นอนไม่หลับ เห็นแต่ภาพน่าอกลอยไปลอยมาไม่หยุดเลย มันหยุ่นมืออ่ะ แบบว่าฉันถูกทำอะไรรึเปล่าเนี่ย คนตัวเล็กได้แต่สะบัดความคิดชวนปวดหัวออกไปตั้งแต่เช้าก่อนเธอจะเริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วที่คงที่
" วันนี้มาวิ่งเช้าดีนะคะ "
คำทักทายดังขึ้นไล่ๆหลังฉันก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนร่างสวยตามมารยาทที่ดี
" สวัสดีค่ะ คุณรันก็มาวิ่งเช้าทุกวันเลยนะคะ "
" ก็ไม่ทุกวันหรอกค่ะ แต่ถ้าฉันตื่นสายคงพลาดอะไรดีๆ "
" ออค่ะ "
" วันนี้มาคนเดียวเหรอคะ "
" ค่ะ บางทีก็ไม่อยากให้ใครมาตาม "
" รันเข้าใจเลยค่ะบางทีก็ไม่อยากให้ใครมาตาม อยากอยู่ด้วยกันแค่สองคน "
" คะ? "
" หมายถึงอยู่กับเพื่อนสองคนน่ะค่ะ "
คุณรันเอ่ยยิ้มๆพลางยื่นขวดน้ำมาให้ฉันอย่างอ่อนโยน
" ดื่มไหมคะ พอดีเห็นว่าวันนี้ครีมไม่ได้เอาน้ำมาด้วยน่ะค่ะ "
จริงสินะ มัวแต่คิดเรื่องน่าอกจนลืมหยิบขวดน้ำออกมาด้วยเลย แย่จริง
" งั้นครีมขอรบกวนด้วยนะคะ ถ้าคุณรันไม่ถือ"
" ได้เลยค่ะรันยินดี "
เกรงใจจัง ฉันมองอีกคนซึ่งอมยิ้มนิดๆก่อนจะกระดกน้ำดื่มด้วยความขะเขินเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวเอาไปดื่มต่อจากปากฉันทันที
" ดื่มอีกไหมคะ "
" ไม่เป็นไรค่ะครีมพอแล้ว "
" ทำแบบนี้แล้วเราเหมือนจูบกันทางอ้อมเลยนะคะ "
ฮ่า...ตลกตายล่ะ....
" น้องครีมค่ะ มาอยู่นี่เองพี่ตามหาตั้งนาน "
" พี่ทับทิม "
หนึ่งในคนที่วิ่งตอนเช้ากับฉันประจำรีบวิ่งตามฉันกับคุณรันมาด้วยความรวดเร็ว
" พี่คิดว่าจะไม่ทันซะแล้ว "
" ไม่ต้องมาเลยก็ได้แท้ๆนะคะ "
คนร่างสวยยังคงวิ่งต่อไปโดยที่เปลี่ยนมาประกบด้านขวาของฉันแทน
" โอ๊ยที่ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะจะมาวิ่งเบียดกันอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะคะ คุณรัน! "
" คุณทับทิมต่างหากล่ะคะ มาทีหลังก็ควรจะไปวิ่งตรงอื่น "
" ครีมว่าเดี๋ยวครีมไปเองดีกว่านะคะ พวกพี่จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน "
" ไม่ค่ะ!/น้องครีมอยู่ที่นี่แหละค่ะ! "
ตกลงจะเอายังไงกันแน่คะ
ในที่สุดฉันก็ได้ปลีกตัวออกมาจากกลุ่มพวกเขาได้สำเร็จลำบากน่าดูเลยนะ ครั้งหน้าไปวิ่งที่สวนสาธารณะอื่นน่าจะดีกว่า
“อ้าว ครีมไหนว่าจะไม่มางานประมูลเย็นนี้ไงล่ะยัยน้องรัก”
