Home / อื่น ๆ / เงาจันทราเหนือเหมันต์ / บทที่ 7 เงาที่ไม่เคยหายไป

Share

บทที่ 7 เงาที่ไม่เคยหายไป

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-08-08 00:39:06

แสงอรุณเบาบางในฤดูเหมันต์สาดส่องผ่านหน้าต่างบานเก่าในเรือนพักของเซิ่งอี้เหวิน ไอเย็นยามเช้าคล้ายยังมีเศษหิมะจากคืนก่อนปะปนอยู่ในอากาศ ภายในห้องยังคงกลิ่นหมึกจาง ๆ จากจดหมายที่เขาอ่านซ้ำมาไม่รู้กี่ครั้ง

แต่คืนนี้ต่างออกไป ครั้งแรกในรอบหลายปี เขาฝัน ฝันนั้นชัดยิ่งกว่าทุกคืนที่ผ่าน

ในความฝัน เขายืนอยู่ท่ามกลางหมู่ตำหนักที่ลุกเป็นไฟ เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งก้องอยู่กลางเปลวเพลิง เงาในฝันเคลื่อนไหวตามเขา เงาของตนเองในชุดแม่ทัพ มีดาบในมือ เลือดเปรอะใบหน้า

เบื้องหน้าเขาคือร่างหนึ่งในชุดขาว หญิงสาวคุกเข่าท่ามกลางซากตำหนัก แม้โดนเปลวไฟล้อมรอบ ดวงหน้าก็ยังสงบนิ่งมือทั้งสองกอดพิณเก่าไว้แน่น และน้ำเสียงที่ดังขึ้นในฝันนั้น...

“หากเจ้าต้องเลือกระหว่างแผ่นดินกับข้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่เลือกข้า แต่ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ ว่าข้าไม่เคยขอให้เจ้าเลือก ข้าแค่อยากให้เจ้ากล้าที่จะมองข้า แม้เพียงครั้งสุดท้าย”

มือในฝันของเขาสั่นเทา ดาบในมือนั้นไม่มั่นคง และในพริบตาต่อมา...

เขาฟาดลง! ฟาดดาบใส่หญิงที่ตนรักจนสิ้นใจ...

อี้เหวินสะดุ้งตื่น ลมหายใจขาดช่วง หยาดเหงื่อเย็นไหลซึมเต็มหลัง เขายกมือขึ้นแตะหน้าอก หัวใจเต้นรัวราวจะทะลุอก ดวงตาสั่นระริกเหมือนเด็กหนุ่มผู้เพิ่งได้พบความผิดอันใหญ่หลวงในตนเอง

“ข้า...ข้าเคยฆ่านาง”

“ข้าฆ่านาง...”

แม้เซี่ยอวี่จะไม่เคยกล่าวตรง ๆ แม้นางจะปรากฏตัวด้วยความอ่อนโยนเสมอ แต่ในเงาของนาง ในเพลงที่ไม่มีชื่อ ในคำพูดที่เต็มไปด้วยการให้อภัย มีความจริงหนึ่งซ่อนอยู่

นางคือผู้ถูกหักหลัง...

นางคือผู้ถูกฆ่าด้วยมือคนรัก...

และชายผู้นั้น ก็คือเขา ในอดีตชาติ!

วันต่อมา อี้เหวินไปยืนอยู่ที่ตำหนักใน ซึ่งใช้เป็นหอจารึกประวัติศาสตร์ราชสำนัก มือของเขาถือม้วนผ้าไหมฉบับหนึ่งไว้แน่น ภายในจารึกประวัติการก่อกบฏของรัชทายาทหลงจื้อ และสตรีที่ชื่อว่าหลี่เซวียนซึ่งถูกกล่าวว่าเป็นผู้ยุยง

หลี่เซวียน ชื่อที่ไม่เคยปรากฏในตำราหลวงฉบับทั่วไป แต่เขารู้แล้ว ชื่อที่ถูกเปลี่ยน คือชื่อของเซี่ยอวี่

หลินเซียนเคยกล่าวว่า ผู้ใดถูกลบจากโลก จะถูกแทนที่ด้วยชื่ออื่นเสมอ

เขาเปิดม้วนออกอีกครั้ง อ่านเนื้อความที่เคยละเลยไปด้วยหัวใจที่เย็นชา แต่ครานี้ทุกอักษรเหมือนแทงเข้าสู่ใจ

