เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ราวกับต้องการให้ทุกอย่างค่อยๆ ฟื้นตัวเองทีละเล็กทีละน้อย กนกเริ่มพูดมากขึ้น บางวันเด็กชายจะกลับมานั่งข้างเธอ แล้วเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เพชรรู้ดีว่า… มันคือพัฒนาการที่สำคัญ
"แม่ครับ วันนี้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ด้วยนะ"
"แม่ครับ วันนี้มีคนแกล้งเพื่อนผม ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี"
ทุกคำพูด ทุกการแบ่งปัน เพชรดีใจเสมอที่กนกมีเพื่อนคุย แม้ว่าลูกจะยังคงเงียบขรึมกว่าคนอื่น แต่เขาก็กำลังก้าวเดินต่อไปในแบบของตัวเองอย่างไรก็ตาม…
เขายังกลัว
เธอเองก็กลัวเช่นกัน
เธอกลัวว่า... ความทรงจำจะย้อนกลับมา แม้โรงเรียนของกนกจะอยู่ไม่ไกล ส่วนใหญ่เด็กในละแวกนี้จะเดินกลับบ้านด้วยกัน ผ่านเส้นทางที่ตัดผ่านสถานีอนามัยที่เธอทำงานอยู่แต่ระหว่างทางนั้น... กนกต้องเดินผ่านบ้านสวนมะพร้าวของแป้น แม้ว่าบ้านหลังนั้นก็แทบไม่มีใครอยู่ แต่มันยังคงเป็นสถานที่ที่บรรจุเรื่องราวที่พวกเขาพยายามลืม
ถ้ากนกมองมันเข้าไปล่ะ?
ถ้าสถานที่นั้นกระตุ้นความทรงจำที่ถูกกดไว้ล่ะ?
ถ้าลูกของเธอต้องกลับไปเผชิญกับอดีตอีกครั้งล่ะ?
เธอไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นจึงตัดสินใจ... รับส่งลูกเอง ทุกเช้า… เธอจะพาลูกไปโรงเรียน ทุกเย็น… เธอจะเป็นคนรอรับกลับ แม้ว่ามันจะเบียดเบียนเวลาทำงานของเธอ แต่เธอไม่สน เธอไม่ยอมให้กนกต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่อาจทำให้เขากลับไปเป็นเด็กที่หวาดกลัวอีกครั้ง
สองปีผ่านไป... กนกไม่ได้ไปหาหมอที่ในเมืองอีกเลย แต่พวกเขายังคงส่งบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของกนกให้คุณหมอเสมอ แพทย์จิตเวชเด็กเคยบอกไว้ว่า… "การฟื้นตัวของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน" หมอเพชรรู้ดีว่ากนกอาจจะไม่สามารถลืมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้… เขากำลังก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว และเธอจะอยู่ตรงนี้... เป็นร่มเงาให้ลูกชายได้พักใจเสมอ
วันนั้นเป็นวันที่อากาศแจ่มใส แสงแดดอ่อนโยนกว่าทุกวัน สถานีอนามัยเงียบสงบ มีเพียงเสียงใบไม้ไหวและเสียงเด็กๆ เล่นกันอยู่ไกลๆเพชรเข้างานตามปกติ จนกระทั่งเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นที่หน้าห้องตรวจ
“หมอเพชรสวัสดีค่ะ”
เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพบกับ แป้น… แม่ของภพ
เพชรนิ่งไปชั่วครู่ เธอไม่ได้เจอแป้นมาเป็นสิบปีแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าของเธอดูดีขึ้นกว่าที่เคยเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อสิบปีก่อน ใบหน้าสดใสขึ้น ท่าทางของเธอไม่ได้อ่อนล้าหรือแตกสลายเหมือนเมื่อก่อน แต่มันทำให้หมอเพชรรู้สึกประหลาดใจ
แป้นไม่ใช่แค่แวะมาทักทาย แต่เธอถือของฝากติดมือมาด้วยมากมาย
"เป็นไงบ้าง สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันเลย ดูสดชื่นขึ้นนะ" เพชรเอ่ยทัก
แป้นยิ้มบางๆ "ค่ะหมอ ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกการช่วยเหลือ และก็ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อมาเลยค่ะ"
"ไม่เป็นไร อะไรที่ช่วยได้ก็อยากช่วยแหละ ภพก็เหมือนลูกชายอีกคน"
ทันทีที่เอ่ยถึง ‘ภพ’ สีหน้าของแป้นเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เพชรชะงัก ใจเริ่มไม่ดี
"ภพ… สบายดีใช่ไหม?"