พี่ไทม์เอ่ยทักฉันทันทีที่ถึงงานประมูลเครื่องเพชรดังกล่าวมันก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะปกติฉันไม่ชอบมางานแบบนี้สักเท่าไร มันเป็นสถานที่ที่ใช้รวบรวมคนดังมีชื่อเสียงเงินทองและก็อิทธิพล คนธรรมดาในงานนี้จึงแทบจะไม่มีให้เห็นกันได้เลย
" ค่ะก็บังเอิญเปลี่ยนใจอีกอย่างพี่ฟ้าก็ยืนยันว่าจะมาให้ได้ก็เลย "
" สวัสดีครับคุณช่อฟ้า "
พี่ชายฉันทำตัวเป็นสุภาพบุรุษทันทีที่เห็นคนหน้าสวยก้าวเข้ามาทักทายกันโดยที่ไม่ลืมจะส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจไปให้เธอแม้ว่าแฟนของเขาจะยืนอยู่ด้วยก็ตาม นับถือเลยความพยายามหว่านเสน่ห์ของพี่ชายร่างสูงชุดทักซิโด้คนนี้น่ะ
“สวัสดีค่ะ คุณไทม์ นั่นแฟนของคุณเหรอคะ”
ถามได้ดี พี่ชายของฉันหน้าเจื่อนไปเลยอ้อร้อดีนัก
“ออครับ นี่คุณเพลิงแฟนผมเองครับ ส่วนนี่ก็คุณช่อฟ้าคู่หมั้นของพี่เท็ม”
คนหน้าสวยไม่ต่างกันยิ้มพยักหน้ารับรู้กับคำตอบที่ได้รับพลางหันมามองฉันซึ่งยืนยิ้มค้างอยู่กับที่ ไอ้พี่บ้าแนะนำฉันด้วยสิ จะให้ยืนเป็นหัวหลักหัวต่อไปถึงไหนกัน
“อะ จริงสิลืมคนสำคัญไปได้ยังไง”
“แกล้งกันรึไงคะ พี่ไทม์”
ฉันพูดกลับด้วยแววตาคาดโทษพลางยื่นมือไปทักทายตามมารยาทโดยที่เธอก็จับมือฉันตามมารยาทเช่นกัน
“วิปครีมค่ะ เป็นน้องสาวคนเล็ก พี่เพลิงอาจจะไม่รู้จักครีมนะคะแต่ครีมรู้จักพี่เพลิงค่ะพี่ไทม์เคยเล่าเรื่องพี่เพลิงให้ฟังอยู่บ่อยๆ ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะน้องครีม ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะคะ”
“พี่ไทม์แอบถ่ายรูปครีมอีกแล้วเรอะ!”
“น่าๆก็เธอไม่ชอบถ่ายรูปนี่น่า ทำไมไม่พาคุณฟ้าเข้าไปในงานล่ะ พี่เท็มกับคนอื่นๆรออยู่ในนั้นหมดแล้ว”
พี่ไทม์ยิ้มกลบเกลื่อนก่อนจะทำท่าจูงมือคนรักออกไปโดยที่มีฉันยืนมองตามพฤติกรรมของพวกเขาด้วยความสงสัย
“ก็แล้วทำไมพี่ไทม์ไม่เข้าไปด้วยล่ะ”
“พี่จะพาเพลิงออกไปแล้วน่ะ”
พี่ไทม์จงใจกุมมือพี่เพลิงให้แน่นขึ้นอีก เดาว่าก่อนหน้าที่ฉันจะมาคงมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นสินะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
“พี่เพิ่งมาไม่ใช่เหรอ หรือมีใครพูดอะไรกระทบจิตใจพี่รึเปล่าคะ ครีมจะไปจัดการพวกเขาให้เอง”
ฉันทำตัวโมโหและหงุดหงิดแทนพี่ชายของตัวเองอย่างสุดๆคงไม่พ้นเรื่องฐานะเงินทองความเหมาะสมอะไรเทือกนั้นสินะพี่เพลิงถึงแสดงแววตามนหม่องแบบนั้นออกมา ไม่มีเงินแล้วยังไง แค่รักกันก็พอแล้วนี่ นอกจากนั้นฉันก็ไม่เห็นจะแคร์ ทำไมพี่ไทม์ถึงเลือกที่จะพาพี่เพลิงหนีออกมาแทนล่ะ พวกพี่ไม่ผิดสักหน่อย!