“หญิงผู้ชื่อหลี่เซวียน มีถ้อยคำอ่อนหวาน สามารถครองใจองค์รัชทายาทได้ทั้งยามสงบและยามศึก นางกล่าวเพียงหนึ่งประโยคว่าอยากให้องค์รัชทายาทยอมสละตำแหน่ง และวันรุ่งขึ้น องค์รัชทายาทก็ประกาศถอนตนจากราชบัลลังก์”

“เป็นเพราะนาง แผ่นดินจึงไร้ทายาทสายตรง”

อี้เหวินยืนแน่นิ่ง มือที่เคยมั่นคงกลับสั่นไหว หัวใจเต้นช้าแต่หนักยิ่ง

“คำกล่าวหานั้น ไม่มีหลักฐาน ไม่มีบันทึกใดพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริง แต่เพราะไม่มีผู้ใดลุกขึ้นค้าน นางจึงกลายเป็นผู้ผิดโดยสมบูรณ์”

เขาหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปล่งเสียงช้า ๆ

“ข้าจะเป็นผู้ลบคำกล่าวหานั้น ด้วยมือของข้าเอง!”

ค่ำวันเดียวกัน เขากลับไปที่สวนอวิ๋น ใต้ต้นเหมยเดิมที่เริ่มมีตาดอกเบ่งตัวเป็นสีชมพู กลีบเหมยร่วงลงเพียงไม่กี่กลีบ ต่างจากก่อนหน้า นั่นคือสัญญาณว่าเงาทั้งสาม เริ่มคืนสู่เซี่ยอวี่แล้ว และในยามที่เงาจันทร์บาง ๆ เริ่มโผล่พ้นขอบเมฆ ร่างของนางก็ปรากฏ

เซี่ยอวี่ในชุดขาว บางราวกลีบดอกไม้ รอยยิ้มของนางยังคงอบอุ่น หากดวงตาในคืนนี้กลับแดงรื้นด้วยน้ำใสที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“เจ้าจำได้แล้ว...”

อี้เหวินพยักหน้า “ข้าจำได้ทั้งหมดแล้ว”

“ข้าฆ่าเจ้า ข้าปล่อยให้เจ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นมาร และข้า ก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่า ‘รัก’ ออกไป”

เขาทรุดตัวลงบนพื้นหิมะ คุกเข่าหน้าร่างนาง

“ข้าไม่สมควรได้โอกาสอีกครั้ง แต่หากสวรรค์ยังอนุญาตให้ข้าอยู่ ข้าจะใช้ชีวิตทั้งหมดของข้า เพื่อให้เจ้าได้กลับมาเป็น ‘มนุษย์’ อีกครั้ง”

เซี่ยอวี่หลุบตาลง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าคำพูดนี้ต่างจากครั้งก่อนตรงไหน”

อี้เหวินเงยหน้าขึ้น “ครั้งก่อน ข้าเงียบ แต่ครั้งนี้ ข้าพูดออกมาแล้ว”

นางยิ้มอย่างอ่อนโยน และเงาของนาง ที่ไม่เคยมีเลยสักครั้งในค่ำคืนนี้ปรากฏอยู่ใต้เท้านาง แม้จะอ่อนจางแต่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เงาบางเบาที่ทอดอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเซี่ยอวี่ในค่ำคืนนั้น แม้เลือนราง ราวเงาพระจันทร์ต้องม่านหมอก แต่สำหรับเซิ่งอี้เหวิน มันชัดเจนยิ่งกว่าภาพใดในชีวิตของเขา เพราะมันคือสิ่งที่นางไม่เคยมีและเป็นสิ่งที่เขารอให้กลับมานานนับสามภพชาติ

“เจ้ามีเงาแล้ว...” เสียงเขาแผ่วเบา คล้ายกลัวจะทำลายความงามตรงหน้า

เซี่ยอวี่ยิ้มจาง “เพราะเจ้าจำได้ครบแล้ว”

“ชื่อของข้า เสียงของข้า หัวใจของข้า ไม่มีสิ่งใดขาดอีกต่อไป”

เงาของนางไม่ใช่เพียงสิ่งที่สะท้อนจากแสงจันทร์ หากคือ ร่องรอยของการมีอยู่ คือสิ่งที่วิญญาณต้องมี หากต้องการกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง

อี้เหวินเอื้อมมือไป ปลายนิ้วเขาแตะลงบนเงานางเบา ๆ ราวกับสัมผัสผิวน้ำในคืนเงียบสงัด เงานั้นสั่นสะท้านเล็กน้อย ก่อนจะแน่นิ่งอย่างมั่นคง

