การทำงานโครงการวิจัยร่วมกัน ณ หน้าห้องทดลองของคณะวิทยาศาสตร์
พีท มักจะนัดทำงานร่วมกับอันนา ในตอนเย็นๆ ที่คนไม่พลุกพล่าน และไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตาของใคร ระหว่างที่ขึ้นมายังห้องทดลอง เขามักจะใส่หมวกอำพรางเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากนัก
และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่พวกเขาได้ทำงานร่วมกัน และรู้จักกันมากขึ้น แต่สถานการณ์การเจอกันแต่ละครั้งเหมือนอยู่ในสมรภูมิอารมณ์ ที่มีชายหนุ่มหน้าหล่อคอยก่อกวน
“วันนี้เราทำบทไหนต่อนะ… เธอลองอธิบายให้ฉันฟังที” พีท พูดขึ้น ขณะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาเป็นประกายซุกซนกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่เป้าหมาย—หญิงสาวใส่แว่นเจ้าประจำที่มักจะบ่นเขาเสมอ
“ปกติ นายชอบไปนั่งมองสาวๆ ตามคณะอื่นใช่ไหมล่ะ เลยไม่ค่อยมีเวลาทบทวนรายละเอียดของโครงการวิจัยเลย!!! ” อันนาเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้ามอง ขณะที่เธอกำลังก้มหยิบของบนพื้น
พีท ยิ้มบางๆ กับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ โต๊ะของเธอ “โห หาว่าฉันเจ้าชู้อีก? นี่ฉันตั้งใจมาทำงานนะ”
อันนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาผ่านกรอบแว่น “งั้นเหรอ? ก็ลองดูว่าคราวนี้นายจะตั้งใจได้นานแค่ไหน”
"ถ้า….ฉันตั้งใจมองเธอมากกกว่าละ" พีท พูดออกมาพร้อมสายตาที่มองมายัง อันนา แบบหวานเยิ้มเหมือนจะแกล้งแหย่เธอให้คล้อยตามคำพูดที่เขาพูด
อันนา ได้ฟังก็หูและหน้าแดง ไม่พูดอะไร แล้วรีบเดินไปหยิบเอกสารและรีบเตรียมของที่จะต้องทำโครงการวิจัย
การทำงานผ่านไปอย่างไม่ราบรื่นเลยสักนิด อันนา
ชอบทำงานอย่างเป็นระบบ วางแผนล่วงหน้า และคำนวณอย่างรอบคอบ ส่วน พีท ชอบ "ลองก่อน ค่อยว่ากัน" วิธีการทำงานที่แตกต่างกันสุดขั้วทำให้ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกันตั้งแต่วันแรก
"นี่นายจะทำอะไร!" อันนา ถามเสียงแข็ง เมื่อเห็น พีทหยิบลวดทองแดงมาต่อวงจรไฟฟ้าโดยไม่ได้ตรวจสอบค่าแรงดันไฟฟ้าก่อน
พีท ยักไหล่ "ก็ลองดูน่ะสิ บางทีการทดลองก็ต้องมีความเสี่ยงบ้าง"
"ถ้านายต่อผิด ไฟอาจช็อตได้เลยนะ!" อันนา ถลึงดวงตากลมโต ผ่านแว่นตาใส่เขา แต่ พีท กลับหัวเราะ
"เธอนี่เหมือนหนังสือเรียนเดินได้เลยนะ เคยลองทำอะไรโดยไม่คิดมากบ้างไหม? " เขายิ้มขี้เล่น
แต่ อันนา ไม่ขำด้วย เธอคว้าลวดจากมือเขาแล้วเริ่มวัดค่าแรงดันด้วยเครื่องมืออย่างระมัดระวัง
พีท พิงโต๊ะแล้วมองเธอทำงาน "ฉันว่าถ้าเธอเลิกเครียดสักนิด ชีวิตคงสนุกขึ้นเยอะ"
"และถ้านายจริงจังกับงานสักหน่อย งานคงเสร็จเร็วกว่านี้" อันนา ตอบกลับ เธออยากกลับหอพักแล้วเพราะเมื่อดูเวลาบนนาฬิกา กลับพบว่าเวลาได้ล่วงเลยมาจนเกือบสามทุ่มแล้ว ทางกลับหอพักเธอค่อนข้างจะมืดและเปลี่ยว ทำให้เธอกังวลใจถ้างานยังไม่เสร็จ
การทำงานเต็มไปด้วยการเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างที่ อันนา เสนอ พีทก็มักจะหาเรื่องเถียง หรือไม่ก็แกล้งเธอเล่นให้หงุดหงิด ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนเครื่องมือไปไกลๆ หรือทำเป็นฟังเธอพูดครึ่งๆ กลางๆ เพื่อกวนประสาท
"นี่! นายตั้งใจฟังบ้างสิ!" อันนา เริ่มหมดความอดทน
พีท ยิ้มกวนๆ "ฟังอยู่จ้ะคุณครู แต่ทำไมน้ำเสียงเธอดูเหมือนจะฆ่าฉันยังไงก็ไม่รู้"
"ฉันกำลังพิจารณาอยู่" เธอพูดเสียงเรียบ แต่ถึงจะทะเลาะกันแค่ไหน โครงการของพวกเขาก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