“ครีม พี่ไม่เป็นไร”
“พี่ไทม์ไม่เป็น แต่ครีมเป็นค่ะ”
ฉันมองพี่ไทม์อย่างเหลืออดก่อนที่จะเดินเข้าไปในงานตามด้วยพี่ฟ้าที่ดูจะชอบใจกับอาการโมโหของฉันมากพลางเดินตามกันเข้ามาด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
“ครีม เดี๋ยวสิครีม! ครีม!”
พี่ไทม์เอ่ยห้ามฉันแต่ก็ไม่ทันแล้วฉันเดินเข้าไปได้ยินบทสนาที่ว่านั่นพอดิบพอดีเลย กลุ่มผู้หญิงผู้ชายวัยทำงานคนอายุน่าจะพอๆกับพี่ไทม์สวมชุดหรูหราน่าจะเป็นพวกลูกคนรวยซึ่งมาร่วมงานประมูลเครื่องเพชรในวันนี้ ทั้งสีหน้า แววตา เหมาะสมกับเป็นพวกขี้อิจฉาดีๆนี่เอง
“ไม่ไหวเลยเนอะ เป็นถึงลูกท่านทรงพลดันมาคบกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าไปซะได้ ที่เค้าลือกันว่าลูกชายคนกลางไม่เอาไหนคงเป็นเรื่องจริงล่ะสินะ”
เสียงผู้ชายคนที่หนึ่งพูดขึ้นตามด้วยเสียงที่สองสามสี่และผู้คนซึ่งยืนล้อมแก้วแชมเปญกล่าวกันอย่างสนุกสนาน สนุกมากเลยสินะ!
“อ่าจริงสิ สายข่าวฉันได้ยินว่าหล่อนเป็นเด็กนั่งดริ้งด้วยนะ”
ผู้หญิงคนที่สองพูดต่อ
“ฉันเองก็ได้ยินว่าลูกชายคนกลางแอบไปยัดเงินปิดข่าวเรื่องยัยนั่นด้วย ดูท่าจะรักกันมาก คงหลงหัวปักหัวปำ อนาคตหมอนั่นคงโดนหลอกหมดตัวแหงๆ ”
ชายคนที่สามพูดขึ้นและยังไม่ทันที่คนที่สี่จะพูดต่อคนตัวเล็กก็เดินเข้ามาหยิบแก้วแชมเปญสาดหน้าคนที่สามเข้าทันทีจนเจ้าตัวหัวร้อนพลางจับจ้องไปยังผู้มาใหม่ด้วยแววตาเดือดพล่าน
ซ่า!
“นี่เธอ!”
“ก็ลองอ้าปากพูดเรื่องเน่าๆนั่นอีกทีสิ คราวนี้คงไม่ใช่แค่แชมเปญแน่”
ฉันจ้องหน้าอีกคนกลับด้วยแววตาเชือดเฉือนในขณะที่คนอื่นๆต่างจ้องใบหน้าของฉันกลับและพึมพำกันออกมาคล้ายคนละเมอ
“คุณหนูเล็ก...งั้นเหรอ...”
“ไม่จริงน่า คุณหนูเล็กไม่เคยออกงานสังคมเลยนี่น่า...”
“ช่วยราดน้ำใส่ผมที..”
“เธอเป็นใครน่ะ!”
ยังกล้าถามอีกนะ ว่าฉันเป็นใครก็เป็นน้องสาวของคนที่พวกนายกำลังนินทากันอยู่ยังไงล่ะ!
“ตาคราว! ใครมันกล้าสาดน้ำใส่แกแบบนี้ ไหนเอาหน้ามันมาดูหน่อยสิ๊! กล้าดียังไงเอาแชมเปญมาสาดหน้าลูกชายของฉัน!”
เสียงผู้ชายวัยกลางคนรีบปรี่เข้ามาในวงสนทนาซึ่งเกิดเรื่องราวขึ้นแทบจะทันทีจนแขกบางส่วนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับพวกเราไม่พ้นแม้แต่กระทั่งพี่มาย
“น้องครีม”
หญิงสาวคนสวยในชุดราตรีสีแดงเดินเข้ามาหาฉันซึ่งยืนกำแก้วแชมเปญแน่นตามมาด้วยพี่ไทม์และพี่เพลิงที่กำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยท่าทางร้อนรน
“ครีม!”
“ยะ...อย่าบอกนะว่า...”
