Share

ประหารคนตระกูลพาน

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-08-05 12:06:47

“ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจางเป่าขอเข้าเฝ้า”

ขันทีหนุ่มคุกเข่าต่อหน้าผู้เป็นใหญ่แห่งวังหลวงทั้งสาม ดวงตาของเขากลอกกลิ้งด้วยท่าทีประหม่า เพราะไม่รู้ว่าตนเองได้ทำสิ่งใดหรือไปล่วงเกินใครเข้าหรือไม่ ถึงได้ถูกเรียกตัวมาเช่นนี้

“จางเป่า ไหนเจ้าบอกเรามาซิว่าเจ้าเคยพบนางหรือไม่”

ขันทีจางเป่าเงยหน้าขึ้นมองสตรีชุดขาวใบหน้างดงามที่ยืนอยู่ข้างกายฮองเฮา

“กราบทูลฝ่าบาท เคยพบพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้พบนางครั้งแรกเมื่องานเฉลิมฉลองขึ้นครองราชย์ของพระองค์ นางคือสตรีที่ขึ้นร่ายรำเพื่ออวยพรในวันนั้น อีกครั้งหนึ่งคือวันที่กระหม่อมนำพระราชโองการไปประกาศยังจวนแม่ทัพพาน”

“แค่นั้นจริงๆ หรือ”

จางเป่าไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของผู้เป็นนายเหนือหัวที่เรียกตนมาถามเรื่องหญิงสาวผู้นั้น เขาคิดตรึกตรองในใจว่าตนเองได้ลืมสิ่งใดไปหรือไม่ แล้วภาพของสตรีร่างบอบบางนั่งคุกเข่าอยู่ท่ามกลางแดดจ้าก็วาบเข้ามาในหัว

“ยังมีอีกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเคยได้เห็นนางคุกเข่าอยู่หน้าตำหนักกวานจี....”

จางเป่าเหลือบมองเฉิงหรงกุ้ยเฟยด้วยท่าทีประหม่า

“หกครั้งพ่ะย่ะค่ะ เดือนนี้นางเข้าวังมาคุกเข่า...หกครั้ง”

จ่างเป่าลดเสียงลงเพราะรู้สึกถึงสายตาทิ่มแทงที่ส่งมายังตน เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเมื่อคิดได้ว่าตนเองได้เอ่ยสิ่งใดออกไป เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเฉิงหรงกุ้ยเฟยแน่ แค่คิดว่าตนเองต้องถูกนางกระทำสิ่งใดหลังจากนี้ เขาก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที

“ยังมีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่”

“หม่อมฉัน...หม่อมฉันแค่ไม่พอใจที่นางดูถูกตระกูลโจว ทั้งยังปล่อยให้อดีตคนรักเข้าไปอาละวาดในงานแต่งงานของน้องชาย ฝ่าบาทไม่รู้ว่าครั้งนั้นผู้คนในเมืองหลวงเอ่ยถึงเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง มารดาของหม่อมฉันทุกข์ใจจนกระทั่งล้มป่วย”

ท่าทางเสแสร้งของเฉิงหรงกุ้ยเฟยทำเอาซ่างกวนฮองเฮาบิดปากอย่างนึกรังเกียจ ท่าทางเช่นนั้นทำให้ใครดูกัน

“เจ้าพูดจริงหรือ”

เซี่ยฮ่องเต้เอ่ยถามเสียงทุ้มด้วยสีหน้าคลางแคลง นางเคยมีอดีตคู่รักอย่างนั้นหรือ เมื่อได้ฟังเฉิงหรงกุ้ยเฟยเอ่ยถึงชายอื่นภายในใจของเซี่ยฮ่องเต้ก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ฝ่าบาทควรถามนางด้วยตนเองนะเพคะ”

เจ้าของตำหนักกวานจียกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดบังรอยยิ้มสะใจของตน ทว่านางไม่รู้ว่าผู้ที่ออกหน้ากลับเป็นฮองเฮา