“จากนี้ไป เจ้าจะค่อย ๆ กลับมา เลือดจะกลับคืนสู่วิญญาณ เงาจะกลับคืนสู่ร่าง เจ้าจะไม่เป็นเพียงเสียงในหิมะอีกต่อไป”

เซี่ยอวี่ก้าวเข้ามาใกล้ มือบางของนางวางบนมือเขาอย่างแผ่วเบา

“แต่ข้าจะอยู่ได้นานแค่ไหน หากฟ้ากำหนดให้ข้าตายไปแล้ว”

คำถามนั้นแผ่วเบาแต่หนักในใจ แม้จะมีเงา แม้จะมีร่าง แม้จะมีเสียง แต่ชะตาของนางนั้นขาดลงไปตั้งแต่วันตายแล้ว

อี้เหวินยืนนิ่ง แล้วเอ่ยด้วยเสียงแน่วแน่ยิ่งกว่าเก่า

          “ก็ให้ข้าย้อนชะตานั้นเสีย”

นางตาโตขึ้นเล็กน้อย “เจ้าจะย้อนอดีตหรือ?”

“ใช่ ในตำราของหอจารึกมีพิธีเก่าแก่ว่าด้วยการคืนเงาให้วิญญาณ เป็นพิธีที่ครั้งหนึ่ง อดีตฮ่องเต้เคยใช้เพื่อฟื้นคืนชีวิตของฮองเฮา หากสามารถหาสามสิ่งได้ครบ เสียง เลือด และเงา พิธีจะสามารถถักทอชะตากรรมใหม่ขึ้นมาให้ผู้ตายได้”

เซี่ยอวี่สั่นสะท้าน “เจ้าจะใช้เลือดของเจ้า?”

อี้เหวินยิ้ม “เลือดของข้าผูกพันกับเจ้ามานานกว่าหนึ่งชาติหากต้องจ่ายให้เจ้าได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ข้าก็ยินดี...”

นางก้มหน้าลง หลุบตา “แล้วเจ้าล่ะ หากพิธีสำเร็จจริง เจ้าจะยังจำข้าได้หรือไม่?”

เขาชะงักไป

ใช่...ในบทท้ายของตำรา มีข้อแลกเปลี่ยนหนึ่ง หากผู้ขอคืนเงาวิญญาณ ไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนด้วยชีวิต สิ่งที่ต้องแลกก็คือ ความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับผู้นั้น

ข้าจะทำให้เจ้ากลับมาได้ แต่ข้าอาจต้องลืมเจ้าไปตลอดกาล...

เซี่ยอวี่เงยหน้าขึ้น รอยยิ้มเศร้าปรากฏอีกครั้ง

“เจ้ากล้าหรือไม่ ที่จะจำข้าไว้เพียงในฝัน? เจ้ากล้าหรือไม่ ที่จะปล่อยให้ข้ามีชีวิตอยู่ แม้เจ้าจะไม่มีวันจดจำข้าได้อีก?”

อี้เหวินหลับตาลง หัวใจเขาสั่นไหว ในมือเขาคือชะตาชีวิตของหญิงผู้รอคอย ในใจเขาคือความรักที่ร้อยชาติพันชาติยังไม่อาจกลบลบ

เขาเงยหน้าขึ้น สบตานาง แล้วเอ่ยเพียงประโยคเดียว

“หากต้องเลือกระหว่างรักเจ้ากับจำเจ้า ข้าจะเลือกรักเจ้า แม้ไม่มีโอกาสจำอีกเลย”

เซี่ยอวี่น้ำตาร่วง เงานางใต้ฝ่าเท้าชัดเจนยิ่งขึ้น และในขณะนั้นดอกเหมยบนต้นก็ผลิบานเต็มทุกกิ่ง หิมะยังคงตก แต่โลกกลับอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   ตอนพิเศษ 5 (ส่งท้าย) หนึ่งเงา สองหัวใจ

