Share

เติบโตใหม่

last update Last Updated: 2025-05-20 18:30:24

สิบกว่าปีผ่านไป ชีวิตของกนกค่อย ๆ ดีขึ้น เขาเติบโตมาพร้อมกับหนังสือที่กลายเป็นเพื่อนแท้ เป็นที่หลบภัย และเป็นโลกทั้งใบของเขา หมอเพชรยังคงยืนยันเสมอว่า การเรียนไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูก หากแต่เป็นสุขภาพใจ "การเรียนของลูกช้ากว่าเพื่อนก็ไม่เป็นไรนะ กนก เราใช้เวลาของเราได้เต็มที่" คำพูดของพ่อทำให้กนกรู้สึกอุ่นใจ แม้จะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่เขาจะค่อย ๆ เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ

การเรียนแบบโฮมสคูลทำให้กนกมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น แม้จะไม่ได้เข้าสังคมเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แต่ก็ทำให้เขาได้ค้นพบว่าตัวเองรักอะไร เขาชอบอ่านนิยายของแม่ และสนใจประวัติศาสตร์กับสารคดีของพ่อ ทุกอย่างซึมซับเข้ามาในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว เด็กชายตัวเล็กที่เคยหลบซ่อนตัวเองในเงามืด เริ่มมีแววตาที่สดใสขึ้น

จนกระทั่งอายุ 17 ปี กนกก็เอ่ยปากกับแม่เป็นครั้งแรกถึงเรื่องการเข้าเรียนในโรงเรียนจริง

"แม่ครับ..." เสียงของเขาเบาแต่มั่นคง "ผมอยากลองไปโรงเรียนดู"

หมอเพชรที่กำลังอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้น นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มอ่อนโยน "แน่ใจแล้วเหรอลูก?"

กนกพยักหน้า แม้ในใจยังมีความกังวล

"ถ้าไม่ไหว กลับมาเรียนที่บ้านเหมือนเดิมก็ได้นะ" แม่แตะไหล่เบา ๆ "แต่ถ้าลูกอยากลอง แม่ก็อยากให้ลอง"

กนกเผลอกำมือแน่น ใจเต้นแรงกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำโลกภายนอกอาจจะยังดูน่ากลัวอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็น่าสำรวจไม่แพ้กัน…

พอกนกได้ลองเข้าไปเรียนในโรงเรียนจริง ๆ ช่วงแรกเขารู้สึกไม่คุ้นชินกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงดัง และกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม มันแตกต่างจากโลกเงียบสงบของเขาที่บ้านโดยสิ้นเชิง กนกพยายามปรับตัว แม้จะยังไม่กล้าเริ่มบทสนทนากับใครก่อน แต่เขาก็ไม่ได้หลบสายตาหรือหลีกเลี่ยงคนอื่นเหมือนเมื่อก่อน

หนังสือยังคงเป็นที่พึ่งของเขาเสมอ หลังเลิกเรียน กนกมักจะตรงไปที่ห้องสมุด นั่งอ่านนิยายเงียบ ๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องมาเตือนให้กลับบ้าน ช่วงเวลาเหล่านั้นช่วยให้เขาผ่อนคลายและค่อย ๆ เปิดใจให้กับผู้คนรอบข้างทีละนิด

กระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่กนกกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็มานั่งลงตรงข้ามเขา

"นายอ่านอะไรน่ะ?" กนกเงยหน้าขึ้น มองเพื่อนใหม่ที่มีรอยยิ้มเป็นมิตร เขาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหันหนังสือให้ดู

"อ๋อ เรื่องนี้เอง เราก็เคยอ่านนะ สนุกดี"กนกไม่ได้ตอบอะไร แต่รู้สึกแปลกใหม่กับความรู้สึกนี้การที่มีคนมาสนใจสิ่งที่เขาชอบโดยที่ไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าหาใครก่อนและนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กนกเรียนรู้ว่า

ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่โรงเรียนเป็นครั้งแรก กนกรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง โลกที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ และความวุ่นวายที่เขาไม่คุ้นเคย มันแตกต่างจากบรรยากาศสงบที่บ้านอย่างสิ้นเชิงแม้จะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่กนกก็พยายามไม่หลบสายตาหรือเดินหนีเมื่อมีคนเดินผ่าน เขาเพียงแค่ทำตัวเงียบ ๆ ค่อย ๆ ก้าวไปตามเส้นทางของตัวเองโดยไม่รบกวนใคร

หนังสือ ยังคงเป็นที่พึ่งของเขาเสมอ ทุกครั้งที่เสียงรอบข้างเริ่มดังจนเกินไป กนกจะเดินตรงไปที่ห้องสมุด เลือกมุมเงียบ ๆ ใกล้หน้าต่างแล้วจมอยู่กับตัวหนังสือ โลกของตัวละครช่วยให้เขาผ่อนคลาย และอย่างน้อย...มันก็ไม่บังคับให้เขาต้องพูดคุยกับใคร

แต่ในวันหนึ่ง ความเงียบที่เขาคุ้นเคยก็ถูกแทรกแซงด้วยเสียงใส ๆ ที่ดังขึ้นตรงหน้า

"นายอ่านอะไรอยู่น่ะ?"

กนกเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เด็กสาวในชุดนักเรียนกำลังยิ้มให้เขา ดวงตาของเธอเป็นประกายเหมือนแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า กนกไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงเพียงแต่ยกหนังสือขึ้นให้เธอดู

"อ๋อ เรื่องนี้เอง เราก็เคยอ่านนะ" เธอว่า พลางทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามเขา "สนุกใช่ไหม?"

กนกกระพริบตา มองเด็กสาวที่ไม่ได้มีท่าทีรุกล้ำจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้มีช่องว่างให้เขาหลบหนีเหมือนที่เคยทำกับคนอื่น เขาพยายามนึกถึงบทสนทนาที่เคยอ่านจากหนังสือ ว่าคนเราควรโต้ตอบกันยังไงแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่พึมพำเสียงเบา

"อืม..."

เธอหัวเราะนิด ๆ เหมือนเอ็นดู "เราเป็นหัวหน้าห้อง ชื่อพราวนะ อยู่ ม.4 นายล่ะ?"

"อ่า...กนก"

"น่ารักดีนะ ชื่อน่ะ" พราวพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาของเธอยังคงเป็นมิตรเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีเย้ยหยันหรือจ้องมองเขาเหมือนคนแปลกประหลาด กนกกำมือเข้าหากันใต้โต๊ะ รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

"เราเห็นตั้งแต่วันแรกแล้วว่าเป็นเด็กใหม่ ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามเราได้นะ" พราวพูดต่ออย่างเป็นธรรมชาติ "เราก็ชอบมาห้องสมุดเหมือนกัน ที่นี่เงียบดีเนอะ" กนกพยักหน้าเบา ๆ

"โอเค งั้นไม่กวนแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะ กนก" เด็กสาวยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้กนกนั่งอยู่ตรงนั้น มองตามแผ่นหลังของเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดคุยกับใครสักคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ หรือหมอ และแปลกดี...ที่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัวเหมือนอย่างที่คิดไว้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   แค่นี้

    การกลับมาเรียนในวัย 24 ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีอายุมากที่สุดในรุ่น ยิ่งเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 4 อายุของเขาก็เกือบ 30 เพื่อนร่วมคณะหลายคนจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เขามีโลกของตัวเองและมีงานที่ต้องรับผิดชอบ จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนในคณะจางลงตามเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพบรัก เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตั้งใจไปมหาวิทยาลัยทุกวัน ไม่ใช่เพื่อนในรุ่น แต่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เลยว่ากำลังถูกเฝ้ามองอยู่เขาเห็นกนกเติบโตขึ้นทุกวัน จากเด็กชายตัวน้อยที่เคยซ่อนตัวอยู่ในโลกของตัวเอง กลายเป็นนักศึกษาที่เริ่มเปิดรับโลกภายนอก แม้จะยังคงมีความเงียบขรึม มีพื้นที่ของตัวเองที่ไม่มีใครล่วงล้ำเข้าไปได้ แต่ทุกครั้งที่เห็นกนกมีรอยยิ้ม เล่นสนุกกับเพื่อนสนิทอีกสองคน พบรักกลับรู้สึกอุ่นใจ เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่รีบร้อน ไม่ต้องการรบกวนชีวิตของอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ ในใจของเขากนกไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ยิ่งเติบโต ความอ่อนโยนและเสน่ห์บางอย่างของเด็กหนุ่มก็ฉายชัดขึ้น จนทำให้พบรักเผลอหลงใหลโดยไม่รู้ต

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ตัดสินใจกับเขา

    "น้า… น้าไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไง" น้ำเสียงของเธอสั่นไหว "ความทรงจำในอดีต… มันทำร้ายกนก"เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับความรู้สึก "น้ากับสามีพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเป็นปกติ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีวันเหมือนเดิม… น้าไม่อยากให้กนกต้องเจอกับสิ่งที่อาจกระตุ้นความทรงจำเหล่านั้นอีก"ภพรักกำมือแน่น เขารู้ว่าเธอไม่เชื่อใจเขา… และเขาก็เข้าใจ"แต่ผมอยากสัญญาด้วยความบริสุทธิ์ใจ" เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาฉายแววแน่วแน่ "ขอโอกาสให้ผมได้พิสูจน์… ผมจะไม่ทำให้น้องเจ็บปวด"เพชรมองเด็กหนุ่มตรงหน้า เด็กชายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่นของกนก… ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมากแล้ว แล้วแววตาคู่นั้นก็สะท้อนถึงความชัดเจบางอย่าง แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจ เธอไม่ได้ตอบรับทันที แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดวงตาของเธอสะท้อนถึงความลังเลและความรักที่มีต่อลูก"น้าไม่อยากให้กนกต้องเจ็บปวดอีก…" เสียงของเธอเบาหวิว "น้าไม่อยากให้ลูกของน้าต้องรับภาระอะไรไปมากกว่านี้ ให้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเอง"ภพรักพยักหน้าช้า ๆ เขาเข้าใจความกังวลของคุณเพชรดี"แ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อยากดูแล