“เช่นนั้นให้หม่อมฉันตอบแทนพานเยว่หลานเองเพคะ เป็นความจริงที่นางเคยมีคู่รักวัยเยาว์ บุรุษผู้นั้นคือคุณชายสามของตระกูลเย่ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันจนกระทั่งสัญญาว่าจะแต่งงานหลังจากที่นางพ้นวัยปักปิ่น ทว่าตระกูลโจวกลับแย่งชิงวาสนาของทั้งสองไป คุณชายสามเย่ตรอมใจอย่างหนัก จึงได้ไปอาละวาดที่งานแต่งของตระกูลโจวในวันนั้น ทว่าบัดนี้เพราะมิอาจทนแบกรับความข่มขื่นได้อีกต่อไป จึงหันหน้าเข้าหาพุทธศาสนา ชายหนุ่มผู้มีอนาคตไกลได้ปลงผมบวชเป็นหลวงจีนไปแล้วเพคะ”

สิ้นเสียงซ่างกวนฮองเฮาภายในห้องทรงงานก็เงียบกริบราวกับว่ามิมีผู้ใดอยู่ในนั้นเลย แม้แต่จางเป่าและจางเข่อสองขันทียังแทบกลั้นหายใจเมื่อได้รับรู้เรื่องราวของหญิงสาวตรงหน้า

“เป็นความจริงหรือ ที่คุณชายสามเย่ตอนนี้ปลงผมบวชเป็นหลวงจีน”

“เพคะ เมื่อวานหม่อมฉันได้ไปไหว้พระที่วัดหลิงซานนอกเมืองหลวง เพื่อขอพรให้บิดาที่อยู่ชายแดนแคล้วคลาดต่อคมหอกของศัตรู ทว่ากลับได้พบหลวงจีนหนุ่มนามว่าอันคงไต้ซือที่กำลังกวาดใบไม้ในลานวัดโดยบังเอิญ”

เฉิงหรงกุ้ยเฟยมีท่าทีอึกอัก เพราะนางไม่รู้ว่าบุตรชายคนที่สามของโสวฝู่ตระกูลเย่จะทำเช่นนั้น ก็แค่สตรีนางหนึ่งเท่านั้นเหตุใดถึงได้ปักใจเพียงนี้ เมื่อคิดว่าตระกูลโจวต้องเป็นศัตรูกับตระกูลเย่นางก็รู้สึกว่าตนเองกำลังเดินหมากพลาดไป

“เรื่องนี้มิใช่เพียงเรื่องของตระกูลโจวและสะใภ้แล้วนะเพคะ คุณชายสามเย่ถึงขึ้นบวชเป็นหลวงจีน หม่อมฉันว่าเรื่องนี้มันผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น”

ซ่างกวนฮองเฮาเอ่ยขยี้ปมที่เฉิงหรงกุ้ยเฟยผูก

“แม้ท่านโสวฝู่มิได้เอ่ยสิ่งใด ทว่าย่อมต้องรู้สึกไม่พอใจต่อเรื่องนี้ ถึงท่านเสนาบดีโจวจะมีผลงานที่ช่วยแก้ไขเรื่องภัยแล้ง แต่ท่านโสวฝู่เองก็มีผลงานตั้งแต่รัชสมัยของไท่ซ่างหวงเช่นกัน ตระกูลโจวทำเช่นนี้มิเป็นการดูหมิ่นตระกูลเย่หรือ”

“อีกอย่างเฉิงหรงกุ้ยเฟยยังใช้อำนาจส่วนตัวรังแกบุตรีของแม่ทัพพานผู้ใช้เลือดเนื้อปกป้องแผ่นดินต้าเหลียง ถ้าหากไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่นางได้แล้วยังจะมีใครยอมสละชีวิตตนเองปกป้องแผ่นดินอีกเล่า ในเมื่อครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังกลับถูกผู้มีอำนาจข่มเหงเช่นนี้”

วาจาของซ่างกวนฮองเฮาช่างตรงใจเซี่ยฮ่องเต้นัก ทว่าคนก็แต่งงานไปแล้วตนเองจะทำเช่นไรได้อีก

“ฮองเฮาคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“หม่อมฉันคิดว่า...”