    กลางหุบเขาหลิงเซวียน อันห่างไกลจากเมืองหลวงและค่ายกลอำนาจ มีหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งชื่อว่าหมู่บ้านชิงหลัน ฤดูเหมันต์ที่นี่ยาวนานกว่าที่อื่น หิมะโปรยปรายตลอดสามเดือนเต็ม แต่ก็ใช่ว่าหนาวเหน็บเสมอไปในบางคืนคืนที่แสงจันทร์สาดลงกลางหิมะโลกกลับอบอุ่นอย่างน่าอัศจรรย์ บ้านไม้หลังหนึ่งปลูกอยู่ริมหุบ เสียงไม้กระทบกันเบา ๆ ดังขึ้นจากหน้าบ้าน ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังผ่าฟืน ร่างสูง ใบหน้าคมคายมีเคราบางแต้มเหนือคาง เสื้อคลุมธรรมดาสีเทาอ่อนคลี่ไหวเบา ๆ ไปตามลมเขาชื่อว่า “เหวินอวี๋” ชาวบ้านเรียกเขาว่า “อาหยี่” ไม่มีผู้ใดรู้ชาติกำเนิดที่แน่ชัดของเขา เพียงรู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ย้ายมาอยู่เมื่อห้าปีก่อน มักฝันถึงเสียงพิณโบราณที่ไม่เคยมีใครเล่น มักละเมอเรียกชื่อใครคนหนึ่งทุกครั้งที่ดวงจันทร์เต็มดวง และมักนั่งมองต้นเหมยกลางหิมะ ราวกับรอใครสักคนกลับมา“อาหยี่ ข้าวต้มหอมฟุ้งแล้วนะ!”เสียงหญิงชราเจ้าของบ้านพักดังขึ้นจากในครัว เหวินอวี๋ยิ้มบาง ๆ วางขวานลงแล้วเดินเข้าไปในเรือน แววตาของเขาอ่อนโยน ไม่แกร่งกล้าอย่างนักรบ ไม่เด็ดขาดดังแม่ทัพ แต่ลึก ๆ แฝงแววบางอย่างคล้ายเคยผ่านสงครามใหญ่ใจมาหลังรับประทานอาหารเรียบง่า

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   ตอนพิเศษ 4 เงาที่หายไปจากบันทึก

    “เพลงนั้นห้ามเล่น ห้ามร้อง ห้ามแม้แต่คิดถึง”เสียงสั่งห้ามอันเยือกเย็นของเสนาบดีหวังเมื่อสามสิบปีก่อน ยังสะท้อนอยู่ในหอจารึกวังหลวงเพลงที่ไม่มีชื่อ เพลงที่คราวหนึ่ง เคยทำให้ครูดนตรีหลวงคลุ้มคลั่ง เพลงที่ในทุกคืนจันทร์เต็มดวง จะลอยมาเบา ๆ จากตำหนักร้างซึ่งไม่มีใครอาศัยข้ามีนามว่า “ซูหนิงอวี่” เป็นบุตรสาวของเสนาบดีกลาโหมเติบโตในราชสำนัก เห็นเรื่องลึกลับมาก็มาก แต่ไม่เคยมีเรื่องใดสะท้านใจข้าเท่า “เรื่องของสตรีไร้เงา” ผู้นั้นนางไม่มีชื่อในบันทึก ไม่มีภาพวาดในหอประวัติ ไม่มีการกล่าวถึงในการเรียนการสอน แต่ในทุกคืนเหมันต์ เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ในวังมักจะก้มหน้า แล้วพร่ำว่า...“อย่าทำให้จันทร์เห็นเจ้า มิเช่นนั้น เขาอาจร้องไห้อีกครั้ง...”ข้าเคยไม่เชื่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง ข้าเข้าไปในตำหนักเหมันต์ ที่เขาว่าถูกปิดตายตั้งแต่ยุคราชวงศ์ก่อนประตูไม้...เปิดเองลานหิน...มีรอยเท้าซ้อนทับต้นเหมย...ปลิวกลีบในวันที่ไม่มีลมแต่สิ่งที่ทำให้ข้าเยือกเย็นถึงกระดูก ก็คือพิณหยกที่วางอยู่หน้าต้นเหมย และจารึกหนึ่ง...“ในหิมะยังมีเสียงนาง ในเงาจันทร์ยังมีนางเคียงข้าง หากข้าจดจำนางไม่ได้ โลกนี้ก็ไม่ควรมีข้าอยู่”ข้า

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   ตอนพิเศษ 3 แสงจันทร์ในภพหน้า

