Share

CAP 2 | คุณพ่อลูกหนึ่ง (TW: NC)

last update Last Updated: 2025-11-02 14:24:11

          “ปั้นครับ...อา...”

          “อ๊ะ...อือ...”

          น้ำเสียงหอบครางปนเซ็กซีของสามีซึ่งกำลังคุมเกมรักอยู่ด้านบนทำให้ข้าวปั้นครวญครางตอบออกมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน ตาคู่สวยหันไปมองนาฬิกาดิจิทัลข้างหัวเตียงระบุว่าตอนนี้คือเวลาตีห้ายี่สิบห้านาที

          เวกัสปลุกเธอขึ้นมารองรับความปรารถนาของเขาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน บางทีข้าวปั้นก็รู้สึกว่าเขาไม่สงสารร่างกายเธอสักนิดเลย ทั้งที่เมื่อคืนเธอก็ป้อนความสุขให้เขาจนเกือบตีหนึ่งไปแล้ว

          “อ๊ะ...บะ เบาๆ อื้อ...ปะ ปั้นจุก”

          มือเรียวยกมือดันหน้าท้องแกร่งของสามีให้ขยับช้าลง หลังจากถูกโถมความใหญ่โตเข้าหาถี่ๆ หลายนาที จนร่างเล็กสั่นคลอนตามจังหวะนั้นทุกครั้ง ขนาดที่เกินกว่ามาตรฐานชายไทยทำเอาจุกเสียดทุกครั้งที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน แม้จะผ่านการมีลูกมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกชินกับตัวตนใหญ่ที่กำลังเข้าออกร่างกายร้อนรุ่มของตนเองได้เลย

          “ทำไมยังไม่ชินอีก หนูโดนพี่เอามาห้าปีแล้วนะ...อ๊า...รัดแน่นขึ้นอีกแล้ว”

          สามีตัวโตขยับร่างกายช้าลง เพราะร่างกายของภรรยามีปฏิกิริยากับคำหยาบคายเมื่อครู่จนรัดลำรักเขาแน่นขนัด ใบหน้าหล่อเหลาซบหน้าลงบนอกนุ่มฟูด้วยความเหน็ดเหนื่อย ปากร้อนเล่นกับยอดถันสีแดงจนแข็งสู้ลิ้น

          “ละ แล้วพี่เวย์ยังไม่ชิน เวลาที่ปั้นรัดของพี่อีกเหรอคะ...” นิ้วเรียวกางออกสากผมนุ่มของคนตัวสูง ออกแรงขยุ้มเบาๆ เมื่อถูกเขาดูดดุนหน้าอกพร้อมๆ กับโถมสะโพกกระทบช่วงล่างจนเสียวสะท้าน

          คนเป็นสามีกัดริมฝีปากกับถ้อยคำต่อล้อต่อเถียงของภรรยา ยิ่งเห็นมือข้างที่สวมแหวนแต่งงานประคองหน้าท้องตนเองเอาไว้หลวมๆ ยิ่งน่าเอ็นดูแกมมันเขี้ยวจนเผลอสอบน้ำหนักเข้าจุดกระสันหนักหน่วงจนข้าวปั้นเบิกตาโตมอง

          ปึก! ปึก! ปึก!

          “อ๊ะ! พะ พี่เวย์ อ๊า! อื้อ...ปั้นขอโทษ”

            ข้าวปั้นรู้ตัวว่าเล่นผิดคนแล้ว คนตัวเล็กจึงรีบขอโทษขอโพยสามียกใหญ่หวังให้อีกฝ่ายเบาแรงลง แต่เวกัสกลับจับขาเรียวแบออก จากนั้นจึงตั้งใจลงโทษคนสวยของเขาให้สาสมกับความช่างยอกย้อนของเธอ

          “นอนให้พี่เอาจนกว่านาฬิกาปลุกจะดังครับ อย่าดื้อ...”

          “อ๊ะ อ๊ะ อื้อ!”