ยังไม่ทันที่ซ่างกวนฮองเฮาจะได้เอ่ยออกมา ด้านนอกก็มีเสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขัดขึ้น

“กระหม่อมโจวอวี้หรานเสนาบดีกรมพระคลัง ขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

คิ้วคมขมวดเข้าหากันมุ่น นัยน์ตาเหยี่ยวเหลือบมองเฉิงหรงกุ้ยเฟยด้วยท่าทีเคลือบแคลง

“ให้เข้ามา”

เมื่อเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาภายในห้องทรงงานอย่างเร่งรีบ ในมือยังถือม้วนกระดาษและกล่องไม้สลักลวดลายมังกรที่เคลือบด้วยสีทองด้านบน

“กระหม่อมโจวอี้หราน ถวายบังคมฝ่าบาทขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”

ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงตรงหน้าพระที่นั่งของเซี่ยฮ่องเต้

“ใต้เท้าโจวต้องการมาพบเราเร่งด่วนเพียงนี้มีเรื่องใดหรือ”

“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องต้องการกราบทูลพระองค์ให้ทราบ เกี่ยวกับการทรยศของตระกูลขุนนางในเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ใบหน้าคมก็มีแววจริงจังขึ้นหลายส่วน ต้องบอกว่าตัวเขาที่ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้นั้นมีขุนนางผู้สนับสนุนเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น ถ้ามิใช่อดีตฮ่องเต้เป็นผู้ออกราชโองการแต่งตั้งเอาไว้ล่วงหน้า เหล่าพี่น้องอีกหลายคนคงได้ลงมือแย่งชิงตำแหน่งนี้ไปจากตนแน่

ฉะนั้น เซี่ยฮ่องเต้จึงอ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องการซ่องสุมกำลังคนและการวางแผนก่อกบฏยิ่งนัก

“ใต้เท้าโจวพูดจริงหรือ ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าเอ่ยสิ่งใดต้องมีหลักฐานมิใช่เพียงลมปากเท่านั้น”

ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“ทุกวาจาที่กระหม่อมเอ่ยออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นความจริงหลายเดือนมานี้กระหม่อมได้ให้คนรวบรวมหลักฐานจนกระทั่งได้ทุกอย่างมาครบแล้ว ได้โปรดฝ่าบาททรงพิจารณา”

“ส่งมาให้เราดู”

โจวอี้หรานยกกล่องไม้และม้วนกระดาษชูขึ้น ขันทีจางเข่อรู้งานรีบเดินเข้าไปรับมาจากมือของชายวัยกลางคนทันที

“เรื่องนี้มีใครบ้างที่รู้ ท่านแน่ใจหรือว่าสิ่งเหล่านี่เป็นของจริง”

เมื่อได้อ่านข้อความที่อยู่ด้านใน ดวงตาคมจึงเผลอเหลือบมองหญิงสาวร่างบางในชุดขาวที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้าง

“นอกจากกระหม่อมแล้วยังมีขุนนางอีกหลายท่านที่พร้อมมาเป็นพยานว่าหลักฐานเหล่านี้เป็นของจริง”

“เช่นนั้นก็ให้ผู้ตรวจการเหลยจัดการก็แล้วกัน”

เซี่ยฮ่องเต้สะบัดมือส่งสัญญาณให้ใต้เท้าโจวออกไป ชายวัยกลางคนเหลือบตามองบุตรสาวเล็กน้อย ก่อนจะค้อมกายคารวะผู้เป็นใหญ่ในวังหลวงทั้งสองแล้วเดินออกจากห้องไป

“เช่นนั้น..”

“พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน แต่มิใช่ว่าเราจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับนาง แต่เรื่องของบ้านเมืองย่อมต้องมาก่อน วันนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปเถิด”

แม่จะมิได้รับคำตอบจากฮ่องเต้ แต่ภายในใจของพานเยว่หลานก็รู้สึกร้อนรุ่มกับการมาของพ่อสามี นางนั่งรถม้ากลับไปยังเรือนตระกูลโจวอย่างเงียบๆ เก็บตัวอยู่ภายในห้องรอคอยให้ฮองเฮาเรียกตัวเข้าวังอีกครั้ง

ทว่าวันต่อมาข่าวลือเรื่องที่ตระกูลพานเป็นกบฏแอบไปเข้ากับฝ่ายของศัตรูก็ถูกกล่าวถึงไปทั่วเมืองหลวง สาวใช้ฮวาเอ๋อที่ออกไปนอกจวนรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งแก่นายของตน

“ไม่จริง!! ข่าวลือพวกนั้นมิใช่เรื่องจริง ท่านพ่อของข้าไม่มีวันทรยศต่อประเทศชาติแน่นอน”

หญิงสาวตวาดแหวออกไปเมื่อได้ฟังเรื่องที่ฮวาเอ๋อเล่า

“ตอนนี้ภายในเมืองหลวงต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กันอย่างหนาหู บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไปได้ยินข่าวนี้มาจากที่ใด”

“ฮวาเอ๋อข้าต้องกลับบ้านตอนนี้ เจ้าให้คนเตรียมรถม้าให้ข้าที”

พานเยว่หลานเอ่ยกับฮวาเอ๋ออย่างร้อนรน ทว่ากลับมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นที่หน้าประตู

“ไม่จำเป็นหรอก ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปในตระกูลพานได้”

หญิงสาวตวัดสายตาไปยังผู้ที่มาใหม่ทันที เมื่อเห็นว่าเป็นโจวหานอี้ สำนึกบางอย่างก็ทำให้นางนึกถึงการพบกันกับพ่อสามีในวังหลวงเมื่อวาน

“เป็นท่านใช่หรือไม่ที่ปล่อยข่าวลือพวกนี้ออกมา เป็นตระกูลโจวของท่านที่ใส่ร้ายท่านพ่อของข้า”

หญิงสาวพุ่งตัวเข้าไปกระชากสาบเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความโกรธแค้น

“แล้วแต่เจ้าจะคิด แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนตระกูลโจวของข้า ถ้าไม่อยากถูกคุมตัวไปยังคุกหลวงอีกคน ก็จงอยู่เงียบๆ ไปซะ”

เมื่อเอ่ยจบร่างสูงก็เดินจากไปด้วยสีหน้าพอใจ

พานเยว่หลานอาละวาดอยู่ภายในห้องด้วยความโมโห ด้านนอกเรือนของนางมีบ่าวรับใช้ชายสี่คนเฝ้าเอาไว้ตามคำสั่งของโจวหานอี้

ครึ่งเดือนต่อมา

“ฮวาเอ๋อเจ้าช่วยออกไปสืบข่าวให้ข้าได้หรือไม่ ข้าอยากรู้ว่าคนตระกูลพานเป็นอย่างไรบ้าง”

หลายวันมานี้นางฝันไม่ดีเอาเสียเลย จึงอยากรู้ว่าครอบครัวเป็นอย่างไร

“เจ้าไม่ต้องสั่งสาวใช้ให้ออกไปสืบหรอก วันนี้เจ้าจะได้เห็นด้วยตาตนเองว่าตระกูลพานเป็นอย่างไรบ้าง ตามข้ามาสิ”