แป้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า "สบายดีค่ะ…"แต่รอยยิ้มของเธอไม่ได้สดใสเหมือนตอนแรก
"คุณหมอมีเวลาสักครู่ไหมคะ ดิฉันอยากคุยด้วยค่ะ"
เพชรพยักหน้า ก่อนพาแป้นไปที่ห้องด้านหลัง เธอไม่รู้ว่าแป้นต้องการพูดอะไร แต่บางอย่างในแววตาของแป้นบอกเธอว่า มันสำคัญ… และอาจเปลี่ยนอะไรบางอย่างในชีวิตของเธอไปตลอดกาล เธอแค่หวังว่า… มันจะไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้กนกต้องเจ็บปวดอีกครั้ง
แป้นนั่งตรงหน้าเธอ มือกำผ้าเช็ดหน้าจนแน่น ดวงตาแดงก่ำจากน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา แม้เวลาจะผ่านไปถึง 10 ปี แต่บาดแผลในใจก็ยังคงอยู่
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณเพชร ที่ดูแลทุกอย่างให้ หลังจากเราหายไปเกือบ 10 ปี"
หมอเพชรมองเธอด้วยความเข้าใจ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่เป็นไรหรอกแป้น มีอะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยๆ กัน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไปเสียก่อน"
คำพูดของเธอเรียกน้ำตาของแป้นให้ไหลออกมาอีกครั้ง ราวกับเป็นประโยคที่ปลดปล่อยความอัดอั้นในใจของผู้หญิงตรงหน้า
หมอเพชรเอื้อมมือหยิบทิชชูส่งให้แป้นอย่างเงียบๆ เธอเข้าใจดี...
10 ปีที่ผ่านมา... แป้นต้องแบกรับอะไรมามากมาย
เธอเป็นแม่ที่ต้องปกป้องลูกชายจากพ่อแท้ๆ ที่เกือบทำให้เขาตาย เธอเป็นภรรยาที่เพิ่งรู้ว่าคนที่เคยนอนข้างกันคือ อาชญากร ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเธอยังเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องสูญเสียสวนมะพร้าวเกือบทั้งผืนไปเพราะกลายเป็นหลักฐานในคดี
ผู้หญิงคนนี้... ต้องสู้มาตลอดโดยไม่มีใครคอยพยุง
หมอเพชรนั่งนิ่ง ไม่ได้พูดอะไร เพียงปล่อยให้แป้นได้ร้องไห้ในแบบที่เธอไม่เคยร้องต่อหน้าใคร
แป้นใช้หลังมือซับน้ำตา ก่อนถอนหายใจยาวๆ คล้ายจะพยายามกลืนความสะอื้นกลับลงไป
"หลังจากนี้ ฉันจะกลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะ"
หมอเพชรเงียบ ฟังสิ่งที่เธออยากบอกต่อ
"ช่วงเวลา 10 ปีในการรักษาภพ... เขาปลอดภัยดีค่ะ"
ได้ยินดังนั้น... หมอเพชรรู้สึกเหมือนมีบางอย่างหนักอึ้งหลุดออกจากอก
เด็กคนนั้น... อย่างน้อยเขาก็ปลอดภัย
แป้นยังคงพูดต่อ น้ำเสียงสั่นเครือ "แต่ก็ใช้เงินสูงมาก แล้วก็ใช้เวลานานมากค่ะ..."