                                                                          ══♡══

          “จุนพ่อขา~ จุนแม่ขา~”

          ลูกสาวตัวน้อยวางมือจากการรับประทานมื้อเช้าวิ่งตรงเข้ามาหาบิดาด้วยความสดใส สองแขนป้อมๆ ชูขึ้นเป็นสัญญาณให้ผู้เป็นพ่อย่อตัวลงไปอุ้มขึ้นมาจากพื้น และนักธุรกิจหนุ่มก็ทำตามที่ลูกสาวต้องการอย่างว่าง่าย

          “ไข่หวานโตขึ้นหรือเปล่าครับเนี่ย” เขาแสร้งทำเป็นว่าลูกสาวตัวหนักจนตั้งกระชับท่าอุ้มใหม่ นั่นทำให้ไข่หวานมุ่ยหน้าใส่บิดาด้วยความแง่งอน

          “จุนแม่ขา~ จุนพ่อว่าไก่หวานอ้วน!”

          ข้าวปั้นหัวเราะกับท่าทีของลูกสาว เอื้อมมือไปบีบแก้มซาลาเปาเม้มริมฝีปากมันเขี้ยวไม่ยั้ง

          “คุณแม่เห็นด้วยค่ะ ไข่หวานตัวโตขึ้นมากจนคุณแม่จะอุ้มไม่ไหวแล้ว” ออกปากเออออห่อหมกรวมหัวกันแกล้งยัยตัวแสบของบ้านก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

          สาลี่กับส้มที่เป็นทั้งสาวใช้และพี่เลี้ยงของไข่หวานก็มองหน้ากันและลอบหัวเราะไปกับเจ้านาย

          ครอบครัวสงบสุขสมบูรณ์แบบที่ใครๆ ต่างก็ต้องอิจฉา สามีหล่อ ภรรยาสวย ลูกสาวน่ารัก แถมยังอยู่บ้านหลังโตทำธุรกิจใหญ่ ครอบครัวในอุดมคติตามที่ข้าวปั้นต้องการไม่มีผิดเพี้ยน

          “เอ๊ะ! ปาเก๋า”

          “กระเป๋าค่ะ” คนเป็นแม่แก้คำผิดให้ด้วยความเอ็นดู

          “จุนพ่อจะบินอีกแย้วเหยอคะ” ลูกสาวพูดอย่างรู้ทัน “มะรืนวันเกิดไก่หวานน้า~ T^T”

          ดวงตาแป๋วแหววของลูกสาวทำคนเป็นพ่อลำบากใจ หลุบตามองนิ้วมือสองนิ้วที่ชูขึ้นตามจำนวนวันนับถอยหลังวันครอบรอบวันเกิดยัยตัวแสบ เวกัสหันไปมองภรรยาอย่างต้องการความช่วยเหลือ

          “คุณพ่อต้องไปทำงานนะคะ หาตังค์ให้ไข่หวานไง” ข้าวปั้นเข้าไปช่วยพูดเต็มที่

          แต่ลูกสาวกลับมองมายังผู้ใหญ่สองคนอย่างไม่ชอบใจ

          “ไก่หวานมีบ้าน ไก่หวานมีรถ แต่ไก่หวานไม่มีจุนพ่อ...”

          พูดจบลูกสาวก็ดิ้นกุกกักออกจากอ้อมกอดคนตัวโต มือแกร่งทั้งสองข้างกลับจับตัวลูกสาวคนเดียวไว้แน่น กอดโอ๋ลูกด้วยการดันให้ซบอกตนเองอย่างที่เคยทำเมื่อครั้งไข่หวานอายุไม่ไม่ถึงขวบ

          “อย่าพูดแบบนั้นสิครับ พ่อทำเพื่อหนูกับคุณแม่นะ”

          “จุนแม่อยากให้จุนพ่อไปไกลๆ หรือเปล่า” ลูกเมินคำอธิบายของเขา แต่กลับหันไปถามมารดาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แทน “ฮึก! ไก่หวานไม่หยักให้จุนพ่อไป จุนแม่ก็...”