ร่างสูงก้าวเข้ามาภายในห้องโถงของเรือน โจวหานอี้ดึงร่างบางให้ตามตนเองออกจากเรือนตระกูลโจว รถม้าวิ่งตามถนนเส้นหลักไปเรื่อยๆ ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ม้าก็วิ่งมาหยุดอยู่ที่ลานกลางเมือง สถานที่สำหรับประหารผู้กระทำความผิดต่อหน้าสาธารณชน

“ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไม”

หัวใจของหญิงสาวสั่นสะท้าน ตลอดครึ่งเดือนนางที่อยู่เพียงในเรือนไม่สามารถรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับครอบครัวของตนเลย นางหวาดกลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

“ก็เจ้าบอกว่าต้องการรู้ข่าวของคนตระกูลพานมิใช่หรือ ข้าก็พาเจ้ามาแล้วอย่างไร

“โจวหานอี้ ท่านหมายความว่าอย่างไร”

ดวงตางามจ้องเขม็งไปยังผู้พูด

“ก็หมายความว่า ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพื่อให้เจ้าได้พบกับครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย ดูเอาเองสิว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

ชายหนุ่มเปิดม่านหน้าต่างรถม้า กลิ่นคาวโลหิตก็พุ่งปะทะเข้ามาในจมูกทันที เมื่อดวงตากลมโตมองออกไป หญิงสาวก็ได้เห็นกลุ่มคนมากมายกำลังรวมตัวกันอยู่ไม่ไกล

ทว่าท่ามกลางคนเหล่านั้นพานเยว่หลานได้เห็นบิดามารดาและพี่ชายทั้งสอง พวกเขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงกลางลานโล่ง รอบด้านล้วนเจิ่งนองไปด้วยโลหิตและศพของคนตระกูลพานนับร้อยชีวิต ทว่าบัดนี้เหลือเพียงคนทั้งสีที่คุกเข่าด้วยใบหน้าสงบนิ่ง

เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงเรียกของพานเยว่หลาน ดวงตาทั้งสี่คู่จึงเหลือบมองมา

“ไม่จริง!! ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่ใหญ่! พี่รอง!”

ร่างบางพยายามตะเกียกตะกายลงจากรถม้า ทว่ากลับถูก โจวหานอี้จับตัวเอาไว้ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดและหวาดกลัว ไหลทะลักออกมาเหมือนทำนบแตก

“ปล่อยข้าโจวหานอี้!! ข้าจะไปหาพวกเขา”

“ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าลงไปแน่ ถ้ามีคนเห็นหน้าเจ้าที่นี่ชื่อเสียงของตระกูลโจวคงด่างพร้อย ที่ข้ายอมพาเจ้ามาก็เพื่อให้เจ้าได้เห็นจุดจบของบิดามารดาและพี่ชายทั้งสองของเจ้าเท่านั้น”

นางยกมือปิดหน้าครวญครางด้วยความเจ็บปวด นางไม่ต้องการได้ยินเสียงของเขาที่กำลังเอ่ยเชือดเฉือนหัวใจ เสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวแต่ละครั้งประดุจดังลมหายใจของครอบครัวที่กำลังปิดปลิว

หญิงสาวยื่นมือออกไปนอกหน้าต่างรถม้า หวังว่าจะสามารถคว้าจับพวกเขาเอาไว้ ดวงตาอ่อนโยนของบิดามารดาและพี่ชายทั้งสองได้ถ่ายทอดความรักความห่วงใยทุกสิ่งมาที่นาง

เมื่อถึงเวลาเพชฌฆาตสี่คนได้ก้าวมาหยุดอยู่ด้านหลังของพวกเขา ทันทีที่เสียงสั่งลงมือประหารดังขึ้น พานเยว่หลานก็กรีดร้องออกมาจนสุดเสียง

“กรี๊ด!!! ไม่!! ฮื่อออ!! ท่านพ่อ ท่านแม่ พาข้าไปกับพวกท่านด้วย อย่าทิ้งข้าเอาไว้เพียงลำพังเช่นนี้”