ชายวัยกลางคนเริ่มเสียงสั่นเครือมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้ยินเสียงของพี่มายและพี่ไทม์เรียกชื่อของฉันก่อนที่เจ้าตัวด้านหน้าจะมองเขาด้วยแววตาสับสนเล็กน้อย
“พ่อเป็นอะไรไปครับ! ทำไมถึงเงียบไปล่ะ! เธอคนนี้ล่ะที่สาดน้ำใส่ผม! ถึงจะน่ารักแต่ผมก็ไม่ให้อภัย-”
“หุบปากไปซะ ไอ้ลูกบ้า!”
ชายวัยกลางคนขึ้นเสียงทันทีก่อนที่คนร่างสูงโปรงในชุดสูทสีขาวจะเริ่มหน้าเสียเพราะผู้เป็นพ่อตวาดเขาเสียจนนอกหน้า
“พะ..พ่อ”
“ขอโทษคุณหนูเล็กซะ! เดี๋ยวนี้เลย!! ไอ้เจ้าคราว!!”
“ตะ..แต่พ่อ! ผมเป็นคนโดนเธอรังแกนะ!”
“พ่อบอกให้ขอโทษคุณหนูเล็กเดี๋ยวนี้!!!”
ชายคนเดิมตวาดลูกชายของตนอีกครั้งก่อนที่เขาจะยอมพูดจาอ้อมแอ้มมาทางคนร่างขาวซึ่งอยู่ในชุดกระโปรงสีน้ำเงินประดับเพชร
“ขะ..ขอโทษครับคุณหนูเล็ก”
“ไม่ได้ยินเลยขอโทษเธอใหม่เดี๋ยวนี้!!”
ผู้เป็นพ่อยังคงสั่งให้ลูกชายของตนขอโทษต่อไปเมื่อไม่มีท่าทีว่าคุณหนูเล็กตรงหน้าจะยอมรับคำขอโทษจากพวกเขาเลยก็ตาม
“ขอโทษครับ คุณหนูเล็ก!”
“เอาใหม่!”
“ขอโทษครับคุณหนูเล็กได้โปรดให้อภัยผมด้วยเถอะครับ!!”
“เอาใหม่!”
“แต่คุณพ่อ!!”
“ไม่ต้องแล้วค่ะคุณลุง”
“ตะ แต่คุณหนูเล็กยังดูท่าทางจะไม่พอใจ...”
“ใช่ค่ะ ครีมยังไม่พอใจถ้าจะขอโทษควรให้เขาขอโทษพี่ชายของครีมมากกว่า ออแล้วก็พี่เพลิงด้วย ที่มากล่าวหากันแบบนี้”
“แต่ผมไม่ได้กล่าวหานะ! ใครก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง!”
ชายหนุ่มยังคงแย้งหัวชนฝาก่อนที่คนตรงหน้าของเขาจะให้บรรยากาศหนาวซะจนเจ็บขั้วหัวใจ
“จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ถ้าครีมบอกว่าไม่จริง”
ฉันจงใจพูดเว้นวรรคก่อนที่คนอื่นจะพากันพยักสีหน้าตามคนตรงหน้าอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆอีก
“ก็คือไม่จริงค่ะ”
เฮือก!
ชายวัยทำงานลอบกลืนน้ำลายพลางรีบขอโทษขอโพยคุณหนูหน้าสวยซึ่งจ้องเขาด้วยแววตาที่พร้อมจะฆ่าให้ตายในทันทีเมื่อเขาตอบปฏิเสธคำพูดของเธอ
“ครับ ถูกต้องตามที่คุณหนูพูดเลยครับ! ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องจริงไปได้หรอกครับ! ผมผิดเองที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาให้คุณหนูเล็กระคายเคืองหู ขอโทษครับ คุณไทม์ คุณเพลิง ผมขอโทษครับ!!”
“พวกนายก็ด้วย”
“ครับ ขอโทษครับ คุณเพลิงคุณไทม์ ให้อภัยพวกผมด้วยเถอะครับ!!”
“ขอโทษค่ะ ดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ!”