          “ไข่หวาน…” ข้าวปั้นเอ่ยปากปรามลูกสาวด้วยน้ำเสียงนิ่ง “คุณพ่อต้องทำงานนะคะ ส่วนไข่หวานก็ต้องรีบทานข้าวไปโรงเรียน”

          ใบหน้าสวยส่งสัญญาณให้พี่เลี้ยงพาลูกสาวกลับไปทานข้าวต่อ แม้ลูกสาวจะยังแสดงท่าทีงอแงแต่ก็ยอมกลับไปนั่งที่พร้อมพี่เลี้ยงสองคนอยู่ดี

          “พี่จะรีบกลับมาให้ทันวันเกิดลูกนะ”

          “ค่ะ”

          “โกรธหรือเปล่า?” เขาเอ่ยถามภรรยาออกมาตามตรง

          อาจเพราะรอบนี้ข้าวปั้นตอบสั้นกว่าทุกครั้ง เลยอดกังวลไม่ได้

          “มันช่วยไม่ได้นี่คะ ปั้นชินแล้ว ลูกเพิ่งรู้ความได้ไม่กี่ปี อาจจะยังไม่ชิน”

          "ประชด?"

          "ไม่ค่ะ พูดจริง...จากใจเลย"

          พูดจบคนตัวเล็กก็เดินหนีออกไปหน้าบ้าน เธอเดินเข้าไปทักทายเลขาของสามีอย่างคุ้นเคย คีรีคือคนที่เธอรู้จักพร้อมๆ กับเวกัส ในตอนที่เจอกันครั้งนั้นมันทำให้ข้าวปั้นรู้ว่าเขาทำงานตั้งแต่เรียนไม่จบปริญญาตรีด้วยซ้ำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่สามีจะเลือกงานแล้วปล่อยเธอให้อยู่กับลูกดังเช่นที่ผ่านมา

          "สวัสดีค่ะพี่คีรี รอบนี้ไปไหนกันคะ"

          หญิงสาวเอ่ยทักเลขาของสามีด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร คีรีซึ่งน่าจะกำลังคุยงานกับลูกน้องอีกหลายคนหันขวับมาหาเจ้าของเสียงนั้นทันที ส่วนคนอื่นก็ยืดตัวตรงประสานมือโค้งทักทายเธออย่างพร้อมเพรียง

            บางทีข้าวปั้นก็แอบสงสัยระบบบริษัทของสามีว่าต้องแสดงความเคารพกันขนาดนี้เลยหรือ แถมยังแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบเดียวกันอีก

          สูทดำทั้งตัว และมีพินหนีบเนกไทสีทองตัว V

          น่าจะหมายถึง V GROUP...

          พนักงานส่วนมากเป็นผู้ชาย น้อยครั้งที่จะเห็นผู้หญิง ยกเว้นเวลาไปหาเวกัสที่บริษัท อาจจะเป็นเรื่องปกติของธุรกิจรับเหมาครบวงจรประเภทนี้

          "สวัสดีครับคุณข้าวปั้น รอบนี้เราบินไปฮ่องกงสามวันครับ" คีรีตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

          หญิงสาวพยักหน้ารับ ประจวบเหมาะกับเวกัสเดินตามมายืนข้างๆ พอดี จึงเปลี่ยนเรื่องคุย

          "ทานมื้อเช้ากันมาหรือยังคะ?"

          "พวกเราทานเรียบร้อยแล้วครับ" ทันทีที่คีรีตอบกลับมา พนักงานคนอื่นๆ ก็ก้มหน้าโค้งขอบคุณเธออีก

          ขอบคุณทำไม ขอบคุณที่เธอถามเนี่ยนะ?

          "พี่ต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว มีอะไรโทรมาได้ตลอดเวลานะครับ"

            มือหนาของสามีรั้งเธอมาจูบหน้าผากแนบชิดต่อหน้าลูกน้องคนอื่น คนตัวเล็กหน้าแดงไม่คุ้นชินกับการแสดงออกต่อหน้าคนอื่นของเขาเสียที

          "จูบพี่หน่อย..." ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้จนปลายจมูกชิดกัน

          ดวงตากลมโตแอบชำเลืองมองไปยังคีรีและคนอื่นๆ ก็เห็นว่าลูกน้องเขาพร้อมใจกันกลับหลังหันเคลียร์ทางให้แล้ว

          จุ๊บ!

          "อื้อ..."