ร่างบางสะอื้นไห้ราวกับจะขาดใจ เมื่อได้เห็นบิดามารดาและพี่ชายทั้งสองถูกสังหารต่อหน้าต่อตา นางมิอาจฝืนทนแบกรับความเจ็บปวดนี้ได้ หญิงสาวหมดสติภายใต้อ้อมแขนของโจวหานอี้

“กลับ”

เมื่อเห็นว่าคนตระกูลพานทั้งหมดถูกสังหารด้วยตาตนเอง คุณชายใหญ่ตระกูลโจวจึงสั่งให้คนขับรถม้ากลับไปยังเรือนตามเดิม

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ริ่มกักตุนเสบียง

    ณ เรือนตระกูลหลี่“กลับมาแล้วหรือเจ้าพวกตัวซวย หายหัวไปทั้งคืนยังกล้ากลับมาที่นี่อีกนะ”เสียงแหลมสากของแม่เฒ่าหม่าดังขึ้นด้านหลัง ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังย่องกลับไปยังห้องเก็บฟืน“ท่านย่า”หญิงชรามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ที่เด็กสาวหันมาพูดกับตนด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งที่ในยามปกติมักจะแสดงท่าทีขลาดกลัวเป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงชราหลังจากย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลี่อันหนิงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเป็นเพราะหญิงชราผู้นี้ วันหน้านางจะต้องตอบแทนอย่างสาสมให้สมกับที่ครอบครัวของตนได้รับมาหลี่อันหนิงสบถสาบานในใจ“ท่าย่ามีอะไรจะใช้ข้าหรือ”เด็กสาวถามเสียงห้วน ไร้ท่าทีขลาดกลัวดั่งเช่นวันวาน“วันนี้พวกแกสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหาร ต้องทำงานที่เหลือจากเมื่อวานให้เสร็จทั้งหมด จากนั้นก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาซะ”หลี่อันหนิงบิดปากเล็กน้อย ห้ามทานอาหารหรือ อาหารที่แม้แต่หมูยังไม่อยากทานใครมันจะกลืนลงท้องได้ เด็กน้อยทั้งสองไม่ตอบโต้ กลับทำตามที่หญิงชราสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งต่างจากท่าทีเฉยชาที่แสดงออกหลี่เจียนเจียนเดินผ่านสองพี่น้องที่กำล

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความลับที่ได้รู้โดยบังเอิญ

    กลางดึก ในระหว่างที่พี่น้องกำลังหลับสนิท เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องสะท้านขึ้นที่ด้านนอกถ้ำ หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นพร้อมกันเด็กสาวมิได้เล่าเรื่องที่ตนได้ยินเจ้าก้อนขนสีดำพูดคุยกันให้น้องสาวฟัง ไม่คิดว่าแม่ของมันจะกลับมาในคืนนี้ ในระหว่างที่หลี่อันหนิงกำลังคิดหาทางหนี เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของเจ้าสัตว์ร้ายด้านนอกดังขึ้นแผ่วเบาในหัวของนางได้ยินเสียงของมันรำพึงถึงลูกน้อยทั้งสอง เด็กสาวมองไปยังฝั่งตรงข้ามของบ่อน้ำร้อน ก่อนตัดสินใจเดินออกไปดูในความมืดสลัวราง หลี่ซางเป่าจับแขนเสื้อของพี่สาวเอาไว้มั่น“พี่ใหญ่ไปไหนหรือ”“ซางเป่ารอพี่อยู่ที่นี่ได้หรือไม่ ไม่นานพี่จะกลับมา”เด็กน้อยส่ายหน้าปฏิเสธแสดงท่าทีหวาดกลัว นางเห็นน้องน้อยแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมา ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“ได้ๆ เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด”หญิงสาวจับมือของน้องสาวเดินออกมาทางปากถ้ำ ที่ยังคงได้ยินเสียงร้องครางของสัตว์บาดเจ็บชัดเจน เมื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำที่นั่นมีคบเพลิงมากมายถูกจุดโดยมนุษย์ดวงตาดำสนิทของเจ้าสัตว์ร้ายจ้องมองมายังนางและน้องสาวที่ซ่อนตัวอยู่ เจ้าก้อนขนทั้งสองที่ไม่รู้ว่าตามมาตั้งแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความสามารถของหลี่ซางเป่า