ฉันแลสายตาไปยังพี่ไทม์ซึ่งส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไรพลางส่งซิกมาให้ฉันประมาณว่าพอได้แล้ว พี่โอเคแล้วล่ะ หยุดเถอะนะ อะไรประมาณนี้ฉันก็เลยต้องจำใจปล่อยพวกเขาไว้ด้วยความโมโห
“จำไว้ถึงแม้ว่าพี่ไทม์จะไม่เอาเรื่องพวกคุณ แต่ฉันพร้อมที่จะเอาเรื่องพวกคุณเมื่อไรก็ตามที่ฉันได้ยินเรื่องพวกนี้อีก พี่เท็มอาจปล่อยผ่านพวกคุณไปเพราะเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ฉันไม่คิดจะปล่อยผ่านมันไปเป็นครั้งที่สองหรอกนะคะ โปรดจำเอาไว้ให้ดีๆ ”
“ครับ คุณหนูเล็ก!!”
และเรื่องราวพวกนี้ก็จบลงตรงที่คุณลุงคนนั้นรีบพาลูกชายตัวดีกลับบ้านไปเลยในขณะที่เสียงจอแจทำให้ฉันปวดหัวนิดหน่อย
“โหดเหมือนกับคุณลุงทรงพลไม่ผิดเลยนะคะ”
“อือ ก็พี่ไทม์ใจอ่อนนี่ พวกนั้นก็เลยได้ใจ ส่วนพี่เท็มก็สนใจแต่ผลประโยชน์การประนีประนอมเหมือนกับคุณแม่ มันช่วยไม่ได้ที่ครีมจะเหมือนคุณพ่อเพราะคนพวกนั้น”
ฉันตอบกลับพี่ฟ้าไปในขณะที่พี่มายก็หาจังหวะเข้ามาแทรกบทสนทนาของเรา
“น้องครีมเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ครีมโอเคค่ะ พี่ฟ้าทานอะไรไปก่อนเลยนะคะ หรือไม่ก็ไปนั่งที่ห้องประมูลเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่ดาคงมาแล้ว”
“พี่ดา? ”
“หมายถึงแฟนพี่ฟ้าน่ะค่ะ พี่เท็มก็อยู่ที่นั่นหวังว่าคงไม่ตีกันเพราะพี่ฟ้านะคะ”
“เข้าใจแซวนะตัวเล็กแล้วนี่จะไปไหนคะ”
“แม่ครีมเป็นเจ้าของงานลูกสาวก็ต้องช่วยรับแขกเป็นธรรมดาค่ะ อีกอย่างพี่ไทม์ก็พาพี่เพลิงไปห้องประมูลแล้วคงไม่อยากให้เป็นเป้าสายตามาก ดังนั้น”
“วันนี้พูดเยอะขึ้นนะคะเนี่ย”
“วันนี้ครีมไม่เล่นด้วยนะคะ งดแกล้งครีมหนึ่งวันเถอะค่ะ”
ฉันท้วงก่อนที่คนหน้าสวยจะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มหวานเช่นดังทุกวัน
“ก็ได้ค่ะ ไว้เจอกันที่ห้องประมูลนะคะ เจ้าลูกหมา”
“ค่ะ”
เพราะขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้วอยากจะเรียกอะไรก็เชิญ ฉันมองคนร่างบางเดินจากไปก่อนจะเดินไปคุยกับผู้ใหญ่สักพักตามมารยาทและก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้เท่าไรเข้าหาฉันเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ
“ตอนนี้ครีมยังไม่ได้มีส่วนกับธุรกิจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ถ้าอยากจะคุยเรื่องสัญญากับครีมเอาไว้สักสองสามปีค่อยเอามาคุยกับครีมใหม่นะคะ ครีมจะเก็บไปคิดก็แล้วกันค่ะ ถ้าคุณอายังต้องการนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ คุณหนูเล็ก”
พอได้รับคำตอบที่ไม่ถูกใจก็เดินหนีไปทันทีไม่วายมาค่อนแขวะใส่ฉันอีกแน่ะ
“นิสัยเหมือนพ่อไม่มีผิด!”