          ริมฝีปากนิ่มจุ๊บปากอุ่นแผ่วเบา ก่อนจะร้องประท้วงเมื่อฟันคมของสามีกัดปากล่างเธอจนเจ็บแปลบ

          "ฝากง้อไข่หวานให้พี่ด้วย พี่จะรีบกลับมาให้ทันงานวันเกิดลูก"

          "ทันแน่นะคะ รอบนี้ลูกสี่ขวบนะ"

          เวกัสอยู่ในวันเกิดลูกทุกปี หากปีนี้คนเป็นพ่อไม่อยู่ ลูกสาวคงแผดเสียงร้องไห้งอแงทั้งคืน

          "พี่จะรีบกลับมา..."

                                                                             ═══☆♡☆═══

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 10 | To The Moon And Back

    กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปี 2019 ใครจะคิดว่าเวกัสจะเป็นคนสปอยล์แฟนตัวเองขนาดนี้ เพียงแค่เธอเอ่ยเล่นๆ ว่าอยากมางานครบรอบสามสิบปีของเครื่องประดับแบรนด์อเมทิสต์เป็นของขวัญรับปริญญา อาทิตย์ต่อมาเขาก็ลากเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวมายืนอยู่ในสวนสาธารณะช็องเดอมาร์ส ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประมูลเครื่องประดับและอัญมณีในค่ำคืนนี้ ยอมรับว่าแสงสีส้มของเมืองปารีสตัดกับความมืดของท้องฟ้าทำให้ข้าวปั้นรู้สึกมีความสุขมาก คนตัวเล็กสวมชุดเดรสสีดำขนาดพอดีตัวกับรองเท้าบูทส้นเข็มที่แฟนหนุ่มจัดหาให้ มือเล็กคล้องแขนเขาเดินชมภาพสินค้าที่ถูกจัดแสงถ่ายแขวนตามข้างผนัง ไม่ต่างจากงานแสดงนิทรรศการภาพถ่ายเครื่องประดับด้วยความตื่นเต้น บ่อยครั้งที่มีชาวต่างชาติเดินเข้ามาทักทายเวกัสด้วยภาษาฝรั่งเศสที่เธอฟังไม่ออก แต่เดาได้ว่าน่าจะเป็นการคุยเกี่ยวกับธุรกิจส่วนตัวของแฟนหนุ่ม ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะไม่ก้าวก่ายหรือถามให้เขาอึดอัดใจ “ปั้นชอบชิ้นไหนที่สุดในงานวันนี้?” ข้าวปั้นไม่กล้าตอบ กลัวใจว่าเขาจะควักเงินซื้อให้ แม้จะอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่ออก แต่แฟนอเมทิสต์อย่างเธอรู้ดีว่าม

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 9 | ค้างคืน

    ความสัมพันธ์ระหว่างเวกัสและข้าวปั้นพัฒนาแบบก้าวกระโดด นับจากวันนั้นที่ทั้งคู่ศึกษาดูใจกัน ผ่านไปสี่เดือนทั้งสองก็ตกลงปลงใจเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ เวกัสยังเข้านอกออกในบ้านของแฟนสาวเป็นกิจจะลักษณะ แม้จะไม่ค่อยได้พูดคุยกับพ่อของข้าวปั้น แต่กับผู้เป็นแม่ เวกัสแทบจะกลายเป็นลูกชายคนโตของบ้านไปแล้ว ระยะหลังข้าวปั้นรู้สึกว่าพ่อตนเองกำลังมีความเครียดบางอย่างจากการทำงาน หลายครั้งที่เธอพบว่าพ่อเมากลับมาที่บ้าน ทั้งที่ปกติรองผู้กำกับขจรเดชไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะนอกเวลาหรือในเวลา ในขณะที่ข้าวปั้นกำลังจูงมือแฟนหนุ่มของตนเองเดินชอปปิงที่ห้างสรรพสินค้าใกล้มหาวิทยาลัยหลังเลิกเรียน เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของคนตัวเล็กก็ดังขึ้นจนต้องหยุดเดินและกดรับกลางคัน “พ่อโทรมาค่ะ ^^” เธอบอกแฟนตนเองว่าใครที่โทรเข้ามาเวลานี้ ข้าวปั้นมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ไม่มีเรื่องปิดบังปกปิดสร้างความไม่สบายใจให้อีกฝ่าย มีอะไรก็เอามาเล่าให้ฟังหมด ซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีและทำให้เวกัสสบายใจทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน “ค่ะพ่อ” (ไอ้ปั้น! วันนี้ไม่ต้อง

