกาจของพิษนี้ดี เพราะมันเคยกำเริบมาหลายครั้งแล้ว”
แกร๊ก.. เสียงประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นทำลายความฟุ้งซ่านของเมฆินทร์ บานประตูเปิดออกแต่เขาไม่ได้สนใจมัน เพราะคิดว่าสายหมอกอาจจะลืมของหรือไม่ก็ร้านเค้กที่ว่ามันอยู่ใกล้จริง ๆ จนใช้เวลาไม่นานก็กลับมาแล้ว เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่เขารู้สึกคุ้นเคยและจำได้ดี กลิ่นนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว รีบหันใบหน้าไปมองยังผู้มาเยือนทันที “ลูกแม่ฟื้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะคนเก่ง” อ้อมกอดที่อบอุ่นและนุ่มนวลถูกมอบให้กับเขา เมฆินทร์นิ่งค้าง ตัวแข็งทื่อไปหมด ซ้ำยังเผลอกลั้นหายใจ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาและสัมผัสที่กำลังได้รับ "แม่... ฟ้า...” เขาพูดเสียงเบาหวิวและสั่นเครือ สองแขนยกขึ้นกระชับกอดหญิงสาวที่สวมชุดกราวน์สีขาวสะอาดตาตรงหน้าแน่น แต่แล้วความปวดหน่วงที่ศีรษะก็กลับมาอีกครั้ง มันสร้างความทรมานให้กับร่างกาย เสียงรอบตัวเริ่มอื้ออึงแทบจะจับใจความไม่ได้ ‘อีกแล้ว... ความทรงจำมันไหลเข้ามาในหัวอีกแล้ว’ “หนาว ลมหนาว ลมหนาวลูก!” เสียงเอ่ยเรียกชื่อเจ้าของร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่าดึงให้เมฆินทร์กลับมาสู่ปัจจุบัน น้ำตาใสไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
“อ๊ากกกกก!” เมฆินทร์เซถลาราวกับถูกผลักจนร่างกายเกือบทรุดลงไป แต่สองมือยังกำแน่นที่ขอบของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ความรู้สึกที่เขาได้รับรู้แล่นพล่านไปทั่วร่างกายราวกับของจริง... ความปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ความทรมานที่หัวใจ... และความสิ้นหวังที่กัดกินจิตใจ... เขารับรู้ถึงมันทั้งหมด ‘ถ้าสิ่งที่รับรู้ มันคือความจริง.. มันน่าสมเพชเกินไป! ยอมตายเพราะผู้ชายคนเดียวน่ะเหรอ? ช่างเป็นวิธีจบชีวิตที่ไร้ค่าสิ้นดี!’ ส่วนลึกในจิตใจของที่กำลังสับสนว่าตัวตนของเขาหรือความทรงจำที่ฉายชัด มันคืออะไรกันแน่ เมฆินทร์ที่มุ่งมั่นและทะเยอทะยานมาตลอดชีวิต จะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด แต่ทำไมความเจ็บปวดหรือทุกอย่างที่รู้สึกได้.. ราวกับมันคือตัวเขาเองที่เป็นผู้กระทำและทรมานกับมันแบบแสนสาหัส ดวงตาเวลานี้รื้นไปด้วยน้ำตา สมองของเขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด เขาคือเมฆินทร์ที่ก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุรถชน ร่างกายของเขาเหมือนกับจะแหลกสลายในครานั้น ก่อนจะไม่รับรู้อะไร สติอันเลือนรางอ้อนวอนต่อใครก็ตามที่เขานึกได้ให้เขารอด ‘หรือว่า.. พรข้อนั้นที่เขาขอ มัน






![เกือบหอบลูกหนีเพราะสามีไม่รัก[PWP]-Omegaverse](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