    หลี่อันหนิงพยักหน้าพลางลูบผมของเด็กน้อยซางเป่าอย่างภูมิใจ ตอนนี้ตนเองเป็นเพียงเด็กเท่านั้นไม่อาจทำตามใจตนดั่งเช่นผู้ใหญ่ได้ หากต้องการปกป้องน้องทั้งสองนางจำต้องมีอำนาจในมือและแล้วหลี่อันหนิงก็หวนกลับไปนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่แสนเย็นชาของท่านขุนนางหนุ่ม เพียงเท่านั้นในหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด“พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าที่ใดที่เราสามารถใช้นอนได้”เด็กสาวมองหน้าน้องน้อยของตนด้วยสีหน้าสนใจ หลี่ซางเป่าเดินลิ่วนำหน้าไปเหมือนกับคุ้นเคยเส้นทางบนภูเขา หลี่อันหนิงผู้เป็นพี่สาวรีบวิ่งตามจนกระทั่งทั้งสองไปถึงผาหินที่มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรกชัฏแห่งหนึ่ง“เป่าเอ๋อเราใช้ที่นี่นอนไม่ได้หรอกนะ มันรกเกินไปอีกอย่างอาจมีงูพิษออกมาก็ได้ รู้หรือไม่ว่ามันอันตราย”หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเองเบาๆ นางแสดงสีหน้ามั่นใจก่อนจะหันไปดึงแขนเสื้อของพี่สาว“ได้เรานอนที่นี่ได้ นางบอกว่าคืนนี้ให้เรานอนที่นี่”นางหรือ...ใครกัน หลี่อันหนิงมองใบหน้าที่เล็กกว่าฝ่ามือของน้องสาวอย่างงุนงง สายตาสำรวจมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีที่ใดเลยที่จะสามารถใช้นอนได้ แล้วเหตุใดซางเป่าถึงพูดเช่นนั้นออกมา“ใครเป็นคนบอกน้องหรือ เป่าเอ๋อ”“ท่านแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ค้นพบถ้ำลับ

    แม่เฒ่าจวงจีบปากจีบคือเอ่ย พลางหันไปถามความเห็นของเหล่าจีนมุงที่ตอนนี้เริ่มมากขึ้นทุกทีหลี่เจียนเจียนผู้ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงชราตรงหน้าตอกกลับเช่นนี้ นางกำหมัดกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ก่อนตวาดแหวออกไปอีกครั้ง“เจ้า!! ยายเฒ่า เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าบอกให้ส่งนางเด็กสารเลวสองคนนั้นออกมา”ใบหน้าของหลี่เจียนเจียนเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ นางไม่รู้วิธีจัดการกับคนอย่างหญิงชราผู้นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่เป็นผู้กระทำมาตลอด“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เรือนหลังนี้มีเพียงข้าและหลานชายอาศัยอยู่ หากจะพูดว่ามีเด็กสารเลวที่นี่ก็มีแต่เจ้าคนเดียว”แม่เฒ่าจวงลอยหน้าลอยตาเอ่ย โดยไม่สนใจในใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำดำมืดของหลี่เจียนเจียน“กรี๊ด!!! ยายเฒ่าจวง กล้าว่าข้าสารเลวหรือ”หญิงสาวพุ่งเข้าใส่แม่เฒ่าจวงแต่ถูกจวงอี้ซิงเอาตัวขวางเอาไว้ เขาและนางอายุสิบเจ็ดเท่ากันทว่าเด็กหนุ่มกลับสูงใหญ่และแข็งแรงมากกว่า อาจเพราะเขาทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็กหลี่เจียนเจียนไม่สนใจว่าคนที่ขวางทางตนจะเป็นใคร นางใช้เล็บข่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อระบายโทสะของตน แต่สิ่งที่หลี่เจียนเจียนทำไม่สามารถสร้างความ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   หลี่เจียนเจียนอาละวาด