    ในโลกที่แสงจันทร์ยังคงทาบฟ้า แต่ไม่มีต้นเหมย ไม่มีตำหนัก ไม่มีแม้แต่คำว่าอดีต หญิงสาวผู้หนึ่งลืมตาขึ้นกลางแสงสีเงิน ด้วยความรู้สึกที่เหมือนถูกโอบล้อมด้วยสายลมฤดูหนาว“ที่นี่คือที่ใด...”นางพึมพำกับตนเอง เสื้อผ้าที่สวมอยู่ไม่ใช่ชุดในวังหลวง แต่งดงาม เรียบง่าย และเบาสบาย แต่นางกลับจำไม่ได้ว่าตนเองเป็นใคร หญิงสาวเดินผ่านลานหินโล่ง มีเสียงน้ำตกเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกลและต้นเหมยต้นเดียวในที่ราบนี้ยืนเด่นอยู่ใต้แสงจันทร์ นางมองมันด้วยความรู้สึกประหลาด ดอกเหมยผลิบานเต็มต้น หยาดน้ำแข็งเกาะบางเบาบนกลีบ แล้วทันใดนั้นสายลมก็พัดกลิ่นหอมจางมา“เซี่ยอวี่...”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเบื้องหลัง นางหันขวับ ชายหนุ่มในชุดเรียบง่ายยืนอยู่ เขาดูอ่อนวัย แต่แววตานั้นลึกนักลึกยิ่งกว่าห้วงกาลเวลา“ข้ารู้จักเจ้าหรือไม่? ข้าควรจะจำเจ้าได้หรือเปล่า...”ชายหนุ่มยิ้มบาง ดวงตาเขาไม่ได้สะท้อนเพียงแสงจันทร์ หากยังมีแววสะเทือนใจที่เหมือนเคยรู้จัก“เจ้าจำข้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพียงเจ้าจำเสียงนี้ได้ข้าก็พอใจแล้ว”เสียงของเขา แม้ไม่กังวาน แต่เมื่อสัมผัสโสตประสาทของนางกลับสะท้านถึงหัวใจ เหมือนเคยฟังมันในยามหิมะตก เหมือนเคยได้ยินมันตอ

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   ตอนพิเศษ 2 คำสารภาพใต้ต้นเหมย

    “ใต้ต้นเหมยที่มิผลิบาน ข้าเฝ้าเรียกชื่อผู้หนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เสียงตอบกลับมา กลับมีเพียงสายลม”เสียงพิณแผ่วเบาดังอยู่ท่ามกลางหิมะ เซี่ยอวี่นั่งอยู่ลำพังใต้ต้นเหมยหลังตำหนักเหมันต์ ในราตรีที่แสงจันทร์ไร้ซึ่งไออุ่นฤดูหนาวนี้เป็นฤดูที่เท่าใดแล้ว? นางมิอาจนับได้อีก ฤดูหนาวที่แสงจันทร์ทาบผ่านผิวหิมะซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เงาของนาง กลับไม่เคยปรากฏตำหนักเหมันต์เงียบงันมาเนิ่นนาน หลังการล่มสลายของรัชทายาทหลงซื่อ และหญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่ากบฏ ตำหนักที่เคยเป็นสถานที่แห่งความรักและเสียงหัวเราะ จึงถูกปิดตายด้วยคำว่า “ต้องห้าม”นางผู้มีนามว่า เซี่ยอวี่ หรือในอดีตก็คือหญิงคนนั้นวิญญาณที่ติดอยู่ ณ ที่แห่งนี้ มิใช่ด้วยความอาฆาต แต่ด้วยความรักที่ไม่เคยถูกเอ่ยออกเต็มถ้อย“อี้เหวิน เจ้าฟังข้าอยู่หรือไม่...”เสียงกระซิบที่แผ่วเบายิ่งกว่าหิมะปลิว เซี่ยอวี่หลับตา แล้ววางมือบนสายพิณหยก เพลงที่นางดีดไม่มีอยู่ในตำรา ไม่มีผู้ใดสอนมันคือเสียงที่ผุดขึ้นจากใจ เวียนกลับซ้ำทุกครายามนางคิดถึงเขาในช่วงแรกที่วิญญาณของนางยังไม่สงบ นางเคยหวังว่าเขาจะมองเห็น นางเคยเฝ้ามองเขา จากตำหนักโน้นสู่อีกตำหนักหนึ่งแต่ปีแล้วปีเล่า

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   ตอนพิเศษ 1 เสียงพิณในชาติภพแรก