“ก็แล้วมันผิดรึไง ที่เหมือนคุณพ่อน่ะ”
ฉันพึมพำเบาๆก่อนจะรับรู้ถึงแรงสะกิดจากทางด้านหลัง
“พี่มาย”
“ค่ะพี่เอง นึกว่าน้องครีมจะไม่เห็นพี่ซะแล้ว”
“ขอโทษนะคะที่เมื่อกี้ครีมไม่ทันได้เห็นพี่มาย”
ฉันทำแววตาเศร้าๆแบบรู้สึกผิดก่อนจะถูกคนหน้าสวยแอบจับมือของฉันไว้ด้วยรอยยิ้มพลางมองไปยังผู้คนที่มาร่วมงานจำนวนหนึ่ง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงครีมจะมองไม่เห็นพี่ก็ไม่เป็นไร ก็พี่ยังสามารถเห็นน้องครีมได้อยู่นี่คะ”
ฉันมองคนร่างสวยซึ่งจับมือฉันแบบแนบแน่นขึ้นพลางเอ่ยคำถามด้วยน้ำเสียงติดจมูกปนรู้สึกหงุดหงิดใจเล็กๆเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยซึ่งเรียกน้องครีมของเธอด้วยแววตาหว่านเสน่ห์กว่าที่ควรจะเป็นกับว่าที่คู่หมั้นของเธอในอนาคตกล้าดียังไงเรียกน้องครีมว่าลูกหมา ถ้าน้องครีมจะเป็นลูกหมาก็ต้องเป็นลูกหมาที่น่ารักของเธอคนเดียวไม่ใช่ของคนอื่น!
" พี่มายกำลังทำให้ครีมเขินนะคะ หยุดจ้องครีมได้แล้วนะ "
คนตัวเล็กแสดงอาการหน้าแดงเถือกไปถึงใบหูก่อนจะถูกคนพี่โผบเข้ากอดแขนเธออย่างคนเอาแต่ใจ
" พี่จะพิสูจน์ให้น้องครีมเห็นนะคะไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนคนที่พี่จะเลือกก็คือน้องครีมคนเดียว ถ้าน้องครีมบอกพี่ว่าวันนี้พี่จะชอบคนอื่น งั้นมาลองดูกันค่ะว่าวันนี้คนที่พี่ชอบจะเป็นใคร "
พี่มายพูดขึ้นอย่างมั่นใจก่อนจะพาฉันเดินไปยังห้องประมูลซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอีเวนท์พิเศษนั่นทันที ที่บอกว่าพิเศษน่ะมันไม่เกินจริงเลยนะ ก็เพราะวันนี้จะเป็นวันที่พี่มายได้เจอกับพี่ดารานางเอกของเรื่องซึ่งช่วยชีวิตของเธอไว้ในงานประมูลแห่งนี้ยังไงล่ะ
" เทส หนึ่งสอง พบคนน่าสงสัยอยู่ทางเข้าออกซีที่สิบสาม "
เสียงเครื่องวิทยุสื่อสารของพี่สกายดังขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านขวาของเขาตามมาด้วยเหล่าบอดี้การ์ดซึ่งทำหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ ในตอนนี้พิธีกรเริ่มพูดออกไมค์เพื่อประมูลเครื่องเพชรกันแล้ว ฉันยังเห็นพี่ฟ้าแอบมองมาทางฉันซึ่งกำลังนั่งลงข้างๆพี่มายด้วยสีหน้าที่แดงก่ำโดยที่มีนางเอกสาวของเรื่องนั่งประกบอยู่ด้วยไม่ไกลนักและเธอก็มองมาทางนี้เช่นเดียวกัน
" ครับก็มาถึง ไฮไลท์ของงานแล้วนะครับ ก่อนอื่นเลยทางเราต้องให้คุณเท็มตัวแทนคุณพิศวิมลขึ้นกล่าวอธิบายถึงเครื่องเพชรที่นำมาจัดแสดงและประมูลกันในค่ำคืนนี้ด้วยนะครับ "
เสียงปรบมือดังขึ้นก่อนที่พี่ชายคนโตภูมิฐานดีของฉันจะขึ้นเวทีไปกล่าวเปิดงานโดยที่มีสายตานับร้อยคู่นับจ้องไปที่เขาอย่างไม่วางตา ก็นะตัวเต็งเบอร์หนึ่งผู้จะมาคุมอำนาจต่อพ่อถ้าใครอยากมีอำนาจทางธุรกิจก็ต้องจับตามองเขาไว้ให้ดี
กิ๊ก!