    “อันหนิง!! อันหนิงลูกแม่ ลูกต้องช่วยน้องชายของเจ้านะ อย่าปล่อยให้เขาต้องเดินทางผิดเช่นในอดีต บัดนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำทางให้เขากลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้”ในความมืดมิดอันเวิ้งว้าง เด็กสาวได้ยินเสียงคุ้นเคยของผู้เป็นมารดาดังแว่วอยู่ไกลๆ นางมองสถานที่ที่ไม่คุ้นตานี้ด้วยสีหน้าสงสัย แม้รอบกายจะมืดทะมึนแต่กลับมิได้ให้บรรยากาศที่น่าหวาดกลัวหลังจากเงี่ยหูฟังว่าเสียงของมารดามาจากที่ใด นางจึงตัดสินใจเดินตามเสียงนั้น กระทั่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ของชายหนุ่มรูปงามในชุดขาว ราวกับเทพสงครามกำลังเข่นฆ่าสังหารผู้อื่นด้วยใบหน้าเฉยชาเด็กสาวตกใจกับภาพตรงหน้าจนถอยกรูดไปด้านหลัง ทว่าภายในใจกลับคิดว่าดวงตาของคนผู้นี้ช่างดูคุ้นเคยยิ่งนักเมื่อหลี่อันหนิงมองเพ่งมองให้ชัดๆ นางเห็นไฝเม็ดเล็กที่อยู่ใต้ดวงตาขวาของเขาแล้วภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ถือตำราในมือก็ผุดขึ้นมาในหัวของนาง บ้านหลี่มีเพียงเด็กสองคนที่เกิดมาพร้อมกัน และพวกเขามีไฝน้ำตาอยู่คนละฝั่งหลี่ซางเป่ามีไฝเม็ดเล็กใต้ดวงตาข้างซ้าย เช่นนั้นเขาก็คือหลี่อี้เจ๋อ น้องชายคนรองของนาง ทว่าภาพตรงหน้ามันคืออันใด เหตุใดเขาถึงได้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

    “อวัยวะภายในของนางและกระดูกหลายส่วนถูกทำลายจนสิ้น ต่อให้ช่วยได้ในตอนนี้นางก็คงอยู่ไม่พ้นเดือน ทำได้เพียงใช้สมุนไพรยื้อชีวิตไปเรื่อยๆ เท่านั้น อีกอย่างเราอยู่ในภารกิจที่เร่งด่วน จำเป็นต้องปล่อยนางไป เฮ่อ!! ช่างน่าเวทนานัก นางยังเด็กอยู่เลยกลับต้องมาพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนี้”ชายหนุ่มรูปงามที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงและสวมกวานหยก เขาประคองร่างบางขึ้นอย่างทะนุถนอม แม้ร่างกายของนางจะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ถึงกระนั้นเขากลับกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของหลี่อันหนิงอย่างแผ่วเบา นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป หญิงสาวส่งยิ้มให้กับบุรุษตรงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นเขาจึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูของนาง“ข้าคือขุนนางที่ฮ่องเต้ส่งมา เด็กน้อยเจ้ามีคำขออื่นใดหรือไม่”หลี่อันหนิงได้ยินคำถามนั้นก็รู้แล้วว่าอีกไม่ช้าชีวิตของตนก็คงจะถูกพรากไป แต่ก็ยังดี อย่างน้อยนางสามารถเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือของใครได้เด็กสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระซิบเอ่ยตอบกลับไป“รบกวนช่วย!!...ฆ่า!!ข้า อย่าให้ข้าต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status