    ณ กาลก่อนประวัติศาสตร์ราชวงศ์หลิวซาน คืนจันทร์ดับ ไร้แสงดาว ลมเหนือกรีดเกล็ดหิมะให้กระจายเป็นเส้นเงา ดินแดนที่ขานขานกันว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในใต้หล้า “เขาเทียนหลง” คือจุดเริ่มต้นของคำสาปที่กินกาลเวลาหลายภพชาติที่ลานพิธีบูชากลางเขา หญิงสาวนางหนึ่งยืนอยู่ในชุดขาวล้วน ผ้าคลุมศีรษะปลิวล้อลม มือของนางแตะสายพิณหยกโบราณที่ตั้งอยู่บนแท่นหิน ช้าและนิ่ง แต่เพียงท่วงทำนองแรกดังขึ้น แสงจันทร์ที่ควรดับพลันจุดสว่างขึ้นทั่วขอบฟ้า“เสียงนี้ไม่ควรปรากฏในโลกมนุษย์”เสียงหนึ่งดังมาจากเบื้องหลัง หญิงสาวไม่หันกลับ นางยังคงดีดแม้น้ำตาไหลอาบแก้ม“แต่เสียงนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ข้าเหลือไว้ได้ให้เขา”บุรุษผู้มาเยือนแต่งกายด้วยชุดแม่ทัพดำสลับทอง ผ้าคาดเอวมีตราสลักรูปมังกรฟาดเมฆ แววตาเด็ดเดี่ยวสงบนิ่งเขาคือเซวียนเหยียน แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นอวิ๋น ชายผู้ได้รับพระบัญชาให้มาขัดขวางพิธีต้องห้ามในค่ำคืนนี้ เขารู้ดีว่า หญิงเบื้องหน้า คือ “หลานอวี่” เทพธิดาแห่งเสียงพิณ ผู้ถูกเนรเทศจากสวรรค์เพราะหลงรักมนุษย์“เจ้ากำลังละเมิดสวรรค์อีกครั้ง...”เขาเอ่ย แต่เสียงนั้นสั่นไหวจาง ๆ“ข้ารู้...”หลานอวี่วางมือจากสายพิณ เงยหน้าข

  • เงาจันทราเหนือเหมันต์   บทที่ 19 เงาสุดท้ายใต้แสงจันทร์

    หิมะตกต่อเนื่องไม่หยุดเป็นวันที่เจ็ด ตำหนักเหมันต์กลับมาเงียบงันดั่งเดิม ทว่าทั่วทั้งวังหลวงยังคงสะเทือนด้วยเสียงกระซิบแห่งตำนาน“เงาคู่นั้น เจ้าก็เห็นหรือไม่?”“เขาไม่ได้อยู่คนเดียวจริง ๆ”“แม้นางจะไม่มีเงาในอดีต แต่ในวันนั้น ใต้แสงจันทร์ นางก็มีเงาเหมือนเราทุกคน”ข่าวลือแผ่กระจายรวดเร็วราวไฟในทุ่งหญ้าแห้ง เรื่องเงาลึกลับที่ปรากฏ ณ ประตูหงส์ และเสียงพิณที่ไร้ต้นเสียงในคืนวันประหาร กลายเป็นตำนานบทใหม่ของเมืองหลวงแต่สำหรับเขา เรื่องเหล่านั้นไม่ใช่เพียงข่าวลือ เพราะทุกถ้อยทุกคำ ล้วนเป็นความจริงที่เขาได้สัมผัสเซิ่งอี้เหวินยังมีชีวิต หลังเหตุการณ์วันนั้น คำสั่งประหารถูกยกเลิกอย่างไร้คำอธิบาย แต่เขากลับไม่กลับไปยังตำหนัก หากแต่ขอปลีกวิเวก ณ เรือนเล็กริมเนินหิมะ ที่ตั้งอยู่ใกล้สระน้ำแช่แข็งเบื้องหลังวังหลัง ที่นั่นคือสถานที่ที่เซี่ยอวี่เคยร้องเพลง คือสถานที่ที่เขาเคยฟังนางในคืนแรกวันคืนผ่านไป เขาไม่รับราชการอีก ไม่แตะกระบี่ ไม่สวมชุดองครักษ์ มีเพียงพิณที่เขาสร้างด้วยมือ ตั้งอยู่เบื้องหน้าต่างบานเล็กซึ่งหันเข้าสู่แสงจันทร์ และทุกคืนเดือนเพ็ญ เขาจะบรรเลงเพลงเดิมบทเพลงที่ไร้ชื่อ เพื่อใครคนห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status