เสียงอะไรน่ะ เมื่อฉันหันไปดูก็พบว่ามันเริ่มขึ้นแล้วอีเว้นท์เอาชีวิตพวกลูกมาเฟียทั้งหลายมาเรียกค่าไถ่ อ่าห๊ะ จากตอนนี้ที่ฉันเคยอ่านมาพอจำได้ว่าตัวเองไม่ได้มาในงานประมูลด้วยแต่อย่างใดถึงอย่างนั้นก็ยังส่งคนมาช่วยรับรู้ภายหลังว่าพี่เท็มโดนยิงที่แขนส่วนพี่ไทม์ก็โดนยิงที่ข้างลำตัวสาเหตุคงเป็นเพราะเอาตัวเองไปกันแฟนสาวไว้ส่วนคนที่สามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ก็คือนางเอก
ควันสีขาวลอยฟุ้งเข้ามาก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากนั้นบอดี้การ์ดก็จะโดนจัดการที่ละคน ถ้าเรียงลำดับเหตุการณ์ให้ดีรวมทั้งตัวแปรสำคัญซึ่งก็คือฉัน ก็อาจจะไม่ต้องมีใครบาดเจ็บในวันนี้
" น้องครีมจะไปไหนคะ "
ทันทีที่ฉันทำท่าจะลุกขึ้นยืนพี่มายก็มองตามฉันทันทีก่อนจะแอบหยิกปืนพกจากพี่สกายมาถือเอาไว้
" ครีมจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ "
" ให้พี่ไปด้วยไหมคะ "
" ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวครีมก็กลับมาแล้ว "
" ก็ได้ค่ะ งั้นพี่จะรอครีมตรงนี้นะคะ "
พี่มายส่งยิ้มให้ฉันที่พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหันมามองพี่สกายให้ตามกันไปด้วยความรวดเร็ว
" คุณหนู...."
" เงียบค่ะพี่สกายแล้วตามครีมมาให้ไวเลย "
ฉันกระซิบใส่พี่สกายบอดี้การ์ดคนสนิทก่อนที่เขาจะยอมทำตามอย่างว่าง่ายด้วยการเดินออกไปก่อนตามมาด้วยฉันที่เริ่มมีสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
" คนของเราหายไปสามคนแล้วนะคะ จากวิทยุสื่อสารไม่มีใครตอบอะไรกลับมาเลย เรียกกำลังเสริมเลยค่ะ เราอาจโดนล้อมแล้ว ครีมจะไปดูด้านนี้ส่วนพี่สกายไปดูทางนั้นนะคะ บอกคนของเราให้กระจายกันตรวจสอบด้วย "
" แต่คุณหนูจะเสี่ยงนะครับ พวกเราไปด้วยกันดีกว่าครับ ผมจะได้ดูแลคุณหนูได้ "
" คำสั่งค่ะ ถ้ากำลังเสริมพร้อมแล้วให้พี่สกายตามครีมมาได้ ห้ามขัดอีกเด็ดขาด "
" ครับคุณหนู "
หลังจากเราสนทนากันอย่างเร่งรีบพี่สกายก็แยกตัวตามคำสั่งของฉันทันที ถ้าจำไม่ผิดพวกเขาจะเริ่มลงมือราวๆสามทุ่ม ดังนั้นยังเหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบนาที ถ้าจัดการพวกยิบย่อยได้ก็เหลือตัวหลักอีกไม่กี่คน ถ้าจำนวนเท่านั้นคุณนางเอกคงจัดการกันได้สบาย พี่เท็มกับพี่ไทม์ก็จะไม่ต้องได้รับบาดเจ็บด้วย เอาล่ะ ถ้าฉันจะซ่อนของดีๆการปลอมตัวเป็นบริกรก็ถือว่าเป็นสิ่งคุ้มค่า
" ปืนพร้อม สัญญาณรบกวนก็พร้อม แสตนบายไว้สามจุด เออ อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือทำให้พวกตระกูลพัฒนะกรและตระกูลนฤภัทรแตกคอกันเองหรือถ้าฆ่ามันได้ก็ฆ่าเลย เรื่องรองคือเงิน ตระกูลเฉินจะต้องได้รับสัญญาเป็นหนึ่งหุ้นส่วนใหม่ของตระกูลพัฒนะกรสุ้มความเคลือบแคลงใจให้ตระกูลนฤภัทรเลิกพุ่งเป้ามาที่โรงกลั่นน้ำมัน "
เสียงคุยวิทยุสื่อสารเรียกความสนใจฉันได้อย่างดี เดาว่าคนพวกนี้แทรกซึมเป็นบริกรกันหมดแล้วตัวจริงคงถูกจับมัดขังไว้ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งฉันคงต้องจัดการคนพวกนี้ก่อนสินะ ถึงจะไล่หาความจริงกับคนพวกนี้ได้ ใครกำลังถือหางพวกเขาอยู่กันนะ
ปัง ปัง ปัง!