อันนา เริ่มสังเกตว่า พีท มีความสามารถอย่างที่เธอไม่คาดคิด ชายหนุ่มอาจจะทำตัวขี้เล่น แต่เวลาจริงจังกับงาน เขาก็มีความรู้แน่นไม่แพ้เธอ
และคืนนี้ ฝนได้เริ่มตั้งเค้าและทำท่าว่าจะตกหนัก และเมื่อทั้งคู่ทำงานไปสักพัก ฝนก็เริ่มตกลงมาอย่างหนัก และฝนที่ตกอย่างหนักทำให้ไฟฟ้าดับกะทันหัน ห้องทดลองตกอยู่ในความมืดสนิท
"ให้ตายสิ! ไฟดับตอนนี้เนี่ยนะ?" อันนา บ่น ขณะที่พยายามควานหามือถือของตัวเอง
พีท หยิบไฟฉายจากกระเป๋าเสื้อแล้วเปิดขึ้น ส่งแสงสว่างให้ห้อง "กลัวเหรอ? "
"เปล่า ฉันแค่หงุดหงิดที่งานถูกขัดจังหวะ" อันนา รีบปฏิเสธ
พีท หัวเราะเบาๆ "แน่ใจนะ? หน้าเธอดูเหมือนเด็กกลัวผีเลย"
"นาย...!" อันนา กำลังจะเถียง แต่ พีท กลับนั่งลงข้างๆ เธอและพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
"เธอรู้ไหมว่าเคมีกับไฟฟ้ามันก็มีความเชื่อมโยงกันนะ อิเล็กตรอนเคลื่อนที่จากขั้วหนึ่งไปอีกขั้ว มันสร้างพลังงาน และพลังงานนั่นทำให้เกิดปฏิกิริยา เหมือนเราสองคนไง ขั้วตรงข้าม แต่ดึงดูดกันโดยไม่รู้ตัว"
อันนา นิ่งไปชั่วขณะ เธอไม่แน่ใจว่าที่ใจเธอเต้นแรงขึ้นเพราะคำพูดของเขา หรือเพราะไฟฉายในห้องมืดที่ส่องไปกระทบใบหน้าของ พีท ทำให้เธอได้เห็นรอยยิ้มขี้เล่นที่แฝงไปด้วยความจริงใจ
"!!!!?" เธอพยายามเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนรอยยิ้มเล็กๆ ที่เผลอหลุดออกมา
พีท ยิ้มกว้างขึ้น "เธอไม่รู้สึกเหรอว่าเรากำลังทำปฏิกิริยากันอยู่?"
เธอ กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ แล้วหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาบังหน้า "หยุดพูดมากได้แล้ว ไฟคงกลับมาเร็วๆ นี้"
พีท หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนตัวพิงโต๊ะ "โอเคๆ ไม่กวนแล้วก็ได้ แต่เธอรู้ตัวไหมว่าเธอน่ะ... กำลังยิ้มอยู่นะ"
หญิงสาว ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น แต่ภายในใจกลับรู้สึกแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
และเธอ ก็รู้สึกได้ว่า นี่ก็ดึกแล้วคงจะต้องกลับหอพักก่อนค่อยเริ่มทำงานอีกครั้งในวันถัดไป
อันนา เหลือบมองนาฬิกา แล้วถอนหายใจ “เรากลับกันเถอะ ไฟดับ ทำงานต่อไม่ได้แล้ว”
“แต่ฉันว่ายังสนุกอยู่เลยนะ” พีท ยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ “หรือว่าเธอแอบกลัวความมืด?”
หญิงสาว ถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันไม่กลัวความมืด แต่ฉันกลัวจะเสียเวลามากกว่า”
“โอเคๆ กลับก็กลับ” พีท ยกมือขึ้นยอมแพ้ แต่ก่อนเดินออกจากห้อง เขาหันมากระซิบข้างหู อันนา เบาๆ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ คุณนักวิทย์สุดเคร่งเครียด”
อันนา เม้มปากแน่น รู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้าตัวเองโดยไม่รู้สาเหตุ เธอสะบัดหน้าแล้วรีบเดินออกไป โดยมีเสียงหัวเราะของ พีท ตามมาเบาๆ
ระหว่างทางเดินออกจากอาคาร อันนา พยายามไม่สนใจ พีท ที่เดินตามมาติดๆ
“เดี๋ยว ฉันไปส่ง” พีท พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
อันนา หันขวับ “ไม่ต้อง! ฉันกลับเองได้”
“ดึกแล้วนะ จะกลับคนเดียวเหรอ?” พีท ยักไหล่
“ไหนๆ ฉันก็จะกลับเหมือนกัน” พีท พูดขึ้นมา
“ฉันไปเอารถมอเตอร์ไซด์แป๊ปนึงนะ เจอกันหน้าตึก
เดี๋ยวฉันพาไปกินข้าว ก่อนที่เธอจะเป็นลมแล้วต้องลำบากให้ฉันพาเธอไปโรงพยาบาลอีก” พีท พูดและทำท่าทะเล้น
อันนา คิดจะพูดตอบโต้ไป แต่ก็ได้แค่คิด และมองตาม
พีท และอดหัวเราะไม่ได้
“นายนี่ก็ตลกดีนะ” อันนา รู้สึกว่าทำไมตัวเธอถึงแอบยิ้มทุกครั้งที่ พีท พูดจากวนอารมณ์เธอ