    ลมยามเช้าพัดผ่านใบมะพร้าว แสงแดดสีอ่อนตกกระทบผิวของภพขณะที่เขายืนมองสวนกว้างเบื้องหน้า ต้นมะพร้าวเหล่านี้… ยังคงยืนต้นแข็งแรงเหมือนเมื่อสิบปีก่อน แต่เจ้าของสวนกลับไม่ใช่เด็กชายวัยสิบสามอีกต่อไป เขากลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตจากบาดแผลในอดีตแป้นเฝ้ามองลูกชายเธอเงียบๆ ตั้งแต่เขากลับมา เขาเปลี่ยนไปมาก ภพไม่ได้เป็นเด็กที่พูดเก่งเหมือนเมื่อก่อน เขาเงียบขึ้น ละเมียดละไมกับความคิดของตัวเอง และเลือกที่จะไตร่ตรองทุกอย่างก่อนพูด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคอมพิวเตอร์ นั่งทำงานแบบ Work from Home หรือบางวันก็มาช่วยแม่ดูแลสวน แต่แป้นรู้… ว่าในดวงตาของลูกชาย ยังมีบางอย่างที่ค้างคาใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง…"ผมคิดว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่ไทยครับแม่"แป้นเงยหน้าขึ้นจากตะกร้ามะพร้าวที่กำลังคัดแยก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางมือลง"ลูกจะไหวเหรอ ทั้งเรียนแล้วก็ทำงาน?"ภพนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ"ผมอยากเรียนเพิ่มเติมครับ และเก็บเงินไปด้วย" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง ถ้าผมมีงานเพิ่มข

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   แตกสลายโดยสมบูรณ์

    ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความชัดเจนในใจ

    แป้นกลับมาหาหมอเพชรอีกครั้งในวันถัดมา สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าครั้งก่อน ราวกับต้องการบอกอะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่"คุณเพชรคะ ฉันอยากขอคุยด้วยอีกหน่อย" หมอเพชรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้า สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงลังเลและความหนักใจเธอพยักหน้าให้แป้นนั่งลง รอให้เธอพูดในเวลาที่พร้อมสีหน้าของแป้นฉายความกังวลจนเด่นชัดแต่ก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา"พอดีว่าที่ฉันมาหาคุณเพชรครั้งนี้... ก็เพราะภพนั่นแหละค่ะ"หมอเพชรชะงัก มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่นโดยไม่รู้ตัว"ภพเหรอ?" เธอถามกลับด้วยสีหน้าเริ่มตึงเครียด"ค่ะ ตอนนี้ภพกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่""ภพเรียนจบเร็วมากค่ะ""ช่วงสามปีที่รักษาตัว เขาใช้เวลาทุกวันดูแลตัวเองให้หายดี และหลังจากนั้น... เขาก็เข้าเรียน High School ที่สหรัฐฯ และจบเร็วกว่ากำหนด" หมอเพชรพยักหน้าเบาๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชายคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็งได้ขนาดนี้"แล้วเขาไม่เรียนต่อมหาวิท

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เรื่องราวของภพ

    “ป้าๆ ของภพเข้ามาช่วยดูแลค่ะ”เสียงของแป้นยังสั่นเครือ ขณะที่เธอเล่าถึงช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิต"ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสูงมากค่ะ ทั้งต้องทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเพราะกระดูกผิดรูป แล้วยังต้องเยียวยาจิตใจของภพ ทั้งช่วงรักษาและหลังการรักษา ใช้เวลาเกือบสามปีเลยค่ะ"สามปี... ที่ต้องดูแลบาดแผลทั้งภายนอกและภายใน"ฉันเจ็บจนปวดใจตอนที่ลูกฟื้นขึ้นมา แต่ใบหน้าเขาบูดเบี้ยว เป็นแผล และพูดไม่ได้"เสียงของแป้นแผ่วลง ราวกับกำลังย้อนกลับไปในความทรงจำที่เธออยากลืมมากที่สุด"แต่เด็กคนนี้เข้มแข็งและอดทนมาก เขาไม่ร้องไห้เลย พยายามฝืนยิ้มและให้กำลังใจฉันตลอด"หมอเพชรนิ่งฟัง หัวใจหนักอึ้งภพ... ต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนกันนะ ถึงเลือกจะไม่ร้องไห้?การไม่ร้องไห้… ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บปวด แต่มันอาจหมายความว่าเขา เจ็บปวดเกินกว่าที่จะร้องออกมาได้"ญาติฝั่งพ่อเขา... โกรธมากเมื่อรู้ว่าพ่อภพค้ายา และทำร้ายลูกตัวเอง" แป้นพูดช้าๆ ดวงตาว่างเปล่า ราวกับย้อนกลับไปอยู่ในอดีตที่เธอพยายามหนีมา "พวกเขาขอเป็นเจ้าของไข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status