" อะ! นั่นใครน่ะ! "
เสียงชายคนสุดท้ายร้องเสียงหลงก่อนจะพยายามเล่งกระบอกปืนไปมั่วซั่ว ท่ามกลางความตื่นตนกเพราะจู่ๆลูกน้องทั้งสามคนของเขาก็นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นนั่นทันทีตามมาด้วยเสียงหวาดกลัวจากวิทยุสื่อสาร
[อ๊ากกก! พวกแกรู้ได้ยังไง ยะ อย่าเข้ามานะ!!! อ๊ากกก!! ปัง!!!]
ฟังจากเสียงร้องแล้วคงเป็นพวกพี่สกาย ฉันเดินอ้อมไปหลบหลังเคาน์เตอร์ห้องทำอาหารก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นใช้ปืนจ่อศีรษะจากทางด้านหลังของเขาทันทีเมื่อหาโอกาสเข้าประชิดตัวได้สำเร็จ
แก๊ก!
" ถ้าขยับตาย ไม่ตอบคำถามก็ตาย เล่นตุกติกก็ตาย และถ้าคุณชิงฆ่าตัวตายไปตอนนี้ครอบครัวคุณก็ต้องตาย "
" ตะ ต้องการอะไร! ถูกจ้างมางั้นเหรอ!? จากตระกูลไหนล่ะ พวกเราอาจเป็นพันธมิตรกันก็ได้ อยากได้เงินสินะ! ย้ายฝั่งซะสิ! ทางนี้ใหัมากกว่าสองเท่าเลยนะ!!! "
ชายคนดังกล่าวทำใจดีสู้เสือก่อนจะมองไปที่ปืนด้านข้างลำตัวแต่ทว่าฉันก็รู้ทันความคิดของเขาก็เลยเล่งไปที่มืออย่างเสียไม่ได้ ถึงฉันจะกลัวเลือดมากก็เถอะ
ปัง ปัง!
" อ๊ากกกก!!! นี่แก!!! "
" อย่าหันมาไม่งั้นนัดต่อไปเป็นที่หัว "
" อึก! "
" คำถามโรงกลั่นน้ำมันมันมีอะไรงั้นเหรอ ไม่สิทำไมถึงเข้ามาในงานง่ายขนาดนี้กันนะ ใครอยู่เบื้องหลังพวกนาย "
" ต่อให้ตายก็ไม่บอก!!! "
" อืม พวกรักองค์กรฉันก็ประทับใจดีนะ แต่มันก็ออกจะน่าเบื่อ "
" แฮ่ก แฮ่ก...แล้วการที่แกมาอยู่ตรงนี้ล่ะ ดีแล้วรึไง อีกไม่กี่นาทีก็เริ่มแผนแล้วถึงแกจะบอกใครไปก็ไม่ทันแล้วล่ะ คนของฉันอยู่ในงานหมดแล้วเพียงแค่ครบเวลาพวกเขาก็จะโจมตีแน่ เจ้านายแกคงต้องตาย! "
" เอาสิ ทำเลย ถ้าคิดว่ามีแต่คนของนายน่ะนะ "
"!!! "
ชายคนนั้นตกใจอย่างมากก่อนจะหันใบหน้ามาทางฉันซึ่งพอดีกับที่คนของพี่สกายเขามาถือปืนจ่อเขาด้วยแววตาเรียบเฉย
" คุณหนูเล็ก!!! "
" ทำการบ้านมาดี แสดงว่าคนที่จ้างนายอยู่ในพันธสัญญากับตระกูลของฉัน "
จบตอน...น้องไม่ได้มาเล่นๆนะคะ อย่างน้อยก็ลูกท่านทรงพลเลยนะ !