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 8 | เป็นแฟนกัน

    ผ่านไปได้เพียงหนึ่งอาทิตย์ เวกัสเข้านอกออกในบ้านเธอเป็นว่าเล่น ทั้งยังช่วยเธอทำวิจัยจนข้าวปั้นแทบจะเอาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ให้สาแก่ใจกับความเป็นพ่อพระของอีกฝ่าย และแม้รถของข้าวปั้นจะซ่อมเสร็จและออกจากศูนย์เรียบร้อย รุ่นพี่หนุ่มก็ยังขอเป็นคนไปรับไปส่งเธอด้วยเหตุผลที่ว่า ตอนเย็นเขาต้องมาฝากท้องที่บ้านนี้ประจำจึงอยากให้ข้าวปั้นมาด้วยกันจะได้ประหยัดพลังงาน หล่อไม่พอ รักษ์โลกอีก... แต่เพราะวันนี้พ่อไปเข้าเวรดึก ส่วนแม่ก็ไปช่วยงานศพของคนรู้จัก ดังนั้นที่บ้านจึงไม่มีคนอยู่รอให้รีบกลับไป ข้าวปั้นจึงถือโอกาสชวนคนตัวโตไปฝากท้องที่ผัดไทยกระทะร้อนหลังมหาวิทยาลัยก่อนกลับ ซึ่งเวกัสก็ตามใจรุ่นน้องสาวดังเช่นทุกครั้ง แม้บรรยากาศในช่วงเย็นจะเต็มไปด้วยบรรดานักศึกษามาเดินหาของกินหลังมหาวิทยาลัยกันขวักไขว่ และร้านก็เต็มไปด้วยแขกมากหน้าหลายตาจนส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจไปทั้งร้าน แต่ทั้งคู่กลับไม่รู้สึกรำคาญหรือเบื่อแม้แต่น้อย เวกัสชวนคุยฆ่าเวลาเก่ง เริ่มต้นด้วยการคุยดินฟ้าอากาศ จนมาจบที่ซีรีส์เรื่องที่คนตัวเล็กกำลังติดงอมแงมได้ลื่นไหลอย่างเหลือเชื่อ “ปั

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 7 | สนิทใจ

    หลังจากรับประทานมื้อเย็นเรียบร้อย ข้าวปั้นก็รีบปลีกตัวขึ้นมาอาบน้ำและลงมือปั่นงานวิจัยตนเองต่อ ข้าวปั้นตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำให้อุปสรรคเพียงเท่านี้ส่งผลต่อการเรียนจบของตนเอง ติ๊ด! เสียงแจ้งเตือนดังมาจากเครื่องโน้ตบุ๊กสีเงิน ทำเอาคนที่กำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานตกใจจนสมาธิกระเจิง แถบแสดงค่าแบตเตอรี่ระบุว่าเหลือพลังงานเพียงสิบสามเปอร์เซ็นต์ ทำให้ข้าวปั้นลุกลี้ลุกลนหาสายชาร์จเพื่อนำมาเสียบกับตัวเครื่อง ไม่มี... จะว่าไปในกระเป๋าเป้ที่ได้มาก็มีเพียงโน้ตบุ๊กหนึ่งเครื่องเท่านั้น หรือพี่เวกัสจะลืมใส่สายชาร์จมาด้วย หญิงสาวชำเลืองสายตามองหน้าจอก็พบว่าตอนนี้คือเวลาเกือบตีสอง เธอทำงานจนลืมง่วงไปเลย โทรศัพท์ส่วนตัวกับนามบัตรที่เขาให้มาเมื่อตอนเย็นถูกนำมากำเอาไว้แน่น ลังเลว่าควรโทรไปหาในยามวิกาลเช่นนี้หรือไม่ แต่หากมัวแต่รักษามารยาท กว่าจะได้สายชาร์จก็อาจจะเป็นวันมะรืน สุดท้ายเจ้าของมือเรียวจึงตัดใจกดเบอร์ตามหน้าบัตร ก่อนจะกดโทรออก...════♡════ -Khaopun Calling- เสียงเรียกเข้าดังเป็นหนที่ส