หมอเพชรพยักหน้าเบาๆ เธอเข้าใจดี... การรักษาอาการบาดเจ็บจากความรุนแรงนั้นไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่มันหมายถึงจิตใจที่ต้องเยียวยาด้วย
"เมื่อพาไปโรงพยาบาลในเมือง... หมอบอกว่ากระดูกใบหน้าของภพแตก และต้องผ่าตัดด่วน"
เสียงของแป้นขาดหายไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะปล่อยสะอื้นออกมาอีกครั้ง
"ฉันรู้สึกเหมือนแตกร้าว... และสงสารลูกมากค่ะ"
หมอเพชรมองเธอด้วยความเห็นใจสุดหัวใจ เธอเองก็เคยสัมผัสความเจ็บปวดของคนเป็นแม่ที่ต้องเฝ้ามองลูกทรมาน แต่สำหรับแป้น... มันคงหนักหนายิ่งกว่าหลายเท่า
ภพ… เด็กชายอายุ 13 ในวันนั้น เขากลายเป็นเด็กแบบไหนกันนะ? เขาเติบโตขึ้นมาอย่างไร? เขาจำเรื่องราวในอดีตได้มากน้อยแค่ไหน? และวันนี้... เขาใช้ชีวิตแบบไหน? หมอเพชรไม่แน่ใจว่าเธอพร้อมจะได้ยินคำตอบหรือเปล่า... แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจคือ เธอไม่อยากให้กนกต้องเจ็บปวดจากอดีตอีกครั้ง
การกลับมาเรียนในวัย 24 ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีอายุมากที่สุดในรุ่น ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 4 อายุของเขาก็เกือบ 30 เพื่อนร่วมคณะหลายคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เขามีโลกของตัวเองและมีงานที่ต้องรับผิดชอบ จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในคณะจางลงตามเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพบรัก เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตั้งใจไปมหาวิทยาลัยทุกวัน ไม่ใช่เพื่อนในรุ่น แต่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เลยว่ากำลังถูกเฝ้ามองอยู่เขาเห็นกนกเติบโตขึ้นทุกวัน จากเด็กชายตัวน้อยที่เคยซ่อนตัวอยู่ในโลกของตัวเอง กลายเป็นนักศึกษาที่เริ่มเปิดรับโลกภายนอก แม้จะยังคงมีความเงียบขรึม มีพื้นที่ของตัวเองที่ไม่มีใครล่วงล้ำเข้าไปได้ แต่ทุกครั้งที่เห็นกนกมีรอยยิ้ม เล่นสนุกกับเพื่อนสนิทอีกสองคน พบรักกลับรู้สึกอุ่นใจ เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่รีบร้อน ไม่ต้องการรบกวนชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ในใจของเขากนกไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเติบโต ความอ่อนโยนและเสน่ห์บางอย่างของเด็กหนุ่มก็ฉายชัดขึ้น จนทำให้พบรักเผลอหลงใหลโดยไม่รู้ต
"น้า… น้าไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไง" น้ำเสียงของเธอสั่นไหว "ความทรงจำในอดีต… มันทำร้ายกนก"เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความรู้สึก "น้ากับสามีพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเป็นปกติ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีวันเหมือนเดิม… น้าไม่อยากให้กนกต้องเจอกับสิ่งที่อาจกระตุ้นความทรงจำเหล่านั้นอีก"ภพรักกำมือแน่น เขารู้ว่าเธอไม่เชื่อใจเขา… และเขาก็เข้าใจ"แต่ผมอยากสัญญาด้วยความบริสุทธิ์ใจ" เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววแน่วแน่ "ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์… ผมจะไม่ทำให้น้องเจ็บปวด"เพชรมองเด็กหนุ่มตรงหน้า เด็กชายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่นของกนก… ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมากแล้ว แล้วแววตาคู่นั้นก็สะท้อนถึงความชัดเจบางอย่าง แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจ เธอไม่ได้ตอบรับทันที แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดวงตาของเธอสะท้อนถึงความลังเลและความรักที่มีต่อลูก"น้าไม่อยากให้กนกต้องเจ็บปวดอีก…" เสียงของเธอเบาหวิว "น้าไม่อยากให้ลูกของน้าต้องรับภาระอะไรไปมากกว่านี้ ให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเอง"ภพรักพยักหน้าช้า ๆ เขาเข้าใจความกังวลของคุณเพชรดี"แ
