หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพัง
และยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวัน
วันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไป
แต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINE
พี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”
กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”
พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”
กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับ
กนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”
พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”
กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”
พี่ภพ: “ครับ”
กนก: “เหนื่อยแย่เลย”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนข้อความใหม่จะเด้งขึ้นมา
พี่ภพ: “อยากได้กำลังใจจากใครสักคน”
กนกชะงัก มือที่จับหนังสืออยู่เกร็งขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกหน้าร้อนขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
กนก: “กำลังใจแบบไหนดีครับ”
พี่ภพ: “เปิดกล้องได้ไหมครับ อยากเห็นหน้าคนดีของพี่”
กนกรีบสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะใจมันเต้นโครมครามไปหมด ในที่สุดเขาก็กดเปิดกล้อง
หน้าจอสะท้อนภาพของกนกที่สวมชุดนอนสีเหลืองอ่อน ชุดโปรดที่แม่ซื้อให้ ใส่เฉพาะเวลานอนที่บ้าน
ทันทีที่พี่ภพเห็นก็หัวเราะเบา ๆ
“ชุดนอนน่ารักจังเลยครับ”
กนกหน้าแดงวาบ รู้สึกอายจนต้องยกมือขึ้นปิดหน้าครึ่งหนึ่ง
“แม่ซื้อให้นะครับ ใส่แค่ที่บ้านเท่านั้นแหละ”
“งั้นพี่ก็เป็นคนโชคดีสิ ที่ได้เห็นกนกใส่ชุดนอนน่ารักขนาดนี้”
“พี่ภพชมผมตลอดเลย… ผมเขินนะครับ”
“ก็ชมให้เขินไง จะได้รู้ว่าพี่ชอบกนกมากขนาดไหน”
หัวใจของกนกเต้นแรงเหมือนกลองชุด ถูกตีซ้ำ ๆ จนเขาแทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ นี่เขากำลังถูกจีบอยู่ใช่ไหม…
“พี่ภพจะทำงานอีกนานไหมครับ นี่ก็ดึกแล้วนะ”
“อีกแป๊บเดียวครับ แต่พี่อยากมีใครสักคนเป็นเพื่อน”
“อยู่คนเดียวก็เหงาสินะ”
“เหงาครับ ก็เลยโทรหาคนดีของพี่”
กนกแทบจะกัดริมฝีปากตัวเอง จะหวานไปถึงไหน!
“แล้วผมช่วยอะไรได้ครับ ผมไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ขนาดเรียนยังแทบจะสมองระเบิด”
“แค่กนกเปิดกล้องพี่ก็ดีใจแล้ว”
“งั้น… ผมต้องทำยังไงต่อครับ”
“เปิดกล้องไปเรื่อย ๆ จนกว่าพี่จะหลับได้ไหม ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แค่อยู่ด้วยกัน”
กนกกัดริมฝีปาก เขินจนแทบจะแทรกเตียงหนี
“…ผมก็เขินแย่นะสิ”
“นะ… นะครับ คนดีของพี่”
เขาหลับตาปี๋ ทำไมพี่ภพต้องพูดอะไรแบบนี้!
สุดท้ายก็ยอมแพ้ หยิบหนังสือนิยายขึ้นมาแล้วบอกเสียงแผ่ว
“ก็ได้ครับ ผมจะอ่านหนังสือไปด้วยนะ”
“ได้เลย แค่ได้เห็นหน้ากนก พี่ก็มีกำลังใจแล้ว”
กนกจัดโทรศัพท์ให้อยู่ในมุมที่กล้องยังคงเห็นใบหน้าเขา ก่อนจะเอนตัวลงกับหมอนแล้วเปิดหนังสืออ่านเงียบ ๆ
ขณะที่พี่ภพนั่งพิมพ์งานอยู่ฝั่งตรงข้ามของหน้าจอ เสียงคีย์บอร์ดดังสม่ำเสมอ บรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีบทสนทนา แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อบอุ่น
จนกระทั่งใกล้ห้าทุ่ม กนกเผลอหลับตาลงด้วยความง่วง แล้วก็พึมพำออกมาเบา ๆ
“พี่ภพ… กนกง่วงแล้วนะ”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงทุ้มจะดังขึ้นอย่างอ่อนโยน
“นอนเถอะครับ กนกนอนก่อนได้เลย”
“…ฝันดีครับ คนดีของพี่”
เสียงเรียกแบบนั้นทำให้กนกรู้สึกเหมือนโดนห่มผ้าให้ทั้งตัว ทั้งที่อยู่กันคนละที่
ก่อนที่สติจะเลือนหายไป เขาแอบชำเลืองมองหน้าจออีกครั้ง เห็นพี่ภพยังคงพิมพ์งานอยู่ใต้แสงไฟสลัว ร่างสูงจดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ มือขยับเมาส์เป็นจังหวะ
พี่ภพคงจะเหนื่อยมาก ทั้งเรียน ทั้งทำงาน
กนกเม้มริมฝีปาก อยากให้กำลังใจบ้าง… แต่ตอนนี้ร่างกายง่วงจนขยับไม่ไหวแล้ว
เขาหลับตาลง พร้อมกับความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่เต็มอก
"ฝันดีนะครับ พี่ภพ"
และเข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยมีเสียงพิมพ์งานของพี่ภพเป็นเสียงกล่อมตลอดคืน
บรรยากาศในห้องเงียบสงบ แสงไฟจากโคมข้างเตียงส่องกระทบหน้าหนังสือนิยายที่กนกถือไว้ เขานอนเอนตัวอย่างสบาย ๆ บนเตียง ขณะที่หน้าจอโทรศัพท์ตั้งอยู่ข้าง ๆ แสดงภาพของพบรักที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน เสียงแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