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 6 | คนใจดี

    เนื่องจากวันนี้เป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัย และคณะที่ข้าวปั้นเรียนอยู่เป็นหนึ่งในห้าคณะที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกับมหาวิทยาลัยตั้งแต่แรก ดังนั้นเหล่าศิษยานุศิษย์จึงรวมใจกันมางานรำลึกที่คณะจนไม่เหลือที่ให้นักศึกษาปัจจุบันที่จ่ายค่าเทอมได้ใช้สถานที่จอดรถ จุดฝากรถราคาหลักสิบจึงเป็นทางเลือก เพราะอยู่ใกล้รั้วมหาวิทยาลัยเพียงแค่ข้ามถนน แม้จะไม่มีหลักคาไว้กันแดดกันฝนให้รถก็ไม่เป็นไร รถเธอแข็งแรง แต่แล้วข้าวปั้นก็เห็นข้อเสียของมันหลังจากกลับมาที่รถ “ฉิบหาย!” ใครจะคิดว่าคนสวยๆ แบบเธอจะสบถคำหยาบในที่สาธารณะได้ แต่ฉิบหายจริงๆ เพราะกระจกทึบประตูฝั่งคนขับถูกเปิดทิ้งไว้จนเกือบสุด เธอไม่ได้ลืมมันแน่ๆ เพราะปกติเปิดแอร์ขับรถ คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความตื่นตกใจ สิ่งแรกที่สังเกตเห็นคือโน้ตบุ๊กราคาหลักหมื่นหายไปจากเบาะข้างคนขับ “กรี๊ดดดด~!!!” เท่านั้นแหละนักศึกษาสาวแผดร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความโมโหทันที ในนั้นมีวิจัยที่ใช้ทำเป็นตัวจบอยู่ แถมกำหนดส่งคือเทอมนี้! เธอทุ่มเทชีวิตและเวลานอนในการอ่านหนังสือเกือบ

  • เกือบจะเป็นอดีตภรรยาของมาเฟีย   SPECIAL 5 | ตามหา

    ช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาข้าวปั้นใช้เวลาหลังเลิกเรียน หมดไปกับการตามหารุ่นพี่นักศึกษาปริญญาโทคนนั้นเพื่อคืนเงิน แม้จำนวนเงินจะเป็นเพียงสามร้อยกว่าบาท แต่เธอถือคติยืมเขามาก็ต้องคืน โชคร้ายมากที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาสักนิด แต่เขาหล่อและเป็นใบหน้าที่เธอลืมไม่ลง ต่อให้เห็นแค่เงาก็มั่นใจว่าจำเขาได้ “ไอ้ปั้น แกแน่ใจนะว่ารุ่นพี่คนนั้นแกเป็นคน” ลูกตาลเพื่อนสนิทเอ่ยถามด้วยความระแวง เนื่องจากตัวเธอเองก็ติดสอยห้อยตามช่วยเพื่อนตามหาผู้ชายที่มีลักษณะตามที่เพื่อนกล่าวอ้างมาเกือบสัปดาห์เช่นกัน อยู่มหาวิทยาลัยนี้มาจะสี่ปีเต็มยังไม่เคยเห็นผู้ชายร่วมคณะคนไหนจะตัวสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเลย แถมยังมาบอกว่าตัวหอม ผิวขาว แขนมีเส้นเลือดเซ็กซีๆ “คนสิ ผีอะไรจ่ายเงินได้” “อ้าว! แกไม่เคยฟังรายการพี่แจ็คเหรอ พี่เอาเงินจ่ายหนี้ ผีเอาเงินจ่ายค่าแท็กซี่” “ถ้าผีจะสภาพคล่องทางการเงินดีขนาดนั้น ฉันก็อยากเป็นผีบ้างเหมือนกัน” ข้าวปั้นเถียงเพื่อนด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง จนอีกฝ่ายกลอกตาใส่ด้วยความรำคาญ “อย่าม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status