ลมยามเช้าพัดผ่านใบมะพร้าว แสงแดดสีอ่อนตกกระทบผิวของภพขณะที่เขายืนมองสวนกว้างเบื้องหน้า ต้นมะพร้าวเหล่านี้… ยังคงยืนต้นแข็งแรงเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่เจ้าของสวนกลับไม่ใช่เด็กชายวัยสิบสามอีกต่อไป เขากลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตจากบาดแผลในอดีตแป้นเฝ้ามองลูกชายเธอเงียบๆ ตั้งแต่เขากลับมา เขาเปลี่ยนไปมาก ภพไม่ได้เป็นเด็กที่พูดเก่งเหมือนเมื่อก่อน เขาเงียบขึ้น ละเมียดละไมกับความคิดของตัวเอง และเลือกที่จะไตร่ตรองทุกอย่างก่อนพูด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานแบบ Work from Home หรือบางวันก็มาช่วยแม่ดูแลสวน แต่แป้นรู้… ว่าในดวงตาของลูกชาย ยังมีบางอย่างที่ค้างคาใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง…"ผมคิดว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไทยครับแม่"แป้นเงยหน้าขึ้นจากตะกร้ามะพร้าวที่กำลังคัดแยก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางมือลง"ลูกจะไหวเหรอ ทั้งเรียนแล้วก็ทำงาน?"ภพนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ"ผมอยากเรียนเพิ่มเติมครับ และเก็บเงินไปด้วย" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ถ้าผมมีงานเพิ่มข
ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล
แป้นกลับมาหาหมอเพชรอีกครั้งในวันถัดมา สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าครั้งก่อน ราวกับต้องการบอกอะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่"คุณเพชรคะ ฉันอยากขอคุยด้วยอีกหน่อย" หมอเพชรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงลังเลและความหนักใจเธอพยักหน้าให้แป้นนั่งลง รอให้เธอพูดในเวลาที่พร้อมสีหน้าของแป้นฉายความกังวลจนเด่นชัดแต่ก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา"พอดีว่าที่ฉันมาหาคุณเพชรครั้งนี้... ก็เพราะภพนั่นแหละค่ะ"หมอเพชรชะงัก มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่นโดยไม่รู้ตัว"ภพเหรอ?" เธอถามกลับด้วยสีหน้าเริ่มตึงเครียด"ค่ะ ตอนนี้ภพกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่""ภพเรียนจบเร็วมากค่ะ""ช่วงสามปีที่รักษาตัว เขาใช้เวลาทุกวันดูแลตัวเองให้หายดี และหลังจากนั้น... เขาก็เข้าเรียน High School ที่สหรัฐฯ และจบเร็วกว่ากำหนด" หมอเพชรพยักหน้าเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชายคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็งได้ขนาดนี้"แล้วเขาไม่เรียนต่อมหาวิท
“ป้าๆ ของภพเข้ามาช่วยดูแลค่ะ”เสียงของแป้นยังสั่นเครือ ขณะที่เธอเล่าถึงช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิต"ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูงมากค่ะ ทั้งต้องทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเพราะกระดูกผิดรูป แล้วยังต้องเยียวยาจิตใจของภพ ทั้งช่วงรักษาและหลังการรักษา ใช้เวลาเกือบสามปีเลยค่ะ"สามปี... ที่ต้องดูแลบาดแผลทั้งภายนอกและภายใน"ฉันเจ็บจนปวดใจตอนที่ลูกฟื้นขึ้นมา แต่ใบหน้าเขาบูดเบี้ยว เป็นแผล และพูดไม่ได้"เสียงของแป้นแผ่วลง ราวกับกำลังย้อนกลับไปในความทรงจำที่เธออยากลืมมากที่สุด"แต่เด็กคนนี้เข้มแข็งและอดทนมาก เขาไม่ร้องไห้เลย พยายามฝืนยิ้มและให้กำลังใจฉันตลอด"หมอเพชรนิ่งฟัง หัวใจหนักอึ้งภพ... ต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนกันนะ ถึงเลือกจะไม่ร้องไห้?การไม่ร้องไห้… ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บปวด แต่มันอาจหมายความว่าเขา เจ็บปวดเกินกว่าที่จะร้องออกมาได้"ญาติฝั่งพ่อเขา... โกรธมากเมื่อรู้ว่าพ่อภพค้ายา และทำร้ายลูกตัวเอง" แป้นพูดช้าๆ ดวงตาว่างเปล่า ราวกับย้อนกลับไปอยู่ในอดีตที่เธอพยายามหนีมา "พวกเขาขอเป็นเจ้าของไข