กนกแอบเหลือบตามองพี่ภพผ่านหน้าจออยู่บ่อยครั้ง ใบหน้าของพี่ชายข้างบ้านเต็มไปด้วยความตั้งใจ แม้จะดูเคร่งเครียด แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
“แต่กนกรู้สึกง่วงแล้วนะครับ พี่ภพ”
เขาพูดออกไปเบา ๆ พลางขยับตัวซุกเข้ากับหมอนมากขึ้น
พบรักละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะเงยหน้ามองกนกผ่านกล้อง รอยยิ้มอ่อนโยนแต้มที่มุมปาก
“งั้นกนกนอนก่อนได้เลยครับ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ฝันดีนะครับ คนดีของพี่”
กนกเม้มริมฝีปากเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่พี่ภพพูดคำหวาน ๆ แบบนี้ เขาก็มักจะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะละลายไปกับบรรยากาศ
“ฝันดีครับ พี่ภพ”
เขาตอบกลับเบา ๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคง ปล่อยให้เปลือกตาหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อย ๆ ปิดลง
เสียงแป้นพิมพ์ยังคงดังอยู่ไกล ๆ ในหูของเขา แต่เพียงไม่นานทุกอย่างก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
สุดท้ายกนกก็หลับไปพร้อมกับภาพของพบรักที่ยังคงตั้งใจทำงานอยู่ตรงนั้น…
อบอุ่นและมั่นคง เหมือนเดิมเสมอ
ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้
"อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ
หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”
เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน
เพชรนิ่งฟังคำพูดของพบรัก แววตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและห่วงใย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของเขามีเหตุผลภพรักในวันนี้ไม่ใช่เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่เธอเคยเห็นเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกแล้ว เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจตัวเองและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีต แม้จะเจ็บปวด แม้จะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ด้วยความหวังที่ว่าเขาจะช่วยกนกได้ตุ๊กตาหมีสีเหลืองในมือของพบรักเป็นเหมือนตัวแทนของอดีตที่เขาและกนกเคยมีร่วมกัน เพชรลูบมันเบา ๆ ปลายนิ้วสัมผัสเนื้อผ้าหม่นหมองที่ผ่านกาลเวลา แต่มันก็ยังคงอยู่เธอถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะเงยหน้ามองพบรัก"น้าเข้าใจว่าภพรักต้องผ่านอะไรมาบ้าง และน้าก็รู้ว่ากนกเองก็ยังคงมีบางอย่างที่ค้างคาในใจ... บางที การได้เจอภพรัก อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องกล้าเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองเหมือนกัน"พบรักมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่เขาก็รู้ดีว่าความไว้วางใจไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับมาโดยง่าย"แต่..." เพชรพูดต่อ "น้าขอแค่อย่างเดียว อย่าทำให้น้องต้องเจ็บปวดอีก"ภพรักยิ้มบาง ๆ เขารู้ดีว่าเส้นทา
พี่ภพขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของกนก หลังจากส่งพราวและมิวเสร็จเรียบร้อยแล้วกนกแทบไม่รอให้รถจอดสนิทดี เขารีบเปิดประตูแล้ววิ่งพุ่งเข้าไปหาแม่ทันที"โถลูก… อย่าวิ่งเร็ว เดี๋ยวล้มนะ"เสียงของแม่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อ้าแขนรับกอดลูกชายของเธอไว้แน่นกนกฝังหน้าลงกับไหล่ของแม่ สูดกลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับจะซึมซับความอบอุ่นให้เต็มหัวใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นนานแค่ไหน แต่ในอ้อมกอดของแม่ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยเหมือนค่อย ๆ คลี่คลายแม่ลูบหลังเขาเบา ๆ "เป็นไงบ้างครับ ปิดเทอมจบปีหนึ่งแล้ว เด็กน้อยของแม่"กนกเงยหน้าขึ้น หัวเราะเบา ๆ แต่ดวงตายังคงฉายแววอ่อนล้า "คิดถึงแม่มากเลยครับ คิดถึงพ่อด้วย เหนื่อยมากเลย ทำไมชีวิตมหา’ ลัยเหนื่อยขนาดนี้""ออกมาอยู่บ้านไหมลูก เครียดหรือเปล่า?"กนกหัวเราะกับคำพูดของแม่ เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้เขาต้องเครียดหรือกดดันกับชีวิตในมหาวิทยาลัยก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปเรียนต่อ แม่เคยบอกเสมอว่า "ถ้าเหนื่อยหรือเครียดเกินไป กลับมานะ มาอยู่กับ